รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
พฤหัสฯ. 15 ม.ค. 2009 11:15 pm
- 6092.jpg (38.05 KiB) เปิดดู 3300 ครั้ง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
คนมีคนถูกผีถูนำตัวมาหาหลวงพ่อพุธ ฐานิโย แต่ถูกนำตัวมาด้วยอาการปรกติ ไม่ได้โวยวาย หรือแสดงอาการทุรนทุรายใดๆ ญาติๆกราบเรียนว่า ถูกผีเข้า ไล่ยังไงก็ไม่ออก เอาหมอธรรม(หมอไสยศาสตร์) มาไล่กี่คนกี่คนก็ไม่ออก พอหมอว่าคาถา ผีมันก็ว่านำ แถมยังเกทับว่า รู้น้อยกว่าผี พอเอาพระมาไล่ สวดมนต์บทไหนก็รู้หมด ทางญาติหมดปัญญาจึงปรึกษากันว่าจะพามาให้หลวงพ่อลองไล่ดู พอผีรู้เท่านั้นว่าจะพามาหาหลวงพ่อก็แสดงอาการยินดีอยากมาเสียเต็มประดา
หลวงพ่อจึงได้สอบถามกับผีเองว่า "ทำไมจึงเข้าสิงเขา"
ผีก็ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า "ผมทราบว่าเขาจะพามากราบหลวงพ่อจึงได้เข้าสิงคนๆนี้ อยากมากราบหลวงพ่อและให้หลวงพ่อแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลให้ด้วย"
หลวงพ่อจึงให้เขาเล่าความเป็นมาของตัวเขาซึ่งมีใจความว่า...
สมัยยังมีชีวิตผมเป็นฆราวาสมีอาชีพเป็นหมอธรรมที่มีชื่อเสียงมากชื่อ...(ตรงนี้ผีบอกหลวงพ่อพุธ แต่ตอนหลวงพ่อพุธเล่าท่านมิได้เปิดเผยชื่อ ท่านบอกเพียงว่าเอยชื่อไปพวกโยมก็ต้องรู้จัก) วิชาคาถาอาคมผมเรียนมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ พวกที่เขาเชิญมาไล่ผมถ้านับไปก็เป็นแค่ลูกศิษย์หลานศิษย์ของผม
ในสมัยนั้นใครมีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรก็มาขอให้ผมช่วย ลูกหาย ผัวทิ้ง เมียหาย ของหาย สารพัด
พอเขามาให้ช่วย ผมก็เข้าที่ภาวนาของผม ผมภาวนาพระคาถาที่ร่ำเรียนมา จิตมันก็หดเข้าหดเข้า แล้วก็สว่างจ้าออก คราวนี้อยากรู้อะไรก็รู้ ผมรู้กระทั้งวันตายของตัวเอง วันตายของผม ผมได้ประกาศออกไปเพราะเชื่อในความรู้ความเห็นของตน
เมื่อถึงวัน-เวลาที่กำหนด ผมก็เข้าที่ภาวนาพระคาถาที่ร่ำเรียนมา จิตก็หดเข้าหดเข้า แล้วก็สว่างจ้า ในใจผมคิดว่าต้องไปพรหมโลกแน่นอน แต่พอร่างกายสิ้นลม ที่สว่างกลับมืดสนิท พอดูดัวเองก็พบว่า กลายเป็นเปรต... มหิทธิกาเปรต แม้มีอิทธิฤทธิ์แต่ก็เป็นเปรต
พฤหัสฯ. 15 ม.ค. 2009 11:42 pm
- R1140-3.jpg (48.51 KiB) เปิดดู 3282 ครั้ง
มิเพียงแต่ฆราวาสผู้มีมิจฉาสมาธิเท่านั้น พระปฏิบัติสายกรรมฐานเองที่ภาวนาผิดร่องผิดรอยที่พระพุทธเจ้าและหลวงปู่มั่นผู้เป็นอาจารย์สอนไว้ ก็สามารถเป็นมหิทธิกาเปรตได้ ดังเรื่องต่อไปนี้
เมื่อครั้งหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ยังดำรงค์ธาตุขันธุ์อยู่ มีพระรูปนึ่งซึ่งในวงกรรมฐานทราบอยู่อย่างลึกๆลับๆว่าท่านทำตัวแปลกหมู่ และมีนิสัยชอบพูดจาเสียดสีพระรูปอื่น
วันหนึ่งพระรูปนี้ได้สนทนากับหลวงพ่อพุธ โดยมีหลวงปู่ฝั้นท่านนั่งอยู่ด้วยแต่ก็ยังพูดจาสอดเสียดหลวงพ่อพุธ จนหลวงพ่อพุธท่านรำคาญจนตอบกลับไปว่า
"ก็ยังดีกว่าพระที่ดำน้ำไปจารตัวเฑาะว์ แล้วมาทำตระกรุดขายดอกละ 500 แล้วกัน"
พร้อมกันนั้นหลวงพ่อพุธได้หันไปยกมือนมัสการเรียนถามหลวงปู่ฝั้นว่า
"หลวงพ่อครับพระอย่างนี้ตายไปต้องไปเป็นมหิทธิกาเปรตใช่ไหมครับ"
ซึ่งหลวงปู่ฝั้นก็ตอบกลับว่า
"ใช่"
พระรูปนี้ตกใจอย่างมาก ที่ตกใจด้วยทั้งกลัวตนไปเป็นมหิทธิกาเปรต และอัศจรรยใจในความรู้ความเห็นหลวงพ่อพุธที่ทราบว่าท่านจารตัวเฑาะว์ ลงไปในตระกรุด
ศุกร์ 16 ม.ค. 2009 2:15 am
ทำยังไงจากพรหม ถึงกลายเป็นเปรตได้ละคับอาจารย์ bon
ศุกร์ 16 ม.ค. 2009 8:15 am
ดีเยี่ยมเลยครับ.............
ศุกร์ 16 ม.ค. 2009 7:33 pm
ดีมากเลยครับ แต่สงสัยหมอธรรม ทำไมจึงเป็นเปรตครับ หรือว่าคิดแบบนี้จึงไม่ได้ไป "ในใจผมคิดว่าต้องไปพรหมโลกแน่นอน"
เสาร์ 17 ม.ค. 2009 7:07 pm
จำได้เลาๆว่า ฌานของผู้นิยมวิทยาคม ไม่จำเป็นต้องมีศีลฮะ
แต่ว่า ฌานที่ครูบาอาจารย์ท่านว่า นั่นคือ ฌานที่ประกอบด้วยศีล
ท่านผู้มีฌาน แล้วนำ อำนาจของฌานไปประกอบกิจกรรม อันนำมาซึ่งกรรมใหญ่น้อย เช่น เรื่องผัวๆเมียๆ ด้วยอำนาจของฌานก็บันดาลให้เป็นไป แต่ผลกรรมก็ส่งผลกลับมาได้ในภายหลัง
จึงไม่น่าแปลกใจว่า หมอธรรม ที่ไม่มีคุณธรรม เหตุใดจึงกลายเป็นเปรต
เสาร์ 17 ม.ค. 2009 11:40 pm
อืมมมม มีเหตุผล
อาทิตย์ 18 ม.ค. 2009 4:25 pm
เป็นเรื่องราวที่ดีมากๆครับ ขอบพระคุณอ.bon มากๆครับ เชื่อว่าอ.bon ต้องมีเรื่องราวเชิงลึกของพระสายกรรมฐานที่คนภายนอกไม่รู้อีกมากมาย จะคอยติดตามอยู่เสมอครับ
จันทร์ 19 ม.ค. 2009 5:55 pm
เรื่องนี้ตอนหลวงพ่อพุธมีชีวิตอยู่ผมก็ไม่ได้ถามท่านเสียด้วย
แต่สาเหตุที่ท่านเล่าเรื่องนี้เนื่องมาจากมีคนรู้จักผมคนหนึ่งกำลังจะเดินทางไปครอบครูกับพระรูปหนึ่ง
หลวงพ่อพุธจึงได้เล่าเรื่องนี้เพื่อเป็นการห้ามปราม
ถ้าจะบอกว่าพระรูปนี้เป็นพระไสยศาสตร์ ผมก็ตอบได้ไม่ถนัดนัก(แม้นจะคิดตั้งแต่ได้ยินชื่อท่านว่าท่านเป็นพระวิชา)
เพราะคำเทศน์ท่านมักจะอ้างถึงและพูดถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธบารมี
พระรูปนี้เคยเทศน์เสียด้วยซ้ำว่า เมื่อนึกถึงพุทธคุณ พุทธคุณก็จะมาอยู่ห้อมล้อมครอบที่หัวเราทันที
หรือวัตถุมงคลท่าน ท่านห้ามผิดศีลข้อ3 ไม่งั้นใช้ไม่ได้เลย
และความเก่งท่านก็นับว่ายอด ท่านมีวัตถุ(มงคล)ชนิดหนึ่งซึ่งท่านจะสั่งผู้ได้รับบางคนว่า
ให้ภาวนาพระคาถาประจำตัวท่าน จนวัตถุชนิดนี้ตั้งตรงได้เอง หากมีเรื่องใดต้องการถามก็สามารถถามได้เลย วัตถุชนิดนี้จะแสดงการตอบเอง
ส่วนข้อวัตรปฏิบัติผมก็ยังไม่เคยได้ยินว่าท่านทำผิดอะไร
ไม่เคยได้ยินว่าท่านทำคุณไสย์หรือใช้คุณไสย์ด้วยซ้ำไป
แค่ลักษณะใช้วิชาหรืออาคม และมีการบวงสรวงอัญเชิญครูบาอาจารย์มาในพิธีสำคัญๆ
และการแก้คุณไสย์ด้วยวิธีที่อาจดูเป็นไสยศาสตร์
พระรูปนี้ถ้าเอ่ยชื่อทุกท่านก็ต้องร้องอ๋อ ขณะนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่(19/1/2552) ไม่ใช่สายหลวงปู่มั่นนะครับ
แต่บางคนยังเชื่อว่าท่านเป็นพระอริยะบุคคลด้วยซ้ำไป อาจเพราาะความเย็นของท่านนั่นเองครับ
แต่ผมจนด้วยเกล้าไม่อาจบอกชื่อพระรูปนี้ได้
ขอความกรุณาอย่าถามไม่ว่าหน้าไมค์หลังไมค์ครับ
สุดท้ายผมขอเรียนตามตรงว่าปัญญาและภูมิความรู้ไม่ถึงจึงขอจบเพียงเท่านี้
หากวันหน้าได้ไปกราบเรียนถามท่านพ่อหรือพระรูปใดผมก็อาจจะกลับมาตอบให้ครับ
จันทร์ 19 ม.ค. 2009 6:11 pm
ขอบคุณ อ.bon มาก ๆ เลยค่ะ
ไม่ได้โพสต์ทุกครั้งที่อ่าน ดังนั้น ถือโอกาสขอบคุณสำหรับความรู้ คู่ คำตอบ ทุกกระทู้เลยนะคะ
จันทร์ 19 ม.ค. 2009 6:12 pm
ตกกาใจจริงๆ กลัวตัวเองเป็นเปรต...............
อังคาร 20 ม.ค. 2009 1:02 am
ขอบคุณทุกๆท่านครับ
ผมก็ไม่อยากเป็น..เปรต...ต้องพยายามดูใจตัวเองให้ดี แฮ่
อังคาร 20 ม.ค. 2009 1:09 am
พุธ 21 ม.ค. 2009 12:18 am
พฤหัสฯ. 22 ม.ค. 2009 8:22 am
เรียนแต่วิชาจำศีลครับ......................
ศุกร์ 23 ม.ค. 2009 12:03 am
แหม จำไม่ยากหรอกครับ
มีแค่ 5 ข้อเอง...
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.