นวรัตน์ดอทคอม

หลวงพ่อชื่น วัดควนหวาด กับพระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดพระบาท บ้านพรุ
โดย ศิษย์กวง จาก http://www.oknation.net/blog/sitthi/2008/02/13/entry-1
หลวงพ่อชื่น วัดควนหวาด

ย้อนหลังไปประมาณปี 2540 ผมได้อ่านนิตยสารพระเครื่องปรกโพธิ์ ฉบับที่ 68 ทราบว่าทางทีมงานนิตยสารปรกโพธิ์ ได้จัดทอดกฐิน ณ วัดพระบาท ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยทีมงานได้จัดสร้างพระหลวงปู่ทวด เนื้อว่านเพื่อสมนาคุณแด่ผู่ร่วมทำบุญ จำนวน 4,500 องค์ พระทั้งหมดได้ผ่านพิธีปลุกเสกจากพระคณาจารย์สายใต้หลายท่านและหลายพิธี ดังนี้

1.พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดป่ากอสุวรรณาราม มีหลวงปู่ทอง สุสังวโร วัดป่ากอฯ เป็นประธาน
2.พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดลำใหม่ มีหลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย เป็นประธาน
3.ปลุกเสกเดี่ยวโดยพระคณาจารย์ หลายองค์เช่น หลวงพ่อชื่น วัดควนหวาด,หลวงพ่อแก้ว วัดแหลมดิน( ศิษย์หลวงพ่อเปรม วัดวิหารสูง ผู้สร้างพระสมเด็จวัดวิหารเบิก),หลวงพ่อปาน วัดปากประ(ศิษย์หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ),หลวงพ่อศรีเงิน วัดดอนศาลา(ศิษย์เขาอ้อ),หลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง ฯลฯ
หลวงปู่ทวด วัดพระบาท บ้านพรุ

ช่วงนั้นผมชอบไปเดินเที่ยวดูพระในห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ได้รู้จักเจ้าของร้านพระหลายท่าน อาจเพราะผมเป็นเด็กน่ารัก ทุกท่านเลยค่อนข้างให้ความเอ็นดู(ซะงั้น) แผงพระที่แวะเวียนไปประจำคือแผงของคุณกอบเกียรติ โชติวิวัฒน์ชัย พบพระหลวงปู่ทวดชุดนี้จึงได้เช่ามา ด้วยความสนใจในพระสายใต้เลยสอบถามคุณกอบเกียรติ ซึ่งก็ได้รับคำตอบได้ดี แต่ในจำนวนพระที่มาปลุกเสกทั้งหมด ผมสะดุดใจที่หลวงพ่อชื่น วัดควนหวาด เนื่องจากไม่เคยได้ยินชื่อท่าน และในใบประชาสัมพันธ์พระชุดนี้ก็ไม่บอกว่าเป็นลูกศิษย์ใคร สายใด คุณกอบเกียรติเองก็บอกไม่ถูก คงตอบผมได้เพียงแต่ว่าท่านเก่งจริงๆ ด้วยความรำคาญหรือสุดจะทน คุณกอบเกียรติจึงถามผมว่า น้องเชื่อในเรื่องลึกลับ ปาฏิหาริย์ เหลือเชื่อหรือเปล่า ผมยืนยันว่าเชื่อ คุณกอบเกียรติ จึงให้ผมยืมอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นประวัติการสร้างพระของหลวงพ่อชื่น อ่านแล้วต้องขนลุกครับ เรื่องอย่างนี้(ยังมีอยู่อีกเหรอ) เนื่องจากเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้มีมาก ผมจึงขอบอกเล่าพอสังเขป ครับ

สำนักที่พักสงฆ์ควนหวาด ตั้งเมื่อ 27 เมษายน 2494 โดยเจ้าของที่ดินได้นิมนต์พระชื่น ติสสจโจ พระกัมมัฏฐานมาจากวัดจังโหลน ในสำนักที่พักสงฆ์ได้มีคณะพรหมอุดมคติมาจากพรหมโลกมาบันดาลให้เกิดผล จนประชาชนนับเป็นหมื่นได้ตั้งใจพากันหลั่งไหลเดินทางมาสู่สำนัก มาชมบารมี ซึ่งทุกคนที่มาต่างสัมผัสได้กับอานุภาพปาฏิหาริย์ต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้สำนักที่พักสงฆ์ควนหวาดมีชื่อเสียงโด่งดัง
นายทิ้ง เพชรรงค์ กับต้นไม้ที่กลายเป็นหิน

ต่อมาวันที่ 19 มิถุนายน 2505 นายทิ้ง เพชรรงค์ ได้นำต้นไม้เป็นหินมาถวายหลวงพ่อชื่น เพื่อให้ตรวจสอบว่าต้นไม้แบบนี้เป็นของแปลกประหลาดหรือของวิเศษกันแน่ ซึ่งท่านเองก็บอกไม่ได้ แต่ท่านจะเชิญคณะพรหมมาสอบถามดู การเชิญคณะพรหม จะประกอบพิธีในโรงธรรม ซึ่งมีบ่อขนาด 1.20 เมตร ลึก 1 เมตร ชื่อว่า”บ่อบันดาล”
นายเลี่ยน หรดี หัวหน้าคณะพรหม

โดยนายเลี่ยน หรดี ได้รับมอบหมายจากสำนักฯให้เป็นประธานในการติดต่อคณะพรหม โดยนายเลี่ยน ต้องลงไปนั่งสมาธิในบ่อบันดาล และต้องจุดเทียน 1 เล่ม หลวงพ่อชื่นจะทำพิธีข้างบนปากบ่อ นายเลี่ยนจะทำสมาธิจนบังเกิดเป็นญาณสามารถเป็นสื่อติดต่อกับคณะพรหมได้แล้ว ได้พูดคุยกับหลวงพ่อชื่น ทำให้ทราบว่าไม้ดังกล่าวเป็นไม้กู้ชาติ เจ้าของต้นไม้ดังกล่าวคือพรหมแสงหิรัญตภาพ ต้องการให้หลวงพ่อชื่นนำไม้มาสร้างพระ โดยพรหมแสงหิรัญตภาพได้ให้หลวงพ่อชื่น จัดตั้งพาน 1 ใบปูด้วยผ้าขาว ตั้งไว้ข้างหน้าแล้วพรหมแสงหิรัญตภาพได้เนรมิตให้มีพระขนาดเล็กในท่านั่งสมาธิ ปรากฏอยู่ในพาน ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ปรากฏต่อสายตาประชาชนที่มาร่วมพิธีกรรมจำนวนมาก

23 มิถุนายน 2505 หลวงพ่อชื่น ได้เชิญนายนิทัศน์ โสเจยยะ นายอำเภอรัตภูมิ ข้าราชการ ครู ผู้ใหญ่บ้านและประชาชน ไปร่วมพิธีกรรมอัญเชิญต้นไม้เป็นหินลงจากเขามาจัดสร้างพระ ในการเก็บมวลสารครั้งนี้หัวหน้าคณะพรหม ได้ทำพิธีอัญเชิญพรหมแสงหิรัญตภาพ และได้เกิดเหตุการณ์เหมือนกับวันที่ 19 มิถุนายน 2505 ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นพระเครื่องที่จัดสร้างครั้งนี้จึงให้ชื่อว่า “หลวงพ่อแสงหิรัญตภาพ”
พระเครื่องหลวงพ่อแสงหิรัญตภาพ กับภาพเหตุการณ์พระปรากฏบนมือ

อ่านจบแล้วเป็นยังไงครับ เรื่องแปลกๆยังมีให้เห็นในโลกใบนี้ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น มีประชาชนเห็นเหตุการณ์กับตาจำนวนมาก ทั้งนายอำเภอ ทั้งชาวบ้าน จึงทำให้เชื่อได้ว่าเกิดขึ้นจริง ซึ่งเราจะเห็นว่าหลวงพ่อชื่น วัดควนหวาด นี่ไม่ธรรมดาทีเดียว ปัจจุบันหลวงพ่อชื่น ได้มรณภาพไปแล้วเมื่อ 9 มกราคม 2541 ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมมากมาย พระเครื่องหลวงพ่อแสงหิรัญตภาพ ได้ตกอยู่กับบรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านในละแวกวัดควนหวาด ต่างหวงแหนเพราะมีประสบการณ์มากมาย นอกจากนี้เท่าที่ทราบหลวงพ่อชื่น วัดควนหวาด ก็ไม่ค่อยได้สร้างพระเครื่องซักเท่าไหร่ เพราะหลวงพ่อท่านเน้นในเรื่องของกัมมัฏฐาน ตลอดจนพวกเราซึ่งเป็นคนนอกท้องถิ่นคงไม่รู้อะไรมากจะสะสมพระของท่านก็คงจะลำบาก
หลวงปู่ทวด วัดพระบาท บ้านพรุ

สิ่งที่ผมจะบอกต่อไปคือ พระหลวงปู่ทวด รุ่นทอดกฐิน วัดพระบาท บ้านพรุ ชุดนี้ ธรรมดาแค่หลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย เสกก็อยากได้ใจจะขาดอยู่แล้ว แต่นี่หลวงพ่อชื่นท่านได้เมตตารับไปปลุกเสกเดี่ยว ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม- 7 กันยายน 2540 ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ จะว่าไปแล้วถ้าไม่คิดอะไรกันมาก พระชุดนี้ถือได้ว่าเป็นมรดกทางวัตถุมงคลที่ท่านได้เมตตาปลุกเสกไว้ให้และที่สำคัญพระชุดนี้มีประสบการณ์ในด้านอธิฐานจิตขอและสัมฤทธิ์ผลตามที่ตั้งใจขอ เกิดขึ้นแล้ว ปัจจุบันพระชุดนี้ยังมีปรากฏอยู่ให้เห็นบ้างประปราย ผู้ที่ทราบข้อมูลทยอยเก็บกันเรื่อยๆที่พบ เพราะราคาไม่แพง(หลักร้อย)แต่พุทธคุณสุดยอดครับ อย่ามัวไปหาของเก่าเลยครับ มันเกินเอื้อมเราไปแล้ว

บทความบางตอนในหนังสือ ประวัติหลวงพ่อชื่น

สุดท้ายขอขอบคุณบรรดาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ

1.หนังสือประวัติหลวงพ่อชื่น วัดควนหวาด จากคุณกอบเกียรติ โชติวิวัฒน์ชัย
2.นิตรสารพระเครื่องปรกโพธิ์ ฉบับที่ 68 และ 70

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน

ถ้าท่านศิษย์กวงมี สงสัยผมต้องแปลงร่างเป็นกัปตันฮุคแล้วโชว์ตะขอ

สวัสดีครับคุณรณธรรม และพี่จิ้งจก
เรื่องหลวงพ่อชื่น วัดควนหวาด เป็นเรื่องของความประทับใจในองค์หลวงพ่อ
ถึงผมจะไม่รู้จักและได้ศึกษาประวัติของท่าน ก็เห็นว่ามีอะไรแปลก คำว่า "พรหม"
เราหมายถึงเรื่องอะไรล่ะครับ "พรหม" ของที่นี่ก็เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่
แตกต่างกันไปจากที่เราเคยรับทราบกัน..
เมื่อเร็วๆนี้ผมได้รับเมลล์จากลูกศิษย์ของหลวงพ่อชื่น อ่านแล้วรู้สึกดี
(อยู่ในคอมเมนท์ของเรื่อง ที่บ็อค-สนใจลองเข้าไปดูได้ครับ)
ได้ติดต่อและขอข้อมูลจากท่านผู้นี้ รับฟังแล้วต้องอุทานละครับ
กระตุ้นต่อมความอยาก ทำให้อาจจะต้องลงไปหาข้อมูลถึงที่วัด
ปัจจุบันผมกำลังติดต่อประสานงานกับท่านผู้นี้...
พูดถึงหลวงปู่ทวด ของวัดพระบาทบ้านพรุบ้าง ตอนแรกที่เขียนเหมือนกัน
ตั้งใจแค่จะเป็นการเชื่อมโยงให้เรามีข้อมูลเขียนถึงหลวงพ่อชื่น แต่ผลที่ได้คือ
ทางคุณแล่ม ได้นำออกให้คนทำบุญซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ให้โรงเรียน ตอนนี้
ทางโรงเรียนได้เงินซี้อคอมพิวเตอร์ครบถ้วนแล้วครับ ซึ่งผมเชื่อว่าก็เกิดจากบารมี
ของหลวงปู่ทวด รุ่นนี้เช่นกัน....
สำหรับเรื่องปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ ว่างๆแล้วจะนำมาเล่าให้ฟังอีกครั้งครับ

ขอบพระคุณครับ สำหรับความเห็น ถึงแม้ว่ามันอาจจะทำให้ผมต้องสูญเสีย
หลวงปู่ทวดรุ่นนี้ แต่ก็ยินดีมอบให้ทั้งคราบน้ำตาครับ

เป็นน้ำตา แห่งความปลื้มปิติหรือเปล่าฮะ

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง

ใช่แล้วครับ "ปิติ" จนเกิด "นิมิต" ขึ้นในจิตใจเลยครับ
แต่เป็น "นิมิตมาร" นะครับ

อึ๋ยยยยส์

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน