รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
อังคาร 06 ม.ค. 2009 6:38 pm
ส่วนนี้คือรูปหล่อหลวงปู่มั่นมี2แบบคือยีน และนั่ง หลวงตาอนุญาตครับ เทพร้อมขนาดเท่าองค์จริงมีไม่กี่องค์(หลวงตาเทเอง) ที่เหลือเทชนวนแล้วหล่อตามที่หลัง เอาไปซุกไว้ตอนหลวงตาสวดมนต์ แต่ท่านพ่อบอกแค่หลวงตาอนุญาตก็ไม่ต้องเอาไปให้ท่านเสกซ้ำแล้ว

- indexCA4KTOKT.jpg (40.47 KiB) เปิดดู 2223 ครั้ง

- indexCABQOM7M.jpg (39.69 KiB) เปิดดู 2223 ครั้ง
อังคาร 06 ม.ค. 2009 7:09 pm
เห็นรูปหล่อบูชาแล้ว กิเลสเกิดทันทีเลยครับ ทำยังไงจะได้มั่งครับเนี่ย


- Emo-korea_007.gif (7.78 KiB) เปิดดู 2200 ครั้ง
อังคาร 06 ม.ค. 2009 7:15 pm
nongmai เขียน:เห็นรูปหล่อบูชาแล้ว กิเลสเกิดทันทีเลยครับ ทำยังไงจะได้มั่งครับเนี่ย

Emo-korea_007.gif
รู้สึกสำนักฤาษีที่บางแสนมีนะครับ ตอนออกองค์ละพันเองครับ
อังคาร 06 ม.ค. 2009 10:48 pm
องค์ละพันเองเหรอคับ โอ้โห
พุธ 07 ม.ค. 2009 7:55 am
อยากได้ทำไงดีครับ พี่bon 555
พุธ 07 ม.ค. 2009 11:19 am
เรียนถามคุณพี่อาจารย์ bon ฮะ
แล้วที่เป็นรูปบูชาของหลวงปู่เสาร์และหลวงปู่มั่น ที่เป็นฐานฉลุ แล้วแยกฐานได้ ถ้าจำไม่ผิดจะออกในนามมูลนิธิหลวงปู่มั่น ที่ซอยจรัล 35 น่ะฮะ หลวงตาท่านร่วมในการอธิษฐานหรือเปล่าฮะ
พุธ 07 ม.ค. 2009 7:27 pm
เด็กลึกลับ เขียน:เรียนถามคุณพี่อาจารย์ bon ฮะ
แล้วที่เป็นรูปบูชาของหลวงปู่เสาร์และหลวงปู่มั่น ที่เป็นฐานฉลุ แล้วแยกฐานได้ ถ้าจำไม่ผิดจะออกในนามมูลนิธิหลวงปู่มั่น ที่ซอยจรัล 35 น่ะฮะ หลวงตาท่านร่วมในการอธิษฐานหรือเปล่าฮะ
หลวงตาไม่ได้อธิษฐานครับ
จันทร์ 19 ม.ค. 2009 10:20 am
ข้อมูลจาก อ.บอล ทุกกระทู้นี่เข้มข้น เข้มขลัง คำตอบรวดเร็ว ฉับไว สุดยอดมากค่ะ
นับถือ นับถือ ขอคารวะจากใจ....

- 12554.gif (16.35 KiB) เปิดดู 2045 ครั้ง
อังคาร 10 ก.พ. 2009 10:24 pm
อย่างนี้ต้องรบกวน ท่านอาจารย์ ไปจีบแทนแล้วอ่ะคับ
เพราะท่านอาจารย์ รู้จักชื่อเสียงของท่านผู้สร้างอ่ะคับ
รบกวนท่านอาจารย์ ด้วยนะคับ
กราบขอบพระคุณ
พุธ 11 ก.พ. 2009 1:03 pm
อยากได้ไว้บูชาเหมือนกัน................
ศุกร์ 20 ก.พ. 2009 12:01 am
ในสมัยปัจจุบัน ผู้เขียนขอยกตัวอย่าง ในปี ๒๕๔๐ หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ท่านป่วยหนัก ผลที่หมอตรวจที่วัดป่าบ้านตาด ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น ที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ
เป็นที่แน่นอนว่าท่านป่วยเป็น “โรคมะเร็งลำไส้” ขั้นสุดท้าย
หมอบอกว่า ท่านจะต้องตายก่อนเข้าพรรษาปีนั้นอย่างแน่นอน
ท่านได้นิมิตภาวนาในเรื่องนี้ก่อนแล้ว
แล้วต่อมาในปีเดียวกัน มีคนนิมนต์ให้ท่านอยู่ช่วยชาติบ้านเมือง
ท่านจึงประกาศตั้งโครงการช่วยชาติ..
โรคได้หายเป็นปลิดทิ้งเพราะอานิสงส์นั้นเท่าทุกวันนี้
แล้วท่านได้ยาดีอะไรมารักษา?
ก็ตอบได้ว่า เป็นยาวิเศษที่เทวดานำมาถวายโดยบันดาลผ่านทางมนุษย์เป็นผู้ประกอบ
ยาเทวดาเป็นยาแบบไหนหนอ
ผู้เขียนขอไขปริศนาที่หลวงตาได้เล่าเฉพาะที่โรงน้ำร้อนวัดปาบ้านตาด ต้นปี ๒๕๕o นี้เอง
คือตามปกติท่านจะไม่เล่าเรื่องลึกลับลี้เร้นเหล่านี้ เพราะท่านว่าเป็นปัจจัตตัง รู้เห็นเฉพาะตน การนำออกมาเผยแผ่บางคนอาจไม่เข้าใจ เกิดการตำหนิลบหลู่เป็นการก่อกรรมแก่เขาได้
ท่านเล่าว่า คราวหนึ่งท่านอยู่ในป่าลึกเพียงรูปเดียว เร่งความเพียรภาวนาอดอาหารเป็นเวลาหลายวัน ร่างกายซูบซีดผอมเหลือง เรี่ยวแรงหดหาย เหลือแต่ใจอันดวงเด่น มีพลังมหาศาลข้างใน หมุนไปด้วยธรรมจักรตลอดวันคืน แต่พลังกายเหนื่อยล้าเต็มที
ขณะที่ท่านเดินจงกรมพิจารณาธรรมบางประการในยามค่ำคืน เทพธิดาตนหนึ่งได้ปรากฏกายเข้ามานั่งกราบไหว้ข้างบริเวณทางจงกรม เฝ้ารักษาอยู่โดยตลอดด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
แล้วนางเทพธิดาจึงกราบเรียนท่านว่า
“...เขาเคยเป็นแม่ของท่านในอดีตชาติ เกี่ยวข้องกันมานาน บัดนี้ได้มาเจอกัน ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เห็นท่านซูบผอมซีดเซียวก็อยากมาช่วยเหลือด้วยการถวายอาหารทิพย์ อันจะทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าสดชื่นขึ้น ขอให้ท่านเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าในอดีตชาติที่เคยเป็นแม่เป็นลูก โปรดเมตตารับอาหารทิพย์เถิด”
หลวงตาท่านตอบว่า “...เวลานี้เป็นเวลาวิกาลโภชน์ (เลยเที่ยง) รับภัตตาหารไม่ได้”
“อาหารนี้ไม่มีสี ไม่มีรส เป็นอาหารวิเศษไม่ต้องกินด้วยปาก เพียงไล้ไปตามร่างกาย การไล้นั้นก็ไม่ต้องถูกเนื้อต้องตัว..ก็ถือว่าได้ดื่มด่ำรสของทิพย์แล้ว” นางเทพธิดากล่าวสาธยาย
“แม้ถึงกระนั้นก็ตาม พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเจตนานั้นแหละเป็นตัวกรรมคือการกระทำ....
แม้เป็นอาหารทิพย์ก็ไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ถึงไม่มีใครเห็นเราก็รู้อยู่แก่ใจ ใจนี่แหละเป็นตัวพาสร้างเวรสร้างกรรม มิใช่อวัยวะอื่นใด”
เมื่อหลวงตาท่านพูดจบ ก็ก้าวเดินจงกรมต่อไป ท่ามกลางความเงียบในไพรสณฑ์ นางเทพธิดาก็นั่งเฝ้าอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมเคลื่อนร่างที่เบาเหมือนปุยนุ่นไปไหน
เพ่งมองท่านด้วยความห่วงใยและภูมิใจที่มีพระลูกชายเป็นพระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพร
ะภาคเจ้า ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพื่อความพ้นทุกข์
แล้วนางจึงกราบเรียนท่านว่า “พรุ่งนี้เช้าจะนำอาหารทิพย์มาถวายใหม่”
พอรุ่งเช้านางเทพธิดาได้มานั่งรออยู่หน้ากุฏิหลังน้อยมุงด้วยหญ้า กิริยาแช่มช้อยงดงาม หาสตรีใดในโลกเหมือนหรือเพียงเทียบเทียมมิมีได้
สตรีที่เขาว่าสวยที่สุดในโลกเป็นนางงามจักรวาลเมื่อเทียบกับนางเทพธิดาแล้ว ก็เหมือนลิงโก๊กตัวหนึ่งเท่านั้น
น่าขำจริงๆ โลกมนุษย์เอย..
เมื่อพระหลวงตาเห็นดังนั้นจึงถามนางว่า...การที่เธอมานั่งอยู่หน้ากุฏิเราตั้งแต่เช้าเช่นนี้ ใครมาเห็นเข้า เดี๋ยวจะเข้าใจผิดเอาได้ ว่าพระอยู่กับผู้หญิงสองต่อสอง ข้อครหาต่างๆ อาจเกิดขึ้นได้ นางตอบว่า
“ท่านไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องนั้น ไม่มีใครสามารถเห็นฉันได้..นอกจากท่านเท่านั้น นี่เป็นเทพเนรมิตเพื่อมาถวายอาหารทิพย์แก่ท่านได้ง่ายขึ้นเท่านั้น”
“ถวาย ก็ถวายมาสิ” หลวงตาตวาดนางเทพธิดาหน่อยๆ
นางจึงบอกให้ท่านนั่งนิ่งๆ ครู่หนึ่ง การถวายอาหารทิพย์ก็เป็นอันเริ่มขึ้นและจบลง
ร่างกายของท่านกระปรี้กระเปร่าอย่างเห็นได้ชัด
เหมือนปลาขาดน้ำแล้วพลันได้น้ำ
เหมือนคนหิวกระหายมานานวัน พลันมาเจอบ่อน้ำอันใสสะอาด
ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณที่ซีดเซียวกลับผุดผ่อง หายเมื่อย หายหิว
ปฏิบัติภาวนาต่อไปได้อีกหลายวันโดยไม่ต้องมีอาหารตกท้อง.. อยู่เย็นสบายคลายความทุกข์กังวล
นี่คืออาหารเทวดา ยาเทวดาก็คงทำนองนี้เหมือนกัน
เพราะนั่นเป็นของวิเศษ ที่มนุษย์ผู้ศีลน้อย ธรรมน้อยจะไม่มีวันได้พบพานเป็นอันขาด เว้นแต่ในนิทานหลอกเด็กเท่านั้น!!
ท่านพ่อลีเองก็เคยรับอาหารบิณฑบาตจากเทวดาที่ดอยขะม้อ จังหวัดลำพูน ท่านผู้สนใจโปรดติดตามจากหนังสือเล่มใหญ่ในวาระฉลองพระธุตังคเจดีย์ ที่วัดอโศการาม ก็แล้วกัน
นี่แหละท่านทั้งหลาย พระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกเป็นที่อัศจรรย์อย่างหาที่สุดมิได้ ท่านเป็นผู้นำจิตวิญญาณและชีวิตจิตใจของเราผู้ศรัทธาทั้งหลาย
เหมือนโคนำจ่าฝูงที่นำพวกเราผู้พยายามเพื่อธรรมเป็นเครื่องพ้นทุกข์ ว่ายตัดกระแสน้ำคือกิเลสอันเชี่ยวกราก อันเป็นห้วงน้ำใหญ่มีอันตรายมาก ข้ามขึ้นถึงฝั่งอันราบเรียบเป็นภูมิภาคน่ารื่นรมย์ เกษมสำราญไม่มีเวรภัย ถึงเมือง “อุดมบุรี” (อุดมธรรม) และ “นิพพานนคร” โดยปลอดภัยฯ
จากหนังสือธรรมะทะลุโลกของท่านพ่อลี ธัมมธโร
โดย พระมหาธีรนาถ อคฺคธีโร
วัดป่าภูผาสูง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา
ศุกร์ 20 ก.พ. 2009 4:07 pm
สาธุ สาธุ สาธุ
เสาร์ 21 ก.พ. 2009 12:03 am
มุกพี่ต่ออ่ะสุดยอด
มุกแบบนี้จะทำให้น้องเอสซี่ได้พระด้วยไหมอ่ะ
เสาร์ 21 ก.พ. 2009 12:23 am
อันนี้เป็นเรื่องของบุญใคร บุญมัน ครับน้องเอสซี่
แต่ถ้าจานbonแกฉุนขึ้นมา.....
งานนี้ก้อ....

- .gif (15.96 KiB) เปิดดู 1822 ครั้ง
จันทร์ 23 ก.พ. 2009 8:16 pm
bon เขียน:index1.jpg
index2.jpg
เหรียญ2แบบนี้ขออนุญาตหลวงตาบัว เป็นทางการครับ
โดยหลวงตาท่านอนุญาต และ อธิษฐานให้เรียบร้อยแล้ว
ผู้สร้างคือ เสี่ยสมหมาย ที่จ.ร้อยเอ็ด ใครพอรู้จักรีบไปจีบเอานะครับ
ตอนนี้เริ่มแจกแล้ว
แต่ผมไม่รู้จักเลยยังไม่ได้เลย
ข่าวดี ข่าวดี
ตอนนี้เสี่ยสมหมาย เริ่มเอาเหรียญหลวงตาไปถวายครูบาอาจารย์สายกรรมฐาน
เช่นหลวงปู่เพียร หลวงปู่บุญมี หลวงพ่ออุทัย ภูวัว ฯลฯ
ตอนนี้ใครไปกราบพระผู้ใหญ่สายกรรมฐานดูได้ เผื่อมีวาสนา
แหล่งข่าวแจ้งว่าไปกราบหลวงพ่ออุทัย(ภูวัว) ที่วัดเขาใหญ่เจริญธรรม
หลวงพ่อหยิบแจกคนละ1เหรียญ แล้วบอกว่า เหรียญนี้ให้เก็บดีๆนะ เป็นของช่วยค้ำช่วยคูณ หลวงตาท่านอนุญาต
หมายเหตุ; คนเขียนกระทู้ยังไม่ได้
จันทร์ 23 ก.พ. 2009 9:02 pm
หมายเหตุ; คนเขียนกระทู้ยังไม่ได้
ตรงหมายเหตุนี่ เป็นคาถากันคนขอเหรอครับ
อังคาร 24 ก.พ. 2009 12:09 am
อู๊ด อู๊ด เขียน:หมายเหตุ; คนเขียนกระทู้ยังไม่ได้
ตรงหมายเหตุนี่ เป็นคาถากันคนขอเหรอครับ

เปล่าครับเป็นการบอกว่าใครได้มา 2องค์แบ่งผมด้วยต่างหากครับ
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.