Switch to full style
มาร่วมสนทนากันในหมู่สมาชิก แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ท่านประสบมาได้ที่นี่ครับ
ตอบกระทู้

อันเนื่องมาจากกระทู้ "เรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อจ้อย"

เสาร์ 04 เม.ย. 2009 12:29 am

เมื่อ เมษายน 3, 2009 10:55 หลังเที่ยง, พรพัฒน์ นิยมค้าสำเภาเงิน <poopornpat@gmail.com> เขียนว่า:

สวัสดี เจ้า อ.ต่อ ขา

คือ ปูเข้าไปอ่านในนวรัตน์ เกี่ยวกับหลวงปู่จ้อย
สนใจ และ สงสัยเรื่องถวายอาหารพระพุทธ
ทุกวัน หรือวันเกิด (จ.- อา)

อธิบายให้ฟังหน่อยเจ้า และถ้าเราใส่บาตรแทนกันได้หรือไม่ อย่างไรคะ
โปรดเมตตาอธิบายด้วย ขอบคุณจ๊าดนักๆเจ้า

ด้วยความเคารพรักเสมอ
ปูเปี้ยว

อ้อ ! วันอาทิตย์ที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๒ ไปวัดป่าหมู่ใหม่เจ้า
ขณะนี้มีผู้ร่วมบุญผ่านทางคุณบิ๊ก แม่ปุ่ม อาณี โกลิต แม่ยายบิ๊ก
จึงเรียนมาเพื่อทราบเจ้า



สวัสดีอุบาสิกาปู

การถวายข้าวพระพุทธของหลวงพ่อจ้อยก็คือการถวายข้าวพระพุทธจ้ะ จะไปทดแทนด้วยการถวายสงฆ์โดยการตักบาตรหรือถวายสังฆทานหาได้ไม่ เพราะหลวงพ่อท่านต้องการให้เราระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นการเฉพาะจ้ะ เรียกว่าท่านต้องการให้เกิด "พุทธานุสติ" กับจิตของผู้ประกอบพิธีกรรมอันนี้โดยไม่ข้องแวะกับสิ่้งใด

หลวงพ่อท่านว่าส่วนใหญ่คนมักคิดถึงพระสงฆ์ที่ตนเคารพนับถือโดยลืมไปว่าแท้จริงแล้วพระสงฆ์เหล่านั้นเกิดจากใคร ใครเป็นองค์ดั้งเดิม เป็นสงฆ์องค์แรกในโลก เป็นผู้วางรากฐานแนวทางอันบริสุทธิ์ถูกถ้วนดีแล้วนั้นไว้ให้ นานไป นานไป ชาวพุทธกลับลืมคุณของพระพุทธเจ้าผู้เป็นองค์บรมครู แต่กลับไปติดยึดกับครูบาอาจารย์รูปต่าง ๆ ที่ถูกใจตน ถ้าทำถูกใจพอใจ ก็พากันไปกราบไหว้ทำบุญ ถ้าทำไม่ถูกใจไม่ตามใจตน ตนก็เลิกไม่ไปทำบุญ วิ่งหาองค์ใหม่รูปใหม่ต่อไป

ส่วนพระพุทธเจ้า พวกเราลืมท่านสนิท

หากเราไปกราบพระพุทธรูปตามวัดต่าง ๆ เราก็มิได้ระลึกถึงพระมหาคุณของพระพุทธเจ้าโดยบริสุทธิ์ใจ แต่เรายังติดไปอีกว่าเราไปกราบพระพุทธสิหิงค์ หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดเขาตะเครา หลวงพ่อปากแดง ฯลฯ ไปขอความสำเร็จบ้าง ขอหวยบ้าง ขอให้รักษาโรคบ้าง โดยที่ไม่ได้นึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าทั้งสามประการอย่างจริงใจเลย

ดังนั้น การถวายข้าวพระพุทธของหลวงพ่อจ้อย จึงเป็นกุสโลบายให้เราคิดรำลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าอย่างบริสุทธิ์ใจ แล้วทำการตอบแทนพระพุทธเจ้าอย่างบริสุทธิ์ใจเช่นกันด้วยการถวายภัตตาหาร

ต่อข้อถามที่ว่า แล้วถ้าเราจะสำนึกบุญคุณของพระพุทธเจ้าแล้วปฏิบัติธรรมถวายซึ่งเป็น "ปฏิบัติบูชา" จะไม่ดีไปกว่าการถวายข้าวซึ่งเป็น "อามิสบูชา" ดอกหรือ ? ก็ตอบได้ทันทีว่าต้องดีกว่าแน่นอน

แต่เอาเข้าจริงแล้วเราทำหรือเปล่าล่ะ ?

หลวงพ่อจ้อยเป็นพระลูกทุ่ง คนที่มาหาท่านแต่ไหนแต่ไรก็เป็นชาวบ้าน ชาวป่า ธรรมดา ๆ ไม่ใช่ลูกคุณหนูคุณนายที่ไหน คนหาเช้ากินค่ำเช่นนั้นหากไปพูดถึงการตอบแทนพระพุทธเจ้าด้วยการไหว้พระสวดมนต์ แล้วต่อด้วยการนั่งสมาธิถวาย 1 ชั่วโมง คิดหรือว่าพวกเขาจะทำได้

อย่าว่าแต่พวกเขาเลย...

ฉะนั้น หนทางเดียวที่จะทำการ "ผูกจิต" ของปุถุชนไว้กับ "พุทธานุสติ" ได้อย่างสม่ำเสมอก็คือการให้ถวายข้าวพระพุทธในวันเกิดของตัว เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูเบื้องต้น และเมื่อทำไป...ทำไป...จนจิตเสพคุ้นกับการถวายข้าวซึ่งเป็น "อามิสบูชา" อยู่ประจำ ไม่ช้าพอสติปัญญาเกิด มีความเข้าใจ จิตจะปฏิวัติตัวเองให้สูงขึ้นไปสู่การ "ปฏิบัติบูชา" ซึ่งเป็นการบูชาที่สูงสุด

แต่สำหรับท่านที่มองเห็นว่าการถวายข้าวพระพุทธเป็นเรื่องล่าง ๆ ส่วนการนั่งภาวนาถวายเป็นเรื่องบน ๆ จะไม่ถวายข้าวพระพุทธก็ไม่แปลก แต่เรื่องการนั่งเป็นประจำนั้น

หวังว่าคงไม่ขาดตกบกพร่องก็แล้วกัน

ประเด็นต่อมาที่ว่า การใส่บาตรพระสงฆ์จะเหมือนกันไหม จะแทนกันได้ไหม ? ก็คงแทนกันไม่ได้ดังที่เรียนให้ทราบแล้ว เพราะวัตถุประสงค์นั้นต่างกันเห็น ๆ แต่พอมีหนทางให้ใกล้เคียงกันได้ตามคำแนะนำของหลวงปู่ดู่ คือ ก่อนออกไปตักบาตรนั้น ให้ตั้งภัตตาหารไว้ตรงหน้าเรา แล้วทำจิตให้สงบ น้อมนึกว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่เบื้องหน้า แล้วเราก็คลานเข้าไปยกถาดภัตตาหารน้อมถวายพระพุทธองค์เป็นพุทธบูชา เป็นองค์แรก เป็นปฐม หากทำได้ดังนี้ย่อมมีอานิสงส์มาก ได้บุญมากมหาศาลอย่างที่คาดไม่ถึงทีเดียว ส่วนพระที่บิณบาตมารับภัตตาหารนั้นก็เป็นเพียงผู้อปโลกน์ไป ถ้าท่านปฏิบัติดีจริงท่านก็ได้บุญมาก แต่ถ้าท่านไม่ดีจริงท่านก็ไปนรก ซึ่งเป็นเรื่องของท่าน ไม่ใช่เรื่องของเรา

เพราะฉะนั้น ข้อสรุปง่าย ๆ ก็คือ หากมีความพอใจจะถวายข้าวพระพุทธก็ถวายไปเถิดในวันเกิดประจำอาทิตย์ของเรา แต่ถ้าเราไม่สะดวก มุ่งเอาที่ปฏิบัติบูชาเห็นจะเหมาะกว่าก็ให้ตั้งหน้าทำอย่างจริง ๆ จัง ๆ ก็จะเป็นมหามงคล เป็นมหาอานิสงส์ แก่เราเองอย่างไม่ต้องสงสัย

หวังว่าจะเข้าใจในสิ่งที่ตอบมานะจ๊ะ
ต่อ

Re: อันเนื่องมาจากกระทู้ "เรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อจ้อย"

เสาร์ 04 เม.ย. 2009 1:57 am

ได้ความรู้ด้วยคนครับ ขอบคุณครับอาจารย์ผุ้หน้าตาดี 8-)

Re: อันเนื่องมาจากกระทู้ "เรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อจ้อย"

เสาร์ 04 เม.ย. 2009 2:07 am

ผมรู้ดีว่าคุณnongmaiเป็นผู้รักษาศีล





ผมเชื่อคุณครับ :shhy:

Re: อันเนื่องมาจากกระทู้ "เรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อจ้อย"

เสาร์ 04 เม.ย. 2009 2:12 am

รางวัลหล่ะครับ รางวัลหล่ะครับ รางวัลหล่ะครับ
ผมเผยแพร่ให้ชาวบ้านรู้ด้วยนะเนี่ย :lol: :lol: :lol:

Re: อันเนื่องมาจากกระทู้ "เรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อจ้อย"

เสาร์ 04 เม.ย. 2009 2:15 am

อุ๊ย นึกว่าเป็นคนดี ที่ไหนได้ ชมหวังผล


รับม่ายด้าย :ydie:

Re: อันเนื่องมาจากกระทู้ "เรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อจ้อย"

เสาร์ 04 เม.ย. 2009 12:49 pm

ชัดเจนแจ่มแจ้ง ขอบพระคุณมากครับ :lcky:

Re: อันเนื่องมาจากกระทู้ "เรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อจ้อย"

เสาร์ 04 เม.ย. 2009 6:00 pm

ขอบคุณคับพี่ต่อ

Re: อันเนื่องมาจากกระทู้ "เรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อจ้อย"

เสาร์ 04 เม.ย. 2009 6:03 pm

ด้วยความยินดีครับผม

Re: อันเนื่องมาจากกระทู้ "เรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อจ้อย"

เสาร์ 04 เม.ย. 2009 11:11 pm

วันนั้นหลวงพ่อจ้อยบอกว่า"ให้นำไปทำ แล้วจะเกิดแต่สิ่งดีดี"ผมรีบจดจำไว้แล้วนำไปปฏิบัติ แต่ถ้าวันนั้นท่านบอกให้ผมตักบาตรกับพระภิกษูสงฆ์ในวันที่เกิดด้วยนี่สิ :agy: ผมคงต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินการนอนใหม่แล้ว
:hpy:
ตอบกระทู้