พุธ 18 มี.ค. 2009 10:29 pm
“หัวใจพระวิภัตติ์” ตะกรุด 14 อักขระอันทรงฤทธิ์ของ หลวงพ่อสาลีโข พุทธอุทยานธรรมโกศล อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
โดย รณธรรม ธาราพันธุ์
ในเมื่อคิดจะเขียนถึงหลวงพ่อสาลีโข พระเถระผู้เชี่ยวเวทย์ โดยเฉพาะเรื่อง ตะกรุด ซึ่งเชื่อถือเป็นยิ่งในหมู่ศิษย์น้อยใหญ่ว่า ขลัง แท้ ไม่เป็นสองรองใคร ก็จำต้องเขียนให้ลึก เขียนให้แจ้งและเขียนให้จบ
- Lp.SalikoFull.to.blog.jpg (79.43 KiB) เปิดดู 10490 ครั้ง
เหตุเพราะตลอดชันษาวัย 65 ปีที่หลวงพ่อบวชมา ท่านบรรจงรังสรรค์ตะกรุดเยี่ยงโบราณาจารย์ได้เพียง 8 ชนิด แต่ละชนิดมีจำนวนสร้างที่จำกัดและเมื่อหมดวาระสร้างท่านก็จะไม่ซ้ำออกมาอีกเป็นคำรบ 2 เรียกว่าหมดแล้วหมดเลย
ด้วยการทำของที่ไม่นอกครูของหลวงพ่อ ด้วยการจาร ม้วน ถัก เสก ที่ละเอียดปราณีตถึงขีดสุด ส่งผลให้ตะกรุดทั้ง 8 ชนิดของท่านแสดงฤทธานุภาพผาดโผนน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะผู้ถือได้ขลัง ใช้ได้ขึ้น คือถือข้อห้ามของท่านได้ และสวดพระคาถากำกับตะกรุดแต่ละชนิดตามกาล
หากเป็นผู้ที่อยู่ในสถานะซึ่งเสี่ยงภัยต่าง ๆ แล้ว ยิ่งมีโอกาสประสบกับฤทธิ์อำนาจในตะกรุดของหลวงพ่อมากกว่าใคร
อยากบอกดัง ๆ ว่าท่านคือผู้สร้างขลังตัวจริงอีกรูปหนึ่งในโลกแห่งเครื่องมงคล ความวิเศษของหลวงพ่อไม่ขึ้นอยู่กับข่าวดังหรือแรงเชียร์ หากเป็นจิตที่จมดิ่งนิ่งลึกอยู่ในศาสตร์อันหาคนบรรลุได้ยาก ความพากเพียรฝึกฝนจนชำนาญในพระเวทย์ต่างหาก ที่นำเกียรติคุณของท่านให้ก้องไปในหมู่ผู้ศรัทธาวัตถุมงคล
ตะกรุดมหามงคลทั้ง 8 ชนิด ประกอบด้วย
1. ตะกรุดโทนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สร้างเมื่อวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2512 ตรงกับวันเสาร์ 5 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 สถาปนาขึ้นที่วัดสาลีโขภิตาราม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อยังมิได้ย้ายมาอยู่ที่พุทธอุทยานธรรมโกศล ตะกรุดชุดนี้ลงได้ยากเย็นเป็นที่สุด ถ้าจะให้คะแนนต้องยกเสมอด้วยตะกรุด มหาระงับ และ ตะกรุดมหาจักพัตราธิราช เชื่อเถิดว่าถ้าท่านเห็นพระยันต์ที่ลงตะกรุดซึ่งยังไม่ม้วนต้องขนลุก แม้จะลงยากและมากด้วยอักขระนับร้อย ๆ ตัวลายมือหลวงพ่อก็ยังสวยงามวิจิตรบรรจงนัก ประจักษ์ชัดว่าท่านสร้างอย่างศรัทธาและเทอดทูนในศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์นี้แท้จริง มิใช่ทำเพื่อซื้อขายอย่างที่หลายสำนักกำลังสนุกทำกันทุกวันนี้ แลด้วยความที่เป็นคนรู้จริง ทำได้จริง จึงปรากฏผลจริง
ตะกรุดสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสร้างชื่อหลวงพ่อสาลีโขให้กระฉ่อนไปในวงการไม่ต่างจาก
เหรียญขี่สิงห์รุ่นแรกของหลวงปู่เผือกเลยทีเดียว
2. ตะกรุดโทนมหาระงับ
สร้างเมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2523 สถาปนาขึ้นที่สำนักพุทธอุทยานธรรมโกศล ตะกรุดชุดนี้แหละที่ก่อประสบการณ์อัศจรรย์ในหมู่คณะผม และคนใกล้เคียงจนต้องยอมรับความเก่งของหลวงพ่ออย่างหมดใจ ทุกวันนี้กลายเป็นของหายากและมีราคาสูงจนน่าตกใจ
3. ตะกรุดมหาจักพัตราธิราช
สร้างในปี พ.ศ.2525 นับเป็นตะกรุดที่มีขั้นตอนในการสร้างที่ยุ่งยาก มากอุปกรณ์เป็นที่สุดเฉพาะตัวตะกรุดต้องใช้แผ่นทองแดงหนา 2 แผ่นลงอักขระวิเศษทั้งหน้าหลังรวมแล้ว 4 ด้าน ต้องตั้งมณฑลพิธีใหญ่โตมโหฬาร ดาดเพดานด้วยผ้าขาวบริสุทธิ์ แวดล้อมด้วยแผงราชวัติ ฉัตรเศวตมงคล ธงสามชาย พร้อมสายสิญจน์ที่ชักโยงขึ้นเป็นองค์ยันต์และอาราธนาพระเถระ 108 รูปเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมพระปริตรแลบทบูชานพเคราะห์ต่าง ๆ
นับเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ซับซ้อนยากแก่การสร้างโดยแท้ ถ้าไม่ใช่ใจรักและแตกฉานในวิชาของศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้คงไม่บังเกิดขึ้นในโลกเป็นแน่
4. ตะกรุดหัวใจอริยสัจจ์โสฬสมงคล
สร้างเมื่อปี พ.ศ.2525 พระคาถาอันเลิศในตะกรุดถูกเชิญมาจากพระเจดีย์ในประเทศอินเดียอันเป็นเจดีย์ที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างไว้ อาศัยพระเถราจารย์ในอดีตผู้ทรงคุณวิเศษนำคาถามาถอดเป็นรหัสยันต์ได้ 16 อักขระแล้วผูกเป็นยันต์ขึ้น บรรจุตัวเลขซึ่งแทนสรรพสิ่งอันศักดิ์สิทธิ์ในสากลจักรวาลลงไปโดยสูตรโสฬสและตรีนิสิงเห
อานุภาพของตะกรุดนี้ย่อมปัดเป่าอุปัทวันตราย ก่อเกิดลาภผล กันภูตผีปีศาจสารพัด กันไฟ กันฟ้าผ่า จึงนิยมผูกไว้ที่เสาเรือนเพื่อคุ้มภัย
5. ตะกรุดหัวใจบุรุษ 8 จำพวก
สร้างปี พ.ศ.2525 ด้านนอกเป็นตะกั่วลงพระยันต์แบบหนึ่งเรียกว่ายันต์ตัวผู้ ด้านในเป็นแผ่นทองแดงลงพระยันต์อีกแบบหนึ่งเรียกว่ายันต์ตัวเมีย จากนั้นม้วนเข้าด้วยกันและปลุกเสก ด้วยอานุภาพแห่งตะกรุดนี้แม้เอาไปฝังในพระพุทธรูปที่แตกทำลายก็จะมีคนทำนุบำรุงซ่อมแซม แม้นำ ไปฝังในวัดร้างย่อมมีมหาชนชักชวนกันมาฟื้นฟู ฝังไว้ในป่าจะเป็นบ้าน ฝังไว้ในบ้านคนจะมากขึ้น ฝังในร้านค้าลูกค้าจะคลาคล่ำ พกติดตัวบังเกิดเป็นมหานิยม เป็นที่รักแก่คนทั้งปวง มากด้วยลาภสักการะแล
6. ตะกรุดหัวใจพระวิภัตติ์
สร้างเมื่อปี พ.ศ.2525 ประกอบด้วยพระยันต์ 2 ด้าน หน้า-หลัง ด้านหนึ่งเป็นยันต์พระวิภัตติ์มีอักขระวิเศษ 14 ตัว ด้านหนึ่งเป็นยันต์มหาราชที่ทรงคุณทางเมตตาอย่างเอกอุ ตะกรุดนี้จึงเลิศล้ำในสารพัดทางเมตตามหาเสน่ห์ บูชาให้ดีจะเป็นที่รักแก่เทพยดาและมนุษย์ทั้งปวง ศัตรูทำอันตรายมิได้ พรั่งพร้อมด้วยโภคทรัพย์และสติปัญญา
7. ตะกรุดอรหัง สุคโต ภควา
สร้างเมื่อปี พ.ศ.2525 เป็นตะกรุดคู่ ดอกหนึ่งยาว ดอกหนึ่งสั้น ดอกยาวลงรักปิดทองทั้งดอก ดอกสั้นลงรักดำแต่เพียงอย่างเดียว ทว่าอักขระภายในเหมือนกันหมด พระคาถานี้ท่านพระครูธรรมโกศลหรือหลวงปู่เผือก ดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อสาลีโขเป็นผู้สอนให้สานุศิษย์ทั้งปวงใช้บริกรรมภาวนา พระคาถานี้นามว่า นวหรคุณ (นะวะหอระคุณ) ทรงอานุภาพอย่างที่เรียกว่า ครองสามแดนโลกธาตุด้วยอำนาจพระพุทธคุณ แม้ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ฆราวาสผู้เรืองเวทย์ก็ใช้ นวหรคุณ จารึกลงในเหรียญรุ่นแรกของท่านเช่นกัน
8. ตะกรุดมหาอริยมรรค
แหละนี่คือตะกรุดที่แปลกที่สุดนับแต่เคยเห็นมา นอกจากทำด้วยเงินบริสุทธิ์ทุกดอกแล้วครั้นหลวงพ่อจารเสร็จท่านกลับไม่ม้วนเป็นหลอดกลม หากพับเป็นสี่เหลี่ยมขนาดประมาณพระสมเด็จ ส่งผลให้เราเห็นลายมือในการลงอักขระของท่านอย่างชัดเจน หลวงพ่อปลุกเสกตะกรุดนี้มาประมาณ 5 ปีแล้ว ไม่ทราบเหมือนกันว่าทุกวันนี้เปิดให้บูชาแล้วหรือยังนี่คือมงคลทั้ง 8 ประการที่หลวงพ่อสาลีโขได้ทุ่มเทศักยภาพในองค์ท่านบรรจุไว้ ไม่นับพระเครื่องและผ้ายันต์ที่สวยงามเป็นสิบ ๆ รุ่น ในเมื่อตะกรุดเป็นเครื่องขลังที่บังเกิดโดยมือท่านก็ควรนับนิ้วแจงไปให้ครบจึงควร
วันนี้ขอเล่าถึง หัวใจพระวิภัตติ์
- เอ่อ ขออนุญาตนำรูปมาใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนนะฮับ
- 16.jpg (35.29 KiB) เปิดดู 10476 ครั้ง
ตะกรุดหัวใจพระวิภัตติ์เป็นตะกรุดขนาดกำลังดี ยาวเพียง 1.5 นิ้ว เมื่อหลวงพ่อลงพระยันต์เรียกสูตรสมบูรณ์แล้วก็ทำการม้วน จากนั้นจึงถักด้วย ด้ายถม ด้ายถมคือด้ายคลุกรักมาแล้วก่อนถักเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทนทานให้ตัวด้าย เรียบร้อยแล้วก็นำเครื่องยาอันวิเศษมาพอกลงบนตัวตะกรุด
เครื่องยานั้นประกอบด้วย ผงปถมัง ผงมหาราช ใบไม้รู้นอน 7 สิ่ง คือ ใบชุมแสง ใบสมีใบระงับ ใบหิงหาย ใบผักกระเฉด ใบหญ้าใต้ใบ และใบกระถิน นำมาสุมให้เป็นถ่านแล้วบดเป็นผงประสมกับไม้งิ้วดำ ผงใบลานจารอักขระเก่าแก่ของวัดสาลีโขภิตาราม ผงพระประธานองค์เก่าในโบสถ์วัดสาลีโขฯ
ว่านวิเศษที่เลี้ยงไว้เพื่อทำวัตถุมงคลโดยเฉพาะ ซึ่งจะรดด้วยน้ำพระพุทธมนต์เท่านั้น ก่อนนำมาใช้จะทำการพลีบวงสรวงทุกครั้งไป จึงปรากฏอภินิหารในพระผงผสมว่านของหลวงพ่อเสมอ ๆ ว่านที่นำมาพอกตะกรุดคือ ว่านมหาจักรพรรดิ ว่านพญาว่าน จ่าว่าน ว่านมหาปราบ ว่านมเหศวร ว่านมหาระงับ ว่านพญาหอกหัก ว่านสามพันตึง ว่านชมพูหนังแห้ง ว่านเพชรน้อย และว่านเพชรใหญ่
ผงมูลกัจจายน์ ผงตรีนิสิงเห ไคลเสมา เกษรศรีมหาโพธิ์ ชันโรงใต้ดิน ดินสอกำบัง รังหมาล่า ใบไมยราพ ดอกรักซ้อน ผงมหาฤาษีจากในถ้ำ
นำเครื่องยาดังกล่าวมาคุลีการด้วยรักแล้วประสมเครื่องหอมทั้ง 9 คือ เสน่ห์จันทน์แดง เสน่ห์จันทน์ขาว กฤษณา กลำพัก ขอนดอก ชะมด พิมเสน อำพันทอง และน้ำมันหอม
เมื่อคลุกเคล้าจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวแล้ว นำผงยานั้นพอกลงบนตัวตะกรุดและเพื่อให้เกาะติดทนนานจึงนำรักมาทาทับ แห้งดีแล้วก็อธิษฐานจิตปิดทองสมโภช จึงประกอบพิธีพุทธาภิเษก ทั้งยังได้รับการเสกเดี่ยวจากหลวงพ่อสาลีโขทุกวัน
เคยเห็นการทำตะกรุดแบบนี้ไหม?
ทุกวันนี้การแข่งค้าพาณิชย์รุกเข้าไปแม้ในวัด พระสงฆ์องค์เจ้าเร่งสร้างวัตถุมงคลสนองตอบความต้องการของตลาด จึงพลาดเรื่องมวลสาร กระบวนการพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ และความถูกแท้ตามตำรับเดิมไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งในส่วนของหลวงพ่อสาลีโขนั้นท่านไม่ยอมนอกครูฉีกตำราแม้แต่นิดเดียว
เน้นที่ถูกต้องมิใช่ถูกใจ
จำได้ว่าเคยเขียนเรื่องตะกรุดมหาระงับของท่านไปแล้วครั้งหนึ่ง กราบเรียนตรงนี้เลยว่าตะกรุดของหลวงพ่อนับแต่ปี พ.ศ.2512 เป็นต้นมา ถ้าเป็นตะกรุดถักเชือกย่อมใช้เครื่องยาพอกเป็นสูตรเดียวกันทั้งสิ้น เว้นแต่ตะกรุดที่ไม่ถักเชือกก็คงเนื้อเดิมของโลหะไว้ เช่น ตะกรุดมหาบุรุษ 8 จำพวก เป็นต้น
ราวปี พ.ศ.2528 โยมบิดาของหลวงพ่อถึงแก่มรณกรรม ได้นำศพมาบำเพ็ญกุศล ณ พุทธอุทยานธรรมโกศล การนี้คณะศิษยานุศิษย์ได้มาอยู่ช่วยงานเป็นจำนวนมาก มีการตั้งข้าวกระทะ แกงหม้อเลี้ยงแขกกันอย่างครึกโครมดุจงานมหกรรม
ด้วยความที่มีคนมากนั่นเองย่อมเป็นเหตุให้มีเรื่องกระทบกระทั่งจนได้ แม้ชื่อว่าศิษย์อาจารย์เดียวกัน แต่พอโทสะมันขึ้นเรื่องเหตุและผลก็หลบหายไป คณะศิษย์เล็ก ๆ สองฝ่ายจึงรำมีดและหมัดเข้าใส่กัน
แม่ครัวหัวป่าก์ต้องแตกฮือเพราะเวทีคือบริเวณครัวที่อุดมด้วยมีด พร้า กระท้า ขวาน และเตาอั้งโล่ใบใหญ่นับสิบลูก กว่าจะห้ามปรามได้ก็นานโข เมื่อสำรวจความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน ผลคือถ้วยชามแตกหักแต่ไม่มีใครเสียเลือดสักหยด ไม่มีแผลกันสักนิด ไม่มีเลือดและไม่มีบาดแผลน่ะไม่แปลก
ถ้ามีสิแปลก
รู้กันว่าศิษย์ของหลวงพ่อสาลีโขนั้นเหนียวขนาดไหน ไม่ต้องสักไม่ต้องพกเครื่องขลังอะไรดอก เพียงหลวงพ่อลง มหานิยม ให้ ยังส่งผลครอบไปถึงคงกระพันอย่างอัศจรรย์ ทั้งที่ท่านก็ยืนยันว่าท่านกำลังลง มหานิยม
งานศพโยมบิดาท่านจัดขึ้นเป็นเวลา 7 วัน มาถึงวันที่ 4 ของงานคณะศิษย์ก็ตั้งเวทีมวยเสียแล้ว เดชะบุญว่าเรื่องไม่บานปลายคนครัวจึงกลับมาก่อไฟทำกับข้าวได้อีกจนเสร็จงาน
ชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มนักมวยในวันเกิดเหตุเดินหาของที่หายออกจากตัวอยู่เป็นนาน สอบถามได้ความว่า ตะกรุดหัวใจพระวิภัตติ์ ดอกน้อยได้หล่นหายไปตอนตีกัน แม่ครัวก็กุลีกุจอช่วยกันหารอบ ๆ บริเวณที่เกิดเหตุ ก็ยังไม่พบ หาจนอ่อนใจจึงเลิกรา
ครั้นงานโยมบิดาเสร็จสิ้นลง คนครัวทั้งหลายก็วางมือและเก็บอุปกรณ์ ขณะเก็บเตาไฟใบใหญ่ ได้พบวัตถุชิ้นเล็ก ๆ หมกอยู่ในกองเถ้าถ่าน พอปัดเช็ดให้เห็นชัด ทุกคนก็จำได้ทันทีว่านั่นคือ
ตะกรุดหัวใจพระวิภัตติ์
ตะกรุดของชายคนนั้นที่หล่นหาย บังเอิญไปตกในเตาไฟ เตาซึ่งตั้งกระทะใบบัวหุงข้าวเลี้ยงคนตลอด 3 วันที่ตะกรุดดอกน้อยได้ตกลงไป
ทำไมไม่ไหม้ไฟ…? ทำไมไม่เสียหาย…? ทั้งที่ตัวตะกรุดถักด้วยด้ายเส้นเล็ก ๆ ด้ายนั้นน่าจะเผาไหม้เป็นจุณวิจุณไปด้วยแรงไฟสุม กลับไม่มีร่องรอยความเสียหายอะไรเลย เพียงสกปรกจากขี้เถ้าเขม่าไฟแค่นั้น
นี่คือจิตตานุภาพของหลวงพ่อสาลีโข และอำนาจอันวิเศษในตะกรุดหัวใจพระวิภัตติ์ ตะกรุดที่หลวงพ่อยืนยันว่าเด่นทางเมตตามหานิยมอย่างเอกอุ ยังปรากฏอิทธิคุณกันไฟหยุดร้อนได้ขนาดนี้ ถ้าเป็น ตะกรุดมหาระงับ หรือ อริยสัจจ์โสฬสมงคล ซึ่งออกแบบมาเพื่อรับมือกับพระเพลิงและปืนไฟโดยเฉพาะ คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณทีเดียว
แม้ท่านมีโอกาสเก็บเครื่องขลังทั้งหลาย จงขวนขวายเก็บของดี ๆ อย่างนี้เถิด.