Switch to full style
รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
ตอบกระทู้

พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

อังคาร 22 ก.ย. 2009 10:36 am

4-5ก่อนหลังจากที่ไหว้พระสวดมนต์เสร็จสิ้นยังมีเวลาเหลือจึงได้หยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินลงมาดูว่าเป็นพระเครื่องที่ไหนจำไม่ได้เห็นวางตรงหน้าหิ้งมานานหลายปีเมื่อเปิดออกจึงนึกได้ว่าเป็นพระเครื่องที่ได้มาจากงานพระราชทานเพลิงศพของคุณอาประกอป กำเนิดพลอย ซึ่งแจกให้กับผู้ที่ไปร่วมงานในครั้งนั้นและเป็นเหรียญของพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง หลัง ภปร.ปี 2521 จึงเป็นชนวนทำให้ผมอยากนำประวัติของท่านมาลงเพื่อเป็นการเผยแพร่เกียรติคุณของหลวงปู่(พ่อท่านคลิ้ง) มายังเวปแห่งนี้ครับ
img023.jpg
img023.jpg (72 KiB) เปิดดู 6305 ครั้ง

ย้อนหลังไปเมื่อ 123 ปี ท่านเกิดที่บ้านถลุงทอง ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ ตรงกับวันจันทร์ เดือน 9 ขึ้น 10 ค่ำ ปีจอ พ.ศ. 2429 บิดาชื่อ นายแก้ว มารดาชื่อ นางทุ่ม ฉิมแป้น ท่านเกิดในตระกูลของชาวนา ลักษณะเด่นคือเป็นคนที่ยิ้มตลอดเวลา สุขุม เยือกเย็น ต่อมาในปี พ.ศ.2438 บิดานำไปฝากอุปัชฌาย์ขำ วัดถลุงทอง ให้ศึกษาเล่าเรียน กอ ขอ นอ มอ จนอ่านออกเขียนได้ เมื่ออายุได้ 9 ปี อุปัชฌาย์ขำเห็นว่าหน่วยก้านความอดทนดี ว่านอนสอนง่าย มีความจำแม่นยำดี จึงพาไปฝากท่านเจ้าคุณศรีธรรมราช วัดพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช ท่านเจ้าคุณพิจารณาดูโดยละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เห็นว่าเป็นคนที่มีบุญวาสนาดีจึงรับไว้ในความอุปถัมภ์ของท่าน ท่านฝากอุปัชฌาย์ขำนำกลับไปสู่บ้านถลุงทอง รอให้อายุครบ 12ปีก่อนจึงจะให้บวชเป็นสามเณร กาลเวลาผ่านไปจนถึงปีพ.ศ.2441 ท่านเจ้าคุณศรีธรรมราชจึงให้การบรรพชาเณรน้อยเมื่ออายุได้ 12 ปี สามเณรคลิ้งคงจำพรรษาอยู่ ณ วัดถลุงทอง คอยปรนนิบัติอุปัชฌาย์ด้วยความกัตญญููสืบมา อุปัชฌาย์ขำรักใคร่มากจึงอบรมสั่งสอนกรรมฐานและวิปัสสนาธุระให้ตามลำดับขั้น พร้อมทั้งถ่ายทอดวิชาคาถาอาคมสารพัดอย่างให้ตามพอใจ ยิ่งนานวันสามเณรน้อยยิ่งมีราศีเปล่งปลั่ง สมกับเป็นคนมีบุญญาธิการที่จะได้ช่วยพระศาสนามากยิ่งขึ้่น

ในปีพ.ศ.2461 อายุครบ 20ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ หลวงพ่อเอียด เป็นพระอุปัชฌายะ หลังจากบวชเป็นพระแล้วท่านได้ศึกษาวิชาความรู้จากพ่อท่านเอียดเพิ่มเติม โดยเฉพาะวิชารดน้ำมนต์แบบพิศดาร ตลอดจนการดูฤกษ์ยามตามกาลสมัยนิยม เพื่อสงเคราะห์สาธุชนทั้งหลาย ภายหลังที่อุปัชฌาย์ขำและหลวงพ่อเอียดสิ้นบุญแล้ว ประชาชนและพระภิกษุ-สามเณรได้นิมนต์ให้ท่านรับตำแหน่งสมภารวัดถลุงทองสืบมา ตำราความรู้ต่างๆ ท่านนำมาช่วยเหลือประชาชนตามเขตถิ่นทุรกันดาร โดยไม่เคยแตะต้องกับปัจจัยเงินทองเลย ชีวิตไม่เคยใช้เงินไม่รู้ว่าเงินมีค่ามากน้อยอย่างไร การบำเพ็ญเพียรทางศาสนากิจเคร่งครัด เวลายิ่งผ่านไปหลายปี ชื่อเสียงของท่านก็เริ่มเป็นที่รู้จักของประชาชนในเมืองนครศรีธรรมราช
0310-071597.jpg
0310-071597.jpg (74.92 KiB) เปิดดู 6307 ครั้ง

หลวงปู่คลิ้งคงบำเพ็ญเพียรฝึกสมาธิจิตและวิปัสสนาตลอดมาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าท่านจะอยู่ ณ ที่ใด ท่านจะสวดมนต์ไหว้พระทุกค่ำเช้ามิเคยขาดแม้บางครั้งท่านได้รับนิมนต์ไปทางรถยนต์ ท่านก็สวดมนต์ภาวนาไปตลอดทางจนถึงจุดหมายปลายทาง ประชาชนในเขตนครศรีธรรมราชจะนิมนต์ท่านไปในงานมงคลอยู่เสมอมิได้ขาด เพราะเชื่อกันว่า หากผู้ใดได้รับพรจากท่านแล้ว ชีวิตจะประสบแต่ความสุขความเจริญเป็นทวี

ในสมัยที่พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน ตลาดจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ยังมีชีวิตอยู่ ท่านมักจะพูดให้ผู้ศรัทธาฟังเสมอว่า ท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ท่านเก่ง เป็นพระที่บริสุทธิ์ ควรแก่การกราบไหว้บูชายิ่ง ด้วยคำพูดประโยคสั้นๆแต่มีความหมายลึกซึ้ง ทำให้ผู้ศรัทธาทั้งหลายเริ่มรู้จักหลวงปู่คลิ้งและบางคนที่เคยไปกราบไหว้มาแล้ว ก็เพิ่มศรัทธาในตัวหลวงปู่มากขึ้น ประกอบกับการปฏิบัติของหลวงปู่เคร่งครัด ไม่จับต้องเงินทองเลย การปฏิบัติต่อผู้ที่ไปหาท่านเสมอเหมือนกันไม่เลือกชั้นวรรณะ การรดน้ำมนต์ของหลวงปู่ก็แปลกกว่าพระอาจารย์ทั้งหลาย ท่านจะให้ทุกคนสวดมนต์ไหว้พระ รับศีล 5 เสร็จแล้วขอกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม หลังจากนั้นหลวงจะสอนให้ทุกๆคนว่าให้รู้จักการทำดีละเว้นทำชั่ว เสร็จแล้วหลวงปู่จึงรดน้ำมนต์ให้ ใช้เวลายาวนานถึง 30 นาที ทุกคนที่ไปให้ท่านรดน้ำมนต์ท่านจะปฏิบัติเช่นนี้เหมือนกันหมด
1231061781.jpg
1231061781.jpg (64.85 KiB) เปิดดู 6301 ครั้ง

เมื่อครั้งพระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา พัทลุงยังมีชีวิตอยู่ท่านได้พูดถึงพ่อท่านคลิ้งหรือหลวงปู่คลิ้ง กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล อยู่เสมอว่า หากสิ้นฉันแล้วก็ยังมีพระที่น่านับถืออยู่อีกองค์หนึ่ง ขอให้ได้ไปหาท่านเถิด ท่านชื่อคลิ้ง อยู่วัดถลุงทอง เมืองนครฯ ครั้นเมื่อพระอาจารย์นำสิ้นบุญลงแล้ว พระเจ้าวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ได้เป็นประธานในการจัดงานพระราชทานเพลิงศพพระอาจารย์นำ และในงานนี้ได้จัดสร้างเหรียญพระอาจารย์นำ ภปร ขึ้นเป็นที่ระลึกในงาน จึงได้นึกถึงคำของพระอาจารย์นำได้จึงให้คณะกรรมการไปนิมนต์พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง มาทำการปลุกเสกเหรียญ และมาร่วมในงานพระราชทานเพลิงศพพระอาจารย์นำ ชินวโร ที่ วัดดอนศาลา พัทลุง นั้นด้วย

ในงานพระราชทานเพลิงศพพระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา พัทลุง นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถพร้อมทั้งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีและเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ได้เสด็จไปพระราชทานเพลิงศพด้วยพระองค์เอง หลวงปู่คลิ้งจึงได้มีโอกาสเข้าเฝ้าและได้สนทนาธรรมกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่เป็นเวลานานถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระทัยหลวงปู่คลิ้งเป็นอย่างมาก พร้อมกันนั้นทรงถวายปัจจัยให้หลวงปู่คลิ้งถึง 20,000 บาท เนื่องจากมีความศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง หลวงปู่คลิ้งได้ถวายน้ำพระพุทธมนต์ในวันนั้นแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีและเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณวลัยลักษณ์ นับว่าหลวงปู่คลิ้งได้มีโอกาสอย่างดียิ่งในการเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดครั้งนั้น
img024.jpg
img024.jpg (91.62 KiB) เปิดดู 6306 ครั้ง

เมื่อคณะกรรมการจัดงานพระราชทานเพลิงศพพระอาจารย์นำ พาหลวงปู่คลิ้งไปส่งถึงวัดถลุงทอง ได้เห็นว่าศาลาโรงธรรมที่วัดถลุงทองชำรุดทรุดโทรมาก จึงนำเรื่องมาเล่าให้ พระเจ้าวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ปรึกษาหารือกับกรรมการวัดแล้ว จึงได้บอกบุญผู้มีศรัทธาทั้งหลายให้ร่วมสร้างศาลา ก็ปรากฏว่ามีผู้ร่วมทำบุญมาก โดยมีพระเจ้าวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล เป็นประธานในงานนี้ จึงได้จัดสร้างเหรียญที่ระลึกแจกแก่ผู้ทำบุญ ซึ่งได้ทุนทรัพย์ถึง 460,000 บาท ใช้สร้างศาลาโรงธรรม ขนาด กว้าง 9 เมตร ยาว 23 เมตร ขึ้นได้อย่างงดงาม

เมื่อครั้งหลวงปู่คลิ้งเดินทางเข้ากรุงเทพฯได้ปรารภกับพระเจ้าวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ถึงเรื่องการสร้างสะพาน ซึ่งหลวงปู่รอคอยความหวังนี้มาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ที่จะไดด้เห็นสะพานถาวรเกิดขึ้น เพราะนอกจากจะเกิดประโยชน์แก่ภิกษุ-สามเณรแล้ว ยังจะก่อประโยชน์แก่ท้องถิ่นอีกอย่างใหญ่หลวง หลวงได้บอกแก่ผู้ที่มีศรัทธามากราบท่านทุกคน เมื่อครั้งท่านมากรุงเทพฯในคราวนั้น ก็ปรากฏว่ามีผู้ร่วมศรัทธาจำนวนมาก และในโอกาสนั้นหลวงจึงได้ขอให้ พระเจ้าวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล เป็นประธานในการจัดสร้างสะพานถวายท่าน พระเจ้าวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ก็รับด้วยความศรัทธาในหลวงปู่ และเห็นว่าการใช้งบประมาณในการสร้างสะพานนั้นมีมูลค่าถึง 2ล้านบาท หากจะให้ประชาชนทั่วไปร่วมทำบุญแล้วก็จะทำให้ประชาชนทั้งหลายได้กุศลกันเป็นจำนวนมาก จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ ภปร จารึกประทับหลังเหรียญพ่อท่านคลิ้ง ซึงคณะกรรมการวัดสร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในการตอบแทนผู้ที่ร่วมทำบุญในครั้งนี้และนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อหลวงปู่คลิ้งเป็นอย่างยิ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระปรมาภิไธย ภปร ให้
1224814742.jpg
1224814742.jpg (31.91 KiB) เปิดดู 6300 ครั้ง

“เหรียญของพ่อท่านคลิ้ง” รุ่นนี้ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” มิได้เสด็จฯทรงประกอบพิธีแต่ก็ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อ “พ่อท่านคลิ้ง” ได้ทรงพระสุหร่ายและทรงเจิม “โลหะธาตุมหามงคล” แล้วพระราชทานให้นำมาหล่อหลอมผสมกับแผ่นทองลงอักขระเลขยันต์ของ “พ่อท่านคลิ้ง” นับเป็นร้อย ๆ แผ่นและโลหะสัมฤทธิ์เก่าสมัยบ้านเชียงที่มีอายุกว่า ๔,๐๐๐ ปี รวมถึงโลหะสัมฤทธิ์อันเป็น ชิ้นส่วนของพระพุทธรูปโบราณหลายสมัย เช่น ลพบุรี, ทวารวดี, สุโขทัย ฯลฯ

และจากพิธีสร้างที่ดีเยี่ยมนี้เองจึง เป็นเหรียญพ่อท่านคลิ้ง ที่มีประสบการณ์มากมายอย่างเช่น “นายสุนทร บุญชอุ่ม” ชาวตำบลคานโพธิ์ อ.เมือง จ.สตูล ได้เล่าให้ฟังว่า ตัวเขานั้นมีอาชีพเป็น “ไต้ก๋งเรือ” ประมงขนาดเล็กที่ออกหาปลาในแถบ “ทะเลอันดามัน” โดยมีลูกเรือเพียง ๕ คน ซึ่งช่วงที่พบประสบการณ์นั้น “นายสุนทร” จำได้แม่นว่าเป็นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘ เพราะเป็นฤดูมรสุมทางภาคใต้โดยขณะนำเรือออกหาปลาช่วงเวลาประมาณสองทุ่มเศษ ปรากฏคลื่นขนาดยักษ์ถล่มเรือประมงของเขาอับปางลง “นายสุนทร” พร้อมลูกเรือต่างกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางโดย “นายสุนทร” ที่เคยเป็นลูกเรือมาก่อนจึงช่วยเหลือตัวเองด้วยการเกาะเศษไม้จากเรือที่ อับปางคอยพยุงตัวเองลอยคออยู่กลางทะเลถึง “๒ วัน ๒ คืน” โดยขณะนั้นได้แต่ภาวนาให้ “พ่อท่านคลิ้ง” ช่วยเหลือเนื่องจากในคอแขวน “เหรียญพ่อท่านคลิ้งหลัง ภปร” เพียงเหรียญเดียว กระทั่งเช้าตรู่วันที่สาม ขณะจวนจะหมดแรงอยู่แล้ว ก็มีเรือประมงขนาดใหญ่มาช่วยไว้และหลังจากฟังเรื่องราวของ “นายสุนทร” ทุกคนบนเรือประมงที่มาช่วยต่างสงสัยไปตาม ๆ กันว่า “นายสุนทร” รอดได้อย่างไรเพราะเป็นที่รู้กันดีในหมู่ชาวประมงหากเรือประมงขนาดเล็ก อับปางลงยังกลางทะเล ยากที่จะมีคนรอดได้แม้จะเก่งด้านว่ายน้ำแค่ไหนก็ตาม เพราะการว่ายน้ำข้ามวันข้ามคืนจะทำให้หมดแรงไปเองซึ่งตัว “นายสุนทร” เองก็ไม่รู้เช่นกันว่ารอดได้อย่างไรเพราะช่วงที่ลอยคออยู่ในทะเลนั้น คลื่นแรงมากปะทะหน้าอกเจ็บระบมไปหมดจึงได้แต่ภาวนาขอให้ “เหรียญพ่อท่านคลิ้ง ภปร” ที่แขวนอยู่ในคอช่วยแล้วกัดฟันว่ายน้ำไป
1231046570.jpg
1231046570.jpg (62.82 KiB) เปิดดู 6285 ครั้ง

ส่วนอีกเรื่อง “นายฉลอง สง่าวงศ์” อาชีพทำไร่อยู่บ้านเลขที่ ๕๕๑ หมู่ ๔ ต.ไร่ใหม่ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เล่าว่าตัวเขาชนะคดีความพิพาทกับเพื่อนบ้านเรื่องที่ดิน จึงถูกเพื่อนบ้านผู้นั้นเจ็บแค้นมาตลอด วันหนึ่งในเดือน มิ.ย. ๒๕๔๗ เวลาประมาณสามทุ่มเศษ ขณะ “นายฉลอง” เดินไปตามถนนในหมู่บ้านที่ทั้งมืดและเปลี่ยวปรากฏมีมือปืนมาซุ่มยิงด้วย “ปืนลูกซองกระสุนลูกโดด” (ปกติลูกซองจะเป็นกระสุนลูกปราย) สองนัดปรากฏว่าลูกกระสุนโดนลำตัวนายฉลองอย่างจังแต่นายฉลองกลับไม่เป็นอะไร มือปืนจึงยิงอีก ๒ นัด แต่กระสุนปืนก็ทำอะไรนายฉลองไม่ได้เช่นเคย มือปืนที่ซุ่มยิงจึงวิ่งเข้าหานายฉลองแล้วใช้ด้ามปืนตีท้ายทอยนายฉลอง ที่ยืนงงอยู่กับที่ถึงกับสลบเหมือดแล้วมือปืนจึงหนีไป กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นจึงมีคนมาพบจึงพยุงนายฉลองกลับบ้าน ปรากฏว่านายฉลองโดนยิงลำตัวถึง ๓ นัด แต่กระสุนไม่เข้าเป็นเพียง “รอยช้ำแดง” เท่านั้นนายฉลองจึงเชื่อมั่นว่าเป็นเพราะ “เหรียญพ่อท่านคลิ้ง หลัง ภปร” ที่ใส่ตลับสเตนเลสแขวนคอไว้เพียงเหรียญเดียวช่วยไว้...

เมื่อวันเฉลิมพระชนพรรษา 5 ธันวาคม 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานสมนศักดิ์ให้หลวงปู่คลิ้ง จน̣ทสิริ เป็นที่ พระครู ภาวนาภิรมย์ พัดวิปัสสนาสีขาว ลำดับที่ 93 เท่ากับอายุ 93 ปี ของหลวงปู่คลิ้งพอดี นับว่าเป็นพระกรุณาธิคุณสูงสุดสำหรับหลวงปู่คลิ้ง หลวงปู่ได้สร้างสมบารมีมานานถึง 93 ปี เกือบถึงศตวรรษแล้ว หากได้ร่วมสร้างสะพานกับท่าน ก็เท่ากับได้ร่วมสร้างกุศลธรรมอันสูงสุดของชีวิต
1231062816.jpg
1231062816.jpg (68.87 KiB) เปิดดู 6274 ครั้ง


เรื่องราวแห่งภิกษุชราวัย 93 ปี ซึ่งสละชีวิตเพื่อประโยชน์ของสังคมมาในระยะเวลาอันยาวนาน ยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือนเช่นนี้ นับเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างยิ่งและควรแก่การนำมาเผยแพร่ เพื่อเกียรติคุณของท่านจะได้แผ่ไพศาล ควรค่าแก่การเป็นปูชนียบุคคลที่ระลึกถึงด้วยความเคารพกันต่อไป.
CIMG4316.jpg
CIMG4316.jpg (122.2 KiB) เปิดดู 6268 ครั้ง

หลวงปู่คลิ้ง ท่านได้ละสังขาร เมื่อ 21 มกราคม พ.ศ.2533 รวมสิริอายุ 104 ปี 84 พรรษา นับว่าเป็นคณาจารย์ที่อายุยืนนานอีกองค์หนึ่ง

ประวัติของหลวงปู่คลิ้ง วัดถลุงทอง นี้ผมได้พิมพ์คัดลอกมาจากหนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพของคุณ ประกอป กำเนิดพลอย ส่วนประสบการณ์ของเหรียญ หลัง ภปร คัดลอกมาจาก http://www.tumsrivichai.com/index.php?l ... 82&Ntype=5 ขอขอบพระคุณครับ.

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

อังคาร 22 ก.ย. 2009 10:43 am

ขอบพระคุณครับที่อุตส่าห์พิมพิ์มาเผยแพร่

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

อังคาร 22 ก.ย. 2009 10:49 am

ด้วยความยินดีครับคุณ สุรเทพ.. ผมมีข้อมูลมาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญหลัง ภปร. นี้ครับ..

เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลัง ภปร. พ่อท่านคลิ้งที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2521 ซึ่งเหรียญพ่อท่านคลิ้ง หลัง ภปร.นี้ เป็นเหรียญปั๊มรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนพ่อท่านคลิ้งหันข้างครึ่งรูป มีอักษรโดยรอบเหรียญว่า...

"พ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ อายุครบ 93 ปี วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช พ.ศ.2521"

ด้านหลังเป็นพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และอักขระขอม เหรียญพ่อท่านคลิ้ง หลัง ภปร. นับเป็นเหรียญดีพิธีเด่นเหรียญหนึ่งทีเดียว กล่าวคือ เป็นเหรียญที่พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล หรือเสด็จพระองค์ชายใหญ่ ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตอัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ประดิษฐานที่ด้านหลังเหรียญพ่อท่านคลิ้ง จึงนับว่าเป็นสิริมงคลอันสูงสุด

เหรียญที่มีตราพระปรมาภิไธยย่อในวงการสะสมบูชาพระเครื่องล้วนเป็นที่นิยม ด้วยมีความเกี่ยวเนื่องในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมโลหธาตุมหามงคล แล้วพระราชทานให้มาหลอมรวมกับโลหะศักดิ์สิทธิ์ อาทิ แผ่นทองที่ลงอักขระเลขยันต์ของพ่อท่านคลิ้งนับร้อยแผ่น โลหะสัมฤทธิ์เก่าสมัยบ้านเชียงอายุกว่า 4,000 ปี และชิ้นส่วนพระพุทธรูปโบราณสมัยทวารวดี, ลพบุรี, สุโขทัย

เมื่อปั๊มเป็นเหรียญแล้ว ได้ทำพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดถลุงทอง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2521 มีพ่อท่านคลิ้งเป็นประธานจุดเทียนชัยและนั่งปรก มีพระเกจิอาจารย์ร่วมปลุกเสก คือ พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้มีวัตรปฏิบัติอันดีและเคยก่อเกิดปาฏิหาริย์ระหว่างการปลุกเสกมาหลายครั้งหลายหน พ่อท่านผอม วัดหญ้าปล้อง อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช พระเกจิอาจารย์รูปนี้มีสมาธิแรงกล้ามาก วิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ พ่อท่านหนูจันทร์ วัดพันธเสมา อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช พระเกจิอาจารย์ผู้นิยมอยู่ในป่าช้าเป็นที่พำนัก พระครูกาชาด วัดพระบรมธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้มีสมาธิอันสูงส่ง พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ศิษย์สำนักวัดเขาอ้ออันเลื่องชื่อ พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา ศิษย์สำนักเขาอ้ออีกรูปหนึ่ง หลวงพ่อบุญรอด วัดประดู่พัฒนาราม จังหวัดนครศรีธรรมราช พระเกจิอาจารย์รูปนี้มีทหารเป็นศิษย์มากมาย เพราะวัตถุมงคลของท่านเลื่องชื่อ มีวัตรปฏิบัติไม่ฉันเนื้อสัตว์และไม่รับนิมนต์ไปในงานที่มีการเลี้ยงเหล้า ฆ่าสัตว์และเล่นการพนันนอก จากนั้น ยังมีหลวงพ่อเจิม วัดใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พระครูสังข์ วัดดอนตรอ อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พระอาจารย์แอบ วัดปากน้ำ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ร่วมปลุกเสก มีขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส


ที่มาจาก..http://www.tumsrivichai.com/index.php?l ... 82&Ntype=5

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

อังคาร 22 ก.ย. 2009 1:24 pm

ฮั่นแน่

ของดีมากมายเรยฮะคุณพี่อาร์ต

ขอบพระคุณที่นำเรื่องดีๆมาเล่าสู่กันฟังฮะ

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

พุธ 23 ก.ย. 2009 1:23 am

ขอบพระคุณมากครับคุณพี่อาร์ตี้ พ่อท่านคลิ้งเป็นพระในดวงใจองค์หนึ่งของกระผมเลย มีเรื่องราวดี ๆ ของท่านมาลงเป็นมหามงคลกับเว็บนี้ นับว่าเป็นพระคุณยิ่งแล้ว ขอให้บุญกุศลที่พี่ได้กระทำไว้ด้วยดีนี้ จงส่งผลให้กระผมได้เหรียญ ภปร. พ่อท่านคลิ้งด้วยเทอญ :mrgreen:

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

พุธ 23 ก.ย. 2009 10:26 am

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับ

แต่ถ้าของดีๆต้องขอบคุณคนข้างบน :ilu:

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

พุธ 23 ก.ย. 2009 8:37 pm

.jpg
.jpg (13.45 KiB) เปิดดู 6133 ครั้ง

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

พฤหัสฯ. 24 ก.ย. 2009 12:43 am

ขอบพระคุณพี่อาร์ตมากเลยครับ ในเวปนี้ก็เห็นมีแต่คุณรณธรรมเท่านั้นครับ
ที่มีเหรียญของหลวงพ่อคลิ้ง มากที่สุด :o :o

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

พฤหัสฯ. 24 ก.ย. 2009 12:49 am

.gif
.gif (7.89 KiB) เปิดดู 6104 ครั้ง

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

พฤหัสฯ. 24 ก.ย. 2009 7:18 pm

เอ่อ..ถ้าเคลียไม่ไหวก้อมาแบ่งเค้าบูชามั่งก้อด้ายนะอ.ต่อ :D ถ้าเป็นของท่านล่ะก้อไม่ปฏิเสธแน่!

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

ศุกร์ 02 ต.ค. 2009 8:48 am

เหรียญสวยมากๆครับพี่อาร์ต....

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

ศุกร์ 02 ต.ค. 2009 2:10 pm

นั่น ของพี่อาร์ตเองก็ระวังไม่ไหวแล้ว คุณบุญคุ้มเล็งแล้วเล็งอีกเนี่ย :lol: :lol: :lol:

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

ศุกร์ 02 ต.ค. 2009 8:26 pm

yociexp31.gif
yociexp31.gif (13.96 KiB) เปิดดู 5988 ครั้ง
ผมมีกะเค้าอยู่เหรียญเดียวก้อต้องระวังหน่อยอ่ะครับ
ว่าแต่.อ.ต่อ คงจะสะสมของท่านเป็น Box set เลยใช่ม๊า แบ่งมาให้เค้าบ้างจิ :D
yoyo_0071.gif
yoyo_0071.gif (9.75 KiB) เปิดดู 5987 ครั้ง

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

ศุกร์ 02 ต.ค. 2009 8:27 pm

ของป๋มไม่ได้เป็นบ๊อกซ์ เซ็ท หรอกคับ...


แต่เป็น บ๊อก บ๊อก !!


:lol: :lol: :lol:

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

ศุกร์ 02 ต.ค. 2009 8:33 pm

เห็นม๊า..มีเป็นกล่อง กล่อง เลยจริงด้วย ..บ๊อก บ๊อก น่ะแปลว่า กล่อง กล่อง :lol:

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

เสาร์ 03 ต.ค. 2009 9:45 am

เออ...จริงแฮะ บ๊อก บ๊อก อย่างน้อยก็ 2 บ๊อกแล้วล่ะ อือม... 2 กล่องชัวร์

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

จันทร์ 05 ต.ค. 2009 11:10 pm

คิดกันได้ไงเนี่ย :lol: :lol: :lol:

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

พุธ 07 ต.ค. 2009 9:24 am

ศิษย์กวง เขียน:ขอบพระคุณพี่อาร์ตมากเลยครับ ในเวปนี้ก็เห็นมีแต่คุณรณธรรมเท่านั้นครับ
ที่มีเหรียญของหลวงพ่อคลิ้ง มากที่สุด :o :o

ผมว่าคนพูดนั้นแหละที่มีเยอะที่สุดน่ะ!

ช่างเถอะมีเยอะก้อเยอะไปอย่างมาก้อห้อยได้องค์เดียว!..
yociexpress03.gif
yociexpress03.gif (12.04 KiB) เปิดดู 5873 ครั้ง








:lol:

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

พุธ 07 ต.ค. 2009 2:27 pm

อาร์ต เขียน:
ศิษย์กวง เขียน:ขอบพระคุณพี่อาร์ตมากเลยครับ ในเวปนี้ก็เห็นมีแต่คุณรณธรรมเท่านั้นครับ
ที่มีเหรียญของหลวงพ่อคลิ้ง มากที่สุด :o :o

ผมว่าคนพูดนั้นแหละที่มีเยอะที่สุดน่ะ!

ช่างเถอะมีเยอะก้อเยอะไปอย่างมาก้อห้อยได้องค์เดียว!..
yociexpress03.gif



ผมไม่เห็นด้วยอย่างแรงคับ เพราะผมยังบ่มีซักกะเหรียญ......... :ydie:







:lol:

Re: พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

อังคาร 20 ต.ค. 2009 10:54 am

มีเรื่องเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับหลวงพ่อคลิ้ง ซึ่งคนที่เล่าก็สนิทกันกับผมครับ พี่แกเล่าในเว็บหนึ่งเป็นเรื่องซึ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ เรื่องมีว่ามีเด็กใต้คนหนึ่งเป็นญาติกับพี่คนเล่าเข้าไปเที่ยวกาญฯ มีเรื่องโดนปิดแพรุมประมาณ 30 กว่าคนต่อหนึ่ง เด็กนั่นโดนรุมจนสลบ จากนั้นทั้งมีดไม้ปืน ก็ประดังเข้ามาแต่ไม่เป็นอะไร ผมมีโอกาสขึ้นไป กทม.เมื่อไม่นานนี้ก็ได้ไปหาพี่เค้าที่บ้าน ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับที่ผมไปพัก พี่แกก็ยืนยันครับทั้งช่วงนี้ยังวิ่งไปมา กทม.กับกาญฯ เพื่อเป็นธุระเกี่ยวกับเรื่องคดีของน้องเค้า สิ่งที่น้องคนนั้นมีติดตัวมีเพียงสิ่งเดียวคือเชือกคาดของหลวงพ่อคลิ้งและปลัดขิกตัวเล็กๆ ติดกับเชือกคาดนั้นซึ่งได้รับจากพ่อมาอีกที ยืนยันให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่ออีกเสียงครับ :D
ตอบกระทู้