ผีนางตานีอาละวาด อดีตรัฐมนตรีทิ้งบ้านเผ่นหนี

จันทร์ 16 พ.ย. 2009 2:12 am

: 2 (ภาพสวย)re1.jpg (11.47 KiB) เปิดดู 3009 ครั้ง

บ้านผีสิงหลังนี้ปลูกอยู่ที่เชิงสะพานพระโขนง กรุงเทพ นี่เอง เจ้าของบ้านเป็นอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่งในสมัยรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งปลูกไว้ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน (พ.ศ. 2497) เพราะที่ดินสมัยนั้นทั่วบริเวณพระโขนงยังไม่เจริญเหมือนในปัจจุบัน บางช่วงบางตอนก็เป็นป่ารกชัฏ ต้นไม้ขึ้นทึบไปหมด บ้านเรือนมีไม่มากเหมือนเดี๋ยวนี้ พวกผู้ดีมีเงินมักจะมาซื้อที่ดินปลูกบ้านทิ้งไว้เพื่อสำหรับพักผ่อนปลายสัปดาห์หรือเวลาพักร้อน เพราะอากาศดีและเงียบสงบ

: .jpg (62.14 KiB) เปิดดู 2829 ครั้ง

เมื่อบ้านหลังดังกล่าวปลูกขึ้นเสร็จเรียบร้อย ท่านอดีตรัฐมนตรีและครอบครัวมาพักทีไรเป็นต้องได้พบสิ่งแปลก ๆ เสมอ จนกระทั่งไม่มีใครกล้ามาพักในที่สุด เลยต้องมอบหน้าที่ให้กับนายศรีศักดิ์ บุญยภักดิ์ เฝ้าบ้านไว้แต่ผู้เดียว

ครั้นนายศรีศักดิ์มาอยู่เฝ้าบ้านก็ได้พานพบกับเหตุการณ์ประหลาดแปลก ๆ เหมือนกัน และต่อมาเรื่องราวก็ได้เป็นที่โจษจันกันทั่วไป จนหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ต้องส่งผู้สื่อข่าวและช่างภาพเข้าไปขอสัมภาษณ์ทำข่าวทันที โดยไปขอพบตัวนายศรีศักดิ์ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนเสือป่า และเรื่องราวก็พรั่งพรูออกจากปากนายศรีศักดิ์โดยละเอียดว่า...

เขาได้มาอยู่เฝ้าบ้านท่านอดีตรัฐมนตรีผู้นี้มาเป็นระยะเวลานานถึง 6 เดือนเศษเห็นจะได้ และได้พบสิ่งแปลก ๆ ในบ้านนี้เสมอ เช่น วันหนึ่ง (จะเป็นวันเดือนปีอะไรเขาก็จำไม่ได้) เขาไปตัดใบตองมาใบหนึ่งจากต้นกล้วยที่ปลูกอยู่หลังบ้านเพื่อจะเอามาห่อของ ก็ไม่ปรากฏว่ามีเหตุการณ์อะไร แต่พอตกตอนดึกในขณะที่เขากำลังนอนหลับสนิท เขาก็ต้องตกใจตื่นขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงมาร้องไห้คร่ำครวญอยู่ใกล้ ๆ เมื่อลืมตาขึ้นเพ่งมองก็พบสตรีนางหนึ่งซึ่งอยู่ในวัยสาวและมีความงามเป็นอย่างมาก สตรีลึกลับนั้นนุ่งผ้าถุงสีเขียวตองอ่อนและห่มผ้าสไบเฉียงสีเดียวกัน ผมยาวประบ่า แม้ผิวจะขาวนวลเนียนกลมกลึง แต่แขนข้างซ้ายของเธอกลับมีบาดแผลลักษณะเหมือนถูกของมีคมฟันจนได้รับบาดเจ็บ และที่สำคัญคือเป็นรอยแผลที่ยังสด ๆ อยู่ นายศรีศักดิ์เมื่อเห็นภาพประหลาดตรงหน้าก็แทบช็อค ตกตะลึงไปชั่วขณะทำอะไรไม่ถูก ครู่ใหญ่ ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็หายวับไปกับตา เขาจึงนึกรู้ขึ้นทันทีว่าสตรีลึกลับที่ปรากฏตัวให้เห็นนั้นต้องเป็นผีนางตานีแน่นอน

: ขาวดำ.gif (47.46 KiB) เปิดดู 3014 ครั้ง

พอรุ่งเช้าเขาจึงรีบไปจุดธูปเทียนขอขมาลาโทษแก่เธอทันที และตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เขาก็ไม่กล้าไปแตะต้องกับดงต้นกล้วยตานีนั้นอีกเลย และผีนางตานีก็ไม่ได้มาปรากฏตัวให้เห็นอีกเช่นกัน นอกเสียจากจะได้ยินเสียงบ้างเป็นบางครั้งบางคราว เช่น เมื่อคราวฝนตกใหญ่ที่พระโขนง หน้าต่างหลังบ้านเขาไม่ได้ปิด จึงรีบตาลีตาลานปิดหน้าต่างเป็นการใหญ่ ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงหัวเราะคิก ๆ คัก ๆ กันเป็นจำนวนหลายคน เขามองหาที่มาของเสียงทันที และได้พบว่ามันดังมาจากดงต้นกล้วยตานีนั่นเอง นายศรีศักดิ์ถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาทันควันด้วยแน่ใจว่าเสียงนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเสียงผีนางตานี

: .jpg (23.62 KiB) เปิดดู 3008 ครั้ง

นอกจากผีตานีแล้ว บางครั้งเขาก็ยังได้ยินเสียงคนเดินอยู่บนบ้านในตอนดึกเสมอ ๆ ครั้นเมื่อออกไปดูก็ไม่พบใคร นอกจากจะเห็นเงานคนวอบ ๆ แวบ ๆ แล้วหายไปเฉย ๆ เท่านั้น บางทีก็ปรากฏเป็นคนนุ่งขาวห่มขาวมาเดินรอบบ้าน และบางครั้งก็พบหญิงชราเดินหลังค่อม ๆ วนเวียนอยู่รอบบ้าน แต่พอออกไปดูเพื่อให้เห็นจะจะ คนเหล่านี้ก็จะหายวับไปกับตาเสียเฉย ๆ อย่างนั้นทุกทีไป

: .jpg (8.56 KiB) เปิดดู 3009 ครั้ง

เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปพบร่างทรงของ “เจ้าพ่อธงชัย” ซึ่งมีตำหนักอยู่ที่เมืองปากน้ำ สมุทรปราการ ในตอนต้นเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2507 เมื่อได้พบเจ้าพ่อในขณะประทับทรงแล้ว จึงได้บอกเล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง ท่านได้บอกว่าที่ดินของบ้านหลังนี้เมื่อก่อนเป็นทางสามแพร่ง จึงเป็นที่รวมของวิญญาณต่าง ๆ เมื่อเจ้าของปลูกบ้านเสร็จก็ไม่ได้ทำพิธีเชิญให้ถูกต้อง วิญญาณเหล่านี้จึงวนเวียนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวให้ใครต่อใครต้องพบเห็นเสมอ ๆ

เมื่อเหตุการณ์เป็นดังที่เจ้าพ่อธงชัยว่ามา นายศรีศักดิ์จึงได้ของร้องให้เจ้าพ่อธงชัยช่วยดลใจให้มีคนมาซื้อบ้านหลังนี้ด้วยเถิด เพราะมีคนมาดูหลายรายแล้วแต่ทุกรายก็ไม่มีใครกล้าซื้อสักราย อีกทั้งราคาที่จะขายก็ไม่ได้แพงแต่ประการใดเลย ทว่าทุกคนที่มาดูต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวว่า เมื่อเหยียบย่างเข้าไปในบ้านแล้วก็พลันรู้สึกอ้างว้างวังเวงอย่างไรชอบกล เลยไม่มีใครซื้อ

เจ้าพ่อธงชัยจึงทำพิธีปลุกเสกดอกไม้ แล้วมอบดอกไม้นั้นให้นายศรีศักดิ์มาปักไว้หน้าบ้านตรงศาลพระภูมิ เพื่อให้เกิดอาถรรพณ์ว่าใครมาดูบ้านจะได้ชอบอกชอบใจ ครั้นตกถึงวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2507 ก็มีนายแพทย์สองสามี-ภรรยามาขอชมบ้าน เมื่อสำรวจถ้วนทั่วก็เกิดถูกใจเลยตกลงซื้อบ้านหลังนี้ทันที นายศรีศักดิ์จึงประจักษ์ชัดว่าเจ้าพ่อธงชัยท่านเก่งจริง ๆ …

ต่อมาผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ได้ไปพบนายแพทย์และแพทย์หญิงสองสามีภรรยาคู่นี้เพื่อขอสัมภาษณ์ ซึ่งทั้งสองท่านก็ยินดีเล่าให้ฟัง โดยผู้เป็นภรรยาเล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะมาซื้อบ้านหลังนี้เธอเคยได้ยินกิตติศัพท์มาก่อนแล้วว่าเป็นบ้านผีดุ มิได้มาดูมาซื้อโดยไม่มีข้อมูลอะไรเลย แต่ก็ไม่เคยนึกกลัวแม้สักน้อยเพราะคุณพ่อของเธอเป็นอาจารย์ไสยศาสตร์ชื่อดัง จึงได้ชักชวนให้คุณพ่อมาดูบ้านด้วยกันในวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2507 นี้เอง ฝ่ายคุณพ่อเมื่อเห็นบ้านหลังนี้แล้วก็ชอบใจเพราะราคาไม่แพง ตัวบ้านก็น่าอยู่ รุ่งขึ้นจึงไปตกลงกับท่านอดีตรัฐมนตรีเพื่อซื้อบ้านหลังนี้ทันที

ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า แล้วตั้งแต่มาอยู่บ้านหลังนี้เคยพบอะไรแปลก ๆ หรือจำพวกวิญญาณบ้างไหม ? เธอตอบทันทีว่าไม่เคยพบอะไรเลย คงจะเป็นเพราะคุณพ่อทำพิธีอัญเชิญและป้องกันให้อย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้ แต่มีอยู่วันหนึ่ง จะว่าเป็นเรื่องแปลกหรือเรื่องบังเอิญก็ได้ เธอพูดพร้อมหัวเราะแล้วเล่าต่อไปอีกว่า

ในวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2507 พี่สาวของเธอซึ่งเป็นอาจารย์อยู่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้มาพักค้างคืนด้วยกันที่บ้าน พอตกดึกก็ฝันเห็นหญิงชราอายุราว 70 ปี มานั่งขายของอยู่ตรงศาลพระภูมิหน้าบ้าน ยายคนนั้นก็พูดกับพี่สาวของเธอว่า “อยู่ไปเถอะไม่มีอะไรหรอก” ครั้นรุ่งเช้าพี่สาวเธอจึงไปยกมือไหว้ศาลพระภูมิและอธิษฐานว่า ถ้าจะให้อยู่เย็นเป็นสุขและมีโชคลาภก็ขอให้ถูกล็อตเตอรี่ด้วยเถิด และให้บังเอิญอย่างไรก็เหลือเดา พอดีมีคนขายล็อตเตอรี่โผล่มาขายที่หน้าบ้าน พี่สาวเธอจึงซื้อล็อตเตอรี่ไว้หนึ่งใบ เลขประจำล็อตเตอรี่ใบนั้นก็คือ 807137 ครั้นพอวันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2507 ซึ่งเป็นวันออกสลากก็ปรากฏว่ารางวัลที่ห้าเป็นเลข 807137 เท่านั้นยังไม่พอ เลขท้ายสามตัวก็ออกเลข 137 อีกด้วย ตกลงว่าพี่สาวเธอถูกล็อตเตอรี่ทั้งรางวัลที่ 5 และรางวัลเลขท้าย 3 ตัวในล็อตเตอรี่ใบเดียวกัน

แพทย์หญิงท่านนี้ได้เล่าต่อไปอีกว่า “ดิฉันได้เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คุณพ่อฟังค่ะ คุณพ่อบอกว่าหญิงชราที่มาเข้าฝันให้เห็นนั้นก็คือ ‘เจ้าแม่ธุมเกตุ’ ซึ่งสิงสถิตอยู่ที่ศาลพระภูมิหลังนั้น ขอให้หมั่นจุดธูปเทียนบูชาเสมอ ๆ ก็จะได้ลาภลอยและอยู่เย็นเป็นสุขตลอดมา”

: ๆ (ภาพสวย)re1.jpg (29.28 KiB) เปิดดู 3009 ครั้ง

หมายเหตุ – คุณพ่อของแพทย์หญิงท่านนั้นก็คือ อาจารย์ทองแถม ศาสตระรุจิ ทุกวันนี้บ้านหลังนั้นก็ยังเป็นที่อยู่อาศัยของแพทย์หญิงท่านนี้ซึ่งเคยเปิดเป็นคลินิกแต่ปัจจุบันปิดทำการไปแล้ว คงเป็นเพียงบ้านพักอยู่อาศัยและให้เช่าพื้นที่สำหรับจอดรถเฉย ๆ (รณธรรม- 16 พ.ย. 2552)