นวรัตน์ดอทคอม

ตะกรุด ราชคง อาบมหาว่าน

ออกให้บูชาแล้วของดีที่ท่านรอคอย !!! หลวงพ่อสุพจน์ จันทูปฺโม วัดศรีทรงธรรม ของจริงที่ไม่สั่นคลอนเจ้าตำรับตะกรุดอุดปืน เหนียวยังกระดูก เสกปลัดว่ายน้ำ “ พระบ้า ” ในสายตาคนชอบของจริง

ชื่อเสียงของหลวงพ่อสุพจน์ดังพร้อมคู่มากับตะกรุดตำรับ “ คง ” ของท่าน อาทิ ตะกรุดมหาเพชรคง , ตะกรุดเพชรคง , ตะกรุดเพชรคงทอง เป็นต้น ที่มีประสบการณ์มานานนักหนาแล้ว ตะกรุดกับหลวงพ่อจึงเป็นวัตถุมงคลที่คู่กัน ในวงการให้ความสำคัญกับตะกรุดของหลวงพ่อสุพจน์ เล่นหากันมากมีค่านิยมสูงถึงขนาดพูดว่าตะกรุดอะไรก็ไม่รู้ออกใหม่ๆแท้ แต่หาที่ไหนก็ไม่ได้ราคาเป็นพันๆหมื่น ๆเพราะประสบการณ์อันยิ่งยวดที่มีขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน

ขอกล่าวถึง สาย..ตำราครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อสุพจน์ซักเล็กน้อยพอตอกย้ำว่าเกิดอะไรขึ้นในวงการตะกรุดของไทย หลวงพ่อสุพจน์ วัดศรีทรงธรรม เป็นคนจริงพูดจาตรงไปตรงมา เสียงดัง ไม่กลัวใคร สันโดษ ท่านเป็นคนพระประแดง ตอนเด็ก ๆเกเรมากตอนหลังมาอยู่โรงเรียนเทคนิคทำให้เสริมนิสัยมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของท่านอีก ท่านเป็นรุ่นเดียวกับ จิ๊กโก๋สมัยก่อน พวก แดงไบเล่ย์ ปุ๊ระเบิดขวด นี้แหละ ตอนหลังท่านเกเรจนเบื่อจึงคิดอยากจะบวช พอบวชแล้วด้วยนิสัยเด็ดเดี่ยวไม่กลัวใครอยากรู้อะไรต้องรู้จริงให้ได้ ท่านจึงมุ่งมั่นเดินธุดงค์หาครูบาอาจารย์ไปอยู่ในป่าในเขาเพื่อเรียนวิชาจนพบ หลวงปู่รอด (เสือ) วัดหนองกระทิง หลวงพ่อเย่อ วัดอาษาสงคราม พ่อเฒ่าโชติ ฆราวาสขลังแห่งขุนเขาเก้าลูก พ่อเฒ่ามืด เจ้าวิชาอุดปืนขลังนัก ขนาดชี้ตอไม้ก็ยิงไม่ออก โยนผ้าขี้ริ้วให้ยิงก็ยิงไม่ดัง ท่านลงวิชาเกี่ยวกับมหาอุดหยุดปืนจนมั่นใจแล้วจึง หลีกไปเรียนวิชาทางเมตตาซึ่งก็ได้ครูดีอีกเช่นกัน นั่นคือ หลวงปู่อินทร์เทวดา ซึ่งมีวิชาทาด้านเมตตามหาเสน่ห์มากมายลองกันเลย ขูดให้กินวันนี้ก็ตามวันนี้ ป้ายวันนี้ก็มาหาวันนี้ ใช้เห็นผลกันมานักต่อนัก เคยเสกปลัดว่ายน้ำแข่งกับหลวงปู่พิมพา จนยอมรับในพุทธคุณ ตอนไปเสกวัดบางคลานหลวงพ่อเปรื่องบอก “ท่านพจน์ลงมหาอุด”ผมลงโภคทรัพย์เอง หลวงพ่อเปรื่องพูด


นราธิวาส ทหารโดนซุ่มยิง เพื่อนตาย ตัวเองแค่ช้ำ มีตะกรุด พุทธคงดอกเดียว ที่ยะลา รอบวางระเบิด บาดเจ็บทั้งคันรถ มีตะกรุด “คง ” แค่เสื้อขาด อีกรายที่ก้าวเลี้ยว รถคว่ำ พังยับ ในรถไม่มีใครเป็นอะไรเลย หน้ารถแขวนตะกรุด “เพชรคงดอกเดียว” นี่ยังไม่พูดถึงเหรียญนารายณ์ เหรียญปืนไขว้ เอ็มร้อย ชี้นิ้ว ว่ามีประสบการณ์ขนาด ไหน ล่าสุด หลวงพ่อสร้างตะกรุด “ราชคง” ที่ถักเชือกและอาบว่านยาไว้ด้านนอก สร้างเป็นรุ่นแรก การสร้างตะกรุดดอกนี้ ต้องลงวันเดือนดับ และ ลงวิชาปิดทวารทั้ง ๙ (ดับทั้ง หมด หูดับ ตาดับ ใจดับ )ก่อนจึงลงเหล็กจารย์ได้ ม้วนตะกรุดด้วย ราหูกลืนธาตุ ฤกษ์แห่งชัยชนะเหนือดวง จากนั้นทำการถักเชือกลายโบราณ และมาถึงขันตอนที่สำคัญ ท่านได้ตระเวนหาว่านยาตามตำรา 108 ชนิด อาทิ ว่าน กันไฟ กันฟ้า กันโจร กำลังคชสาร 500เชือก(กำลังแหวกป่าทั้งป่า) ช้างงาเดียว(สู้ไม่ถอย) ก้องธรณี(ชื่อเสียงก้องแผ่นดิน) ครุฑแหวกเมฆ (ชนะอุปสรรค์) รักเล่ย์ (ชนะในเมตตา) รักซ้อน(รักจัดระเบียบได้) ดอกทอง(เจ้าชู้หลายเมีย) โด่ไม่ล้ม (พลังชนะคลื่นลม) เพชรสังฆาต(ชนะสมบัติ) หุ่นพยนต์(เลวร้ายเป็นตายแทนเรา) เป็นต้น นำมาเคียวตามฤกษ์ยาม และปลุกเสก ซัดผงพุทธคุณ ที่หลวงพ่อลบเองบ้าง ผงพระบางขุนพรหมปี 2517 ที่ท่านได้มาบ้าง สีผึ้งของปู่อินทร์เทวดาบ้าง ใบโพธิ์ที่หลวงพ่อเงิน บางคลานปลูก บ้าง(หลวงพ่อเปรื่องให้มา) จากนั้นท่านได้ทำพิธีปลุกเสกตะกรุดราชคงในกุฎี อย่างดียิ่ง คำว่า “ราชคง” มาจากคำว่า ราชา ตะกรุดดอกนี้จึงเปรียบเหมือน ราชาของตะกรุดตระกูล คง ที่โด่งดังของหลวงพ่อ ว่ากันตั้งแต่ ฤกษ์การลง การม้วน ว่านยาแต่ละชนิดที่มีคุณ ต่างกัน ครบถ้วน สารพัด ทั้งมหากัน มหาระงับ มหาอำนาจ มหาเสน่ห์ มหานิยม เรื่องเมตตา ปรับสมดุลดวงดาว แก้ดวงตก ดวงไม่ดี ตะกรุดดอกนี้ ท่านว่า มีอานุภาพ “คง” เป็นพื้น เสริมด้วยอานุภาพอีก 108 ประการ ท่านให้ตั้งใจว่าคาถาปลุกมิได้ขาด และให้พกไว้ติดตัวอย่าให้ห่างกาย (พกไว้ที่ตรงไหนของร่างกายก็ได้) ตำราว่า อย่าว่าแต่ห้ามฟ้า ห้ามฝนเลย แม้แต่ เคราะห์กรรม เวรภัยก็ห้ามได้ มีทุกภัยหนักเท่าหนักท่านให้ กำตะกรุดให้แน่น กลั้นใจว่าคาถา ๗ จบ เอาหัวแม่เท้า (นิ้วโป้งเท้าจิกพื้นดิน) จิกพระธรณี เรียกให้มาช่วย การแห่งทุกข์นั้นจะคลี่คลายไปโดยเร็วพลัน เป็นความก็ชนะ โทษหนักถึงประหารก็รอดได้ โซ่ตรวนก็คลายหลุด รุดหน้าไม่หยุดนิ่ง

ตะกรุดจักรเพชร ผ้าแดงเดือด

ตะกรุดอุดปืนเป็นที่รู้กันดีว่า หลวงพ่อสร้างได้ขลังกว่าใคร ครองใจผู้ที่ชอบตะกรุด จนติดหนึ่งใน 4 ของยอดเกจิที่สร้างตะกรุดขลัง (เจ้าตะกรุดโบราณ 4 องค์ในยุคนี้ คือ หลวงพ่อจำลองวัดเจดีย์แดง หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฏีทอง หลวงพ่อตัด วัดชายนา หลวงพ่อ สุพจน์ วัดศรีทรงธรรม) ขนาด รถดับกลางถนน สิบล้อ เบรกไม่ทัน แต่เดชะบุญ รถถอยหลังเองอัศจรรย์ ไม่งั้นตายทั้งครอบครัว พาดหัวหน้าหนึ่งแน่ โดนยิงเผาขนยังรอดมาได้ มีงานวัดหลวงพ่อ ให้ตำรวจไปลองตะกรุดของท่าน เห็นกันจะจะ ไม่ออก แต่ตำรวจกลัวปืนแตกจนเลิกลองไปเอง และ ยิ่งมีข่าวหนังสือพระไปท้าท่าน ท่านให้กำเหรียญท่านแช่ในน้ำกรดแท้ ยังไม่ละคายผิว นี้แหละ ของหลวงพ่อสุพจน์ขลังจริง ปีนี้ หลวงพ่อออกตะกรุดมี ดีเสริมเข้าไปเป็นตะกรุดตำรับเพชรคงของท่าน แต่ เสริมผ้าแดงอาถรรพ์ ผ้าแดงนี้ เป็นผ้าที่ หลวงพ่อลง ดาษ (กันเป็นเพดานในพิธีบวงสรวงปลุกเสกใหญ่) และลงกันดวงอาทิตย์กลางวันแสกๆ ปลุกเสกก่อน เป็นผ้าที่ลงในทาง ระงับดับความร้อน และ ระงับดับอาถรรพ์ (อาถรรพ์แก้ดวงของผู้ใช้ ดับความทุกข์ความเดือดร้อนได้ ) ด้านนอกเป็นแผ่นตะกั่ว ที่หล่อหลอมด้วย หัวลูกปืนด้าน ที่เอาไปลองยิงตะกรุดท่านเองแล้วไม่ออก ตามหลักหนามยอกเอาหนามบ่ง ผ้าแดงหุ้มตะกั่วถักเชือกลงรักปิดทองแท้ๆ ที่เข้มขลังและสวยงาม พุทธคุณของตะกรุดดอกนี้ เป็นตามแนวทางตะกรุดพุทธคงตะกรุดอุดปืนของหลวงพ่อ ป้องกัน แคล้วคลาด ระงับภัยทั้งทางบกทางน้ำ ทางอากาศ ใช้ตะกรุดนี้ หลบหลีกภัยได้ แล้วยังกันอาถรรพ์ จำพวกที่ เรามองไม่เห็น เช่น ดวงไม่ดี จับอะไรมีแต่เสียเงิน นอนผิดที่ ดีผิดถิ่น เจ้าที่ ผี บ้านผีเรือนสัมภเวสี หรือบางที ตรงนั้นมีอาถรรพ์ ทางสามแพรง พรานน้ำผีน้ำก็กันได้ เขาจะไม่มายุ่งกับเรา แต่ถ้า ตามตำราตะกรุดหลวงพ่อ ที่ว่า มีศัตรูหมู่มาร ท่านให้ เอาตะกรุดไว้หน้า ศัตรูตามหลังมา หรือ เดินทางเปรียว ทางมืด ท่านให้เอาตะกรุดไว้หลัง ถ้าจะให้เขารัก เขาหลงเมตตาเรา เอาตะกรุดไว้ซ้าย ถ้าไว้ขวา ค้าขายดี การค้าเจริญรุ่งเรือง เท่านี้ก็ดีล้นเหลือหลายแล้ว

นามของ "หลวงปู่ขุ้ย" แห่งวัดซับตะเคียน พระอริยสงฆ์ 5 แผ่นดิน อายุ 97 ปี ดังขึ้นในชั้นแนวหน้าของวงการพระเกจิอาจารย์เมืองไทยด้วยประสบการณ์ วัตถุมงคลของท่าน โดยเฉพาะ "ชานหมาก และ ตะกรุด" ที่ใครได้ใช้ต้องทึ่งในอภินิหารที่จะเกิดขึ้นเสมอไป ประมาณปลายปีที่แล้ว หลวงปู่ขุ้ยได้ร่วมกับคณะกรรมการวัดซับตะเคียน มี "พระอาจารย์ลอย" รองเจ้าอาวาสและเป็นพระเลขาฯ ของท่าน เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ทำเครื่องรางที่รวม 2 วัตถุมงคลขึ้นชื่อคือ ตะกรุดคลุกน้ำหมาก ซึ่งเป็นชานหมากที่หลวงปู่ได้เคี้ยวในพิธีต่างๆ หลายพิธี อาทิ ชานหมากในพิธีที่หลวงปู่ปลุกเสกพระ, ชานหมากในพิธีที่หลวงปู่ไล่ผีปราบมาร, ชานหมากในพิธีที่หลวงปู่รักษาโรค, ชานหมากในพิธีที่หลวงปู่ทำพิธีต่อชะตาให้ญาติโยม ชานหมากดังกล่าวได้เก็บมาถึง 9 ปี และถูกรวบรวมไว้ในกระปุกวางปลุกเสกในห้องหลวงปู่ขุ้ยมานาน ชานหมากนี้นำมาผสมกับว่านยาน้ำมันงา ชันโรงใต้ดินผงพุทธคุณต่างๆ เพื่อเตรียมรอไว้ จากนั้นหลวงปู่ขุ้ยได้ให้พระอาจารย์ลอยลงตะกรุดด้วยแผ่นตะกั่วไว้ 3 ขนาด ดอกเล็กลงคาถา "เงินล้าน" ดอกกลางลงคาถา "เทวดาเพชรหลีก" ดอกใหญ่ลงคาถา "นเรศวรปราบหงสา"

สำหรับตะกรุดดอกใหญ่ที่มีขนาดประมาณ 5 นิ้วลงจารพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ มีพลานุภาพตั้งแต่ครั้งโบราณ คือ "คาถาพระพุทธเจ้าชนะมาร" ตำนานกล่าวไว้ว่า เป็นคาถาโบราณที่สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว อาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ลงจารในแผ่นทองคำทำตะกรุดให้องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชของเราติดพระองค์ไปทำยุทธหัตถีที่มีชัยชนะเหนืออริราชศัตรู คาถาบทนี้ย่นย่ออิทธิบารมีขององค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ชนะผจญมารทั้งปวงได้ฉันใด เราก็ย่อมชนะอริราชศัตรูทั้งปวงที่มองเห็นหรือมองไม่เห็นได้ฉันนั้น

หลวงปู่ขุ้ยได้ลงบท "นเรศวรปราบหงสา" จากนั้นทำการม้วนตะกรุดผูกหัวใจอักขระเลขยันต์ให้แสดงผลกลมกลืนมีฤทธาในตนเอง แล้วถักเชือกลายเอกลักษณ์ของท่าน จากนั้นจึงนำน้ำชานหมากที่คลุกเคล้าว่านยา ชันโรงใต้ดิน ที่ปลุกเสกอย่างดียิ่งแล้วชุบที่ตัวตะกรุด ทำให้ตะกรุดนี้มีเอกลักษณ์คงทนและสวยงามจับตา เป็นตะกรุดที่มีเอกลักษณ์ตามตำรับของหลวงปู่โดยแท้ที่ยังไม่มีใครทำตามหรือลอกเลียนแบบ