จันทร์ 29 ก.ย. 2008 9:13 pm
เก็บเอาความต้องการในจิตใจที่อยากสัมผัสด้วยสายตาและความรู้สึกตนเองชัดๆ มาหลายเดือน อ่านจากหนังสือพระ ฟังจากคำบอกเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายอดไม่รนทนไม่ได้ ลืมๆงานการที่ประเดประดังกันเข้ามาจากสมองน้อยๆ
ตื่นมาแต่งตัวเต็มยศ ประหนึ่งนัดบุคคลสำคัญยิ่ง ไว้ทั้งๆที่ยังไม่รู้หนทางไปและยังไม่รู้ว่าได้พบท่านหรือเปล่า
รถเก๋งเก่าๆค่อยๆขยับล้อเพื่อเดินทางสู่เมืองกรุงเก่าตามใจปรารถนา ประมาณ สิบโมงกว่าๆเห็นจะได้ ต้องจอดรถถามทางครั้งแล้วครั้งเล่าและแล้วก็เข้าสู่อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ออกเดินทางโดยไม่เคยใช้เส้นทางนี้มาก่อน ไม่รู้เบอร์ติดต่อผู้ใดทั้งสิ้น เกือบจะเที่ยงแล้ว รถมาจอดอยู่ริมต้นไม้ใกล้ๆกับซุ้มประตูวัดเพราะเข้าไปใกล้กว่านี้ไม่ได้แล้ว บริเวณวัดคราคร่ำไปด้วยรถราต่างๆนานา แต่เอาล่ะผมก็ภูมิใจที่รถเราไม่เก่าที่สุด เพราะใกล้ๆกันมีรถสภาพกลางเก่ากลางเก่ามากคันหนึ่งดูทะเบียนแล้วต้องตกใจ ยังจำได้ว่ามาจาก จ.ตาก (พลันคิดในใจสงสัยรถพี่เค้าจะตากแดดตากฝนมากไปหน่อย)
เดินตรงดิ่งด้วยใจระทึกไปถามลุงแก่ๆคนหนึ่ง "หลวงปู่ทิม อยู่หรือเปล่าครับ" ลุงไม่พูดแต่ชี้มือไปที่ศาลาใหญ่
เดินตามที่ลุงชี้ไป ปรากฎว่า เพิ่งจะนึกได้ วันนี้วันพระนี่หว่า บนศาลาเต็มไปด้วยคนทุกเพศทุกวัย ประมาณด้วยสายตา ไม่น่าจะต่ำกว่า ๒๐๐ คน
หลวงปู่นั่งอยู่ด้านบนแท่นยาวสำหรับนั่งเวลามีงาน จากนั้นก็ต่อด้วยพระลูกวัด คำนวนจากเวลาท่านน่าจะฉันเพลเสร็จแล้ว ผมไม่สนใจใครทั้งนั้นหาที่ว่างแล้วก้มลงกราบ กราบเสร็จก็นั่งรอคนแล้วคนเล่า ค่อยๆเคลื่อนตัวเพื่อเข้ากราบขอพระจากหลวงปู่ รวมทั้งรับของแจก จากหลวงปู่ ซึ่งคงเป็นชานหมากตามที่หนังสือลงไว้แน่เลย คนตั้งมากมาย หลวงปู่ท่านก็นั่งยิ้มและสงเคราะห์เรื่องราวต่างๆ เจิมป้ายบ้าง เป่าหัวบ้าง มาขอนิมนต์บ้าง ที่เช่าของมาให้ท่านอธิษฐานก็มาก
ทำไงดีล่ะทีนี้ ต่างคนต่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ค่อยๆไปกราบหลวงปู่เป็นกลุ่มๆถึงแม้ไม่มีการจัดคิวที่ชัดเจน แต่ไอ้กระผมมาทีหลังจะให้ไปแซงคิวได้อย่างไร เกิดปัญหาขึ้นมารถก็เก่าหนีไม่ทันแน่ ยังไม่สิ้นความคิด เหลือบดูนาฬิกา เกือบบ่ายสองแล้ว เหลือคนอีกมากอยู่ คนข้างๆดันพูดว่า หลวงปู่กำลังจะต้องออกกิจนิมนต์ต่อกำลังจะเดินทางแล้ว หมดกัน..........
ผมตัดสินใจก้มลงกราบลาตรงนั้นเลยในใจก็นึกว่า "หลวงปู่ครับ ผมเดินทางมาตั้งไกล ในใจก็มีเรื่องติดค้าง อยากกราบหลวงปู่ใกล้ๆสักครั้งถ้าไม่มีบุญ ผมกลับก่อนก็ได้ครับ ได้มาวัดแล้วได้เห็นหลวงปู่ไกลๆก็ชื่นใจแล้ว"
........และแล้ว รายการฝันที่เป็นจริงก็มีหลวงปู่ท่าน หยุดแจกของชั่วคราว แล้วมองมาที่ผม สายตาหลวงปู่ที่มองมาที่ผม เหมือนใบเบิกทาง หลวงปู่พูดเสียงค่อนข้างดัง " ตั้งใจมาหาฉัน เข้ามาซิ มาเลย" ตอนแรกผมก็ยังไม่แน่ใจว่าผมแน่หรือเปล่า ผมเลยเอามือชี้ที่ตนเอง (เพื่อความชัวร์เดี๋ยวเกิดเป็นคนอื่นจะแย่เอา) หลวงปู่ท่านยิ้มแล้วพยักหน้า คนที่นั่งอยู่ก่อนหน้าผมพร้อมใจกันแหวกทางประหนึ่งขึ้นทางด่วนพิเศษชั่วอึดใจผมก็คลานมาอยู่ต่อหน้า สุดยอดพระเมตตาแห่งยุค หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
ผมบรรจงกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ อย่างสวยงามที่สุด เหมือนตอนสอบปฎิบัติวิชาพระพุทธศาสนา จากนั้นหลวงปู่เอามือมารับการไหว้อย่างนอบน้อมของผม ถามว่า"มาหาฉันมีเรื่องอะไร "ถึงตรงนี้ผมขอเล่าแต่เพียงว่า ผมฝันเห็นหลวงปู่ครับ อยากมากราบหลวงปู่ แล้วคืนต่อมาก็ฝันร้ายถึงกับเสียชีวิต หลวงปู่ท่าน จับหัวผม กดไว้ที่หน้าตักท่าน คลึงที่กระหม่อม แล้วสวดพึมพำอยู่นานร่วม ๑๕ นาทีเห็นจะได้.....ฟังดูมีทั้งบาลีและไทยปนกัน........... (ภายหลังสอบถามหลวงปู่ ปรากฎว่าท่านจำได้แม่นยำในเหตุการณ์วันที่ผมไปกราบท่านครั้งแรกในชีวิต ท่านเมตตาเล่าให้ฟังเป็นความรู้ว่า เป็นบทสวดโบราณ แก้ฝันร้าย แก้ต้องแก้ที่ใจ ต้องให้กำลังใจ ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน)
จากนั้นผมก็ได้รับ ลูกอมชานหมาก ลูกแรกในชีวิต ลูกที่ผมเลี่ยมติดตัวจนทุกวันนี้ ตามที่หลวงปู่สั่งทุกคน จนเป็นธรรมเนียมว่า
"ชานหมากนี้เลี่ยมติดตัวนะลูกนะ มีอะไรให้คิดถึงหลวงปู่ เวลาก้างติดคอให้ลูบที่คอ(พร้อมทำท่าประกอบ)"
นอกจากนี้ ท่านได้หยิบพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านดำ ให้อีกหนึ่งองค์พิมพ์พระรอด ด้านล่างฝังตะกรุด
.................................................................................
ถึงตรงนี้ขอขัดจังหวะสักเล็กน้อย หลวงปู่ทวดส่วนใหญ่ที่พบเห็นกันอยู่มักเป็นลูกศิษย์ ทำถวายท่าน และที่อยากแนะนำคือรุ่นที่ทางวัดออกตอนงานกฐิน เป็นเหรียญสองหน้าล้อรุ่นแรกของวัดช้างให้ ด้านหน้าเป็นหลวงพ่อทวด ด้านหลังเป็นหลวงปู่ทิม วัดพระขาว(แทนอาจารย์ทิม วัดช้างให้) เหรียญนี่แหละเป็นเหรียญในดวงใจของผมเพราะส่วนตัวศรัทธา หลวงพ่อทวดมากกกกกกกก.... เลยใช้เหรียญนี้แทนของวัดช้างให้.........เพราะประหยัดกว่ากันเยอะ (ใครที่ศรัทธาหลวงพ่อทวดเหมือนผม และเคารพหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ไม่ควรพลาดครับ)
เจตนาที่เขียนถึงหลวงพ่อทวด ที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ก็เพราะ หลวงพ่อทวดเนื้อว่าน ปี๒๕๑๙ ตามที่หน้ากล่องพระพิมพ์ไว้ ไม่เกี่ยวกับหลวงปู่ทิมวัดพระขาว ใดใดทั้งสิ้น เป็นพระที่ทำขาย ไว้แจกงานต่างๆ รวมทั้งหลอกขายตามตลาดพระบางที่ ต้นทุนรวมกล่อง ๑๕ บาทหลวงปู่ท่านไม่ได้เสกครับ อาศัยที่ชื่อชั้นหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ขายได้ พอพิมพ์หน้ากล่องว่าวัดพระขาว ปี๒๕๑๙ เลยขายได้ ช่วยๆกันบอกต่อด้วยนะครับ โดนหลอกกันไปเยอะแล้วครับ ................
ถึงตอนนี้ตัวผมยังไม่ได้กลับออกจากวัดพระขาว รอยยิ้มที่เมตตาจับจิต จับใจผม จนทุกวันนี้แม้เกือบ ยี่สิบปีแล้วยังจำได้ดีครับ
(.............โปรดติดตามต่อนะครับ ขอบคุณจากใจจริงที่รอคอย ......)
- แนบไฟล์
-

- lptimnammon1.jpg (92.68 KiB) เปิดดู 4172 ครั้ง