มาร่วมสนทนากันในหมู่สมาชิก แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ท่านประสบมาได้ที่นี่ครับ
ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 3:29 pm
คนเกือบ 100% เชื่อว่าภาพที่เห็นด้วยตาเป็นความจริง พวกเขารวมทั้งคุณเองอาจถูกหลอกจากความเชื่อนี้ก็ได้ อย่างแสงที่มองเห็นว่าไม่มีสี แท้ที่จริงมันมีสีเจ็ดสี คนเห็นได้ผ่านปรากฎการณ์รุ้งกินน้ำ อย่างน้ำที่มองเห็นเป็นของเหลว แท้ที่จริงมันมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าซะด้วยซ้ำ เพราะน้ำเป็นก๊าซไฮโดรเจนสองส่วน รวมกับออกซิเจนหนึ่งส่วน น้ำที่เห็นอยู่จึงเป็นน้ำแค่ภาษาบัญญัติเท่านั้น หาใช่น้ำจริงๆ ไม่ อย่างเวลาก็เช่นกัน มันสามารถยืดหดได้ตามการเคลื่อนที่ของแสง ไอน์สไตน์จึงบอกว่า เวลาตามเข็มนาฬิกาไม่เคยมีอยู่จริง อย่างตัวคนก็เช่นกัน พระพุทธเจ้าบัญญัติการไม่มีคน สัตว์ สิ่งของ และบุคคล คนมีแต่สภาวะของธาตุสี่ที่รวมตัวกัน ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ เท่านั้น หาได้มีตัวคนจริงๆ ไม่
เมื่อความจริงกลับกลายเป็นความไม่จริง ปรากฎการณ์เขย่าปัญญาคนจึงเกิดขึ้น คนจะเกิดอาการอย่างที่ในหนังสือเล่มนี้ว่าเอาไว้ กระบวนการเปลี่ยนจากคนเป็นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี พระอรหันต์ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ในมุมกลับกันเมื่อความจริงที่รู้ขึ้นมาใหม่ถูกปฏิเสธ ปรากฎการณ์สั่นสะเทือนปัญญาจะไม่เกิดขึ้น คนยังคงลุ่มหลงงมงายอยู่กับความเชื่อเดิมๆ ของตน มีอาการแบบบัวที่ยังไม่โผล่พ้นน้ำ ที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงเสียเวลาสอน คนประเภทนี้ไม่สามารถเห็นความจริง จึงประสบความสำเร็จในชีวิตและในหน้าที่การงานไม่ได้ คนประเภทนี้จะมีอาการเถียงคอเป็นเอ็น มีทิฐิ มีความถือดี มีความอวดเก่ง คิดว่าตัวเองแน่ ตัวเองถูกต้อง ตัวเองเป็นผู้ดี ตัวเองจัดการผู้อื่นได้ ฯลฯ ทั้งหมดของอาการเหล่านี้นำพาชีวิตของคนตกลงไปสู่หุบเหวแห่งหายนะ

- 1.jpg (16.34 KiB) เปิดดู 1656 ครั้ง
ความหวังสุดท้ายที่หากจะมีการคุย ที่ทำให้คนที่มีอาการแบบนี้เห็นความจริงขึ้นมาได้ ก็คงเป็นการคุยในสถานการณ์ที่ "ก่อนตาย ค่อยมาคุยกัน"
ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 3:35 pm
ขออนุญาตแนะนำหนังสือดีๆ ซักเล่มเถอะครับ แบบว่าซื้อมาอ่านแล้วมัน โดนใจ จริงๆครับ พี่น้องเอ๊ย...
ข้างต้นผมคัดลอกมาจากปกหนังของหนังสือ "ก่อนตาย ค่อยมาคุยกัน" ครับ
เขียนโดยคุณ ชาย กิตติคุณาภรณ์ ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของและกรรมการบริหาร FPM CONSULTANT ครับ
เป็นเรื่องสั้นจบภายในเล่มเดียว (ประมาณ 240 หน้า) ที่ผูกเอาข้อธรรมะในศาสนาพุทธมาอธิบายได้แบบ
ฉลาดน้อยๆ อย่างผม อ่านแล้ววางไม่ลงครับ
หลายๆ เรื่องที่ไม่เคยเข้าใจมาก่อน ก็เริ่มพอจะเข้าใจ ลองดูนะครับ เพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใดที่เป็นหนอนหนังสือเหมือนผม เห็นในร้านหนังสือที่ไหนลองหยิบขึ้นมาพลิกอ่านดู อาจจะสนใจเหมือนผมก็ได้ครับ
ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 3:37 pm
งึม งึม งึม น่าสนใจดีครับ ไว้ต้องแฉลบเข้าไปดูในร้านหนังสือใกล้บ้านแล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูลและรายละเอียดคร้าบบบบบ
ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 3:38 pm
คำนำ
เผอิญตอนนี้ผมอายุได้แค่สองขวบกว่าๆ แต่จะเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของผมก็ไม่ทราบได้ ผมเริ่มเห็นภาพชีวิตของคนที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ที่ผมสัมผัสได้ว่า ภาพที่เห็นทั้งหมดเป็นภาพเมื่อในอดีต ดูมันช่างมีความลึกลับอย่างไรบอกไม่ถูก ...ผู้ใหญ่ที่อยู่ในภาพเป็นชายวัยสามสิบเศษ ผมนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก ว่าผมเคยเห็น เคยรู้จักผู้ชายคนนี้ที่ไหน นอกจากผู้ชายคนนี้แล้ว ผมยังคุ้นหน้าคนอีกสี่คน ซึ่งภาพคนเหล่านี้วนเวียนผลัดกันฉายให้ผมได้เห็นอยู่ในจิตสำนึกตลอดเวลา ว่างเมื่อไหร่ ผมจะต้องเอามือกุมขมับจ้องภาพเหล่านี้ในใจ และขบคิดตลอดเวลา ว่าคนเหล่านี้คือใคร ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยเห็นคนเหล่านี้มาก่อนเลยในชีวิต ...ภาพที่โดดเด่นดูจะน่ากลัวเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นภาพของผู้ชายที่ผมว่าอายุประมาณ 30ปีเศษนี่แหละ ผู้ชายคนนี้ประสบอุบัติเหตุรถชนอัดกับต้นไม้ใหญ่ แต่ไม่เป็นอะไร ...ผู้ชายคนนี้ชอบมาหาผมในความฝัน มาเล่าเรื่องแปลกๆ ให้ผมได้ฟังตลอดเวลา ทำให้ผมอดนึกถึงไม่ได้เมื่อยามตื่นนอนขึ้นมา ...ผมอยากจะบอกแม่ของผมว่า ที่ผมดูมีอาการวิตกกังวล ไม่แจ่มใสเบิกบานเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ก็เพราะชายคนที่ผมว่านี่แหละ แต่ผมไม่รู้จะบอกแม่อย่างไร เพราะตอนนี้ผมยังพูดไม่ได้เลย ...อย่างเวลาผมโกรธ จะร้องไห้ ก็จะมีเสียงมาคอยเตือน คอยดุผมว่า ยังไม่เข็ดหลาบอีกเหรอกับความโกรธ โกรธไปก็ตาย ไม่โกรธก็ตาย สู้ไม่โกธจะดีกว่า จะได้เอาเวลามาคิดเรื่องที่ผมยังไม่รู้ ...ตลอดเวลา ผมจะมีอาการน้ำลายยืด มันเป็นเพราะเสียงกระซิบมาคอยบอกให้ผมสงบ เมื่อผมเกิดอาการสงบ น้ำลายของผมก็ยืด ...เมื่อคืนนี้เอง ขณะที่ผมนอนดูดขวดนมอยู่ จู่ๆ ผมก็เห็นภาพชายคนที่ผมว่า ผมเห็นเขามีแฟน มีลูกสาว มีพ่อ มีแม่ เขาเดินตรงมาที่ผม เอื้อมมือมาลูบคลำขยี้ผมของผม แถมยังเอามือสองข้างมาหยิกแก้มของผมให้ยืดออกจากกัน เพื่อให้หน้าของผมดูตลกยิ่งขึ้น ในขณะที่สายตาของผมก็ยังอยู่ในอาการวิตก คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากัน ผมไม่รู้ว่าชายคนนี้ทำแบบนี้เพื่ออะไร ...จริงๆ แล้วผมก็รู้สึกดี ที่ชายคนนี้สามารถสื่อสารกับผมได้ เขาพูดกับผมโดยใช้ภาษาของผม ซึ่งเป็นภาษาที่แม่กับพ่อของผมก็ไม่รู้ ผมถามเขาไปว่า น้ามาคุยเรื่องแปลกๆ ให้ผมฟังทำไม ...ผู้ชายคนนี้ตอบผมว่า ถ้าไม่คุยเรื่องที่สมควรจะคุยกับผมในตอนนี้ โตขึ้นผมจะลืมและผลลัพธ์จากการลืม มันจะทำให้ผมทนทุกข์ทรมานกับการใช้ชีวิต และจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ตอนที่โตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งถึงวันนั้นทุการคุยจะไม่ให้ประโยชน์อะไร เพราะผมจะปิดกั้น ไม่ยอมรับความจริง สมองของผมจะผลิตความคิดที่ทำให้ผมเป็นคนมีเหตุมีผลมาก จนผมไม่สามารถจะเห็นความจริงที่ถูกต้องได้ และเมื่อถึงวันนั้นจะไม่มีทางอื่นที่จะคุยให้ผมเข้าใจอะไรๆ ได้ นอกเสียจากว่า ก่อนตายค่อยมาคุยกัน ...มันมีรายละเอียดของการใช้ชีวิตบนโลกใบนี้มากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ยิ่งคิดผมก็ยิ่งเครียด ผมหยิบขวดนมวางเอาไว้ที่ข้างหมอน ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก พูดกับชายคนนี้ในใจ บอกว่า มีเรื่องอะไรที่ผมจะต้องรู้บ้าง ผมพร้อมแล้วที่จะรู้ความจริง ...วินาทีนี้ ผมมีอาการสงบแบบบอกไม่ถูกจริงๆ แล้วผมก็เริ่มเห็นภาพ...ข้างต้นเป็นคำนำภายในเล่มครับ ขออนุญาตคัดลอกจากลิงค์นี้ครับ
http://www.fpmconsultant.com/htm/book_new2.php?bid=123
ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 3:38 pm
งานสัปดาห์หนังสือยังเปิดอยู่นะฮะ ถึงวันอาทิตย์นี้ เวลาเปิดจำไม่ได้ แต่เวลาปิด 21:00 ฮะ
ลองไปเดินดุ่มๆดู อาจจะเจอหนังสือเล่มนี้ก็ได้
ว่าแต่เด็กที่อยู่ตรงหน้าปก หน้าตาเหมือนโดนของนะฮะ
ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 3:42 pm

ขอบคุณครับคุณอู๊ด อู๊ด และคุณเด็กลึกลับ ที่แวะเข้ามา
ในงานหนังสือที่กำลังจัดอยู่ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ บูทของ FPM อยู่ชั้นบนตรงหน้าห้องแสดงใหญ่ครับ ใกล้ๆ กับบริเวณที่มีโชว์หนังสือ กับขายอาหารว่างครับ ซื้อในงานนี้ได้ลด 40% ด้วยครับ เมื่อวันก่อนผมยังไปหวดหนังสือเล่มอื่นของนักเขียนท่านนี้มาเพิ่มอีกหลายเล่มด้วยครับ อ่านแล้วเสริมปัญญาดีครับ
ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 11:03 pm
ขอบคุณครับคุณUltrachai ที่กรุณาเข้ามาแนะนำสิ่งที่ต่อยอดทางปัญญาให้กับชาว n. ไม่เหมือนป๋มแฮะ มีแต่เรื่องมอมเมาประชาชน อิ อิ
ศุกร์ 17 ต.ค. 2008 11:39 pm
อืมมม...อ่านคำนำแล้วน่าสนใจครับ..
ผมเคยอ่านงานเขียนเรื่องพระของคุณ ultrachai
ถึงจะสั้นๆ แต่ได้ใจความดีครับ เข้าใจง่าย
มาวันนี้เห็นเป็น "หนอนหนังสือ" ตัวยง
และมีการแนะนำหนังสือให้อ่าน..นับถือครับนับถือ
ถ้ามีโอกาสและเวลาว่าง ช่วยแนะนำหนังสือดีดี อีกนะครับ
อาทิตย์ 19 ต.ค. 2008 12:11 pm
ดีครับ เป็นการย่อยธรรมะมาให้คนอ่านคิดได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องติดป้ายติดแบรนด์ว่า เป็นศาสนา ฯลฯ เพราะวัยรุ่นบางคนเขาจะไม่อ่านเลย และก็ปฏิเสธ หนังสือแบบนี้ก็จะเป็นการเปลี่ยน package ที่สอดไส้ความรู้ทางธรรมะแบบเดียวกันมาให้คนรับได้ง่ายๆ ดีครับ
พุธ 22 ต.ค. 2008 12:11 pm
รณธรรม ธาราพันธุ์ เขียน:ขอบคุณครับคุณUltrachai ที่กรุณาเข้ามาแนะนำสิ่งที่ต่อยอดทางปัญญาให้กับชาว n. ไม่เหมือนป๋มแฮะ มีแต่เรื่องมอมเมาประชาชน อิ อิ

เรื่องที่พี่ต่อเขียน (มอม..) ผมยินดี เมา... เต็มที่เลยครับ
โดยเฉพาะเรื่อง "ปัฐวีธาตุ" ของหลวงพ่อเมือง ที่พี่ต่อเพิ่งเขียนไป
ว่าแต่ว่าพี่ต่อพอจะกรุณาส่งมามอมเมาผมบ้างจะได้ไหมครับ
พุธ 22 ต.ค. 2008 12:17 pm
ศิษย์กวง เขียน:อืมมม...อ่านคำนำแล้วน่าสนใจครับ..
ผมเคยอ่านงานเขียนเรื่องพระของคุณ ultrachai
ถึงจะสั้นๆ แต่ได้ใจความดีครับ เข้าใจง่าย
มาวันนี้เห็นเป็น "หนอนหนังสือ" ตัวยง
และมีการแนะนำหนังสือให้อ่าน..นับถือครับนับถือ
ถ้ามีโอกาสและเวลาว่าง ช่วยแนะนำหนังสือดีดี อีกนะครับ

ขอบคุณในคำชมขอรับพี่ศิษย์กวง
ผมอาศัยครูพักลักจำจากข้อเขียนของ อ.อำพล บ้าง พี่ต่อ บ้าง
รวมไปถึงคำบอกเล่าจากครูบาอาจารย์ และการอ่านหนังสือ
เลยได้อย่างที่เห็นครับ
บางครั้งยังอยากเขียนเป็นตอนยาวๆ บ้าง แต่ฝีมือไม่ถึงครับ
อย่างงานเขียนของพี่ศิษย์กวง ผมก็เคยเข้าไปอ่านใน OK Nation
ยอมรับว่าถูกใจสำนวนครับ
มีโอกาสคงต้องขอฝากตัวเป็นศิษย์ของพี่ต่อ กับพี่ศิษย์กวง บ้างนะครับ
พุธ 22 ต.ค. 2008 12:18 pm
จิ้งจก เขียน:ดีครับ เป็นการย่อยธรรมะมาให้คนอ่านคิดได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องติดป้ายติดแบรนด์ว่า เป็นศาสนา ฯลฯ เพราะวัยรุ่นบางคนเขาจะไม่อ่านเลย และก็ปฏิเสธ หนังสือแบบนี้ก็จะเป็นการเปลี่ยน package ที่สอดไส้ความรู้ทางธรรมะแบบเดียวกันมาให้คนรับได้ง่ายๆ ดีครับ

ขอบคุณขอรับ ไว้มีโอกาสจะนำมาแนะนำเพิ่มเติมครับ
ศุกร์ 24 ต.ค. 2008 7:41 pm
มิบังอาจรับน้องUltraChaiเป็นศิษย์ดอกครับ
แต่เราไปเป็นสานุศิษย์ของคุณศิษย์กวงพร้อมกันดีกว่า ปะ...
เสาร์ 25 ต.ค. 2008 12:13 am
เสาร์ 25 ต.ค. 2008 12:19 am
เคยได้ยินแต่ มหาเวทย์ดูดดาว น่ะครั่บ
เสาร์ 25 ต.ค. 2008 1:08 am
อาทิตย์ 26 ต.ค. 2008 11:06 am

รู้สึกแปลกใจในชื่อเรื่อง เลยเข้ามาอ่าน หนังสือน่าสนใจดีนะคะ
แต่พอเข้ามาแล้วก็รู้สึกแปลกมากกว่า เห็นพวกรุ่นใหญ่ๆ เข้ามาแสดง
ความคิดเห็นกันเยอะ

เช่นคุณ อู๊ด อู๊ด เป็นต้น
เอาเป็นว่าหนังสือดี คนแนะนำดี และก็ขอสวัสดีด้วยคนนะคะ
สวัสดีจร้าาาาาาาา
อาทิตย์ 26 ต.ค. 2008 1:10 pm
ใหญ่พอไม้คับ

- 1203930983.jpg (3.45 KiB) เปิดดู 1420 ครั้ง
อาทิตย์ 26 ต.ค. 2008 1:20 pm
อย่างนี้ซิ....

- Fatty_resize.jpg (13.66 KiB) เปิดดู 1411 ครั้ง
ถึงจะเรียกว่า รุ่นใหญ่ นะคุณอู๊ด อู๊ด
อาทิตย์ 26 ต.ค. 2008 1:30 pm
อายจัง อายจัง
ว่าแต่ น่ะ น่ะ น่ะ น่านแควนคุณ blah blah เหรอฮะ

- 1219171557317.gif (3.42 KiB) เปิดดู 1403 ครั้ง
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.