นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 24 พ.ย. 2024 12:59 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 4:10 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
img013.jpg


โดย รณธรรม ธาราพันธุ์

พระเถระที่นามว่า ขาว มีมากหลากองค์ หากเอาที่เหรียญแพงระยับต้อง หลวงปู่ขาว วัดหลักสี่ ดอนเมือง กรุงเทพ นี่แหละ เนื้อเงินสวย ๆ อย่างส่องกล้องแล้วท่านยิ้มให้นี่ว่ากันถึงหลักแสน นั่นแบบเอาโลหะแปรธาตุเป็นกระดาษ แต่ถ้ากระดูกแปรธาตุเป็นเพชรพลอยต้องนี่

หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี

อันที่จริงสถานที่ตั้งวัดได้เปลี่ยนนามไปแล้วตามการปกครอง จากที่อยู่ข้างต้นเป็น อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ด้วยถูกยกสถานะ อำเภอ ให้เป็นจังหวัด ทว่าผมถนัดปากจริง ๆ ให้ดิ้นตายกับที่อยู่เดิม จึงขอยกไว้คนเถิดจะว่าจมปลักก็ยอม

หลวงปู่ขาว อนาลโย เดิมชื่อ ขาว โคระถา เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2431 ณ บ้านบ่อชะเนง ต.หนองแก้ว อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี บิดาชื่อ พั่ว มารดาชื่อ รอด โคระถา มีพี่น้องร่วมอุทร 7 คน โดยท่านเป็นบุตรคนที่ 4

ท่านแต่งงานเมื่ออายุได้ 20 ปี โดยอยู่กินกับ นางมี กระทั่งมีบุตรด้วยกัน 7 คน ต่อมาภรรยาท่านทำในสิ่งมิบังควรคือคบชู้สู่ชาย เป็นเหตุให้ท่านโกรธแค้นมากถึงกับเอามีดดาบติดตามไปหมายจะฆ่าคนทั้งสอง หากเมื่อท่านไปได้ครึ่งทางเกิดความคิดอันหนึ่งผุดขึ้นมาว่า

ที่คิดว่าเราเป็นฝ่ายดีเป็นฝ่ายถูกนั้น แต่เราก็ลุแก่อำนาจโทสะความอาฆาตมาดร้าย เราคิดจะฆ่าคนทีเดียวสองคน จะจัดว่าใครเลวร้ายกว่าใคร?

บัดนั้นเอง ท่านก็เกิดความสลดสังเวชขึ้นในจิต นึกเห็นแต่ความเมตตาสงสารและการให้อภัย ยกมือขึ้นประณมว่า สาธุ ๆ ที่พระธรรมมาโปรดปรานสงบเพลิงกิเลสลงจากใจได้ไม่ทำให้ท่านต้องตกนรก ครั้นพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในชีวิตทางโลกชัดแจ้งแก่จิตแล้ว ท่านจึงปลงใจบวชคิดปฏิบัติธรรมให้เต็มกำลังความสามารถตน

ท่านออกบวชครั้งแรกเมื่ออายุได้ 31 ปี ในฝ่ายมหานิกายที่ วัดโพธิ์ศรี บ้านบ่อชะเนง ต.หนองแก้ว อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2462 มี พระครูพุฒิศักดิ์ เจ้าคณะอำเภอเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์บุญจันทร์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และอยู่จำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรีเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยนี้ถึง 6 ปี

เมื่ออยู่ที่วัดนั้นได้เล็งเห็นโทษของเพื่อนภิกษุที่ไม่ปฏิบัติตามธรรมวินัย ทำให้สลดใจนักคิดขึ้นว่าเป็นดังนี้ก็ไม่สมเจตนาที่ออกบวชมาเพื่อมรรคเพื่อผล จึงไปกราบลาพระอุปัชฌาย์เพื่อออกปฏิบัติธรรม

หลวงปู่ขาวเที่ยวธุดงค์ไปเรื่อยจนได้ยินผู้คนเล่าขานถึงกิตติคุณในท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านก็เกิดความกระหายใคร่จะได้พระแท้อย่างนี้เป็นครู จึงได้เดินทางออกตามหาอยู่เป็นนาน ผ่านป่าเขาลำเนาไพรจนถึงพระธาตุพนม ถึงอุดรธานี วกมาหนองคาย ด้วยเวลานั้นได้ทราบว่าท่านพระอาจารย์ใหญ่วิเวกมาจำพรรษาที่อำเภอท่าบ่อ

ครั้นหลวงปู่ได้มาอยู่ปฏิบัติกับท่านพระอาจารย์มั่น ก็รับรู้ได้ว่านี่คือครูบาอาจารย์ที่ใฝ่หา และนี่คือธรรมแท้ที่ได้ยิน แต่เวลาไม่นานนักท่านพระอาจารย์ใหญ่ก็ออกธุดงค์หนีหายไปอีกด้วยท่านไม่ปรารถนาคลุกคลีกับหมู่คณะเพราะท่านยัง ไม่จบกิจพระศาสนา

ต่อมาได้ทราบว่าท่านพระอาจารย์มั่นอยู่ที่เชียงใหม่ หลวงปู่ก็ตามไป เสาะหาไป ด้วยความยากลำบากกระทั่งได้พบและถือเป็นวาสนาอย่างที่สุด เมื่อท่านพระอาจารย์ใหญ่อนุญาตให้อยู่จำพรรษาด้วย

ครั้นอยู่ใกล้ครูผู้วิเศษสุด หลวงปู่ก็เร่งความเพียรเป็นการใหญ่แทบไม่หลับไม่นอน บางวันท่านเดินจงกรมสลับนั่งสมาธิจนสว่าง คืนหนึ่งจิตเกิดรวมลงอย่างเต็มที่ถึงฐานเดิมแห่งจิต พักใหญ่จึงถอนขึ้นมาแล้วเกิดโอภาสสว่างกระจ่างแจ้งในใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ท่านอัศจรรย์เพลิดเพลินกับธรรมจนรุ่งสางทีเดียว

พอออกจากสมาธิหลวงปู่ก็รีบไปอุปัฏฐากท่านพระอาจารย์มั่นขนบริขารท่านลงมายังที่ฉัน แต่แล้วหลวงปู่ก็เห็นสายตาท่านพระอาจารย์ใหญ่จับจ้องมองท่านตลอดจนผิดสังเกต จากเดิมที่เคยกลัวเกรงท่านพระอาจารย์มั่นเอาหนักหนาอยู่แล้ว ครั้งนี้ยิ่งรู้สึกกระดากอายและหวั่นหนักเข้าไปอีก สำคัญว่าชะรอยเราคงทำอะไรผิดไปหรืออย่างไรแน่

ขณะที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ท่านพระอาจารย์มั่นก็เปรยขึ้นมาว่า

“เออ...ท่านขาวนี้ภาวนาอย่างไร คืนนี้จิตจึงสว่างไสวมากผิดกับที่เคยเป็นมาทุก ๆ คืนนับแต่มาอยู่กับผม ต้องอย่างนี้สิจึงสมกับผู้มาแสวงธรรม ทีนี้ท่านทราบหรือยังว่าธรรมอยู่ที่ไหน คืนนี้สว่างอยู่ที่ไหนล่ะท่านขาว”

หลวงปู่ประณมมือตอบว่า “สว่างอยู่ที่ใจครับผม”

“แต่ก่อนธรรมไปอยู่ที่ไหนเล่าท่านจึงไม่เห็น นั่นแลธรรม ท่านจงทราบเสียแต่บัดนี้เป็นต้นไป ธรรมอยู่ที่ใจนั่นแล ต่อไปท่านจงรักษาระดับจิตระดับความเพียรไว้ให้ดีอย่าให้เสื่อม นั่นแลคือฐานของจิตฐานของธรรม ฐานของความเชื่อมั่นในธรรม และฐานแห่งมรรคผลนิพพานอยู่ที่นั่นแล…”

จากนั้นท่านพระอาจารย์มั่นได้กล่าวว่า “เมื่อคืนนี้ผมส่งกระแสจิตไปดูท่านเห็นจิตสว่างไสวทั่วบริเวณ กำหนดไปทีไรเห็นเป็นอย่างนั้นอยู่ตลอดจนสว่าง เพราะเมื่อคืนนี้ผมมิได้พักนอนเลย เข้าสมาธิภาวนาไปบ้าง ต้อนรับแขกเทพบ้าง กำหนดจิตดูท่านบ้างเรื่อยมาจนสว่างโดยไม่รู้สึก พอออกจากที่จึงต้องมาถามท่านเพราะอยากรู้เรื่องของหมู่คณะมานาน สบายไหม ? ... อัศจรรย์ไหม ?”

คราวนี้หลวงปู่ไม่กล้าเรียนตอบท่าน ได้แต่นิ่งเงียบไปด้วยความยำเกรงเป็นที่สุด นึกในใจว่าจะตอบไปเพื่ออะไรในเมื่อท่าน ส่อง มาเห็นตับเห็นปอดเราหมดแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนก็เชื่ออยู่แล้วว่าท่านพระอาจารย์มั่นสามารถรู้วาระจิตความคิดคน สัตว์ และวิญญาณได้ พอมาเจอเข้ากับตัวเช่นนี้ก็เพิ่มความระมัดระวังจิตเจ้าของยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งเกรงกลัวท่านเป็นเท่าทวี

เมื่ออยู่ด้วยท่านพระอาจารย์ใหญ่กระทั่งท่านลงใจซึ่งกันและกัน หลวงปู่ขาวก็ได้รับอนุญาตให้ญัตติเป็นพระธรรมยุติได้ โดยท่านทำญัตติจตุตถกรรมพร้อมกับหลวงปู่หลุย จันทสาโรโดยหลวงปู่หลุยเป็นนาคขวาบวชก่อนท่าน 15 นาที และหลวงปู่ขาวเป็นนาคซ้าย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2468 ตรงกับ แรม 8 ค่ำ เดือน 6 ปีฉลู มีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์

พอเป็นธรรมยุติก็สะดวกในการประกอบสังฆกรรมต่าง ๆ การอยู่จำพรรษาร่วมกันก็ราบรื่นไม่เป็นอุปสรรค หลวงปู่จึงทำความเพียรได้อย่างหมดห่วงกังวล และในที่สุดท่านก็ จบกิจพระศาสนา ลงที่กระต๊อบเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ณ บ้านโหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ จะพูดอีกทีว่าหลวงปู่ขาวเป็น...

พระอรหันต์ องค์หนึ่งก็ไม่ผิด

ไปดูอัฐิท่านได้

กระดูกคนทั่วไปมีหรือจะแปรเปลี่ยนให้มีลักษณ์ดังเพชร-พลอยได้ อย่าว่าแต่กระดูกเลย แม้เส้นเกศา... แม้เล็บมือ... แม้ชานหมาก หรือแม้แต่ อึ ของท่านก็เป็น...
พระธาตุ !

นี่คือเรื่องจริงซึ่งเกิดขึ้นในโลกที่ปกคลุมด้วยกิเลสตัณหาใบนี้ หลักฐานมีให้ดูอยู่พร้อมสรรพที่วัดถ้ำกลองเพลในปัจจุบัน เรื่องจริงอย่างนี้ใครเชื่อก็จริง หรือใครไม่เชื่อก็จริงอยู่อย่างนั้น เพราะสัจจะความจริงนั้นไม่ขึ้นกับเชื่อหรือไม่เชื่อของใคร

แต่อย่าปรามาสแล้วกัน

พระผู้หมดกิเลสดังนี้ จะหยิบจับอะไรก็เป็นมงคลไปหมดสิ้น นึกถึงคำหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ คำหนึ่งท่านบอกพวกเราว่า “ข้าแตะอะไรก็เป็นพระไปหมด”

อย่างนี้นี่เอง

เพราะจิตบริสุทธิ์ไร้มลทิน ฉวยอะไรสิ่งนั้นก็บริสุทธิ์ตาม ตรงข้ามคนมีกิเลสก็เหมือนคนเลอะโคลนหยิบจับอะไรย่อมเปรอะเปื้อนไปหมด

จึงนึกกระหยิ่มใจจนพองฟูว่า เมื่อพระบริสุทธิ์อย่างนี้ กำหนดจิตอธิษฐานฤทธิ์ด้วยความบริสุทธิ์ อำนาจแห่งความพิสุทธิ์นั้นย่อมซึมแทรกลงไปในทุกปรมาณูของวัตถุนั้น ๆ ที่ถูกอธิษฐาน และเชื่ออีกว่าจะไม่มีเสื่อมคลายลงได้เลยเสมือนจิตวิสุทธิ์ของท่านที่ไม่อาจกลับมาสกปรกอีกเพราะทุกสิ่งสำหรับท่านเป็น สุญญตา

หลวงปู่ขาวเป็นศิษย์ในท่านพระอาจารย์มั่นอีกองค์หนึ่งที่ทรงเมตตาธิคุณเป็นล้นพ้น ความเมตตาเช่นนี้เองที่ทำให้เกิดวัตถุมงคลในท่านเป็นจำนวนมากต่อมาก ซึ่งท่านก็ยินดีอธิษฐานจิตให้ด้วยเมตตานั่นแล

พระเครื่องของหลวงปู่ขาวมีประสบการณ์มากมายปรากฏแก่คนนับถือ ผมอยู่ในวงการนี้มานานย่อมได้ยินไม่น้อยทีเดียว เรื่องยิงไม่เข้า แทงไม่เข้า รถคว่ำรถชนไม่เป็นอะไรหรือเป็นก็น้อยมากเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ แต่เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน เราลองฟังดูสิว่ามีใครเคยเจอแบบนี้บ้างหรือเปล่า

คุณอำพล เจน เป็นนักเขียนชื่อดังท่านหนึ่ง (วาดการ์ตูนก็ดังใช่เล่น) เมื่อภายหลังท่านเลียบเคียงลงเดินบนถนนสาย พระ พร้อมใช้ความถนัดเชิง เขียน ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ให้นักนิยมพระได้อ่าน ด้วยฝีมือและสำนวนที่เด็ดขาด มีเสน่ห์ชวนติดตาม ทำให้เกิดแฟนานุแฟนเป็นจำนวนมากเดินร่วมถนนไปด้วย

เมื่อผมเลี้ยวซ้ายจากซอยเดิมที่เคยเดินมานานก้าวลงสู่ถนนสายขลัง ก็พบกับกลุ่มคนที่เดินล้อมหน้าล้อมหลังคุณอำพลอยู่ก่อนแล้ว สงสัยว่ารุมอะไรกันก็เข้าไปดูบ้าง พอได้เห็นตัวตนของคุณอำพลผมก็ติดใจ ขออนุญาตเดินรวมกลุ่มไปด้วยมาจนบัดนี้

และในกลุ่มนี้เองผมก็ได้เพื่อนตลอดจนพี่น้องจากคนเก่าก่อนที่เดินอยู่แล้วและที่เพิ่งเดินเข้ามาสมทบ เสียงแนะนำให้รู้จักกันยังคงดังต่อเนื่องไม่ขาดสาย และผมก็ได้รู้จักใครคนหนึ่งจากการแนะนำของคุณอำพล

นายแพทย์จิมมี่ คงเจริญ

เป็นแพทย์เกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะและโรคไต ปัจจุบันประจำอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา จ.ชลบุรี ไม่น่าเชื่อว่าหมออะไรจะชอบพระเครื่องได้ขนาดนี้ เรื่องราวซึ่งคุยกันในแต่ละครั้งที่เจอเป็นเรื่องพระเสีย 96% อีก 4% แบ่งเป็นเรื่องสารทุกข์สุกดิบและตับ ๆ ไต ๆ บ้าง

ครูอำพลเคยบอกว่าคนพกพระมากมี อ.อนันต์ อ.เบิ้ม และคุณตี๋ ผมเห็นจะเพิ่มคุณหมอจิมมี่อีกคนคงไม่ว่ากัน ในคอคุณหมอคล้องสร้อยเส้นเดียวก็จริง แต่มีพระ 9 องค์ บางเส้น 11 องค์ก็มี ไม่นับตะกรุดที่คาดเอว พระที่ใช้แหนบเหน็บในกระเป๋าเสื้อ และใส่รวมในซองยาอย่างใหญ่เป็นสิบ ๆ รายการซุกอยู่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตเช่นกัน

ทำนองรักพี่เสียดายน้อง

คราวหนึ่งคุณหมอได้เหรียญหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล มาใหม่ ๆ อารามดีใจก็นำมาพกรวมไว้ในซองยา และออกปฏิบัติหน้าที่ไปตามเรื่อง ผมจำไม่ถนัดว่าท่านพกไว้ได้นานกี่วัน เพราะวันเกิดเหตุนั้นเหรียญยังอยู่กับตัว

ความเป็นหมอย่อมต้องมีการอยู่เวร วันที่ไร้คนไข้ยามดึกคืนหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเกาะลอย อ.ศรีราชา คุณหมอเดินไปเดินมาเมื่อเห็นว่าไม่มีคนไข้ด้วยเป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว จึงเดินขึ้นชั้นสองเข้าไปพักในห้องแอร์ที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้หมอพักผ่อน

ในห้องนั้นก็เหมือนคอนโดนี่แหละ โซฟาอยู่ใกล้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ซึ่งไม่มีช่องระบายอากาศ คุณหมอเปิดทีวีนอนเอกเขนกบนโซฟาดูบอลโลกอย่างสบายใจ รอเสียงกริ่งหากจะมีเหตุฉุกเฉินอะไร

ขณะนั้นก็รู้สึกเหมือนจะง่วง จิตเรียวลงคล้ายเข้าสู่ภวังค์ หากคุณหมอยืนยันว่ายังไม่ได้หลับแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะยังเห็นนักเตะลูกหนังวิ่งกันขวักไขว่ไปมาในจอ

ทันใดนั้นเอง ก็ปรากฏมือลึกลับทะลุกระจกที่หนาหนักเข้ามา คุณหมอตกใจสุดขีดเพราะมือนั้นมีขนาดใหญ่โตมโหฬารดังมือยักษ์ และเป็นมือที่มีผิวดำมะเมื่อมน่าสะพรึงกลัวเป็นที่สุด มือปีศาจนั้นทำอาการกำหมัดเงื้อง่าจะชกโครมลงบนตัวหมอจิมมี่ซึ่งกำลังนอนตัวแข็ง มีแต่ตาที่เบิ่งดูภาพสยดสยองนั้นอยู่ไม่กะพริบ

วินาทีนั้น อาจเป็นด้วยจิตที่เพิ่งปีติจากการได้เหรียญหลวงปู่ขาวมาทำให้ประหวัดระลึกถึงหลวงปู่ขาวทันที ตะโกนอยู่ในใจว่า“หลวงปู่ขาวช่วยด้วย”

สิ่งอัศจรรย์ก็พลันเกิด เมื่อเหรียญหลวงปู่ขาวที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตกระโดดออกมาได้เหมือนมีชีวิต แล้ววิ่งเข้าไปอยู่ที่ฝ่ามือขวาซึ่งยกกำอยู่ข้างอก ครั้นมือปีศาจนั้นใกล้จะถึงตัวเหรียญก็แสดงปาฏิหาริย์วิ่งไปวิ่งมาระหว่างมือซ้ายและขวาเร็วจี๋ คล้ายจะปกป้องช่วงลำตัว

ทันทีเช่นกัน มือลึกลับนั่นก็ผงะแล้วถอยกลับออกไปทางเดิม ทิ้งให้คุณหมอนอนตะลึงอยู่ลำพัง ครั้นได้สติมองไปที่โทรทัศน์ นักบอลก็ยังเล่นกันต่อเนื่องจากที่เห็นก่อนมือดำจะโผล่

ชัดเจนว่าไม่ได้ฝัน !!

แล้วที่เหรียญเข้ามาอยู่ในมือวิ่งไป-มาเล่า พอแบมือออกดูก็ไม่ปรากฏอะไร เหรียญหลวงปู่ขาวยังอยู่ในกระเป๋าเสื้ออย่างเดิม

นี่มันอะไร ?

คุณหมอเผ่นออกจากห้องตัวปลิวลงมาข้างล่างซึ่งดูจะอบอุ่นกว่า เมื่อได้เลียบเคียงถามกับพยาบาล ปรากฏว่าหมอจิมมี่ไม่ใช่คนแรก

แทบทุกหมอโดนมานักต่อนัก

มีสารพัดรูปแบบ เป็นผู้หญิงมาเดินให้เห็นก็มี มาร้องเรียกให้ออกจากห้องก็มี

โอ้...พระเจ้า

เหตุนี้อีกหรือเปล่าที่ทำให้คุณหมอรักพระเครื่องจับจิตจับใจ ไปไหนพกเยอะไว้ก่อนเป็นได้เปรียบ ใครจะว่าอย่างไรไม่สนหรอก ก็เจอมาเองนี่นา

เสียดายว่าขณะเขียนต้นฉบับนี้คุณหมอเดินทางไปดูงานที่ญี่ปุ่นจะกลับอีกทีคงปลายตุลา มิฉะนั้นจะเอารูปท่านมาลงคู่กับเหรียญเสียหน่อย ใครเจอตัวจริงจะได้สัมภาษณ์สดพร้อมกับขอดูเหรียญสุดขลังนี้ด้วย เป็นรุ่นสมทบทุนสร้างถังน้ำของวัดถ้ำกลองเพล สร้างในปี พ.ศ. 2517 แน่ะ หลวงปู่ยังแข็งแรงดีเสียด้วย คง เสก เต็มที่

ใครพบเห็นจงคว้าไว้เลย ไม่ต้องไปห่วงเรื่องดังไม่ดัง นิยมไม่นิยมดอก มั่นใจว่าท่านเสกแล้วเป็นเก็บไปเถอะ แหม ! ของพระอรหันต์เชียวนะคุณ อย่างผมน่ะเรื่องรุ่นไม่มีเกี่ยงถ้าเคารพจริงผมเอาหมดทุกรุ่น แต่ถ้าเรื่องประสบการณ์น่ะผมเกี่ยง อย่างน้อยผมก็ไม่เอาหรอกนะ....

อย่างที่หมอเจอน่ะ !


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 4:53 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
อื้อหือ มีภาพประกอบเรื่องด้วย ดีจัง แต่เรื่องนี้ต้องให้คุณหมอจิมมี่เข้ามาขยายถึงจะเหมาะครับ คิดว่าท่านคงได้เข้ามาในเร็ววัน เผลอ ๆ อาจจะมีเรื่อง "ผี" ใหม่ ๆ ที่เพิ่งเจอสด ๆ ร้อน ๆ มาแฉแต่เช้าให้ฟังด้วยล่ะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 8:01 pm 
ออฟไลน์
Administrator
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 11:37 am
โพสต์: 6391
ขออนุโมทนากับคุณเด็กลึกลับ 1 ครั้งครับ :lol:

_________________
089 969 9445 @ anytime
line ID navaraht


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 15 ก.ย. 2008 1:23 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
อืมม์ ทำยังกับเว็บถ้ำเมืองนะแน่ะ

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 15 ก.ย. 2008 1:35 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 11:16 pm
โพสต์: 1786
สวัสดีครับคุณเด็กลึกลับ
ขออนุญาตท่านรณธรรมนะครับ
คืออยากให้คุณเด็กลึกลับลองก๊อปเรื่องที่ผมเคยเขียน
มาลงบ้างอ่ะครับ...จะได้ตกผลึกความคิด
ว่าถ้าจะเขียนใหม่จะต้องวางแผนยังไงครับ
เพราะที่เคยเขียนมันยาวและใช้รูปประกอบเยอะอ่ะครับ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 15 ก.ย. 2008 2:13 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
โอ ดีมากครับ ไม่ต้องขออนุญาตดอกครับ (เพราะไม่ใช่เวปผมน่ะ)

ผมจะได้อ่านบ้าง อยากมีความรู้แบบคุณศิษย์กวงบ้าง ต้องยุคุณเด็กลึกลับอีกคนแล้ว

คุณเด็กลึกลับซับซ้อน ซ่อนอยู่ไหนเอ่ย ? ช่วยทำตามคำขอหน่อยครับ..

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 15 ก.ย. 2008 2:16 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 11:16 pm
โพสต์: 1786
ขออนุโมทนาคุณเด็กลึกลับอีก ๓ โมทนาครับ


แนบไฟล์:
55.gif

ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 15 ก.ย. 2008 2:22 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
คริ คริ คริ เดี๋ยวหนูขอดูก่อนนะฮะ

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 15 ก.ย. 2008 5:38 am 
ออฟไลน์
Administrator
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 11:37 am
โพสต์: 6391
เยี่ยม ๆ ๆ ๆ เห็นด้วยครับ เอาไปอีก 2 โมทนาครับ :D :lol: :lol: :lol:

_________________
089 969 9445 @ anytime
line ID navaraht


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 19 ก.ย. 2008 8:02 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 10:40 am
โพสต์: 369
...นึกว่ากำลังอ่าน เรื่องผีจากเดอะช็อคซะอีก น่ากัวมั๊กๆ...
...เอ่ยถึงเหรียญหลวงปู่ขาวแล้ว ก็มีเหรียญรุ่นนึงจะมาแนะนำกันครับ คือเหรียญหลวงปู่ขาว อนาลโยปี2517 ซึ่งทางมกุฏวิทยาลัย จัดสร้างขึ้น ยังมีตกค้างที่ศาลาฌาปนกิจสถาน วัดมกุฏกษัตริย์ กทมนี่เอง เหรียญรุ่นนี้นอกจากถวายหลวงปู่ขาวเสกแล้วยังนำถวายหลวงปู่แหวนเสกเพิ่มอีก 1 องค์ โดยมีรูปถ่ายยืนยันอย่างชัดเจนและที่พิเศษกว่านั้น ทางวัดยังนำเหรียญทั้งหมดเข้าพิธีพุทธาพิเศกพระนางพญา สก.และสมเด็จอุณาโลมทรงจิตรดา เมื่อปี 2519 อีกต่างหาก ซึ่งพิธีนี้รวบรวมครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นไว้หลายองค์ทีเดียวครับ...
...ที่สำคัญอัตราค่าบูชาเพียง 50 บาท เท่านั้นเอง ซึ่งใครที่ไปบูชาที่วัดช่วงนี้นอกจากจะได้พระดีแล้ว ยังได้ถือโอกาสไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรที่อยู่ละแวกใกล้เคียงกันด้วยแหละ...


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 20 ก.ย. 2008 12:47 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ฮ่า ฮ่า อันแรกที่นำเสนอมีแล้วครับ

แต่อันที่สองยังไม่มีครับ

เดี๋ยวต้องรีบไปชุมนุม
:D :D

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 3:00 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
พี่หมอจิมมี่ฮะ

อยากฟัง New Experince ของพี่หมออ่ะฮะ

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 29 ต.ค. 2008 2:52 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 11 ต.ค. 2008 7:39 pm
โพสต์: 199
สุึดยอดมากเรื่องนี้
จัดให้ห้ากะโหลกเลยครับ

_________________
"รักเป็นเหมือนรอยสัก เจ็บปวดแต่งดงาม....."


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 29 ต.ค. 2008 4:10 am 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
คุ้น ๆ แฮะ เหมือนอยู่ช่อง 7

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 29 ต.ค. 2008 2:09 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
ยอดเยี่ยมครับ ชอบเรื่องนี้ ส่วนเรื่องเหรียญที่ศาลาฌาปนกิจสถานของหลวงปู่ขาวก็น่าสนใจครับ ไว้ว่างต้องแวะไปเอาแล้วล่ะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 29 ต.ค. 2008 3:34 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 12:00 pm
โพสต์: 488
ghost.jpg

คุณหมอฮ๊า....อยู่หนาย..ฮ๊า


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 29 ต.ค. 2008 3:35 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
:hhero: สู้เค้าฮะพี่จิ้งจก

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 29 ต.ค. 2008 4:01 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
ขอบคุณแรงเชียร์ครับ คุณเด็กลึกลับ ผมว่า ช่วงนี้ต้องรอๆ ก่อน รอเหตุการณ์สงบหน่อย ผมคิดว่า หลายคนก็คงไม่กล้าไปเหมือนกัน กลัวระเบิดแก๊สน้ำตาทำขาขาด หรือไม่ก็อกแหก ตับ ไต หัวใจระเบิด ซี่โครงหัก 12 ซี่ เฮ้อ... นี่ตกลงโดนขีปานาวุธกันหรือระเบิดแก๊สน้ำตาฟะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 30 ต.ค. 2008 8:43 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 29 ก.ย. 2008 12:53 pm
โพสต์: 754
:ilu: รออ่านด้วยคนครับ

_________________
.........ถ้าเจ้าได้ทุกอย่างอย่างที่คิด
ชั่วชีวิตจะเอาของกองที่ไหน
จะได้บ้างเสียบ้างจะเป็นไร
ช่างหัวใครช่างหัวมันเท่านั้นเอง ..........


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 17 พ.ย. 2008 11:50 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 08 พ.ย. 2008 5:10 pm
โพสต์: 340
becknui เขียน:
เหรียญหลวงปู่ขาว อนาลโยปี2517 ซึ่งทางมกุฏวิทยาลัย จัดสร้างขึ้น ยังมีตกค้างที่ศาลาฌาปนกิจสถาน วัดมกุฏกษัตริย์ กทมนี่เอง เหรียญรุ่นนี้นอกจากถวายหลวงปู่ขาวเสกแล้วยังนำถวายหลวงปู่แหวนเสกเพิ่มอีก 1 องค์ โดยมีรูปถ่ายยืนยันอย่างชัดเจนและที่พิเศษกว่านั้น ทางวัดยังนำเหรียญทั้งหมดเข้าพิธีพุทธาพิเศกพระนางพญา สก.และสมเด็จอุณาโลมทรงจิตรดา เมื่อปี 2519 อีก
...
ไปถามที่วัดมาแล้วครับ เหรียญทั้งสองแบบ ไม่ได้เข้าพิธีปี 19 แต่เอาเข้าพิธีปี 22 ครับ สถานที่เสกทั้งสองพิธีคือโบสถ์คณะรังษี วัดบวรนิเวศ อัตราค่าบูชาเพียง 50 บาทเท่าเดิม พิธีปี 22 ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเลย แถมหลวงปู่ดูลย์ ในดวงใจหลายๆท่านเข้ามาด้วย ที่วัดฝากประชาสัมพันธ์ให้มาทำบุญกันเยอะๆ ของดีเหลือน้อยแล้ว ใครกำลังภายในสูง กวาดได้ กวาดซะ จะไม่เสียใจภายหลัง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO