นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อาทิตย์ 24 พ.ย. 2024 12:51 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 04 พ.ย. 2008 4:39 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน พัทลุง พ.ต.ท.ขุนพันธรักษ์ราชเดช และศิษย์
สร้างถวายพระบรมธาตุ วัดมหาธาตุ นครศรีธรรมราช ๘๔,๐๐๐ องค์


คำนำ

ครั้งหนึ่งเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๔๙๖ อาจารย์ได้ทำพิธีอยู่กรุงเทพฯ คืนหนึ่งมีนิมิตไปว่ามีอาจารย์เฒ่ารูปหนึ่งอายุประมาณ ๘๐ ปี มาบอกตำราให้สร้างพระเครื่องชนิดหนึ่ง ชื่อ “เทพนิมิต”
tapenimit re1.jpg


tapenimit re2.jpg


เมื่อจัดหาวัตถุเครื่องประกอบครบตามจำนวนของท่านแล้ว ได้กลับไปประกอบพิธีขึ้นที่วัดบรรพตพินิจ จังหวัดพัทลุง เมื่อกำลังอยู่ในพิธีนั้นคณะศิษย์เป็นจำนวนมากกำลังฟังรับฟังการ อบรมและความรู้จากอาจารย์ ศิษย์อีกคนหนึ่งเกิดจับสั่นอย่างเจ้าเข้าทรง เมื่ออาจารย์และพวกถามว่า ท่านเป็นใคร ได้รับตอบว่า ข้าชื่อ “ตาขรัวคง” เป็นอาจารย์ของขุนแผน อยู่วัดตาล อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี
pookongsong re1.jpg


และถามต่อว่าท่านมาปรากฏตัวขึ้นเพื่อประโยชน์อะไร ท่านว่า “ท่านเคยได้อธิษฐานไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ว่าสมัยใด กาลใด พระพุทธศาสนาถึงซึ่งความเสื่อมทรามจากจิตใจของมนุษย์ ประเทศชาติได้รับความเดือนร้อน ท่านต้องมาช่วย และกาลนี้ก็ถึงเข้าแล้ว จึงปรากฏวิญญาณอาศัยลูกนี้แหละเป็นเครื่องมือของอาจารย์พระผงเทพนิมิตที่สร้างแล้วนั้น อาจารย์เป็นผู้บอกตำราให้” (อาจารย์ที่เข้าทรงหมายถึงตัวของอาจารย์คง)
pookongsong re2.jpg


เมื่อคณะอาจารย์ทราบความดังนั้น ก็ชวนกันถามถึงประวัติของท่านและประวัติของขุนแผน ท่านได้ตอบแก่คณะเป็นที่พอใจทุกคน ท่านบอกคาถาและพิธีการสร้างพระเทพนิมิตพร้อมทั้งเข้าทรงเสกตลอด ๓ เดือน เมื่อกำลังเข้าทรงอยู่นั้น อาจารย์ได้ถามถึงเครื่องรางของขลัง เช่น พระขุนแผนทรงต่าง ๆ เป็นต้น ในเมืองสุพรรณบุรี ท่านก็ได้บอกสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองสุพรรณให้ ๑๐ กว่าแห่ง อาจารย์ได้จดไว้เพื่อพิสูจน์ความจริง

ออกพิธีแล้วอาจารย์ก็ได้ออกเดินทางไปยังเมืองสุพรรณบุรี ตรวจดูสถานที่ต่าง ๆ ที่ท่านได้บอกไว้ถูกต้องทุกอย่าง จึงกลับกรุงเทพฯ ขออนุญาต(กรมศิลปากร)ไปทำการขุดค้นตามสถานที่นั้น ๆ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วก็เดินทางไปขุดตามสถานที่ที่ท่านบอก ก็ได้ผงและพระหักป่นพร้อมด้วยกระดูกของท่านอาจารย์คงด้วย การขุดค้นในจังหวัดสุพรรณบุรีนี้ตามคำของท่านได้สมตามความปรารถนาทุกอย่าง ได้ผงและพระหักป่นกว่า ๒๐ กรุ

ก่อนขุดเชิญวิญญาณของท่านอาจารย์คงเข้าทรงทุกครั้ง การไปครั้งนี้ได้พบพระดินเผาปางปฐมเทศนา ๑ องค์ ถามท่านว่าพระนี้ใครทำ ทำครั้งไหน และชื่อพระอะไร ท่านหัวเราะแล้วตอบว่า “นี่แหละคือพระยอดขุนพล อาจารย์สร้างให้เจ้าพลายแก้วเพื่อฉลองชัยชนะ เมื่อครั้งพลายแก้วเป็นแม่ทัพไปตีเมืองเชียงใหม่ชนะ” ถามท่านว่า ท่านทำจำนวนเท่าไร ท่านบอกว่า “๓,๐๐๐ รูป”
yodkunpoldang re1.jpg


เมื่อเที่ยวไปทุกจังหวัดได้ผงมากกว่า ๑๐๘ กรุ กลับถึงกรุงเทพฯ แบ่งผงทำพระถวายวัดญวนสะพานขาว ๘๔,๐๐๐ รูป ก็ได้ขออนุญาตจากท่าน ว่าจะทำพระยอดขุนพลด้วย ท่านไม่อนุญาต

ครั้งเมื่อมาประกอบพิธีสร้างพระถวายพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชครั้งนี้ ขอเชิญวิญญาณท่านเข้าทรงเพื่อช่วยปลุกเสก ท่านบอกว่า เอาแหละ การทำพระครั้งนี้อาจารย์ให้ทำพระยอดขุนพลสัก ๒๔ ชั่วโมง พร้อมด้วยท่านหาฤกษ์ให้ เมื่ออาจารย์ทำพระครบจำนวน ๘๔,๐๐๐ รูปแล้ว ถึงวันอังคาร เวลา ๑๕.๓๐ น. ก็ลงมือพิมพ์ ศิษย์ที่พิมพ์พระนั้นต้องเอาคนวันอังคารกับวันพฤหัสบดี เมื่อครบ ๒๔ ชั่วโมงแล้วท่านก็ให้หยุด ผงที่เหลือทั้งหมดทำเป็นแท่งจารึกประวัติของพระแล้วนำขึ้นบรรจุไว้ชั้นบนพระบรมธาตุ

พระยอดขุนพลที่ทำในครั้งนี้มีจำนวน ๒,๕๐๐ รูปพอดี ท่านสั่งว่าพระนี้ท่านมีเจตนาแจกให้เฉพาะนายทหาร นายตำรวจ ผู้ที่ทำงานเพื่อประเทศชาติ และศิษย์ของอาจารย์ที่ได้อบรมไว้ดีแล้วเท่านั้น บุคคลอื่น ๆ ห้ามนำไปใช้
ลงชื่อ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ผู้สร้าง
พ.ต.ท.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ประธานกรรมการ

ประวัติพระผงบารมีพระบรมธาตุ ๘๔,๐๐๐ องค์
ของ อาจารย์ชุม ไชยคีรี อำเภอเขาไชยสน จังหวัดพัทลุง
ทำพิธีปลุกเสกในพระวิหารหลวงวัดพระมหาธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช
ประจำพรรษา ๒๔๙๗

ตามปกติอาจารย์ชุม ไชยคีรี แม้เป็นฆราวาสแล้วก็ตาม เมื่อถึงกาลจำพรรษา ก็เข้าจำพรรษาตามถ้ำตามวัดเป็นการประจำทุกปี ในพรรษาหนึ่ง ๆ มักจะสร้างพระถวายวัดที่จำพรรษา เมื่อออกพรรษาแล้วก็ทอดกฐินที่วัดนั้น ๆ เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ออกพรรษาปี ๒๔๙๖ อาจารย์ชุม ใช้เวลาท่องเที่ยวไปตามเมืองต่าง ๆ ที่ปรากฏตามประวัติศาสตร์ว่า สถานที่ซึ่งเคยสร้างพระ เครื่องรางของขลังบรรจุไว้ตามพระเจดีย์ เช่น ผงวิเศษ ๑๐๘ กรุ ทั่วประเทศไทย

จังหวัดสุพรรณบุรี

1.ผงอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน วัดตาล
2.ผงแดงหุ่นยนต์ อาจารย์เกตุ วัดขวิด
3. ผงดำหุ่นยนต์ อาจารย์เกตุ วัดขวิด
4.ผงเขียวเนื้อชิน อาจารย์เกตุ วัดขวิด
5.ผงกระดูกอาจารย์เกตุ วัดขวิด
6.ผงผสมแร่ธาตุก้นกรุอาจารย์เกตุ วัดขวิด
7.ผงฐานพระประธานอาจารย์คลิ้ง วัดโลกา
8.ผงพระมหานิยมในเจดีย์ วัดโลกา
9.ผงยา วัดดอนไก่เตี้ย
10.ผงพระเนื้อชิน วัดดอนไก่เตี้ย
11.ผงพระขุนแผนเนื้อชิน วัดกุฏิสงฆ์
12.ผงขุนแผนเนื้อดินเผา วัดบ้านกลาง (บ้านกร่างในปัจจุบัน)
13.ผงพระพลายเพชรพลายบัว วัดบ้านกลาง
14.ผงขุนแผนไข่ผ่าซีก วัดสุวรรณภูมิ
15.ผงเนื้อชิน วัดพระธาตุ
16.ผงก้นกรุของอาจารย์คง วัดตาล
17.ผงกระดูกอาจารย์คง วัดตาล
18.ผงไม้มะกอกของอาจารย์คง วัดตาล
19.ผงพระหักป่น วัดตาล
20.ผงพระดินก้นกรุ วัดไทร

จังหวัดสุโขทัย

21.พระเนื้อชินวัดมหาธาตุ
22.พระดินเผาแบบนาคปรก วัดมหาธาตุ
23.พระดินเผาแบบโมคลาน สารีบุตร วัดมหาธาตุ
24.พระดินเผาแบบพระ ๕๕ วัดมหาธาตุ
25.ผงพระดินเผาแบบเรือนแก้ว วัดมหาธาตุ
26.ผงหักป่น กรุวัดศรีชุม
27.ผงหักป่น กรุวัดพายหลวง
28.ผงหักป่น กรุวัดมังกา
29.ผงเนื้อชินเนื้อดินวัดหินตั้ง
30.ผงเนื้อชินเนื้อดินวัดปากทัง
31.ผงเนื้อชินเนื้อดิน วัดเชตุพน
32.ผงเนื้อชินเนื้อดินหลวงพ่อโต วัดป่ามะม่วง
33.ผงเนื้อชินเนื้อดินวัดเขาสะพานหิน
34.ผงเนื้อชินเนื้อดิน วัดดินดำ
35.ผงเนื้อดินเผา วัดช้างล้อม
36.ผงดินเผาวัดดอนลาน
37.ผงดินเผา วัดดอนลาน
38.ผงดินเผา วัดโป่งพยอม
39.ผงดินเผา วัดป่ากล้วย
40.ผงดินเผาวัดโป่งมะขาม
41.ผงดินเผา ชิน ว่าน วัดโบสถ์
42.ผงเนื้อชินวัดป่าหญ้ากร่อน
43.ผงอิฐพราหมณ์ วัดศรีสวาย

จังหวัดพิษณุโลก

44.ผงเนื้อดินเผาแบบนางพระยา วัดต้นจันทร์ (นางพญา นางเสน่ห์จันทร์)
45.ผงเนื้อชิน เนื้อดินเผา เนื้อทองเหลือง วัดปากนัง
46.ผงเนื้อดินเผา วัดสตือ
47.ผงเนื้อดินเผา วัดเจดีย์ทอง
48.ผงเนื้อดินเผา วัดท่ามะปราง
49.ผงเนื้อดินเผา วัดประตูไชย
50.ผงเนื้อดินเผา วัดจุฬามณ์(วัดจุฬามณี)
51.ผงเนื้อชิน เนื้อว่าน เนื้อดินเผา วัดอรัญญิก
52.ผงดินเผามีแร่ธาตุ วัดไกเขี่ย
53.ผงเนื้อชินอ่อน วัดหูช้าง
54.ผงเนื้อดินเผา วัดตาปะขาวหาย (วัดชีปะขาวหาย)
55.ผงเนื้อชิน วัดคลองเป็ด
56.ผงเนื้อชิน เนื้อดิน วัดวิหารทอง
57.ผงอาจารย์แปลก วัดราษฎร์บูรณะ
58.ผงเศียรพระหักวัดพระพุทธชินราช
59.ผงพระหักป่นวิหารพระร่วง
60.ผงนางพระยา วัดนางพระยา (นางพญา วัดนางพญา)
61.ผงเนื้อดิน เนื้อชิน วัดลั่นทม

จังหวัดนครศรีธรรมราช

62.ผงพระคัมภีร์พระไตรปิฎก วัดพระมหาธาตุ
63.ผงพระพวย วัดพระมหาธาตุ
64.ผลตะไคร่พระเจดีย์ทุกองค์ วัดพระมหาธาตุ
65.ผงตะไคร่พระด้านทุกองค์ วัดพระมหาธาตุ
66.ผงตะไคร่พระศรีมหาโพธิ์ วัดพระมหาธาตุ
67.ผงพระหักป่น วัดท่าเรือ
68.ผงอิฐพระเจดีย์ วัดท่าเรือ
69.พระดินเผาวัดนางกรา (วัดนางตรา)
70.ผงวัดท้าวโคตร
71.ผงว่าน ๑๐๘ ของ พ.ต.ท.ขุนพันธ์ราชเดช
72.ผงดินพระหักป่นศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
73.ผงดินพระหักป่น วัดเสือ
74.ผงดินพระหักป่น วัดช้างเผือก
75.ผงดินพระหักป่น วัดพระแก้ว
76.ผงดินพระหักป่น หลวงพ่อกบ
77.ผงดินพระหักป่น วัดมหาธาตุ
78.ผงดินพระหักป่น วัดสิงห์ จังหวัดพัทลุง
79.ผงพระดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำคูหาสวรรค์
80.ผงพระหักป่น วัดเขาเจียก
81.ผงอิทธิเจของท่านพระครูสิทธิยาภิรัตน์ วัดดอนศาลา
82.ผงดินท้องถ้ำเขาไชยสน
83.ผงกระดูกคนโบราณในถ้ำเขาไชยสน
84.ผงดินดินสมัยศรีวิชัย ถ้ำอกทะลุ
85.ผงถ้ำยายหอมเขาไชยสน

จังหวัดลำพูน

86.ผงพระรอด วัดพระรอด
87.ผงพระสิบสอง วัดพระธาตุ
88.ผงพระสาม วัดพระธาตุ
89.ผงพระเปิ่ม วัดพระธาตุ (พระเปิม)
90.ผงพระหักป่น วัดทับยั่น

จังหวัดอื่น ๆ

91.ผงพระสมัยทวาราวดี วัดพระประโทนนครปฐม
92.ผงเนื้อชิน วัดพระพิโทน
93.ผงโทนพราหมณ์สมัยทวาราวดีนครปฐม
94.ผงพระดินดิบสมัยศรีวิชัยถ้ำเขาสาย จังหวัดตรัง
95.ผงพระดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำเขาสาย จังหวัดตรัง
96.ผงพระดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำคีรีวิหาร จังหวัดตรัง
97.ผงสมเด็จวัดระฆัง ธนบุรี
98.ผงอิทธิเจ วัดหิรัญรูจี ธนบุรี
99.ผงเนื้อดินเนื้อชิน วัดบึงสัมพันธ์ อุตรดิตถ์
100.ผงทองแท่นวัดพระแท่นศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์
101.ผงในเจดีย์ดอยสุเทพ เชียงใหม่
102.ผงพระหักป่น วัดพระปรางค์ สวรรคโลก
103.ผงดินเผา กำแพงเพชร
104.ผงเนื้อดินเนื้อชิน วัดมะละกอ พิจิตร
105.ผงพระหูยานหน้ายักษ์ หลวงพ่อจุก ลพบุรี
106.ผงสมเด็จวัดอินทร์ พระนคร
107.ผงนะปะถะมัง วัดหงษ์แพรก นนทบุรี
108.ผงดอกไม้ ๑๐๘ วัด

รวมกันแล้วได้ผงก้นกรุและผงพระหักป่นมากกว่า ๑๐๘ กรุในเดือนเมษายน ๒๔๙๗ หมดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ๓๕,๐๐๐ บาท รวบรวมผงไว้ที่วัดสมณานัมบริหาร (วัดญวนสะพานขาว) เมื่อหาผงได้ครบ ๑๐๘ กรุแล้ว ก็นำมายังเมืองนครศรีธรรมราช ขอเชิญวิญญาณของอาจารย์คง ซึ่งเป็นอาจารย์ของขุนแผน เข้าทรง เลือกที่ตั้งโรงพิธีได้ ณ พระวิหารหลวงวัดพระมหาธาตุ เป็นที่ตั้งทำพิธีปลุกเสก

ได้ปรึกษาต่อคณะกรรมการวัด มี พ.ต.ท.ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช (ยศในขณะนั้น) เป็นประธาน ศิษย์อาจารย์เป็นผู้จัดการพร้อมใจกันจัดสร้างพระพิมพ์ตามแบบเก่าเมืองนครศรีธรรมราช เช่น แบบพระวัดนางตราทรงนาคปรก แบบวัดท่าเรือทรงเรือนแก้วมีปรกโพธิ์ และพระพุทธลีลาแบบสุโขทัย
nangtra re1.jpg


nangtra re2.jpg



taruayai re1.jpg


taruayai re2.jpg



kampangkuob re1.jpg


kampangkuob re2.jpg



ในพิธีนี้ อาจารย์ชุมได้ขออนุญาตต่อวิญญาณอาจารย์คง ซึ่งเป็นอาจารย์ของขุนแผนสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ให้สร้างพระยอดขุนพลตามแบบเดิมของท่าน สร้างฉลองชัยชนะครั้งเมื่อขุนแผนไปรบชนะเมืองเชียงใหม่ ซึ่งท่านได้สร้างไว้จำนวน ๓,๐๐๐ องค์ จึงไม่มีแพร่หลายจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นพระเครื่องปางปฐมเทศนา
yodkunpol re1.jpg


yodkunpol re2.jpg


วิญญาณท่านอนุญาตให้สร้างขึ้นในพิธีนี้เป็นจำนวน ๒,๕๐๐ องค์ สำหรับกึ่งพุทธกาล ท่านมุ่งหมายให้แก่บรรดานายทหาร แม่ทัพนายกอง นายตำรวจและศิษย์ของอาจารย์ชุม ที่อบรมดีแล้ว นำไปสักการบูชาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติเมื่อมีเหตุคับขัน และสร้างพระขุนแผนขึ้นประมาณ ๒,๐๐๐ องค์ แจกศิษย์ที่มาไหว้ครูประจำปี ๒๔๙๗ เป็นพิเศษด้วย

การสร้างพระครั้งนี้นอกจากผง ๑๐๘ กรุแล้ว ยังมีผงวิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ผงพระมหาว่านของอาจารย์เฒ่า วัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง ผงพระเทพนิมิต ผงนะปะถมังของอาจารย์ชุม ผงว่าน ๑๐๘ ชนิด ผงพระหักป่น ผงวิเศษจากสำนักอาจารย์ผู้เฒ่า ซึ่งท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช รวบรวบไว้เป็นเวลานานหลายสำนัก มามอบให้พร้อมด้วยดินและน้ำโมกผา บึง บ่อ ฯลฯ มาผสมเพื่อพิมพ์เป็นองค์พระ

ได้ฤกษ์เริ่มพิมพ์องค์พระในวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๔๙๗ ครบ ๘๔,๐๐๐ องค์ วันที่ ๑ กันยายน ๒๔๙๗ ทำพิธีปลุกเสกวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๔๙๗ ออกพิธีวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๔๙๗ ซึ่งเป็นวันพระออกพรรษา พิธีนี้ได้นิมนต์และเชิญอาจารย์ผู้เฒ่า ซึ่งเป็นอาจารย์ท่านขุนพันธฯ และอาจารย์ของอาจารย์ชุม มาร่วมพิธีพิมพ์ประในวันเริ่มปลุกเสกและวันออกพิธี ผู้พิมพ์พระต้องเป็นภิกษุสามเณรและศิษย์ของอาจารย์ชุม ซึ่งสมาทานศีล ๕ นุ่งขาวห่มขาว และถวายพรหมจรรย์ตลอดพิธี มีพระสงฆ์เจริญพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ วันละ ๑๐๘ จบ พาหุง ๑๓ จบ และสวดพุทธาภิเษก นั่งปรกตลอดพิธี

วิธีการปลุกเสกของอาจารย์ชุม แบ่งเป็นตอน ๆ เช่น เสกคงกระพัน ๗ วัน เสกแคล้วคลาด ๗ วัน เสกมหานิยม ๗ วัน เสกกันปืน ๗ วัน เสกกันโจร จบลงในระยะหนึ่ง ๆ มีการทดลองด้วยการตรวจรังสีของพระ และให้เด็กกำพระเข้าแล้วฟันและเฉือนหรือใช้ปืนยิงคนจริง ๆ
todlongkonggapan re1.jpg


todlongkonggapan re2.jpg


todlongkonggapan re3.jpg


เฉพาะมหานิยมอาราธนาพระลงในน้ำมันหอมแล้วเอาน้ำมันหอมทาหนูกับแมว จนสัตว์ที่เป็นศัตรูกันรักกันได้ ในการกระทำทุก ๆ ครั้งจะทำต่อหน้าประชาชนภิกษุสามเณรเป็นจำนวนมาก ในพิธีครั้งนี้หมดค่าใช้จ่ายประมาณ ๖๕,๐๐๐ บาท แต่อาจารย์ชุม และคณะมิหักค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดทั้งสิ้น

รายชื่อคณะอาจารย์ที่เข้าพิธีปลุกเสก
ajarnnam-tankunpan re1.jpg


เริ่มเปิดพิธีปลุกเสกโดย อาจารย์นำ แก้วจันทร์ พระอาจารย์ปาน ปาลธัมโม พระอาจารย์คง สิริมโต แห่งจังหวัดพัทลุง
อาจารย์ที่ทำการปลุกเสกตลอดพิธี อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์ขุนพันธรักษ์ราชเดช

รายชื่อคณะศิษย์ที่เข้าพิธีปลุกเสกที่สมาทานศีลห้าและประพฤติพรหมจรรย์ตลอดพิธี
พระเนื่อง ไทยคำ สามเณรสุวรรณ สายทอง ร.ต.อ.อำนวย วงษ์มงคล
ร.อ.อำนวย ศิริวัฒน์ ร.ท.บุญนาค ทองเนียม ร.ต.ท.พัฒน์ หงส์ประสง
ร.ต.ต.พวง วัฒนนิพัทธ์ ร.ต.ทวี อนุรักษ์ ร.ต.ทวีรัตน์ คุ้มประยูร
ร.ต.ประวิทย์ มณีนาค จ.ส.อ.เพ็ญ นิพาวรรณ ส.อ.เที่ยง พฤกษมาศ
ส.อ.เยี่ยม จันทวงศ์ ส.อ.ประพิณ ใจแผ้ว ส.ต.สงวน แสงรวี
นายจำรูญ บุณยะมาน นายชิต ณ นคร นายสำราญ วิชิต
นายปราบ วัฒนสิทธิ์ นายเอี่ยม กำลังเกื้อ นายจัด เลขะผล
นายรำไพ ภิรมยาภรณ์ ร.อ.เฉลียว คงเจริญ นายนาม อุปรมัย
นายวุฒิชัย ลีละพันธ์ นายกรัส กาญจนมุกดา นายนิเวศ อัจจิมางกูร
นายมณี นิลพยัคฆ์ นายผาด ด้วงฤทธิ์ นายเดชา ภิญโญ
นายสถิตย์ รัตนนุพงศ์


การบำเพ็ญกุศลร่วมกัน

คณะกรรมการจัดงานขอเชิญชวนท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย และคณะศิษย์ของอาจารย์ชุมทุกคนทุกจังหวัดไปบำเพ็ญกุศลร่วมกันในพิธีครั้งนี้โดยทั่วกัน ได้จัดระเบียบงานไว้ดังนี้

วันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ เวลา ๑๗.๐๐ น. มีพระสงฆ์สวดพุทธมนต์ และพุทธาภิเษก มีอาจารย์นั่งปรกตลอดคืน

วันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ เวลา ๑๖.๓๐ น. จัดบวงสรวงและสังเวยเทวดา พร้อมทั้งชุมนุมครูอีกครั้งหนึ่งเวลา ๑๓.๓๐ น. นำรูปพระที่สร้างขึ้น ๘๔,๐๐๐ รูปพร้อมด้วยผ้าองค์กฐินพระราชทาน มีพระเถระผู้ใหญ่และอาจารย์เข้ากระบวนแห่ไปตามถนนทุก ๆ สาย เพื่อให้พี่น้องชาวนครศรีธรรมราชได้มีโอกาสอนุโมทนากุศลร่วมกัน พระเถระและอาจารย์ประน้ำพุทธมนต์ไปพร้อมกับขบวนแห่เสร็จแล้วนำกระบวนกลับมาประทักษิณ ณ วัดพระมหาธาตุ แล้วนำองค์กฐินและรูปพระทั้ง ๘๔,๐๐๐ องค์ เข้าประดิษฐานในพระวิหารหลวงตามเดิม

วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. พ.ต.ท.ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช พร้อมด้วยอาจารย์ชุมเป็นประธานทำพิธีไหว้ครู แล้วศิษย์ของท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชและศิษย์อาจารย์ชุม ไหว้ครูต่อไป ต่อจากนั้นเริ่มแจกพระเครื่องรางของขลังเฉพาะศิษย์อาจารย์ชุม ที่ไปประจำอยู่ในพิธี เสร็จแล้วแจกแก่ผู้ที่มีความศรัทธาจนถึงเวลา ๒๓.๐๐ น.

วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. แจกพระเครื่องแก่ทหารปืนใหญ่ที่ ๕ เวลา ๑๑.๐๐ น. แจกแก่ทหารหน่วยขึ้นตรงมณฑลทหารบกที่ ๕ กองพันที่ ๒ เวลา ๑๓.๐๐ น. แจกแก่หน่วยอาสารักษาดินแดน เวลา ๑๓.๓๐ น. แจกแก่นายตำรวจสถานีตำรวจภูธร อำเภอเมืองนครฯ

วันที่ ๑๖ – ๑๗ – ๑๘ – ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ มีการแจกพระ เครื่องรางของขลัง เวลา ๐๕.๐๐ – ๒๓.๐๐ น. ทุกวัน

วันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ เวลา ๐๕.๐๐ น. นิมนต์พระสงฆ์ ๑๐๘ รูป ถวายชัยมงคลสมโภชองค์กฐินพระราชทาน เสร็จแล้วถวายอาหารบิณฑบาต เวลา ๑๓.๐๐ น. ถวายองค์พระกฐินพร้อมด้วยเงินและพระที่เหลือ มอบให้กรรมการจัดผลประโยชน์วัดพระมหาธาตุส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่ง เวลา ๑๕.๐๐ น. คณะผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันนำพระขึ้นไปบรรจุบนพระเวียนชั้นบนเจดีย์พระบรมธาตุ ในขณะเดียวกันนั้น พระสงฆ์ ๑๐๘ รูป สวดชัยมงคลคาถาจบ บรรจุเสร็จแล้วคณะไปร่วมในการกุศลทำพิธีกรวดน้ำพร้อมกันเป็นอันเสร็จพิธี

ฉะนั้นจึงขอประกาศเชิญชวนมายังท่านผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย เพื่อจะได้ไปบำเพ็ญกุศลในงานสมโภชพระเครื่องราง ๘๔,๐๐๐ องค์ และบำเพ็ญกุศลร่วมกันในงานถวายองค์พระกฐินพระราชทานปีนี้ ผู้ที่เป็นศิษย์อาจารย์ชุมขอให้ไปร่วมทำพิธีไหว้ครูประจำปีกับคณะข้าพเจ้าผู้เป็นศิษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามวันและเวลาที่กำหนดดังกล่าวข้างต้น และหากท่านผู้ใดที่ไม่สามารถไปด้วยตนเองได้ แต่มีความประสงค์จะบำเพ็ญกุศลร่วมกันก็ขอให้ส่งเงินไปทางไปรษณีย์ถึงเลขานุการของคณะที่จัดตั้งไว้ ซึ่งคณะกรรมการจะได้พิจารณาส่งรูปพระเครื่องรางมาตอบแทนในตามระเบียบที่ทางคณะได้จัดตั้งไว้

ลงนาม คณะศิษย์อาจารย์ชุม ไชยคีรี
กรรมการจัดงาน


ผงพระบารมีพระบรมธาตุ ยอดขุนพล

คุณวิเศษตามคำของอาจารย์คง เป็นยอดแห่งพระทุกปาง ทุกสมัย ดีเลิศใช้ได้ทุกทาง มีชัยชนะในการรบและกิจการทั้งปวง กันสรรพอาวุธและสัตว์ร้ายตลอดถึงผีสางเทวดาที่มาให้โทษ ใช้ประจำตัวหรือบูชาทำน้ำมนต์ในมงคลพิธีการทั้งปวง ก่อนออกเดินทางหรือบูชาประจำบ้านให้ภาวนาคาถาว่า “พุทโธหะเว รักขะติธัมมะจาริง ฉัตตังมหันตัง วิยะวัสสกาเล” ๓ จบ

วิธีอาราธนาพระผงบารมีพระบรมธาตุทุกพิมพ์

ก่อนนอนหรือก่อนจะนำพระติดตัวไป ให้ตั้งใจทำความนอบน้อมระลึกถึงพระบรมธาตุ เมืองนครศรีธรรมราช ขอบารมีเป็นที่พึ่งแล้วว่า นะโม ๓ จบ ว่า “อิสวาสุ สุสวาอิ อะสังวิสุโล ปุสะพุภะ” ๓ จบ ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคภัยประการใด ๆ ให้จุดธูปเทียนอาราธนาพระลงในน้ำด้วยคาถาดังกล่าวแล้วประพรมหรือกิน

ถ้าจะให้เป็นมหานิยมมหาเสน่ห์แก่ปวงชน ให้อาราธนาด้วยคาถาลงในน้ำมันหอมแล้วใช้ใส่ผมหรือเจิมหน้า ห้ามนำพระไปใช้ในทางทุจริต ผิดกฎหมาย และผิดศีลธรรม ห้ามโอ้อวดหรือทดลองทำเป็นเล่น ผู้ที่ไม่มีความเชื่อถือ ขออย่าได้นำไปใช้ จะเกิดโทษนานาชนิด

อาจารย์และพ.ต.ท.ขุนพันธรักษ์ราชเดช พร้อมด้วยคณะศิษย์ผู้ดำเนินการสร้างและปลุกเสกได้พร้อมใจกันทำความปรารถนาขอเดชบุญกุศลที่คณะได้สร้างพระ ๘๔,๐๐๐ รูป บูชาพระบรมธาตุ ขอพระบารมีจงดลบันดาลให้เพื่อนมนุษย์เลิกจากการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน จงตั้งอยู่ในความสงบสุขตลอดกาลนานเทอญ

อาจารย์ชุม ไชยคีรี
อำเภอเขาไชยสน จังหวัดพัทลุง



หมายเหตุ - ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของพระและภาพถ่ายในพิธีทุกท่านครับ โดยเฉพาะคุณสิงห์ดำ

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 04 พ.ย. 2008 4:43 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 29 ก.ย. 2008 12:53 pm
โพสต์: 754
ศรัทธาก่อเกิดปาฏิหารย์ :grt:

_________________
.........ถ้าเจ้าได้ทุกอย่างอย่างที่คิด
ชั่วชีวิตจะเอาของกองที่ไหน
จะได้บ้างเสียบ้างจะเป็นไร
ช่างหัวใครช่างหัวมันเท่านั้นเอง ..........


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 04 พ.ย. 2008 9:56 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 10:40 am
โพสต์: 369
:grt: :grt: ดูจากรูปพิธีและประวัติขั้นตอนการสร้าง เป็นพระที่ขลังศักดิ์สิทธิ์จนน่าขนลุกเลยครับ เปิดเรื่องนี้มาพี่รณธรรมน่าจะรวบรวมประวัติวัตถุมงคลของ อ. ชุม ให้คนรุ่นหลังได้ทราบและเป็นวิทยาทาน เพราะเห็นในหนังสือพระเครื่องและเว็บไซด์ต่างๆมีการนำวัตถุมงคลของท่านมาขายกันหลายรายการมากๆ จนสับสนไปหมด ตัวผมเองได้รับรู้เรื่องท่านครั้งแรกมาจากหนังสือศักดิ์สิทธิ์ ในคอลัมม์ผู้ทรงอภิญญา ที่เขียนโดยคุณสิทธา เชตวัน
ควรมิควรอย่างไรฝากพี่รณธรรมพิจารณาอีกทีด้วยนะครับ :pry: :pry: :pry:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 04 พ.ย. 2008 10:29 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 5:09 pm
โพสต์: 1368
เสียวตอนรับพระ :sck:


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 05 พ.ย. 2008 2:53 am 
ออฟไลน์
Administrator
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 11:37 am
โพสต์: 6391
ตื่นเต้นดีครับ :shock: :shock: :shock:

_________________
089 969 9445 @ anytime
line ID navaraht


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 05 พ.ย. 2008 1:17 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 29 ก.ย. 2008 12:53 pm
โพสต์: 754
:sck:

แต่เห็นแล้ว เก็บกิเลสตัวเองไม่อยู่ ทำไงดีหนอ............

_________________
.........ถ้าเจ้าได้ทุกอย่างอย่างที่คิด
ชั่วชีวิตจะเอาของกองที่ไหน
จะได้บ้างเสียบ้างจะเป็นไร
ช่างหัวใครช่างหัวมันเท่านั้นเอง ..........


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 06 พ.ย. 2008 2:48 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 14 ต.ค. 2008 9:22 pm
โพสต์: 832
:wet: น่ากลัวเวลารับพระอ่ะคับ แล้วนะวันนี้จะไปหาได้จากที่ไหนอ่ะคับ พี่น้อง :pry:

_________________
"สติเป็นบ่อเกิดของธรรม ใครอยากให้ธรรมเกิด พึงมีสติอยู่ทุกเมื่อ"


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 06 พ.ย. 2008 3:16 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 08 ก.ย. 2008 10:41 am
โพสต์: 1599
ลองไปค้นๆแถววัดสารอด ตรง กม.9 อ่ะฮะ เมื่อสักต้นปีมีการเปิดกรุพระของอาจารย์ชุมที่ท่านสร้างแล้วเก็บไว้ในกรุวัดสารอดไว้ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า

ขอให้โชคดีฮะ

_________________
ชาตินี้ไม่จริง ชาติไหนก็ไม่จริง


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 8 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO