พฤหัสฯ. 08 ม.ค. 2009 11:28 am
- 34yt.jpg (21.28 KiB) เปิดดู 4063 ครั้ง
โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์
คณะศิษยานุศิษย์ ในร่มเงาแห่งแก่นธรรมแท้ของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ นั้นมีมากมายเกินจะกล่าวได้หมด บ้างก็ลือชื่อ บ้างก็เงียบสนิท บางองค์ซุกซ่อนเร้นกายอยู่ตามเงี้อมผา ป่า ถ้ำ ไม่ปรารถนาพบใคร มุ่งแต่ทำความเพียรเผากิเลส
ณ กาลปัจจุบันคณะศิษย์ของพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น ในชั้นลูกคงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด อาทิ
พระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสัมปันโน),
พระสุธรรมคณาจารย์ (เหรียญ วรลาโภ) (ปัจจุบัน มรณภาพแล้ว) เป็นต้น แต่คณะศิษย์ ในชั้นหลานยังคงมีมากมายเป็นที่อบอุ่นใจแก่ศรัทธาผู้ปรารถนาพระ ภิกษุที่เป็นพระสุปฏิปันโนแท้จริง
ประมาทชั้น หลาน ก็ไม่ได้เจียวหนา เพราะมหาเถระประเภท ลูกศิษย์ ของท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ผู้ได้รับคำ ยกย่อง ในภูมิจิต ภูมิธรรมถึงขั้นพ้นโลกจากพระอาจารย์ใหญ่ ยังออกปากรับรอง
หลานศิษย์ ของท่านพระอาจารย์มั่นแบบเน้นย้ำก็มากองค์
หลวงปู่จันทา บวชเมื่อปี พ.ศ. 2490 แล้วได้ถวายองค์เป็นลูกศิษย์
หลวงปู่ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี (อ.เมือง จ.หนองบัวลำภูปัจจุบัน) การประกอบพากเพียรของหลวงปู่จันทาเป็นไปอย่างเอาจริง เอาจังในทุกแง่มุม การเที่ยววิเวกเดินธุดงค์ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาในสายตาท่าน ผิดกับเราผู้มองป่าดิบดงทึบเป็นแดนอันตรายที่บรรจุความน่าพรั่นพรึงไว้ทุกก้าวย่าง
จิตที่สงบเย็นและวาสนาบารมีเก่า ซึ่งบำเพ็ญมาอย่างพร้อมพรัก ทำให้หลวงปู่มองเห็นและติดต่อผู้อยู่ต่างภพทั้งในเบื้องสูงและเบื้องต่ำได้เกือบตลอดเวลา ท่านประจักษ์ใจชัดแจ้งกับการพิสูจน์ผลของการบำเพ็ญคุณความดี และผลบาปที่กดถ่วงจิตใจผู้ก่ออย่างน่าสังเวช เหล่าเทพซึ่งมาเฝ้าแหนหลวงปู่จันทาในทุกครั้งที่ท่าน บำเพ็ญสมณธรรม ได้เล่าถึงบุพกรรมฝ่ายกุศล ซึ่งตนได้อุตส่าห์สั่งสมไว้ยามเป็นมนุษย์กระทั่งตายจึงส่งผลให้เกิดดีถึงสุข ด้วยคราวหนึ่งหลวงปู่ไปภาวนาอยู่ที่ถ้ำเป็ด ภูผาเหล็ก อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ณ ที่แห่งนี้ได้รับการศิโรราบกราบยอมจากพระ-เณร ที่เคยไปอยู่ตลอดจนถึงนายพราน และชาวบ้านป่าทั้งปวง หามีใครหาญกล้าไปพัก ไปหลบแดดฝนใดๆ
ทุกผู้คนต่างโบกมือส่ายหน้าให้กับอาถรรพณ์และความเฮี้ยนทั้งในและนอกถ้ำ ขนาดกลางวันแสกๆยังไม่มีใครยอมเฉียดเข้าไปแม้อยู่ในระยะlสายตาจะพอมองเห็นถ้ำไกลๆ
ยังไม่เงยหน้ามอง...
อะไรจะขนาดนั้น! แต่กับหลวงปู่จันทาแล้ว ที่นี่คือสนามสอบซึ่งมีองค์ท่านเองเป็นกรรมการคุมสอบ จะได้ประกาศนียบัตรหรือไม่ก็อยู่ที่ท่านทุกขั้นตอน เหตุใดหลวงปู่จึงไม่หวาดกลัวภัยมืดที่อาจคุกคาม มีคำตอบเดียวคือ ศีล ความมั่นใจต่อการรักษาศีลของหลวงปู่ว่าตั้งใจดีแล้วโดยแท้ ศีลบริสุทธิ์แท้ ทำให้จิตเกิดความกล้าหาญไม่หวาดระแวงตัวของตัวว่ามีข้อบกพร่อง
คืนหนึ่ง ขณะที่ท่านเดินจงกรมอยู่เดียวดายใต้โคมเทียนอันริบหร ี่พลันบังเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวประดุจแผ่นดินถล่มทลาย คลื่นเสียงอันกึกก้องสะเทือนสะท้านไปทั้งหุบเขาราวกับภูผาเหล็กทั้งภูกำลังถล่มยุบพังลงมา หลวงปู่กำหนดฟังอยู่ครู่หนึ่งจนเสียงน่าพรั่นพรึงค่อยจางไป จึงเงยหน้าขึ้นดู
ทุกสิ่งปกติ
ภูผาเหล็กยังคงตระหง่านดำทะมึนในท่ามกลางความมืด แลเห็นเป็นแนวยาวดำสนิทยิ่งกว่าความมืด ซึ่งโรยอยู่รอบตัว ท่านเหลียวมองทางไหนก็ไม่ปรากฏต้นเหตุของเสียงเลย ถ้าไม่เพราะมีสติมั่นคงแล้ว คงเตลิดวิ่งออกไปเป็นแน่
ครั้นไม่พบสิ่งผิดปรกติหลวงปู่จึงทำความเพียรต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งหลังเที่ยงคืนไปแล้วท่านได้เข้าที่นั่งภาวนา เมื่อจิตรวมสู่อุปจารธรรม ก็บังเกิดนิมิตเห็นหมู่เทพยดาเหาะลอยลงมาจากยอดภูเขา ใหญ่ เหล่าเทพนั้นเรืองรองด้วยรัศมีแห่งบุญอยู่กลางหาว ดูงดงามไม่ต่างอะไรกับจันทร์ในวันเพ็ญ พอลอยเลื่อนลงถึงแผ่นดินเทวะหลายร้อยองค์นั้นก็พร้อม เพรียงกันกราบหลวงปู่อย่างนอบน้อม
ผู้เป็นหัวหน้าได้กล่าววาจาขอรับพระไตรสรณคมน์ และรับศีล 5 หลวงปู่จึงถามดูว่า จะรับไปทำไม เขาตอบทันทีว่า
โอ... เป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่นะท่าน พวกข้าพเจ้ามีไตรสรณคมน์ ศีล 5 ศีล 8 และกุศลกรรมบถ 10 ประจำชีวิตนั่นแหละ อบายจึงไม่ได้ไป ไฟนรกจึงไม่ได้ไหม้ มีแต่สุคติโลกสวรรค์ เป็นที่ไปล้วนๆ ดังนั้นเมื่อเห็นท่านมาเจริญสมณธรรม จึงพากันมาขอรับพระไตรสรณคมน์และศีล 5 เพื่อไม่ให้ของเก่านั้นเศร้าหมอง เมื่อเทวบุตรชี้แจงอย่างฉลาดจบลง หลวงปู่ก็เมตตาให้ไตรสรณคมน์และศีล 5 พวกเขาก็ขอฟังธรรมอีก หลวงปู่จึงเทศน์ให้ฟัง ครั้นเทศน์จบท่านก็ฉุกคิดถึงเรื่องเมื่อยามดึกจึงเอ่ยถามว่า
โยม...ขณะที่อาตมาเดินจงกรมตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึง 5 ทุ่มนั้น ได้ยินเสียงดังสนั่นราวกับว่าภูผาเหล็กมันจะพังลงมานั้นเป็นเสียงอะไร
เขากราบเรียนว่า
เป็นเสียงที่พวกข้าพเจ้าสาธุการส่วนบุญกับท่าน การเดินจงกรมมีบุญเยอะนะท่านท่องพุทโธ ก้าวขาลงสู่พื้นดินนั่นดังตึงนะ แหม! บุญมากอัศจรรย์ใจ พวกข้าพเจ้าจึงมาสาธุการส่วนบุญด้วย เล่าถึงตรงนี้หลวงปู่สรุปว่า
นั่นแหละ บุญในศาสนาพุทธ คือเดินจงกรม ยืนภาวนา นั่งสมาธิ ไหว้พระสวดมนต์ นั่นแหละได้บุญเยอะ จากประสบการณ์ต่างๆที่เล่ามานั้น ทำให้หลวงปู่เชื่อในบุญบาปแน่วแน่ เร่งทำความเพียรฆ่ากิเลสอย่างไม่ห่วงธาตุขันธ์ ตอนที่ท่านขึ้นไปภาวนาที่ถ้ำผาบิ้ง ในป่าใหญ่ของวัดถ้ำกลองเพล ท่านถึงกับอดข้าวอดอาหาร ดื่มแต่น้ำเปล่าและถือเนสัชชิกธุดงค์ (คือการไม่นอน)ตลอด 7 วัน 7 คืน
ด้วยความเพียรอย่างอุกฤษฎ์นี้ ปรากฏผลคือท่านนั่งสมาธิภาวนาได้ตลอดคืนยันรุ่ง จิตใจได้รับความปีติอิ่มเอิบยิ่งนัก ความสุขอันเกิดจากคามสงบสว่าง เยือกเย็น ละเอียดอ่อน ยากแก่การพรรณนา ท่านรู้สึกว่าจิตเป็นอิสระ เบาสบาย ไม่เกาะเกี่ยวกับอะไร รุ่งเช้าท่านเดินทางมาถวายการอุปัฎฐากหลวงปู่ขาว หลวงปู่มองหน้าแล้วเอ่ยขึ้นว่า
ทา...พ้นทุกข์หรือยัง ผมเข้าใจว่าท่านพ้นทุกข์แล้ว เพราะเห็นท่านนั่งภาวนาแล้วมีรัศมีรุ่งโรจน์ คืนยันรุ่งนะท่าน โอ! แสดงว่าการบำเพ็ญธรรมของหลวงปู่จันทา อยู่ในข่ายญาณอันวิสุทธิ์ของหลวงปู่ตลอดเวลา ท่านรู้สึกอัศจรรย์ใจในองค์อาจารย์ยิ่งนัก แต่ก็กราบเรียนหลวงปู่ขาวไปตามความรู้สึกในขณะนั้นว่ า
ยังหรอกครับหลวงปู่ แต่ว่าตั้งแต่ผมทำความเพียรกับหลวงปู่มาหลายปี รู้สึกว่าเมื่อคืนนี้จะสำคัญที่สุดกว่าทุกคืนครับ จิตรวมลงเห็นธรรม น่าเลื่อมใสแปลกประหลาดใจ จนถวายชีวิตพรหมจรรย์ได้ไม่หวั่นไหวทั้งนั้น ไม่กลับโลกอีกแล้ว คำว่า ไม่กลับโลกอีกแล้ว ตีความหมายได้หลายนัย นัยหนึ่งอาจหมายถึง การไม่หวนคืนสู่ชีวิตฆราวาส ไม่ว่าเพราะสาเหตุใดก็ตาม เป็นอันว่าหลวงปู่หันหลังให้โลกสิ้นเชิง มุ่งหน้าพ้นทุกข์โดยถ่ายเดียว อีกนัยหนึ่งอาจหมายถึง ท่านมีจิตที่อยู่เหนือโลก พ้นไปจากโลกเสียแล้ว ความเป็นอิสระเช่นนี้ย่อมไม่อาจนำจิตกลับมาสู่ครรภ์ข องสัตว์ใดๆ ในสามแดนโลกธาตุนี้ได้อีก
คุณสมบัตินี้มีตั้งแต่ พระอนาคามี ขึ้นไป สำหรับผมจะเชื่อเช่นไร ขออุบไว้คนเดียวเดี๋ยวจะกลายเป็นขายโง่เจ้าของไปเสีย แต่แบไต๋ในฐานะคนกันเองว่า ผมเชื่อหลวงปู่ขาว อนาลโย นี้ประการหนึ่ง เมื่อเปิดดูพระไตรปิฏก อนาคามี แปลความได้ว่า
ผู้ไม่กลับมาอีก เพราะชันษาที่มากเข้า ประกอบกับศิษย์ที่มากขึ้น หลายหมู่เหล่าเป็นศิษย์ประเภทขาดกำลังใจ จิตอ่อนแอ จึงร้องขออะไร สักอย่างที่จะเป็นเครื่องแทนองค์หลวงปู่ไว้พึ่งพาทาง ใจในยามจวนตัว เพราะเมตตาใหญ่ที่เจริญรอยตามองค์อาจารย์ คือ หลวงปู่ขาว จึงอนุญาตให้ศิษย์ทำของที่ระลึกขึ้น เป็นบางคราว ศิษย์ก็หวังจะได้เห็นอภินิหารในของ
ของ นั้นบ้างในบางครั้ง
แล้วก็เห็นกันจนได้ในคราวหนึ่ง
ส.จ.จังหวัดพิจิตรคนหนึ่งไปกราบเยี่ยมหลวงปู่จันทา ที่วัดเขาน้อย เพราะได้ยินกิตติศัพท์มาก่อน เมื่อเอ่ยปากขอเครื่องมงคล ท่านก็เมตตามอบผ้ายันต์สีแดงให้ผืนหนึ่งภายในบรรจุด้วยรูปหลวงปู่เป็นลายเส้น และยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้ากับคาถาพระไตรสรณคมน์ ทั้ง 3 บทของหลวงปู่
- ขอยืมรูปมาจากเว็บ www.thaimtb.com
- 234913-16.jpg (38.46 KiB) เปิดดู 4071 ครั้ง
ครั้นกราบลาแล้วก็ขับเก๋งคู่ใจ มุ่งตรงมาแวะจอดทำธุระที่ตลาด ขณะที่ยืนไขกุญแจล็อกประตูรถด้านคนขับนั่นเอง ปรากฏชายฉกรรจ์ 2 คน ซ้อนมอเตอร์ไซค์ขี่มาหยุดอยู่ข้างๆ และโดยไม่มีสัญญาณใดๆทั้งสิ้น ชายผู้ซ้อนหลังก็หยิบปืนออกจากเอวเบนปากกระบอกไปยังเ ป้านิ่งที่ยืนตะลึงตรงหน้า แล้วลั่นไก ปัง... ปัง...ออกไปราว 3-4 นัด จากนั้นก็บึ่งรถหายลับไป บนถนนราวกับภูตผี
ร่าง ส.จ. เคราะห์ร้ายรูดลงไปกองอยู่กับพื้น เป็นเป้าสายตาที่ใครต่อใครต่างกรูกันเข้ามา พอประคองลุกขึ้นจะส่งโรงหมอ ก็ให้ประหลาดใจที่ไม่เห็นเลือดนองดังคิด ไม่เห็นความเจ็บปวดอะไรบนใบหน้านอกจากแววตาที่ตื่นตร ะหนกเมื่อรุมล้อมซักถาม ได้ความว่า ยมทูตทั้ง 2 ยื่นความตายให้ไม่ถึงตัว ห่างกันไม่พอ 2 เมตร กลับยิงไม่ถูกเลยสักนัด ต่อให้คนไม่เคยยิงปืน มันก็น่าจะถูกบ้าง
เลยเป็นเรื่องอัศจรรย์ที่แคล้วคลาดได้ ต่างซักถามถึงพระดีว่าแขวนอะไร ส.จ.เคราะห์ร้ายผู้กลับมาเคราะห์ดีบอกว่า ไม่ได้แขวนพระอะไร แต่มีผ้ายันต์ ผืนหนึ่ง เพิ่งรับมาจากหลวงปู่จันทาสดๆ ร้อนๆ ไทยมุงก็ขอชมเป็นบุญตา เขาก็ล้วงจากกระเป๋าเสื้อออกมาคลี่ให้คนชม
หัวกระสุนทั้ง 4 นัด นอนกลิ้งอยู่กลางผ้ายันต์ !!
เสียงอื้ออึงก็สนั่นขึ้นอีก รวมถึง ส.จ.คนนั้น ที่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง กระสุนปืนที่ถูกยิงออกมามีความรุนแรงแค่ไหนใครก็รู้ ไม่ถูกยังพอว่า นี่กลับมาอยู่ในผ้ายันต์ที่พับเป็นสี่เหลี่ยมไว้ในกร ะเป๋าเสื้อ
เป็นไปได้อย่างไร? เหตุการณ์นี้ทำให้ผ้ายันต์ผืนดังว่าหมดพรึ่บไปจากวัด หลวงปู่เองก็แจก...แจก...แจก...อยู่แล้ว แต่ไหนแต่ไรไม่เคยให้เช่า แล้วอะไรจะเหลือล่ะครับ
สำหรับเราผู้ไกลปืนเที่ยงแต่มีศรัทธา โปรดจำหน้าตาของผ้ายันต์แดงวิเศษนี้ให้แม่น พบเจอที่ไหนจงคว้าไว้เลย เจอบ้านเราคว้าบ้านเรา เจอบ้านเพื่อนให้บอกเพื่อนก่อนค่อยคว้านะ เพราะที่วัดทุกวันนี้ก็ไม่มี หลวงปู่เองก็เขียนไม่ไหว หากต้องการไปกราบเยี่ยมทำบุญกับพระสุปฏิปันโนเช่นท่าน เชิญได้ทุกเวลา ถ้าหลวงปู่อยู่วัดเป็นอันได้พบแน่
แต่ถ้าจะขอของขลังโปรดเผื่อใจผิดหวังไว้ด้วย ทว่าหลวงปู่ต้องแจกสิ่งที่ดีที่สุดให้ทุกคนที่ไปแน่นอนที่สุด นั่นคือ
ธรรม ณ เวลานี้ก็ได้แต่ขอบารมีของหลวงปู่จันทา ถาวโร พระอริยเจ้าผู้เลิศคุณองค์หนึ่งในดวงใจผม โปรดอภิบาลรักษาทุกท่านปลอดอันตรายทุกอย่าง ให้พบแต่ความสุขและรุ่งเรืองในทุกกาลสถานที่ด้วยเทอญ ...