หุงวิชชา ; พิธีกรรมสำนักวัดเขาอ้อ ภาพพิธีหุงวิชชาปลุกเสก ณ ถ้ำฉัตรฑันต์บรรพต
โดยเกจิอาจารย์สายเขาอ้อ 9 รูป เมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม 2548 และครั้งที่ 2 วันที่ 17 ตุลาคม 2548 พระอาจารย์คล้อย อโนโม ทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวตลอดพรรษา ณ อุโบสถ วัดภูเขาทอง
-----------------------------------------------------------------------------------------
"หุงวิชชา" ของสำนักวัดเขาอ้อ เป็นพิธีกรรมหนึ่งในศาสตร์พุทธาคมเขาอ้อ เป็นกุญแจสำคัญ นำมาซึ่งความศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่ครั้งโบราณจนตราบเท่าทุกวันนี้ เป็นสุดยอดวิชาที่พระคณาจารย์ประกอบพิธีกรรม โดยอาราธนาพระคุณเจ้าผู้รู้วิชชาในสายเขาอ้อด้วยกันทั้งหมดซึ่งศึกษามาในแบบอย่างเดียวกันนั่งบริกรรมเรียงล้อมวัตถุมงคลโดยรอบหรือนั่งปลุกเสกบริกรรมทั้ง 8 ทิศ เดินกระแสจิตอณุโลม ปฏิโลม เพื่อให้วัตถุบริสุทธิ์ด้วยอาการ 32 เพื่อทำให้วัตถุมงคลประดุจดังมีชีวิตจริงรับรู้และรู้เห็นภัยอันตรายที่คืบคลานเข้ามาใกล้เคหะสถาน หรือตัวบุคคลที่มีวัตถุมงคลติดตัวและอธิฐานจิตได้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้ครอบครองวัตถุมงคล คือ การรับรู้และเดินธาตุ 4 เตโช ปฐวี วาโย อาโป คือ ธาตุ ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ
วัตถุต่างๆ บนโลกนี้ เป็นธาตุ 4 ทั้งหมด แยกเป็นดิน, น้ำ, ลม, ไฟ ขณะที่พระคณาจารย์เดินธาตุอยู่เพื่อที่จะให้วัตถุมงคลในองค์เดียวกันมีทั้ง 4 ธาตุ สายเขาอ้อมีเคล็ดลับให้เดินธาตุ เตโชก่อนและตามด้วยปฐวี วาโย และอาโป คือให้ปลุกเสกด้านมหาอุตต์ก่อน ตามด้วยคงกระพันชาตรี 1, แคล้วคลาด 1, กำบังหรือบังไพร 1, กันเขี้ยวงา 1 ปิดด้วยเมตตามหานิยม 1 ซึ่งจะทำให้วัตถุมงคลนั้นๆ ทรงอานุภาพทุกๆ ด้านตามที่พระคณาจารย์เดินกระแสจิต ต่อจากการเดินธาตุ และเข้ากสิณ ซึ่งกสิณ มีทั้งหมด 10 ประการ ดังนี้
ปฐวีกสิณ
เกิดฤทธิ์ดังนี้
นิรมิตคน 1 คน ให้เป็นหลายคนหรือให้คนหลายๆ คนเป็นคนๆ เดียว ทำน้ำและอากาศ
ให้แข็งได้ ส่วนใหญ่ให้ผูกหุ่นพยนต์ ทำให้เกิดภาพลวงตา
อาโปกสิณ
เกิดฤทธิ์ดังนี้
นิรมิตของแข็งให้อ่อน อธิฐานสถานที่เป็นดิน - หินที่กันดารน้ำทำให้เกิดบ่อน้ำ ฝนแล้ง
ทำให้เกิดฝนตก
เตโชกสิณ
เกิดฤทธิ์ดังนี้
ทำให้เกิดเพลิงไฟ ทำให้ท้องฟ้าสว่าง ทำให้เกิดพระอาทิตย์ พระจันทร์ทรงกลด เห็น
ภาพต่างๆ ในที่ไกลคล้ายตาทิพย์
วาโยกสิณ
เกิดฤทธิ์ดังนี้
ทำให้ตัวเบาลอยตามลม เหาะไปในอากาศได้อธิฐานให้เกิดลมพายุได้
นีลกสิณ
เกิดฤทธิ์ดังนี้
ทำให้เกิดสีเขียว อธิษฐานบ้านเรือนทั้งหมู่บ้านให้เป็นป่า ทำสถานที่สว่างให้มืดครึ้ม
ปีตกสิณ
เกิดฤทธิ์ดังนี้
นิรมิตสีเหลืองหรือสีทองให้เกิดขึ้นคือนิรมิตทั้งภูเขาให้เป็นทองคำ
โลหิตกสิณ
เกิดฤทธิ์ดังนี้
นิรมิตสีแดงให้เกิดได้ตามประสงค์
โอทาตกสิณ
เกิดฤทธิ์ดังนี้
นิรมิตสีขาวให้ปรากฏ ทำที่มืดให้สว่าง
อาโลกกสิณ
เกิดฤทธิ์ดังนี้
นิรมิตรูปให้สว่างไสวได้ ทำที่มืดให้สว่าง
อากาสกสิณ
เกิดฤทธิ์ดังนี้
อธิษฐานจิตให้เห็นของในที่ปกปิด ทำให้เกิดอากาศได้พอเพียงอยู่ใต้น้ำได้เป็นเวลานาน
ลำดับต่อมาเจริญพระพุทธมนต์ บทต่างๆ สมโภชน์
วิชชา คือ ความรู้แจ้งใช้เกี่ยวกับศาสนา / วิชา คือ ความรู้ธรรมดาใช้ทั่วไป
เรื่อง/ภาพจาก..ชมรมพระเครื่องศิริสโตร์ Siristore.com
------------------------------------------------------------------------------------------
** การหุงวิชชา คือ การทำเบื้องต้นของการเริ่มเรียนรู้จาก ธาตุทั้ง ๔ เพราะสรรพสิ่งประกอบด้วยธาตุ ๔ การใช้กสิณในการเพ่งภาวนา คือการกระทำจิตให้แน่วแน่ว ขั้นตอนการเดินธาตุและเข้ากสิณ คือ สมาธิภาวนาในปกติแห่งศีล บุคคลใด รู้จักธาตุ รู้จักการเพียรเพ่งภาวนาเพื่อกระทำให้แจ้งโลก บุคคลนั้น ย่อมรู้เห็นความเป็นจริงของสรรพสิ่ง
** อธิบายความ โดย เลข อักขระ