พฤหัสฯ. 03 ก.ย. 2009 11:06 pm
พฤหัสฯ. 03 ก.ย. 2009 11:22 pm
พฤหัสฯ. 03 ก.ย. 2009 11:25 pm
พฤหัสฯ. 03 ก.ย. 2009 11:41 pm
ศุกร์ 04 ก.ย. 2009 9:45 am
ศุกร์ 04 ก.ย. 2009 10:46 am
รณธรรม ธาราพันธุ์ เขียน:สวัสดีครับคุณchekuvara (ชื่อน่ากลัวจัง)
ต้องอภัยด้วยนะครับ หากคำที่เรียนชี้แจงเรื่องของอาจารย์โสมทัตจะดูเหมือนพุ่งเป้าไปที่คุณchekuvaraเพียงท่านเดียว แต่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะครับ ผมตั้งใจหมายเอาความเป็นกลาง ๆ และยังนำไปเทียบได้กับเรื่องอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นโดยคล้ายคลึงกันอีกด้วย หากทำให้เข้าใจผิด ผมก็ขอประทานโทษมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผมเพียงแต่เรียนไปตามข้อเท็จจริง เพราะผมเองก็ไม่ได้สนิทสนมหรือให้ความนิยมนับถือในตัวอาจารย์โสมทัต เขมจารี สักเท่าใด มิได้นับถือจัดจนกระทั่งใครแตะแกไม่ได้ต้องออกรับแทน ไม่เคยเป็นศิษย์ ไม่เคยไปขอรับความช่วยเหลือใด ๆ ก็นิยมอาจารย์โสมทัตในฐานที่เราชอบไปในแนวทางเดียวกันคือ คาถาอาคม หากจะว่าชื่นชมแก ก็ชื่นชมในฐานะของความที่แกเป็น "คนเก่ง" เป็นคนมีความสามารถ แต่เรื่อง "เก่ง" กับเรื่อง "ดี" นั้นมันคนละเรื่อง คงต้องแยกแยะกันให้ถูก
หลวงปู่ดู่ย้ำเรื่องนี้มากครับ
ต้องขอบพระคุณคุณchekuvaraมากครับ ที่กรุณาติดตามและให้ข้อเสนอแนะ
ส่วนเรื่องของอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง นั้น เรียนกันตรง ๆ ว่าทั่วโลกดินแดนเขาก็นิยมชมชอบในความสามารถของท่าน หากว่าเป็นคนที่ชอบไปในทางไสยศาสตร์ วิชาอาคมนะครับ
แม้แต่อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ฆราวาสผู้ขลังจนลือชื่อ อดีตพระอุปัฏฐากสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทโว) อธิบดีสงฆ์ วัดสุทัศนเทพวราราม ก็ยังให้การยอมรับนับถืออาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง โดยอาจารย์เทพย์บอกว่า ในชีวิตท่านได้พบเจอคนเก่งคนมีฝีมือมามาก เพราะวัดสุทัศนฯ จัดพิธีต่าง ๆ บ่อยมากที่สุด ทั้งพิธีราษฎร์และพิธีหลวง หรือที่เรียกว่า "พระราชพิธี"
จึงมีพระเก่ง ๆ ทั่วสารทิศเดินทางเข้าออกรวมถึงพำนักอยู่วัดสุทัศนฯ มากหน้าหลายตา แต่ท่านบอกว่า ผมให้ความนับถือเลื่อมใสว่า "เก่งจริง แน่จริง" อยู่ไม่กี่ท่าน จากนั้นอาจารย์เทพย์ก็พูดรายชื่อทั้งพระและฆราวาสที่ท่านให้ความนิยมนับถือถึงความ "แน่จริง" ออกมาจนหมด ซึ่งก็มีอยู่ประมาณหนึ่งโหลคือ 12 ท่าน
ไม่น่าเชื่อว่าอาจารย์เทพย์ได้พบปะทั้งพระและฆราวาสเป็นร้อย ๆ ท่าน เหตุไฉนจึงบอกรายนามมาได้แค่ 12 ท่าน นั่นคงเป็นเพราะอาจารย์เทพย์ใช้ความสามารถที่มีอยู่คัดกรองเลือกเอาแต่คนที่เก่งจริง ๆ จนเป็นที่หนึ่งในหัวใจออกมา จึงได้เพียงเท่านี้
ตะแกรงร่อนยิ่งตาถี่มากเท่าไร สิ่งหยาบ ๆ ที่จะมีโอกาสเล็ดลอดไปได้ก็น้อยลงเท่านั้น
อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร เป็นตะแกรงร่อนทองที่มีตาถี่ละเอียดยิบราวกับมุ้งตาพริกไทย
คนมีความสามารถขนาดเป่าแม่กุญแจตัวใหญ่ที่ล็อกตายเพียงพ้วงเดียวให้ดีดออกจากกันทันทีได้อย่างน่ามหัศจรรย์...
คนที่สามารถเป่ายาหม่องเต็มตลับเพียงพ้วงเดียวให้ละลายเป็นน้ำได้ในพริบตา...
ความสามารถเยี่ยงนี้ยังไม่คู่ควรแก่การคัดกรองอีกหรือ ?
เชื่อไหมครับว่าในรายนามผู้เรืองเวททั้ง 12 ท่านนั้น...
มีชื่อ "อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง" รวมอยู่ด้วย
อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ยกย่องนับถือในความสามารถทางจิตของอาจารย์ฟ้อนเป็นยิ่งนัก ได้ทดสอบทดลองและพูดคุยกันแล้วอย่างเต็มที่จึงจบลงด้วยความพอใจ
มิใช่เดา !
ดังนั้น เรื่องราวฝ่ายลบของอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ที่คุณchekuvaraถามมาซึ่งพบในบอร์ดพลังจิต แม้ผมจะไม่เคยเข้าไปอ่านแต่ก็พอเดาทางออกว่าท่านที่โพสท์ลงนำเรื่องนี้มาจากข้อเขียนของ นายแพทย์อาจินต์ บุณยเกตุ
ก็ต้องเรียนตามตรงอีกแหละครับว่า เราไม่ทราบเลยทั้งฝ่ายบวกและลบ กล่าวคือ ที่อาจารย์เทพย์ยืนยันว่าอาจารย์ฟ้อนเก่งนั้นได้ยินกันหลายท่าน พระครูวิมลญาณอุดม หรือ ท่านพระอาจารย์ติ๋ว ฐิตวัฑฒโน วัดมณีชลขัณฑ์ ก็ได้ยินด้วยองค์ท่านเอง
แต่ถ้าให้พูดกันอย่างตรงไปตรงมา ใครจะทราบข้อเท็จจริงได้นอกจากอาจารย์เทพย์กับอาจารย์ฟ้อนเอง
ในทางฝ่ายลบ คุณหมออาจินต์เล่าถึงตอนที่อาจารย์ฟ้อนไปพบกับหลวงพ่ออ่ำ วัดวงษ์ฆ้องคลองเมือง พวกเราก็ไม่มีใครอยู่ด้วยสักคน เขาคุยกันอย่างไร ? ที่คุยกันนั้นถาม-ตอบกันอย่างไร ? และจบลงด้วยข้อสรุปอะไร ? ก็ไม่มีใครทราบจริง ๆ
ส่วนที่ว่าอาจารย์ฟ้อนตายแล้วไปตกนรกหมกไหม้ใช้กรรมนั้น ก็มิใช่หลวงพ่ออ่ำท่านพูด แต่เป็นนายแพทย์อาจินต์พูด
แล้วนายแพทย์อาจินต์ทราบได้อย่างไร ?
ข้อสรุปก็คือนายแพทย์อาจินต์นั่งสมาธิได้ฌานสมาบัติ สามารถถอดกายทิพย์ไปเที่ยวดูนรกสวรรค์ได้ เห็นคนรู้จักไปถูกทรมานก็นำมาเล่าสู่กันฟังให้กับคนที่นั่งสมาธิไม่ได้ไม่เป็น
หมออาจินต์เห็นจริงหรือ ?
คนที่ภาวนาแล้วเห็นอย่างนั้นอย่างนี้นำมาเล่าสู่กันฟังได้เพียงนี้หรือ ?
ทั้งหมดก็เป็นเรื่องที่คุณหมออาจินต์จะทราบชัดแก่ใจท่านดี ใครก็ไปรู้ด้วยไม่ได้ว่าท่านเห็นจริงหรือไม่อย่างไร ?
ผมก็ตัดสินอะไรไม่ได้เช่นกัน เป็นแต่รับฟังไว้เฉย ๆ
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เคยปรารภธรรมถึงท่านที่นั่งภาวนาแล้ว "เห็น" สิ่งต่าง ๆ มากมายในนิมิต เกิดความถือมั่นจนอดไม่ได้ที่จะนำมาเล่าสู่คนทั่วไปฟังว่า
"ที่เห็นนั้นเขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็นนั้นไม่จริง"
นั่นเป็นเพราะท่านที่เห็น "ของจริง" จะไม่พูดอะไรเลย เพราะมันไม่เกิดประโยชน์แม้สักน้อย รังแต่จะเป็นโทษไปเปล่า ๆ ด้วยว่าเขาเห็นอยู่คนเดียว คนอื่น ๆ มิได้เห็นตามด้วย เล่าไปแล้วเขาเชื่อก็เสมอตัวเขาไม่เชื่อก็ติดลบ
ผมเองก็มิได้ทันยุคของทุก ๆ ท่านทั้งหมดที่เอ่ยนามมา ได้รับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายแล้วนำมาประมวลเป็นเหตุผลเรื่องราว ผมจึงไม่อาจตัดสินได้ว่าท่านใดถูกท่านใดผิด ผมได้ข้อคิดเพียงว่า ทุกสิ่งไม่ว่ารูปหรือนามล้วนไม่เที่ยงแท้ อย่ายึดถือจนเป็นทุกข์ก็พอ
คิดได้เท่านี้จริง ๆ ครับ คิดมากไปกว่านี้ผมเครียดดดด.....![]()
ศุกร์ 04 ก.ย. 2009 10:49 am
ศุกร์ 04 ก.ย. 2009 6:17 pm
chekuvara เขียน:รณธรรม ธาราพันธุ์ เขียน:สวัสดีครับคุณchekuvara (ชื่อน่ากลัวจัง)
ต้องอภัยด้วยนะครับ หากคำที่เรียนชี้แจงเรื่องของอาจารย์โสมทัตจะดูเหมือนพุ่งเป้าไปที่คุณchekuvaraเพียงท่านเดียว แต่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะครับ ผมตั้งใจหมายเอาความเป็นกลาง ๆ และยังนำไปเทียบได้กับเรื่องอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นโดยคล้ายคลึงกันอีกด้วย หากทำให้เข้าใจผิด ผมก็ขอประทานโทษมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ผมเพียงแต่เรียนไปตามข้อเท็จจริง เพราะผมเองก็ไม่ได้สนิทสนมหรือให้ความนิยมนับถือในตัวอาจารย์โสมทัต เขมจารี สักเท่าใด มิได้นับถือจัดจนกระทั่งใครแตะแกไม่ได้ต้องออกรับแทน ไม่เคยเป็นศิษย์ ไม่เคยไปขอรับความช่วยเหลือใด ๆ ก็นิยมอาจารย์โสมทัตในฐานที่เราชอบไปในแนวทางเดียวกันคือ คาถาอาคม หากจะว่าชื่นชมแก ก็ชื่นชมในฐานะของความที่แกเป็น "คนเก่ง" เป็นคนมีความสามารถ แต่เรื่อง "เก่ง" กับเรื่อง "ดี" นั้นมันคนละเรื่อง คงต้องแยกแยะกันให้ถูก
หลวงปู่ดู่ย้ำเรื่องนี้มากครับ
ต้องขอบพระคุณคุณchekuvaraมากครับ ที่กรุณาติดตามและให้ข้อเสนอแนะ
ส่วนเรื่องของอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง นั้น เรียนกันตรง ๆ ว่าทั่วโลกดินแดนเขาก็นิยมชมชอบในความสามารถของท่าน หากว่าเป็นคนที่ชอบไปในทางไสยศาสตร์ วิชาอาคมนะครับ
แม้แต่อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ฆราวาสผู้ขลังจนลือชื่อ อดีตพระอุปัฏฐากสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสเทโว) อธิบดีสงฆ์ วัดสุทัศนเทพวราราม ก็ยังให้การยอมรับนับถืออาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง โดยอาจารย์เทพย์บอกว่า ในชีวิตท่านได้พบเจอคนเก่งคนมีฝีมือมามาก เพราะวัดสุทัศนฯ จัดพิธีต่าง ๆ บ่อยมากที่สุด ทั้งพิธีราษฎร์และพิธีหลวง หรือที่เรียกว่า "พระราชพิธี"
จึงมีพระเก่ง ๆ ทั่วสารทิศเดินทางเข้าออกรวมถึงพำนักอยู่วัดสุทัศนฯ มากหน้าหลายตา แต่ท่านบอกว่า ผมให้ความนับถือเลื่อมใสว่า "เก่งจริง แน่จริง" อยู่ไม่กี่ท่าน จากนั้นอาจารย์เทพย์ก็พูดรายชื่อทั้งพระและฆราวาสที่ท่านให้ความนิยมนับถือถึงความ "แน่จริง" ออกมาจนหมด ซึ่งก็มีอยู่ประมาณหนึ่งโหลคือ 12 ท่าน
ไม่น่าเชื่อว่าอาจารย์เทพย์ได้พบปะทั้งพระและฆราวาสเป็นร้อย ๆ ท่าน เหตุไฉนจึงบอกรายนามมาได้แค่ 12 ท่าน นั่นคงเป็นเพราะอาจารย์เทพย์ใช้ความสามารถที่มีอยู่คัดกรองเลือกเอาแต่คนที่เก่งจริง ๆ จนเป็นที่หนึ่งในหัวใจออกมา จึงได้เพียงเท่านี้
ตะแกรงร่อนยิ่งตาถี่มากเท่าไร สิ่งหยาบ ๆ ที่จะมีโอกาสเล็ดลอดไปได้ก็น้อยลงเท่านั้น
อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร เป็นตะแกรงร่อนทองที่มีตาถี่ละเอียดยิบราวกับมุ้งตาพริกไทย
คนมีความสามารถขนาดเป่าแม่กุญแจตัวใหญ่ที่ล็อกตายเพียงพ้วงเดียวให้ดีดออกจากกันทันทีได้อย่างน่ามหัศจรรย์...
คนที่สามารถเป่ายาหม่องเต็มตลับเพียงพ้วงเดียวให้ละลายเป็นน้ำได้ในพริบตา...
ความสามารถเยี่ยงนี้ยังไม่คู่ควรแก่การคัดกรองอีกหรือ ?
เชื่อไหมครับว่าในรายนามผู้เรืองเวททั้ง 12 ท่านนั้น...
มีชื่อ "อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง" รวมอยู่ด้วย
อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ยกย่องนับถือในความสามารถทางจิตของอาจารย์ฟ้อนเป็นยิ่งนัก ได้ทดสอบทดลองและพูดคุยกันแล้วอย่างเต็มที่จึงจบลงด้วยความพอใจ
มิใช่เดา !
ดังนั้น เรื่องราวฝ่ายลบของอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ที่คุณchekuvaraถามมาซึ่งพบในบอร์ดพลังจิต แม้ผมจะไม่เคยเข้าไปอ่านแต่ก็พอเดาทางออกว่าท่านที่โพสท์ลงนำเรื่องนี้มาจากข้อเขียนของ นายแพทย์อาจินต์ บุณยเกตุ
ก็ต้องเรียนตามตรงอีกแหละครับว่า เราไม่ทราบเลยทั้งฝ่ายบวกและลบ กล่าวคือ ที่อาจารย์เทพย์ยืนยันว่าอาจารย์ฟ้อนเก่งนั้นได้ยินกันหลายท่าน พระครูวิมลญาณอุดม หรือ ท่านพระอาจารย์ติ๋ว ฐิตวัฑฒโน วัดมณีชลขัณฑ์ ก็ได้ยินด้วยองค์ท่านเอง
แต่ถ้าให้พูดกันอย่างตรงไปตรงมา ใครจะทราบข้อเท็จจริงได้นอกจากอาจารย์เทพย์กับอาจารย์ฟ้อนเอง
ในทางฝ่ายลบ คุณหมออาจินต์เล่าถึงตอนที่อาจารย์ฟ้อนไปพบกับหลวงพ่ออ่ำ วัดวงษ์ฆ้องคลองเมือง พวกเราก็ไม่มีใครอยู่ด้วยสักคน เขาคุยกันอย่างไร ? ที่คุยกันนั้นถาม-ตอบกันอย่างไร ? และจบลงด้วยข้อสรุปอะไร ? ก็ไม่มีใครทราบจริง ๆ
ส่วนที่ว่าอาจารย์ฟ้อนตายแล้วไปตกนรกหมกไหม้ใช้กรรมนั้น ก็มิใช่หลวงพ่ออ่ำท่านพูด แต่เป็นนายแพทย์อาจินต์พูด
แล้วนายแพทย์อาจินต์ทราบได้อย่างไร ?
ข้อสรุปก็คือนายแพทย์อาจินต์นั่งสมาธิได้ฌานสมาบัติ สามารถถอดกายทิพย์ไปเที่ยวดูนรกสวรรค์ได้ เห็นคนรู้จักไปถูกทรมานก็นำมาเล่าสู่กันฟังให้กับคนที่นั่งสมาธิไม่ได้ไม่เป็น
หมออาจินต์เห็นจริงหรือ ?
คนที่ภาวนาแล้วเห็นอย่างนั้นอย่างนี้นำมาเล่าสู่กันฟังได้เพียงนี้หรือ ?
ทั้งหมดก็เป็นเรื่องที่คุณหมออาจินต์จะทราบชัดแก่ใจท่านดี ใครก็ไปรู้ด้วยไม่ได้ว่าท่านเห็นจริงหรือไม่อย่างไร ?
ผมก็ตัดสินอะไรไม่ได้เช่นกัน เป็นแต่รับฟังไว้เฉย ๆ
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เคยปรารภธรรมถึงท่านที่นั่งภาวนาแล้ว "เห็น" สิ่งต่าง ๆ มากมายในนิมิต เกิดความถือมั่นจนอดไม่ได้ที่จะนำมาเล่าสู่คนทั่วไปฟังว่า
"ที่เห็นนั้นเขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็นนั้นไม่จริง"
นั่นเป็นเพราะท่านที่เห็น "ของจริง" จะไม่พูดอะไรเลย เพราะมันไม่เกิดประโยชน์แม้สักน้อย รังแต่จะเป็นโทษไปเปล่า ๆ ด้วยว่าเขาเห็นอยู่คนเดียว คนอื่น ๆ มิได้เห็นตามด้วย เล่าไปแล้วเขาเชื่อก็เสมอตัวเขาไม่เชื่อก็ติดลบ
ผมเองก็มิได้ทันยุคของทุก ๆ ท่านทั้งหมดที่เอ่ยนามมา ได้รับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายแล้วนำมาประมวลเป็นเหตุผลเรื่องราว ผมจึงไม่อาจตัดสินได้ว่าท่านใดถูกท่านใดผิด ผมได้ข้อคิดเพียงว่า ทุกสิ่งไม่ว่ารูปหรือนามล้วนไม่เที่ยงแท้ อย่ายึดถือจนเป็นทุกข์ก็พอ
คิดได้เท่านี้จริง ๆ ครับ คิดมากไปกว่านี้ผมเครียดดดด.....![]()
สวัสดีครับคุณรณธรรม![]()
สุดยอดจริงๆ นับถือในการแสดงความคิดเห็นแบบให้ประโยชน์กับคนอ่าน โดยไม่ยึดติดกับคติของตัวเองในการนำเสนอครับ จริงๆผมตามอ่านบทความของคุณรณธรรมมาตั้งแต่เว็บสวนขลังนานก่อนจะเปลี่ยนเว็บใหม่แล้วครับ แต่ก็ไม่ได้สอบถามอะไร เพราะไม่มีอะไรสงสัยและไม่มีข้อมูลอะไรครับ จากข้อความเห็นของคุณรณธรรมผมเองไม่ได้มีความโกรธอะไรหรอกครับ ดีซะอีกพูดกันตรงๆ นิสัยผมก็ตรงๆ เหมือนกัน แต่จะให้ไปถามคนที่ยึดติดแบบหัวชนฝาว่าข้างนั้นดีไม่ดีคงไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะเค้าคงนำเสนอแต่มุมมองของเค้าที่เชื่อว่าถูกต้องอย่างเดียว หากคำถามผมทำให้คุณรณธรรมเครียดต้องขออภัยเช่นกันนะครับในส่วนตัวแล้วชื่อน่ากลัว แต่ตัวน่ารักนะครับ
ศุกร์ 04 ก.ย. 2009 6:57 pm
ศุกร์ 04 ก.ย. 2009 11:38 pm
ศุกร์ 04 ก.ย. 2009 11:58 pm
เสาร์ 05 ก.ย. 2009 9:14 pm
เสาร์ 05 ก.ย. 2009 9:30 pm
poan เขียน:เอิ๊กๆนานๆทีอาจารย์ต่อ ก็อยากจุดประกายนะเนี่ย
ทุกเรื่องในโลกจะดีหรือไม่ อยู่ที่การตัดสินจากความคิดตัวเดียวที่อิงประสพการณ์การเรียนรู้ส่วนตัวทั้งนั้น
สองคนยลตามช่อง...
คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม...
คนสองตาแหลมคม...
เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย...
เลือกเอาครับว่าเราจะเป็น ติสสะ หรือ ติรถะ แห่งสำนักพราหมณ์ตักศิลา
พุธ 23 ธ.ค. 2009 10:15 am
พุธ 23 ธ.ค. 2009 6:34 pm
พฤหัสฯ. 24 ธ.ค. 2009 9:27 am
ศุกร์ 25 ธ.ค. 2009 2:02 am
ศุกร์ 25 ธ.ค. 2009 10:15 am
ศุกร์ 25 ธ.ค. 2009 2:55 pm
พุธ 15 ก.พ. 2012 8:46 am