Switch to full style
รวมบทความที่น่าสนใจต่าง ๆ จากนักเขียนชื่อดัง และ ผู้ที่ทรงภูมิความรู้มากมาย
ตอบกระทู้

ศิษย์ที่เหลืออยู่ของหลวงปู่ดีโลด

อังคาร 16 ก.ย. 2008 12:26 pm

ศิษย์ที่เหลืออยู่ของหลวงปู่ดีโลด
หลวงปู่พระครูใบฎีกาสังข์ ฐิตธัมโม
วัดบ้านโนนหัวช้าง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
โดย รณธรรม ธาราพันธุ์


ในอดีตที่เมืองอุบลยังพลุกพล่านไปด้วยนักปราชญ์ทั้งที่ถือกำเนิดเอาในเมืองและผู้มาจากนอกเมือง ชื่อของท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล (บุญรอด นันตโร) แห่ง วัดทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี หรือที่มหาชนขนานสมญาโดยเคารพว่า ‘ญาท่านดีโลด’ นั้นนับว่าอยู่แถวหน้าอย่างยืดอกได้ไม่อายใครหากผู้ใดจะออกปากว่าตนเป็นศิษย์

ค่าที่ท่านพระอาจารย์ใหญ่ของวงศ์กัมมัฏฐานคือหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ออกปากรับรองถึงความเป็นพระดีและมากด้วยบุญญาบารมี ถึงขนาดให้ประชาชนไปนิมนต์พระครูวิโรจน์ฯ มาบูรณะองค์พระธาตุพนมแทนตัวท่านและหลวงปู่หนู ฐิตปัญโญ วัดปทุมวนาราม เลยทีเดียว นอกเหนือไปจากความเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วยังมีเรื่องแห่ง ‘ปาฏิหาริย์’ ในท่านที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีอยู่จริงและเป็นอีกกระแสหนึ่งที่โหมชื่อของท่านให้ระบือไปทั่วแคว้นแดนอีสาน

หลวงปู่คำพัน โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ให้ความเคารพในองค์หลวงปู่ดีโลดเป็นยิ่งนัก ไม่ว่าจะเดินทางไปกิจธุระที่ใด หากท่านพบเห็นภาพถ่ายไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กของหลวงปู่ดีโลด ท่านเป็นต้องยกมือไหว้อย่างนอบน้อมทุกครั้งไป

นี่คือนักปราชญ์

เมื่อหลวงปู่ดีโลดเป็นที่ควรเคารพถึงปานนั้น ย่อมเป็นธรรมดาที่จะมีศิษย์มากมายทั้งพระและฆราวาส เนื่องจากหลวงปู่เป็นพระที่แตกฉานทั้งฝ่ายปฏิบัติและปริยัติคือการเรียนหนังสือธรรม บรรดาหนังสือธรรมทุกชนิดจึงปรากฏมากมายในวัดท่าน

แน่นอนว่าหนังสือที่เป็นทั้งกระดาษและใบลานธรรมชาติย่อมเกิดความทรุดโทรมไปได้ตามวันเวลา จึงต้องมีกระบวนการดูแลทั้งบูรณะซ่อมแซมและสร้างเสริมขึ้นมาใหม่

แหละนี่คือต้นกำเนิดของพระภิกษุที่จารอักษรธรรมได้เล็กที่สุดในโลก

‘พระครูใบฎีกาสังข์’

เป็นชื่อที่โดดเด่นขึ้นมาจากความขยันหมั่นเพียรและความสามารถเฉพาะตัว ทำให้ท่านแหวกกลุ่มศิษย์บรรพชิตขึ้นมาเป็น ‘มือขวา’ ของญาท่านดีโลดได้ไม่ยากนัก

เมื่อแรกช่วยงาน หลวงปู่สังข์ยังเริ่มที่การจารใบลานและการเขียนหนังสือธรรมต่าง ๆ ต่อนานเข้าเมื่อได้ฝึกพระกัมมัฏฐานและวิชาอาคมจนคล่องแคล่ว ญาท่านดีโลดก็เริ่มเรียกใช้ให้ลงผ้ายันต์และจารตะกรุดแทนท่าน ทำให้อักขระเลขยันต์ทั้งปวงที่เป็นวิชาของญาท่านดีโลดผ่านสายตาท่านจนหมดสิ้น

อาจกล่าวได้ว่าหลวงปู่สังข์เป็นศิษย์ใกล้ชิดเพียงองค์เดียวที่ได้พบเห็นแลศึกษาวิทยาคุณต่าง ๆ จากญาท่านดีโลดไว้มากที่สุด

ในยุคแรก ๆ นั้น เมื่อหลวงปู่สังข์ลงพระยันต์ต่าง ๆ แล้วก็ส่งถวายให้ญาท่านดีโลดเป็นองค์อธิษฐานจิตปลุกเสกเองก่อนแจกจ่ายให้กับประชาชน ต่อเมื่อญาท่านดีโลดถึงแก่มรณกรรมแล้วนั่นแหละ หลวงปู่สังข์จึงค่อยทำตะกรุด ผ้ายันต์ แล้วเสกเองมอบให้ผู้ศรัทธา

ตะกรุดของหลวงปู่สังข์ก็มิใช่ธรรมดา ได้ยินประสบการณ์ทางขลังอยู่ไม่ใช่น้อย สมนามว่าท่านเป็นผู้สืบทอดวิชาของพระครูวิโรจน์ฯ แต่จะหาผู้มีตะกรุดอยู่ในครอบครองนั้นก็แทบนับคนได้ เพราะท่านไม่ได้มานั่งทำเตรียมไว้แจกเป็นกอบเป็นกำเหมือนสำนักอื่น คนจะได้คือผู้ศรัทธาที่นำแผ่นโลหะมาขอให้ท่านทำตะกรุดให้

และก็ไม่ใช่จะได้ทุกคน

แม้ท่านจะขลังเพียงใด อุโฆษแห่งนามของท่านก็มิได้ปรากฏแก่สายตาใคร ๆ นั่นเป็นเพราะท่านไม่นิยมการลงหนังสือประชาสัมพันธ์หรือโฆษณา ถึงจะแนะให้ท่านสร้างพระเครื่องอย่างเป็นทางการ... ถึงจะนำการสร้างพระแลวัตถุมงคลต่าง ๆ มาเสนอให้...

ท่านก็ไม่ยินดี !

ดูแต่เพียงความเป็นอยู่ของท่านก็จะรู้ได้ชัดถึงการปราศจาก ‘ความยินดีและความยึดถือ’อย่างไม่ต้องการคำอธิบายจากผู้ใด หลวงปู่สังข์แม้จะมีตำแหน่งเป็นพระครูใบฎีกา แต่พระครูอย่างท่านก็นั่ง ยืน เดิน และนอน อยู่ภายใต้ศาลาวัด

เรียกง่าย ๆ ว่า ‘ใต้ถุน’ นั่นแหละ

อยู่อย่างนั้นโดยไม่มี ตู้ โต๊ะ เตียง หรือแม้แต่ข้างฝาให้ป้องกันอันตรายจากคน สัตว์ เหลือบ ยุง แดด ลมร้อน ลมหนาว หรือละอองฝน

เสนาสนะที่ท่านใช้สอยประจำในอิริยาบถสองอันได้แก่นั่งกับนอนก็คือ ‘เตียง’ สิ่ง ๆ นี้ที่ผมเรียกเขาว่าเตียงก็นับว่ามีน้ำใจมากโข เพราะรูปร่างหน้าตาของเขาไม่ควรเป็นเตียงเลย ติดอยู่แต่ว่าหลวงปู่อาศัยจำวัดบนนั้นเป็นประจำผมเลยต้องกัดฟันอ่านว่า เตียง

แท้จริงแล้วเตียงที่ว่านี้นัยว่าเมื่อก่อนเขามีหน้าที่ ‘ตั้งโลงศพ’ ก่อนจะอัพเกรดตัวเองมาเป็นเตียงนอนของพระสุปฏิบัติเช่นท่าน และผ้าปูที่นอนของท่านก็หาใช่ชุดเครื่องนอนโตโต้ที่ไร้รอยต่อทอเต็มผืนซึ่งอาจทำให้หลับเต็มตื่น !

แต่ผ้าปูเตียงของท่านเป็น

‘ผ้าห่อศพ’

img023.jpg
img023.jpg (57.36 KiB) เปิดดู 2568 ครั้ง


เมื่อแรกที่ครูอำพล เจน พาเข้าไปนมัสการท่าน ผมก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับเครื่องนอนของท่าน ไม่ว่าจะเป็นเตียงที่ผมอยากเรียกว่า ‘คาน’ มากกว่า และผ้าปูที่นอนซึ่งแท้จริงแล้วน่าจะเป็นผ้าพลาสติก (ห่อศพอีกน่ะแหละ) อยู่ด้านล่าง ด้านบนก็เป็นผ้าห่อผีที่มีสีขาวหม่นแต่เกรอะกรังด้วยน้ำเลือดน้ำเหลืองจากศพที่แม้ว่าจะแห้งแล้วนานปี แต่ก็ชวนสยิวโดยไม่ต้องเปิดวีดีโอคลิปสำหรับผมอยู่ดี

สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความไร้อัตตาและยึดเหนี่ยวเกี่ยวเกาะกับเครื่องอำนวยความสะดวก ท่านไม่ปรารถนาแสงสีความฟุ่มเฟือยและความสุขภายนอกใด ๆ นอกจากขอบำเพ็ญตนอย่างยอดยิ่งเพื่อจะทำให้เกิด ‘ความสุขภายใน’

ซึ่งผมเชื่อว่าท่านได้มันมาแล้ว

เมื่อผมทดลองเอาตัวเข้าเปรียบเทียบกับท่านในหลาย ๆ แง่มุม เอาแค่ว่านอนบนผ้าห่อศพผมก็ยกธงขาวก่อนแล้วมิพักต้องเสียเวลาตรึกตรองให้ดูว่ามีภูมิ แต่ไหนแต่ไรเรื่องน้ำเลือดน้ำหนองและสรรพเครื่องในทั้งปวงไม่ใคร่ถูกกับผมนัก เมื่อมีใครสักคนสามารถเอาชนะความรู้สึกที่ผมแพ้มันราบคาบได้ ผมก็ต้องทึ่งในท่านผู้นั้นเป็นธรรมดา

นี่ยังไม่พูดถึงยุงตัวเป้งที่จะแห่กันมาเมื่อฟ้ามืด หรือลมหนาวของอีสานที่จะโหมเข้าใส่โดยไม่มีที่มุงบังใด ๆ คิดไปแล้วทาวเฮ้าส์ที่ผมเคยดูแคลนมันว่าเล็กและกระจอกก็ดูใหญ่โตหรูหราขึ้นมาทันที

ณ วันนี้หลวงปู่สังข์มีชนมายุถึง 92 ปีได้ เป็นพระผู้เฒ่าที่น่าเคารพในคุณธรรม แต่น่าสงสารในความเป็นอยู่ยิ่งนัก ห้องน้ำที่ไกลสุดแสนไม่ว่าท่านจะหนักหรือเบา ท่านก็ต้องพยุงสังขารที่ร่วงโรยเดินไปไกลร่วม 50 เมตร ฝนจะตกแดดจะออกท่านก็ต้องฝ่าไปอย่างนั้น
ล่าสุดเสียงตามสายแว่วจากบ้านห้วยไผ่เมืองอุบลฯมาว่าหลวงปู่หกล้มขณะกำลังจะไปห้องน้ำ เป็นเหตุให้ท่านอาพาธจากการล้มครั้งนั้นไม่ใช่น้อย ครูอำพลจึงออกปากว่าต้องการสร้างกุฏิน้อยหลังหนึ่งที่จะมีห้องน้ำในตัวเสร็จถวายเป็นสังฆบูชาแก่ท่านในบริเวณอันสมควรของวัด
เป็นเรื่องดีที่ต้องอนุโมทนาในทันทีที่ได้ยิน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการได้เป็นส่วนหนึ่งแห่งมหากุศลในครั้งนี้ พระพุทธเจ้าตรัสถึงการพยาบาลพระภิกษุไข้ว่ามีอานิสงส์เทียบเท่าอุปัฏฐากดูแลพระพุทธเจ้าเอง

วันนี้เราจะได้สร้างเสนาสนะถวายไว้ในพระศาสนา และยังจะได้มอบปัจจัยส่วนหนึ่งไว้สำหรับพยาบาลพระภิกษุไข้ ซึ่งไม่ใช่พระธรรมดาแต่เป็นพระมหาเถระผู้รัตตัญญู ผู้มีคุณธรรมอันยิ่ง สมควรแก่การทำทักษิณาทานการบุณย์ครั้งนี้ครูอำพลมิได้ชักชวนเฉย ๆ แต่ได้นำพระผงว่านรูปเหมือนลอยองค์รุ่นแรกและเชื่อว่าจะเป็นรุ่นสุดท้ายของหลวงปู่สังข์มาตอบแทนให้ผู้ร่วมบุญ โดยตั้งใจกันว่าจะมอบพระนี้เป็นที่ระลึกให้แก่ท่านที่บริจาคปัจจัยจำนวน 500 บาท

img022.jpg
img022.jpg (67.96 KiB) เปิดดู 2567 ครั้ง


พระเครื่องรุ่นนี้สร้างราวปี พ.ศ. 2545 โดยมีจำนวนไม่มาก ใช้ผงพุทธคุณและผงว่านที่ดีที่สุดเป็นมวลสาร บรรจุของมงคลไว้ใต้ฐาน อาทิ ข้าวสารหิน และ อัญมณีหลากชนิด เรื่องการเสกก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลวงปู่จะตั้งใจทำเพียงใด เพราะนี่คือพระเครื่องลอยองค์รุ่นแรกของท่าน และไม่มีการจำกัดเรื่องระยะเวลาในการเสก ไม่มีอะไรกดดันท่าน ท่านจึงทำได้เต็มที่โดยสะดวกตามอัธยาศัยเป็นเวลานานนับเดือน

มั่นใจว่าบารมีของท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบลผู้เป็นอาจารย์ และบารมีขององค์หลวงปู่สังข์เองต้องถูกประจุอยู่ในพระว่านนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าท่านใดยังไม่รู้จักหลวงปู่ดีพอ ยังไม่อยากได้พระเครื่องของท่านก็ไม่เป็นไร จะทำบุญเฉย ๆ ก็ได้ตามแต่กำลังศรัทธา สามารถส่งปัจจัยไปร่วมกุศลได้ด้วยวิธีการเดียวกันครับ

แต่ถ้าวันหน้าพระหมดและหายาก เกิดประสบการณ์ขึ้นมาเป็นโกลาหล วันนั้นแล้วจะมาโทษผมไม่ได้เชียวนะขอรับ หากเป็นธนาณัติ กรุณาส่งไปที่
อาจารย์เวทย์ โทประสิทธิ์
116 / 7 ถ.พรหมราช
อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 34000

สั่งจ่าย ปณ.อุบลราชธานี (กรุณาช่วยค่าส่ง 50 บาทด้วยนะครับ มิเช่นนั้นคนจัดส่งอาจจะแย่เสียก่อนงานเสร็จ)
หรือจะใช้วิธีโอนเข้าบัญชีก็ได้ แต่ผมอยากให้โทรสอบถามกับอาจารย์เวทย์ก่อนจะเป็น
การดี ที่หมายเลข 05-7654619
ผมขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ.

**เรื่องนี้นานแล้วนะครับ หลวงปู่มรณภาพแล้ว และป่านนี้พระคงหมดแล้ว**

Re: ศิษย์ที่เหลืออยู่ของหลวงปู่ดีโลด

พุธ 17 ก.ย. 2008 12:04 am

ก็ไม่แน่นักนะครับ สำหรับท่านที่มีศรัทธาคิดอยากได้ไว้บูชา ผมเดาว่าที่พี่อำพลอาจจะยังมีหลงอยู่

ไว้ผมดูความต้องการก่อนแล้วกัน ถ้ามีคนลงชื่ออยากได้ไว้มาก ผมก็จะติดต่อพี่อำพลให้อีกทีแล้วกันครับ
:)

Re: ศิษย์ที่เหลืออยู่ของหลวงปู่ดีโลด

พุธ 17 ก.ย. 2008 1:27 am

งั้นเด็กลึกลับขอจองสักองค์สององค์นะฮะ

กลัวผีฮะ...บรื๋อออออ

Re: ศิษย์ที่เหลืออยู่ของหลวงปู่ดีโลด

พุธ 17 ก.ย. 2008 3:37 pm

ขอบูชาด้วยสักองค์นะคะ

Re: ศิษย์ที่เหลืออยู่ของหลวงปู่ดีโลด

พุธ 17 ก.ย. 2008 4:11 pm

ขอบคุณคุณเด็กลึกลับมากครับ ที่นำงานเขียนดีๆของพี่ต่อมาให้อ่านกัน

ผมขอเสนอความคิดเห็นส่วนตัวว่าน่าจะมีการระบุถึง เดือน ปี ที่พี่ต่อได้เขียนงานชิ้นนี้ออกมา
เพื่อให้ข้อมูลสมบูรณ์มากขึ้น

Re: ศิษย์ที่เหลืออยู่ของหลวงปู่ดีโลด

พุธ 17 ก.ย. 2008 7:52 pm

น้อมรับฮะ

Re: ศิษย์ที่เหลืออยู่ของหลวงปู่ดีโลด

พุธ 17 ก.ย. 2008 8:45 pm

เด็กลึกลับคือจูออนนี่เอง นึกว่าใคร

Re: ศิษย์ที่เหลืออยู่ของหลวงปู่ดีโลด

ศุกร์ 02 ม.ค. 2009 8:31 pm

มีอยู่ครั้งนึงผมได้ไปกราบหลวงปู่สังข์กับพีอำพล ได้ตะกรุดท่านมาดอกนึงส่องดูโห :grt: ท่านจารตัวเล็กมากไม่น่าเชื่อกับพระหลวงตาที่ท่า่นจะจารได้ละเอียดจริงๆๆ จิตท่านนิ่งมากท่านบอกว่าสมัยที่ท่านอยูากับ ญาท่านดีโลดนั้นท่านจารใบลานอยู่

Re: ศิษย์ที่เหลืออยู่ของหลวงปู่ดีโลด

จันทร์ 05 ม.ค. 2009 6:43 pm

เรียนคุณพี่ฮะ มีรูปตระกรุดให้ชมไหมฮะอยากเห็นครับ(ถึงไม่มีแต่อยากเห็นครับเพื่อชื่นชมเป็นบุญสักคราหนึ่ง) :( และเป็นการดีช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับท่านเพื่มเติมก็ดีฮะ เพราะผมก็บูชาพระหลวงปู่มาด้วยครับ)

Re: ศิษย์ที่เหลืออยู่ของหลวงปู่ดีโลด

จันทร์ 05 ม.ค. 2009 9:35 pm

:sck: ขอโทษนะครับตอนได้รับจากมือหลวงปู่มาดอกเล็กมาก ไม่รู้จะทำอะไรได้ก็เลยฝังไว้ในพระองค์ไหนแล้วจำไม่ได้เลยตามปะสาคนแก่ครับต้องขอโทษด้วยนะครับแต่ถ้ารู้จักกับพี่อำพลลองถามพี่เขาดูก้อได้ ว่าคนที่เตยไปช่วยพี่อำพลทำพระฤาษีหลวงปู่พรหมารุ่น 6 นะครับน่าจะยังพอจำผมได้อยู่มั่ง
ตอบกระทู้