ศิษย์หลวงพ่อกวย ที่ยังเหลืออยู่ โดย ศิษย์กวง จาก
http://www.oknation.net/blog/sitthi/2008/01/16/entry-1หลวงปู่ตี๋ วัดท่ามะกรูดเมื่อตอนเป็นเด็ก(ตอนนี้แก่มาก) ผมเคยอ่านประวัติหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จากหนังสือพระเครื่องฉบับหนึ่ง มีความรู้สึกว่าท่านเป็นพระที่เก่งมาก ปัจจุบันมีพระเกจิหลายองค์พยายามผูกโยงเข้าเป็นลูกศิษย์ท่าน เป็นการเพิ่มดีกรีความเก่งให้ตัวเอง ในหนังสือฉบับดังกล่าวมีการกล่าวถึงลูกศิษย์ของท่านที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่ระลึกถึงเสมอและจำได้แม่นยำคือพระอาจารย์ 3 ต. คือพระอาจารย์ตี๋ พระอาจารย์ตั๋ว พระอาจารย์เตี้ย
เมื่อโตขึ้นมีโอกาสเดินทางไปกราบไหว้พระเกจิอาจารย์ที่เราเคารพ พระที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อกวย ก็เป็นกลุ่มหนึ่งในพระเกจิที่ตั้งใจเสาะหา จนผมมีโอกาสได้พบคุณทม ภูธร ซึ่งเป็นนักเขียนเรื่องพระเครื่อง(ปัจจุบันท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว) ท่านได้ให้สีผึ้งผมมาหนึ่งตลับ เป็นสีผึ้งที่เราพบเห็นตามร้านขายพระแถวๆ ท่าพระจันทร์หรือวัดราชนัดดา ผมไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่แต่เมื่อผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับไว้ตามมารยาท ก่อนกลับท่านบอกว่าให้เก็บรักษาไว้ให้ดีสีผึ้งตลับนี้เป็นสีผึ้งของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม เมื่อเห็นผมเฉยๆ ท่านจึงเล่าให้ฟังว่า ท่านได้รับมาสีผึ้งมาจากหลวงปู่ตี๋ ซึ้งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อกวย ครั้งแรกตัวท่านเองไม่เชื่อ แต่เมื่อตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานต่างๆจากหลวงปู่ตี๋แล้ว จึงเชื่อว่าสีผึ้งชุดนี้(ประมาณสิบกว่าตลับ) เป็นของหลวงพ่อกวยจริงๆ ซึ่งเรื่องของสีผึ้งยังไม่ทำให้ผมตื่นเต้นมากเท่ากับทราบว่าปัจจุบันหลวงปู่ตี๋ ยังมีชีวิตอยู่และผมก็กำลังจะได้พบกับท่านเร็วๆนี้ ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะเป็นพระที่ผมกำลังติดตามหาอยู่
หลังจากที่ได้ประสานงานและนัดแนะกับน้องชายของคุณทม ภูธรที่จะพาเราไปพบหลวงปู่ตี๋ เมื่อเราไปถึงวัด เขาเขียนพนาราม เห็นสภาพวัดแล้วรู้สึกหดหู่ สภาพวัดเหมือนบ้าน รกรุงรังไปด้วยหยากใย่ สกปรก ทั้งวัดมีพระองค์เดียวคือท่านเอง สังเกตุดูพบว่าท่านเป็นพระที่ไม่ค่อยเรียบร้อย ใจร้อน นึกอยากจะไปไหนก็ไป จากการสอบถามกับชาวบ้านที่เข้ามาเยี่ยมท่านทราบว่า หลวงปู่ตี๋มีชื่อจริงว่าพระอาจารย์วิทยา เดิมเป็นพระอาจารย์สักยันต์ มีชื่อเสียงมากในท้องถิ่น และเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดกระเสียว ในช่วงที่ท่านย้ายมาอยู่ที่วัดเขาเขียนพนาราม เคยถูกคนใจร้ายเข้ามาขโมยของ คิดว่าท่านมีสมบัติมาก นอกจากจะขโมยแล้วยังทำร้ายแทงท่านแต่แทงไม่เข้า จึงได้รุมทุบตีท่านเสียจนสลบ กะโหลกยุบ กรามหัก แต่ท่านไม่ได้ติดใจเอาความ ท่านว่ามันเป็นเวรกรรมของท่านเองที่ต้องชดใช้ (เป็นซะอย่างนั้น)
เมื่อได้พูดคุยกับลูกศิษย์ท่านทราบว่าท่านเป็นพระที่เก่งมาก เสกพระ เสกของแปล๊บเดียว สามารถคุ้มครองชีวิตคนได้ ลูกศิษย์ท่านเป็นร้านซ่อมวิทยุอยู่ในตลาดท่าช้างพกปลัดขิกเนื้อทองเหลือง ขับรถไปประสานงากับรถสิบล้อ รถพังยับตัวเองไม่เป็นอะไรเลย (ผมได้สัมภาษณ์กับเจ้าตัวแต่ไม่ประสงค์ให้บอกชื่อ / บอกได้แต่ว่าในตลาดท่าช้างมีร้านซ่อมวิทยุ อยู่ด้านข้างตลาดแค่ร้านเดียว ท่านที่สนใจลองไปด่อมๆมองๆได้) วันนั้นหลวงปู่ตี๋ อารมณ์ดี คุยเล่นกับญาติโยม จนเมื่อญาติโยมที่มาเยี่ยมกลับกันหมด เป็นเวลาที่พวกเราสอบเข้มกับหลวงปู่ หลายสิ่งที่ท่านเล่า หลายเรื่องที่ท่านบอก ประกอบกับหลักฐานทางเอกสารและหลักฐานทางวัตถุ ทำให้กลุ่มของเราถึงกับอึ่งกิมกี่ และยอมรับโดยดุษฏีว่านี่แหละคือของจริง ของแท้ บางคนในกลุ่มถึงกับเอ่ยปากว่า
ในช่วงตั้งแต่ปี 2510 ถึงปัจจุบันนี้ หลวงปู่ตี๋ เป็นพระที่เก่งจริง เป็นสุดยอดเกจิอาจารย์องค์หนึ่ง จัดอยู่ในกลุ่ม top 5 เลยที่เดียวปัจจุบันหลวงปู่ตี๋ ชราภาพมาก ป่วยเป็นโรคหอบหืด ลูกบุญธรรมของท่านนำท่านไปพักรักษาตัวอยู่ใกล้กับวัดท่ามะกรูด ถ้าจำไม่ผิดจะชื่อพี่ส้มเกลี้ยง ถ้าท่านผู้ใดสนใจหรืออยากทำบุญกับท่านก็ลองติดต่อดูได้ที่วัดท่ามะกรูด ซึ่งปัจจุบันยังคงมีวัตถุมงคลที่หลวงปู่ได้ปลุกเสกไว้ให้ทำบุญกันครับ และ
ข้อความต่อไปนี้ผมได้คัดลอกมาจากเวปไซด์ของวัดโฆสิตาราม ครับ ลองอ่านดูเรื่องราวของหลวงปู่ตี๋ วัดท่ามะกรูด1.พระอุปัชฌาย์ของท่านคือหลวงพ่อแขก วัดหัวเขา (หลวงพ่อแขกเป็นลูกศิษย์หลวงพ่ออิ่ม รุ่นใกล้กับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่) ซึ่งหลวงปู่ตี๋ ได้เรียนวิชากับหลวงพ่อแขกและหลวงพ่อมุ่ย ด้วยครับ
2.พ่อท่านเป็นช่างไม้ สร้างยอดมณฑปที่วัดหัวเขาสมัยปลายอายุหลวงพ่ออิ่ม แต่แม่ท่านเสี่ยตั้งแต่ท่านยังเล็ก พ่อท่านจึ้งต้องนำท่านไปเลี้ยงที่วัดหัวเขาตอนสร้างมณฑป หลวงพ่ออิ่มจึงเมตตาเลี้ยงท่านตั้งแต่ท่านยังเล็ก และมอบตำราให้ท่านเพราะทราบว่าท่านจะต้องบวชไม่สึก
3.ท่านไปเรียนวิชากับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ตั้งแต่ปี 2497 – 2505
4.เรียนวิชากับหลวงปู่เย็น วิชาย่นระยะทาง กำบัง
5.กับหลวงพ่อกวยเรียนวิชา ปลัดขิก ตะกรุด หนุมาน ซึ่งท่านมาเรียนกับหลวงพ่อกวยหลายครั้งและหลวงพ่อกวยจะจูงมือหลวงปู่ตี๋ เข้าไปเรียนวิชาในห้องตัวต่อตัวเสมอ
6.หลวงปู่บุดดา ได้วิชาแป้งเสก
7.เรียนกับหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง หนึ่งพรรษา ได้วิชาทำกุมารทอง เสกผงและเสกพระ
8.หลวงปู่ตี๋ มักปลุกเสกวัตถุมงคลในบาตรพระและวัตถุมงคลนั้นมักจะวิ่งและส่งเสียงดังเสมอ
9.ท่านถูกทำร้ายหลายครั้งที่วัดเขาเขียว เช่นโดนมีดฟันศรีษะ เมื่อลูกศิษย์ถามว่าหลวงพ่อไม่กลัวหรือ ท่านพูดติดตลกว่ากลัวมีดของมันจะบิ่นมากกว่า
10.เหรียญรุ่นแรกของท่านออกที่วัดกระเสียว
หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่เสกเป็นองค์แรกและหลวงพ่อกวย เสกเป็นองค์ที่สอง หลังจากนั้นท่านนำกลับมาเสกเองอีกหลายไตรมาส (มีจำนวน หนึ่งหมื่นเหรียญ)
เรื่องราวของหลวงปู่ตี๋ หรือพระอาจารย์วิทยา ศิษย์หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ยืนยันถึงความขลัง ความอัศจรรย์ ในเรื่องของไสยศาสตร์ ที่มีอยู่จริงและยังคงหลงเหลืออยู่ในยุคที่เราเรียกว่าการสือสารไร้พรมแดนครับ
สุดท้ายนี้ผมขอขอบพระคุณ คุณทม ภูธร ที่เป็นผู้นำผมไปพบกับหลวงปู่ตี๋ (ปัจจุบันท่านได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ขอให้ดวงวิญญานของท่านไปสู่สรวงสวรรค์) คุณพรชนก สุขพงษ์ไทย ที่เป็นผู้ทำให้ความตั้งใจของผมเป็นจริงขึ้นมา และตุณสมบูรณ์ (ร้านนายฮ้อ สระบุรี) ถ้าไม่มีท่านนี้ ผมคงทำงานลำบาก ขอบคุณครับ ขอบคุณจริงๆ สวัสดีครับ)