เรียนถามอาจารย์รณธรรมเรื่องเครื่องรางพญานาคาธิบดีครับ

จิ้งจก · **โพสต์แล้ว:** เสาร์ 04 ต.ค. 2008 12:30 pm

ขอเรียนถามเรื่องเครื่องรางพญานาคาธิบดีครับ โดยขอเรียนถามเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ
1. ผู้สร้างคือ คุณอำพล เจน เท่านั้นหรือมีผู้อื่นร่วมสร้าง
2. ผู้สร้างพญานาคาธิบดีนอกจากคุณอำพล เจนแล้วยังมีผู้อื่นสร้างอีกหรือไม่ ผมเห็นมีของวัดถ้ำแฝด
3. ตอนนี้สร้างออกมาทั้งหมด 3 รุ่น รุ่น 1 และ 2 ออกมาแล้วและรุ่น 3 กำลังจะออกมาใช่หรือไม่
4. อยากทราบว่า ในรุ่น 1 มีเนื้อกี่แบบและความแตกต่างของแต่ละเนื้อ (ผมเห็นเฉพาะในเว็บนี้เรามีอยู่ 2 เนื้อคือ สีดำล้วนไม่มีเพ้นท์ กับสีน้ำตาลมีเพ้นท์ หรือเป็นสีดำเพ้นท์เพราะดูสีในจอแล้วไม่ชัวร์ ไม่เคยเห็นของจริงครับ)
5. อยากทราบว่า ในรุ่น 2 มีเนื้อกี่แบบและความแตกต่างของแต่ละเนื้อ (ทราบมาว่ามีเนื้อสีน้ำตาล กับเนื้อสีดำ)
6. รุ่น 3 ตามที่มีผู้ให้ข้อมูลคือ (อันนี้คงไม่ต้องตอบครับ รอไปบูชากันให้ได้เท่านั้น อิอิอิ แค่ได้แบบธรรมดาผมก็โอ แล้วล่ะ เนอะ ชีวิตจะหวังอะไรกันมากล่ะ)
6.1 แบบที่ฝังปฐวีธาตุ ประมาณ 25 องค์
6.2 แบบที่ฝัง พระบัวพ้นน้ำและปฐวีธาตุ ประมาณ 40 องค์ ซึ่งพระบัวพ้นน้ำนี้เป็นพระรูปหยดน้ำองค์จิ๋ว ได้รับการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่คำพัน มนต์จากหลวงพ่อเกษม และผ่านการอธิษฐานจิตจากครูบาอาจารย์รูปอื่นๆ อาทิเช่น หลวงปู่ชอบ หลวงปู่สิม หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่คำพอง เป็นต้น
6.3 แบบฝังทรายเสกของหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม ประมาณอีก 900 องค์

คำถามผมมากไปเปล่าเนี่ย เพราะที่ผมถามนี้เนื่องจากว่า ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยมีข้อมูล หรือว่า ได้เคยติดตามครูบาอาจารย์ทางสายอีสาน หรือว่า หลวงปู่คำพันธ์ ฯลฯ มาเลย พูดง่ายๆ เลยว่า Blank สนิท พอมาวันหนึ่งผมเกิดสนใจขึ้นมาเลยมีคำถามมากมายเลยครับ อย่างไรก็อย่าเบื่อผมก่อนนะครับ รบกวนอาจารย์รณธรรมด้วยครับผม ขอขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้เลยครับ

จิ้งจก · **โพสต์แล้ว:** พฤหัสฯ. 09 ต.ค. 2008 10:42 am

รบกวนอาจารย์รณธรรมไขข้อข้องใจหน่อยครับ ในความขี้สงสัยจุกจิกของผมครับ แล้วถ้าอาจารย์รณธรรมจะแถมประวัติความเป็นมาของการสร้างตั้งแต่รุ่น 1-3 ด้วยจะเป็นพระคุณยิ่งครับ (ขอมากไปเป่าเนี่ยเรา :oops:

)

อู๊ด อู๊ด · **โพสต์แล้ว:** พฤหัสฯ. 09 ต.ค. 2008 12:12 pm

งานเข้า อ.รณธรรมอีกแล้วครับ แต่ อู๊ดเองก็อยากรู้คำตอบเหมียนกัลครับ :mrgreen:

รณธรรม ธาราพันธุ์ · **โพสต์แล้ว:** ศุกร์ 10 ต.ค. 2008 5:43 am

เรียนคุณจิ้งจกและทุกท่าน

ขออนุญาตตอบคำถามเป็นข้อ ๆ ดังที่ถามมานั้นสะดวกดีมากครับ

1. ผู้สร้างคือคุณอำพล เจน เท่านั้นหรือมีผู้อื่นร่วมสร้าง ?

ตอบ ผู้สร้างถ้าหมายถึง "ช่าง" ที่ช่วยกันผสมเนื้อและกดพิมพ์มีด้วยกันสามคนครับ รวมทั้งคุณอำพลด้วย แต่ถ้าหมายถึง "บุคคล" ที่เข้ามาร่วมงานกัน ก็จะมีเพียง อาจารย์เวทย์ โทประสิทธิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดแก่งตอย ศิษย์ในหลวงปู่คำพัน โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม

อาจารย์เวทย์เป็นคนที่มีความ "แปลก" ประหลาดอยู่ในตัวมาแต่เยาว์วัย บวชเณรตั้งแต่เล็กแต่น้อย และยังสามารถแสดงอภินิหารบางประการได้อย่างน่าตื่นใจตั้งแต่เด็ก ก็ขนาดที่ว่าหลวงปู่คำพันเคย "ถูกของ" (เป็นวิบากกรรมของท่าน) ก็ได้อาศัยสามเณรเวทย์นี่แหละ "รักษา" ให้จนหายขาดได้อย่างน่าอัศจรรรย์ ท่านจึงรักศิษย์คนโปรดคนนี้มาก

หลวงปู่คำพันเคย "พิจารณา" ดูอาจารย์เวทย์แล้ว ท่านบอกว่าอาจารย์เวทย์เป็นลูกพญานาคมาเกิด และไม่ใช่นาคองค์ธรรมดา ๆ แต่เป็นนาคระดับกษัตริย์ที่ปกครองหมู่นาคด้วยกัน

หลวงปู่คำพันก็เช่นกัน

ทั้งสองท่านเป็นลูกพญานาคในลำน้ำโขงมาเกิดเพื่อสร้างบารมีต่อ และสงเคราะห์ผู้คนที่ทุกข์ยาก ดังนั้น ท่านทั้งสองจึงมีอำนาจจิตและพลังพิเศษบางอย่างติดตัวมาแต่เกิด โดยเฉพาะหลวงปู่คำพันนั้นเป็นผู้ที่นาคขึ้นมาหา มาพบ บ่อยครั้งมากจนศิษย์กลัวกันหัวหด และบางคนที่ใจแข็งก็กลายเป็นเคยชินไปเลย ปีไหนไม่เห็นงูใหญ่เท่าต้นหมาก ต้นตาล ปีนั้นคล้าย ๆ จะนอนไม่หลับ

สำหรับอาจารย์เวทย์นั้น เรื่องการติดต่อกับนาคหรือแม้เรื่องนาคขึ้นมาติดต่อก็ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำไปเสียแล้ว เพราะไม่ว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญใด ๆ เกิดขึ้น นาคองค์สำคัญ ๆ ก็จะมาหาและบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นก่อนที่เรื่องจะเกิด ภายหลังไม่นานนักเรื่องนั้น ๆ ก็เกิดขึ้นมาจริง ทำให้พิสูจน์ชัดว่าอาจารย์เวทย์ไม่ได้ฝันไม่ได้เพ้อไป

ครูอำพล เจน เองก็ได้พบพานเรื่องราวประหลาดเวลาไปประกอบพิธีกรรมกับอาจารย์เวทย์อยู่เสมอ ๆ ทำให้ครูมีความเชื่อในตัวอาจารย์เวทย์อยู่ไม่ใช่น้อย เช่น เมื่อครั้งไปบวงสรวงตอนสร้างพญานาคาธิบดีรุ่นที่ 1 นั้น ในสถานที่แห่งหนึ่งในหลายแห่งที่ไปกันเป็นบึงน้ำใหญ่ ต้องประกอบพิธีตอนดึกดื่น โดยอาจารย์ลงเรือพายไปกับศิษย์สองคนครูอำพลกับหมู่พวกยืนรออยู่บนตลิ่ง

อาจารย์เวทย์นำไข่ไก่ดิบลงเรือไปหลายร้อยฟอง ล่องเรือออกไปจนอยู่กลางบึงเห็นเพียงแสงตะเกียงริบหรี่จากเรือลำน้อย เมื่ออาจารย์เวทย์หยิบไข่ดิบขึ้นมาพนมอธิษฐานอะไรบางอย่างแล้วปาไข่ออกไปสุดแรงมือ ก็เกิดเสียงตูมตามขึ้นในน้ำแลเห็นน้ำแหวกเป็นช่องเหมือนมี "ตัวอะไร" บางอย่างในน้ำที่มีขนาดใหญ่มากพุ่งทะยานไปฮุบไข่ดิบดังสนั่น

และเมื่ออาจารย์หันไปปาอีกทางหนึ่ง "อะไร" ในน้ำนั่นก็พุ่งไปฮุบดังโผงได้อย่างรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อสายตา เพราะสิ่งที่อยู่ในน้ำต่อให้ใหญ่เพียงไหนก็ไม่น่าทะยานจากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่งได้เร็วปานนั้น จะว่ามีหลาย "อะไร" ก็ไม่ใช่ เพราะหากมีด้วยกันมากก็ไม่น่าต้องพุ่งไปทางโน้นทีทางนี้ทีด้วยว่าอาจารย์เวทย์มิได้ปาไข่ไปในทิศทางเดียวกันเลยแม้สักครั้ง

ด้วยความที่ "อะไร" แหวกน้ำไปอย่างรวดเร็วราวพายุทำให้เกิดคลื่นลูกน้อยลูกใหญ่หอบเรือพายลำเล็กโยกโคลงเกือบจะพลิกคว่ำอยู่หลายคราว เป็นเหตุให้คนบนฝั่งไม่เว้นแม้คนใจเด็ดใจเพชรอย่างครูอำพลต้องเสียวสันหลังใจหายใจคว่ำก่อนที่เรือจะคว่ำซ้ำไป

ครูบอกว่า "ต่อเอ๋ย ให้ข้อยลงไปอยู่ในเรือนั้นด้วยก็ต้องขี้แตกขี้แตนไปแล้ว มันน่ากลัวยิ่งกว่าในหนังดีวีดีเสียอีกเพราะนี่มันคือเรื่องจริง เราคิดแต่ว่าถ้าเรือมันล่มลงไปล่ะก็ ไอ้ตัวที่อยู่ในน้ำมันอาจเปลี่ยนใจจากงับไข่มางับคน..."

นี่คือคำรำพันจากคนเหล็กเมืองอุบล

ผมถามครูอำพลว่า แล้วพี่เป็ดคิดว่าในน้ำนั้นเป็นตัวอะไร ?

ครูบอกว่าไม่อยากพูดแบบสรุปชัด เพราะเราเองก็เห็นไม่ถนัดเนื่องจากมันมืดมากและสิ่งนั้นก็อยู่ในน้ำยากแก่การโฟกัสภาพ หากสรุปไปตาม "ความเชื่อ" ก็เกรงคนที่ไม่พร้อมจะเชื่อตำหนิเอาได้อีก จึงขอเก็บไว้ในใจดีกว่า แต่เชื่อไหมว่า เราสองคนคุยกันถึงตรงนี้ก็เข้าใจกันโดยมิพักต้องถามอาจารย์เวทย์แม้สักครึ่งคำ

ว่า... "อะไร" เป็น "อะไร"

แม้เมื่อไปบวงสรวงที่เมืองเก่าหนองคาย ตั้งโต๊ะบวงสรวงใหญ่ยักษ์อลังการชาวบ้านมามุงกันมากมายนับร้อยนับพัน ก็เกิดปรากฏการณ์อัศจรรย์มีลมพายุพัดขึ้นมาจากแม่น้ำโขงหอบเอาเครื่องสังเวยและเต๊นท์ปลิวกระเด็นกระดอน ต้องมาจัดพิธีใหม่อีกครั้งภายหลังในตอนค่ำ อาจารย์เวทย์บอกว่า เขาไม่อยากให้ทำในฤกษ์นี้

พอประกอบพิธีตอนค่ำซึ่งมีแสงจันทร์สว่างกระจ่างฟ้าด้วยเป็นคืนเพ็ญ ก็บังเกิดอัศจรรย์มีเมฆกลุ่มมหึมามหากาฬลอยมาแต่ทิศใดไม่ปรากฏแผ่ตัวปกคลุมอยู่เหนือมณฑลพิธี ครูอำพลย้ำว่าไม่ได้ตาฝาด คนนับร้อยก็ได้เห็นว่ามีหมู่เมฆเคลื่อนมาเต็มท้องฟ้าดูดำทะมึนไปหมด

แต่ที่เป็นมหัศจรรย์ยิ่งนักคือเมฆทั้งหมดพากันเปิดช่องตรงกลางออกเพื่อล้อมพระจันทร์วันเพ็ญที่กำลังทอแสงแข่งรัศมีกับหมู่ดาวอย่างเต็มกำลังนั้นได้ดุจดังมีคนบังคับ

ดูราวกับดอกทานตะวันขนาดยักษ์ที่เบ่งบานรับแสงตะวันเต็มที่ น่าขนลุกขนพองเป็นที่สุด

หากครูอำพลเปรียบเทียบว่า "ต่อเคยเห็นโดนัทไหม นั่นแหละ แบบนั้นเลย แต่นี่เป็นโดนัทที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตที่เคยเห็นมา เป็นโดนัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งสวยงาม ทั้งน่าอัศจรรย์"

ครั้นบวงสรวงจนเสร็จพิธีก็ถึงขั้นตอนลอยกระทงใบตองขนาดใหญ่ยักษ์ ซึ่งชาวบ้านทำไว้อย่างวิจิตรพิสดาร เมื่อนำกระทงยักษ์สามใบลงลอยในแม่น้ำโขงเป็นการบูชาพญานาค สองใบที่เป็นกระทงธรรมดาก็ลอยละลิ่วไปลิบ ๆ ทว่าใบพิเศษที่ใช้ใบตองสอดประสานด้วยฝีมือช่างชาวอีสานเป็นรูปพญานาคแผ่พังพานอย่างสวยงามนั้น เมื่อลอยไปไกลเป็นหลายร้อยเมตรแล้วก็กลับแสดงอภินิหารในบัดดล...

คือลอยทวนน้ำกลับขึ้นมา

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ขนลุกซู่ชูชันตะลึงงันกับภาพที่เห็นอย่างไม่มีวันจะลืมได้ เพราะแม่น้ำโขงนั้นไหลเชี่ยวแค่ไหนใครก็รู้ วัสดุสิ่งไร ๆ เมื่อลอยลงไปแล้วก็รับรองว่าต้องละลิ่วไปไม่มีย้อนคืน แต่นี่กลับทวนน้ำเอา ทวนน้ำเอา และที่สำคัญ....

ลอยตรงรี่เข้ามาหยุดตรงที่เก่าที่ปล่อยออกไป

ทำเอาทุกคนมองตากันเลิ่กลั่ก สุดท้ายก็ต้องหาคนใจกล้าเอาไม้ไปดันออกไป จนกระทั่งห่างจากฝั่งแล้วก็มุ่งตามน้ำ แต่ไม่นานนัก...

ก็ย้อนกลับมาอีก
เป็นที่น่าตื่นตายิ่ง !!

สุดท้ายแว่วว่าชาวประชาพากันเก็บขึ้นมาแล้วแจกแบ่งชิ้นส่วนไปบูชาสักการะกันเสียด้วยเห็นเป็น "ปาฏิหาริย์" อันเกิดจากท่านผู้อยู่ในแม่น้ำโขงแน่นอน

ปรากฏการณ์นี้กระมัง...ที่เป็นเหตุให้เกิดพญานาคาธิบดีขึ้นมาถึง 3 รุ่น
เป็นกำลังใจสำคัญอันหนึ่งกระมัง...ที่ทำให้ครูอำพลเชื่อมั่นแน่นแฟ้นว่า "พญานาค" มีอยู่จริง

ฉะนั้น ท่านใดที่ครอบครองพญานาคาธิบดีนี้อยู่ไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ตาม เป็นของดีที่ผู้สร้างสร้างได้ด้วยความยากลำบากยิ่ง และมีอภินิหารที่เกิดซ้ำเกิดซ้อนได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจนัก หาใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใดไม่ จึงควรเก็บรักษาบูชาให้ดี

เพราะแม้พระพุทธองค์เองเมื่อจะทรงเข้าสู่พระมหาปรินิพพาน ก็มิได้ฝากฝังพระศาสนาไว้อย่างสาดกระจาย หากมุ่งบอกแก่พุทธบริษัททั้งสี่ให้ช่วยกันทำนุบำรุงด้วยการบำเพ็ญทาน รักษาศีล และปฏิบัติธรรม

แต่ไม่เพียงแค่นั้น ยังทรงฝากพระพุทธศาสนาไว้กับ พระอินทร์ และ หมู่นาคราช ทั้งปวง

ไม่ทรงฝากกับพรหม เพราะพรหมอยู่สูงเกินไป อีกทั้งเสวยบรมสุขในฌานเกินไปจนไม่ลงมายุ่งกับมนุษย์...

ไม่ฝากยักษ์ เพราะยักษ์เป็นพวกโหตภัย ดุร้าย ไม่ค่อยอยู่ในศีลในธรรม...

ไม่ฝากครุฑ เพราะครุฑขี้โมโห มีโทสะเป็นเจ้าเรือน ไม่รักษาศีลและไม่สนใจศาสนา...

ทรงพิจารณาด้วยพระมหาสติพระมหาปัญญาแล้วจึงฝากฝังชาวโลกทิพย์ไว้เพียงสองกลุ่มคือ พระอินทร์ กับ นาค

ดังนั้น จะให้ความยอมรับนับถือหมู่นาคาอยู่บ้างก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด

แต่ควรจำไว้ จะบูชานาคให้ได้ผล ต้องไม่ฆ่างู ไม่เบียดเบียนงู และ ต้องไม่กินเนื้องูแม้จะไม่ได้ฆ่าเอง

เมื่อจะทำการบูชาติดต่อ พึงทำนอกบ้าน นอกชายคา ใช้น้ำสะอาดหนึ่งขัน(ต้องเป็นขันใหม่ใช้ในการนี้โดยเฉพาะ)ลอยด้วยดอกมะลิหอม ตั้งบนโต๊ะที่ปูผ้าขาวไว้แล้ว ใช้เทียนขี้ผึ้งแท้หนึ่งคู่ ธูปหอมอย่างดี 7 ดอก ตั้งโต๊ะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

จุดธูปแล้วสวดคาถาบูชา ถ้าไม่ทราบ ก็ให้ตั้งนะโม 3 จบแล้วสวดบท "ขันธปริตร" 7 เที่ยว แล้วท่องหัวใจนาคาสามคำว่า "อะ งะ สะ" 7 ครั้ง จากนั้นก็ให้ระลึกถึงพญานาคที่รักษาองค์พระธาตุพนม พญานาคที่รักษาองค์พระธาตุมหาชัย พญานาคทั้งปวงที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขง แล้วอธิษฐานเอาในสิ่งที่ปรารถนา หากไม่เกินกรรมเชื่อว่าจะสำเร็จได้ไม่ยาก

หลายคนที่เคยทำมาแล้วได้พบเหตุการณ์ที่ชวนตื่นเต้นกันมากมาย ลองบูชาท่านดูแล้วจะรู้เอง

2. ผู้สร้างพญานาคาธิบดีนอกจากคุณอำพล เจนแล้วยังมีผู้อื่นสร้างอีกหรือไม่ ผมเห็นมีของวัดถ้ำแฝด ?

ตอบ ไม่มีใครสร้างพญานาคมาก่อนเลย เหมือนกับฤาษีที่ใครสร้างก็ไม่ดังเท่าครูอำพลสร้างถวายหลวงปู่พรหมา พญานาคของวัดถ้ำแฝด จ.กาญจนบุรี นั้นเขาได้ติดต่อขออนุญาตครูอำพลแล้วว่า จะขอยืมแบบมาถอดเพื่อทำบ้างเพราะรูปแบบสวยงามดีอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ครูอำพลเห็นว่าเป็นวัด เห็นว่าเป็นการกุศลของส่วนรวมจึงอนุญาตไป เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละครับ

3. ตอนนี้สร้างออกมาทั้งหมด 3 รุ่น รุ่น 1 และ 2 ออกมาแล้วและรุ่น 3 กำลังจะออกมาใช่หรือไม่ ?

ตอบ ใช่ครับ

4. อยากทราบว่า ในรุ่น 1 มีเนื้อกี่แบบและความแตกต่างของแต่ละเนื้อ (ผมเห็นเฉพาะในเว็บนี้เรามีอยู่ 2 เนื้อคือ สีดำล้วนไม่มีเพ้นท์ กับสีน้ำตาลมีเพ้นท์ หรือเป็นสีดำเพ้นท์เพราะดูสีในจอแล้วไม่ชัวร์ ไม่เคยเห็นของจริงครับ) ?

ตอบ ในพญานาคาธิบดีรุ่น 1 นั้นมีเนื้อหาทั้งหมดสองแบบครับ คือเนื้อดำ กับเนื้อน้ำตาล ส่วนการฝังของด้านหลัง ก็มีตั้งแต่ฝังปฐวีธาตุอย่างเดียวกับฝังของพิเศษซึ่งไม่มีออกมาให้บูชา และแบบเนื้อดำบรรจุแผ่นทองจารหัวใจนาคา

สำหรับการเพ้นท์สีหรือไม่เพ้นท์ อยู่ที่ผู้บูชาจะสั่งในตอนนั้นก็ได้ครับ ถ้าไม่สั่งก็มักจะเพ้นท์ออกมาแทบทุกองค์ที่ฝังของ หากไม่ฝังของก็มักจะไม่ได้เพ้นท์สีครับ

ขอบคุณครับ

เด็กลึกลับ · **โพสต์แล้ว:** ศุกร์ 10 ต.ค. 2008 12:09 pm

นำบทความมาจากเว็บ ampoljane.com ฮะ เพื่อเสริมคำตอบของคุณอารณธรรมฮะ

นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล ตอนที่ 1 มูลเหตุแห่งการกำเนิดพญานาคาธิบดีศรีสัตตนาคราช (พญานาครุ่น 1)
http://www.ampoljane.com/main/index.php?type=special&area=1&p=articles&id=2

นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล ตอนที่ 2 บทสรุปแห่งองค์นาคาธิบดีรุ่นที่ 1
http://www.ampoljane.com/main/index.php?type=review&area=1&p=articles&id=21

พิธีประกอบมวลสารนาคาธิบดีศรีสุทโธ พญานาคาธิบดีรุ่นที่ 2
http://www.ampoljane.com/main/index.php?type=review&area=1&p=articles&id=5

เชิญทัศนาฮะ

จิ้งจก · **โพสต์แล้ว:** ศุกร์ 10 ต.ค. 2008 1:40 pm

ขอบพระคุณอาจารย์รณธรรมและเด็กลึกลับครับผมที่เข้ามาช่วยกันให้ข้อมูลครับ

ศิษย์กวง · **โพสต์แล้ว:** ศุกร์ 10 ต.ค. 2008 6:37 pm

ขอบพระคุณสำหรับคำตอบเรื่องนี้ด้วยคนครับ
เพราะผมเองก็เพิ่งจะรู้รายละเอียดเช่นกัน
รายละเอียดที่ว่านี้ หมายถึงรายละเอียดเพิ่มเติม
จากข้อมูลของคุณอำพล เจนอ่ะครับ
นับถือครับ นับถือ...

สำหรับคุณเด็กลึกลับก็เช่นกัน ชมเชยครับ
ถึงชื่อจะลึกลับ แต่จิตใจ "ขว้างขวาง" จริงๆอ่ะคับ...

สองแรงแข็งขันประสานกันตอบ อุปมาดั่ง
"กระบี่อิงฟ้า กับ ดาบมังกรหยก"
สอดคล้องประสาน จนกลายมาเป็นตำนานของยอดกระบี่และยอดแห่งดาบ

ข้าน้อย "กวงยี่จั๊บแป๊ะโหวงจินซือจูเหลียง" ขอคารวะ :lol:

จิ้งจก · **โพสต์แล้ว:** ศุกร์ 10 ต.ค. 2008 7:32 pm

Me too.
ลงชื่อ จิวแป๊ะทง

เด็กลึกลับ · **โพสต์แล้ว:** เสาร์ 11 ต.ค. 2008 12:01 am

เทิดทูนทั่วหล้า ดาบฆ่ามังกร
ประกาศิตทุกชีวิต มิอาจขัดขืน
อิงฟ้าไม่มา ใครกล้าต่อกร

คริ คริ คริ คุ้นๆนะฮะ ไม่ยักกะรู้ว่าคุณพี่ศิษย์กวงนิยมกิมย้ง

แต่ เอ่อ ดาบ กับ กระบี่ สองเล่มนี้ มันแลข่มๆกันนะฮะ

เด็กลึกลับขอเป็นกีเทียนเกี้ยมดีก่าฮะ หรือไม่ก็เอาเป็น เอ็กคาลิเบอร์ก็ดีฮะ

ไม่ก็ฟ้าฟื้นไปเลยฮะ

คริ คริ คริ

อู๊ด อู๊ด · **โพสต์แล้ว:** เสาร์ 11 ต.ค. 2008 12:27 am

อู๊ดคงต้องหา "มีดหมอ" มาพกซะแว้วววว :ugeek:

ศิษย์กวง · **โพสต์แล้ว:** เสาร์ 11 ต.ค. 2008 12:27 am

เพิ่งรู้ว่าคุณน้องเด็กลึกลับ ก็ชมชอบวิทยายุทธเหมือนกันนะครับ
เห็นท่องคัมภีร์กระบี่ได้...
ใช่แล้วครับ ผมนิยมกิมย้ง แต่ชื่นชอบเป็นพิเศษคือ "อึ้งย้ง"
เอาอย่างนี้ดีไหมครับ ถ้า ดาบ และ กระบี่ คู่นี้มันจะข่มๆ กัน
เปลี่ยนมาใช้ ระเบิด กับ แก๊สน้ำตา ก็ได้ฮะ เพราะเห็นเขาว่า
มันคล้ายและกลมกลืนกันจนดูไม่ออกครับ
"ต่างกันแต่ชื่อ รสชาดเหมือนกันครับ..."
:lol:

ศิษย์กวง · **โพสต์แล้ว:** เสาร์ 11 ต.ค. 2008 12:31 am

อู๊ด อู๊ด เขียน:

อู๊ดคงต้องหา "มีดหมอ" มาพกซะแว้วววว :ugeek:

โอ้...ใจตรงกันเลย สามารถโพส์ในเวลาที่ตรงกันได้
น่าจะเป็นวาสนาบารมีต้องกัน เอาอย่างนี้ครับคุณอู๊ด อู๊ด
ผมตัดสินใจแระ ผมจะถ่ายทอดวิชาสำคัญให้...
เป็นวิชาสำหรับทำมาหากินอ่ะครับ ชื่อว่าวิชา "ปากกัดตีนถีบ.."
ที่ต้องเรียนคู่กับวิชา "กัดก้อนเกลือกิน..." สนใจไหมครับ..
:lol:

จิ้งจก · **โพสต์แล้ว:** เสาร์ 11 ต.ค. 2008 1:00 am

พูดถึงมีดก็พาลคิดถึงมีดสั้นของเซียวลี้ปวยตอ...โอ้วว่าแล้วก็ คิดถึงมีดหมอใบสักไม่เกิน 5 นิ้วจัง อยากได้มาพกติดตัวเป็นลี้คิมฮวงซะเลย

รณธรรม ธาราพันธุ์ · **โพสต์แล้ว:** เสาร์ 11 ต.ค. 2008 7:22 pm

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมค้องต้องขอคุณหมอจิมให้ชวนเพื่อนที่เป็นแพทย์ทาง "จิตเวช" เข้ามาเป็นสมาชิกเว็บบ้างแล้ว เพื่อดูว่าเพื่อน ๆ และพี่น้องของผม "สภาพจิต" กลายเป็นเด็กน้อยไปได้อย่างไร เหอ เหอ ...

จิ้งจก · **โพสต์แล้ว:** เสาร์ 11 ต.ค. 2008 11:03 pm

อารายยย อะ อาจารย์รณธรรมว่า อะไรพวกผมอะ

อู๊ด อู๊ด · **โพสต์แล้ว:** อาทิตย์ 12 ต.ค. 2008 12:23 am

ศิษย์กวง เขียน:

อู๊ด อู๊ด เขียน:

อู๊ดคงต้องหา "มีดหมอ" มาพกซะแว้วววว :ugeek:

โอ้...ใจตรงกันเลย สามารถโพส์ในเวลาที่ตรงกันได้
น่าจะเป็นวาสนาบารมีต้องกัน เอาอย่างนี้ครับคุณอู๊ด อู๊ด
ผมตัดสินใจแระ ผมจะถ่ายทอดวิชาสำคัญให้...
เป็นวิชาสำหรับทำมาหากินอ่ะครับ ชื่อว่าวิชา "ปากกัดตีนถีบ.."
ที่ต้องเรียนคู่กับวิชา "กัดก้อนเกลือกิน..." สนใจไหมครับ..
:lol: