ศุกร์ 10 ต.ค. 2008 12:44 pm
เมื่อตะก่อน วัดลาดบัวขาว ยังเป็นวัดท่าวัวอยู่ หลวงพ่อสุรินทร์ท่านมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดลาดบัวขาว ในสมัยที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ด้านหลังของวัดนั้น เมื่อก่อนเป็นดงสัก และเป็นป่าทึบ ผู้คนส่วนมากจะอาศัยอยู่ริมแม่น้ำ หลังๆมีการทำชลประทาน ป่าไม้ต่างๆจึงหายไปและมีคนเข้ามาจับจองที่ทำกิน ในป่าย่อมมีอาถรรพ์ของป่า ใครที่กระทำการใดในเชิงลบหลู่หรือไม่ดีแล้ว ก็มักจะได้รับผลร้ายติดตามมา ชาวบ้านแถววัดมักจะได้ยินเรื่องราวของวิญาณหลังดงสัก ใหญ่ แถวทางจะไปหุบกระทิง ห่างจากวัดไม่ถึงห้ากิโล ชาวบ้านและพวกชลประธาน ที่เข้าไปทำงานและถางป่าถางไร่ มักจะได้รับความเดือดร้อนจากสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น เช่นนายเตียบ ที่ต้องมาขอความช่วยเหลือจากหลวงพ่อ เนื่องจากลูกชายหายตัวไปขณะที่ตนเข้าไปทำงานให้กับพว ก
ชลประทาน
"หลวงพ่อครับ ลูกชายผมมันหายไป คนออกตามกันตั้งเท่าไหร่ก็ไม่เจอ............"
"เอ็ง ไม่ดูแลให้มันดี ปล่อยเด็กมันได้ยังไง....."
หลวงพ่อพูดไปมองหน้าชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ๆนั่งอยู่ห น้ากุฏิ
"ไอ้เตียบมันฟันต้นสักใหญ่เมื่อวาน ผมบอกมันแล้วว่าให้จุดธูปบอกก่อน มันไม่เชื่อ..."
"ก็นายเขาสั่งให้ตัว ผมก็ไม่กล้าขัด"
นายเตียบหันไปทางนายช่าง ซึ่งตอนนี้ทำท่าเลิกลักอยู่ นายช่างผู้ไม่เชื่อเรื่องไร้สาระ แต่หากคราวนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนเล่นงาน แต่หลายครั้งเข้าจนแม้ตัวเองก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด คราวที่ไปเยี่ยวรด ไม้ใหญ่ในดงนั้น หากแต่คราาวนั้นได้น้ำมนต์หลวงพ่อช่วยเอาไว้ จึงรอกมาได้
"ผมก็ไม่นึกว่าจะมีอะไรครับ นี่หลังๆร้ายหนัก ข้าวของเครื่องมือ ก็หายไป ไม่รู้อยู่ที่ไหน ผมนึกว่าคนงานเอาไป แต่ก็ค้นดูทุกบ้านก็ไม่พบ คราวนี้ลูกนายเตียบ ผมก็เลย....."
นายช่างระดับ4 ผู้ควบคุมดูแลงาน เล่าเรื่องราวต่างๆให้หลวงพ่อฟัง
"เห็นจะต้องแตกหัก ข้าเองเป็นพระ ไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยว แต่ไม่ยังงั้นมันจะยุ่งกันไปอีกนาน................. ...."
หลวงพ่อสุรินทร์ เข้าไปในกุฏิ นุ่งผ้ารัดกุมเดินออกมา หยิบผ้าสังฆาฏิพาดบ่า ในมือที่ชาวบ้านเห็นนั่นก็คือ ถุงผ้า แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอะไรอยู่ในนั้น
รถหกล้อปุเลงมาถึงบริเวณที่กำลังทำงานกัน ทุกคนหยุดและวิ่งมาหาหลวงพ่อ ต่างแย่งกันพูดเซ็งแซ่ ฟังไม่ได้ความ แต่ได้ความว่า พวกที่เข้าไปหาในดงสัก โดนผีหลอกวิ่งออกมาหมาดๆนี่เอง
"เฮ้อ อะไรกันนักกันหนา ทำไมถึงได้ดุอย่างนี้นะ พวกเอ็งไปทำอะไรไม่ดีเข้าแน่ๆ บอกดีๆเขาน่าจะยอมหรอก "
หลวงพ่อเดินเข้าไปยืนหน้าดง ปักธูปที่จุดทีละดอก ห่างกันเป็นช่วง นับได้ห้าดอก
"ไม่ต้องตามเข้ามา ได้ยินอะไรก็ให้อยู่เฉย"
หลวงพ่อสุรินทร์สั่งความเอาไว้ดังนั้น แล้วท่านก็เดินเข้าไปในดงสักที่ยังไม่ได้โดนเครื่องต ัด ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่จากที่ชาวบ้านเห็นและรับรู้ เมื่อหลวงพ่อสุรินทร์เดินเข้าไปสักพัก ลมที่ดูสงบๆก็พัดอื้ออึง เสียงหวีดหวิว ดังสนั่น ไม้น้อยใหญ่ลั่นเอี๊ยด กรอบแกรบ และชาวบ้านที่นั่งอยู่ด้านนอกนับสิบ ต่างก็ต้องขนลุกซู่ เมื่อได้ยินเสียงเหมือนคนพูดออกมาจากในดง มีเสียงเหมือนคนถกเถียงกัน แต่ฟังดูน่ากลัวเพราะเสียงพูดฟังดูแหบพร่าน่ากลัว ยิ่งนานไป ลมพายุดูเหมือนจะแรงยิ่งขึ้นๆ กิ่งไม้เริ่มหักรานลงบ้างแล้ว แต่ทุกคนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะนั่งรอเพียงอย่างเดีย ว
"ฟี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...................... ........."
ชาวบ้านทุกคนได้ยินเสียงอะไรสักอย่างนึง ดังแหลมออกมาจากในดงสัก แล้วพายุก็เงียบสงบ ทุกอย่างดูปรกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลวงพ่อสุรินทร์เดินจุงมือเด็กชายวัย6-7ขวบออกมา คนนึง พร้อมกับร่างกายที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อของท่าน ถุงในมือของหลวงพ่อบัดนี้ว่างเปล่า เหลือเพียงแต่ถุงเปล่าเท่านั้น มีคนนึงสังเกตุเพียงแต่ว่า ธูปที่หลวงพ่อจุด หมดดอกพอดีเมื่อท่านออกมา
"ลูกเอ็งไปกินของเซ่นเข้า แล้วก็พวกเอ็งทำอะไรกันมั่วๆไปหมด เขาเอาเรื่องเข้านะซี แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว แต่ข้าขอเลยนะ อย่าทำอะไรที่เป็นการผิดศีลธรรมแถวนี้เด็ดขาด....... ."
ไม่มีใครรู้ว่า อะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครรู้ว่าใครทำผิดอะไร และในถุงที่หลวงพ่อถือเข้าไปมีอะไร รู้เพียงแต่ว่าเจอพวกเครื่องมือต่างๆวางอยู่ที่โคนจอ มปลวกด้านใน และหลังจากวันนั้น ชาวบ้านก็ทำศาลเพียงตาเอาไว้ในดงสักนั้น แต่ในปัจจุบันได้ถูกรื้อทิ้งไปหมดแล้ว กลายเป็นถนน และคลองชลประทาน ไปหมด และลูกชายนายเตียบ ก็ออกมาจากที่นั่นอย่างปลอดภัย แต่คำบอกเล่าของลูกชายนายเตียบ ทำให้ชาวบ้านสมัยนั้น ต้องจดจำไปตลอด
"หนูเห็นคนผู้ชาย คนผู้หญิง ยืนล้อมหนู เอาไว้ หลวงปู่เดินมาหา คนพวกนั้นเลยให้หนูออกมาหาหลวงปู่ได้จ๊ะ....."
ในรูปเป็นพระปูนปั้นสมัยเก่าแก่ ที่ชาวบ้านบอกเล่ากันว่า ได้ถูกบูรณะมาหนนึงตอนหลวงพ่อสุรินทร์อยู่ และมีการบรรจุข้าวของพระเครื่องอะไรต่างๆเอาไว้ด้วย หากใครไปวัด ก็ลองกราบไหว้ขอโชคลาภจากท่านดูบ้างนะครับ
- แนบไฟล์
-
- %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7%205-7-51%20006.jpg (78.2 KiB) เปิดดู 2199 ครั้ง
-
- %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7%205-7-51%20007.jpg (82.74 KiB) เปิดดู 2199 ครั้ง
-
- %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7%205-7-51%20005.jpg (59.19 KiB) เปิดดู 2195 ครั้ง