Switch to full style
มาร่วมสนทนากันในหมู่สมาชิก แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ท่านประสบมาได้ที่นี่ครับ
ตอบกระทู้

อาคารขายเวลา

ศุกร์ 30 ต.ค. 2009 5:08 pm

ในตอนค่ำวันหนึ่ง ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงนอนที่คลุมด้วยผ้าห่มลายนกนางนวลสีเขียว แล้วก็มองไปยังหนังสือกองโตที่ค้างคา รอให้ฉันไปอ่าน เสียงถอนหายใจของฉันทอดยาว รับกับเสียงพัดลมขายาวที่ส่งเสียงครางเบา ๆ แถมช่วงเวลานั้นอากาศก็ช่างเป็นใจ เพราะอากาศเย็นสบายกำลังดี ฉะนั้นเมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก ฉันจึงเผลอหลับไป

ฉันพบตัวเองอีกทีที่หน้าอาคารหลังใหม่่ ดูเหมือนจะสร้างด้วยหินอ่อนลักษณะคล้ายธนาคาร มีบันไดหินสีขาวเป็นมันวับเรียงรายเป็นชั้นๆ สุดบันไดขั้นสุดท้ายมีประตูกระจกติดฟิล์มกรองแสงเข้ม มีป้ายแผ่นหนึ่งแขวนไว้ตรงประตูเขียนข้อความว่า

'มีเวลาขาย'

ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นหรือเพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้ขาทั้งสองข้างก้าวขึ้นไปบนอาคารหินอ่อนแห่งนั้น เมื่อเอื้อมมือผลักประตูกระจกเข้าไป ไอเย็นของเครื่องปรับอากาศก็ปะทะร่างกาย

ภายในสถานที่นั้นดูโอ่โถงและสวยงามราวกับห้องรับรองชั้นดีมีโต๊ะไม้สีเข้มตัวยาวซึ่งกองแฟ้มเอกสารเรียงรายอยู่บนนั้น ชายหนุ่มคนที่นั่งประจำโต๊ะเอ่ยทักทายฉัน ท่าทางเขาอบอุ่นและเป็นมิตร

'สวัสดีครับ' ...

'ค่ะ' ฉันตอบรับคำเขาเบาๆ

'ผมคิดว่าคุณคงจะไม่ได้มาซื้อเวลา ท่าทางคุณยังเป็นเด็กอยู่เลย อายุคงยังไม่เกิน 20 ปี'

'ฉันไม่ได้มาซื้อเวลาหรอกค่ะ' ฉันตอบไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าสินค้าหรือบริการอะไรกันแน่ ที่เขากำลังขายอยู่
'เพียงแต่ว่าฉันอยากมาดูผู้คนแล้วก็การซื้อขายของคุณเท่านั้น'

'ตามสบายเลยครับ' เขายิ้มอย่างมีไมตรี
'เชิญนั่ง' เขาผายมือไปทางโซฟาชุดที่ตั้งอยู่ชิดผนังด้านหนึ่ง

ฉันจึงถอยไปทรุดตัวลงนั่ง

ลูกค้าคนแรกที่ฉันพบในอาคารขายเวลาคือชายร่างเล็กผอมเกร็งผมขาวโพลน ใบหน้าซีดเหลือง เขาพยุงตัวให้ก้าวผ่านบันไดทีละขั้น ๆ อย่างลำบากยากเย็น จนกระทั่งผลักประตูมาหยุดยืนตรงหน้าชายขายเวลา

'ผมมาขอซื้อเวลาที่ผ่านไป...ห้าปี' น้ำเสียงเขาแหบแห้ง และสั่นพร่าอย่างคนที่กำลังป่วยหนัก
'หมอบอกว่าผมมาหาหมอช้าไปห้าปี ไม่อย่างนั้นแล้วโรคก็คงมีวิธีรักษาให้หายได้'

คนต่อมาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่งตัวสะอาดสะอ้านเพียงแต่ว่าดูหม่นหมองและหมดหวัง....

'ขอซื้อเวลา สามเดือน' เขาพูดกับชายขายเวลา

'คุณรู้ไหม ผู้หญิงที่ผมรัก เธอไปเมืองนอก เมื่อสามเดือนก่อน เราคบกันมาเป็นปีแต่ผมก็ยังไม่เคยบอกรักเธอทั้ง ๆ ที่รักเธอมาก เธอไปโดยไม่รู้อะไรเลย'

ชายขายเวลามีทีท่าว่าเห็นใจ

ฉันคิดว่าเขาเป็นนักขายเวลาที่มีความอดทนมากทีเดียวที่จะต้องพบลูกค้าที่ล้วนแล้วแต่มีปัญหาต่าง ๆ กันไป พร้อม ๆ กับนึกเสียดายแทนผู้ชายคนนี้ที่เขาผ่านเวลาร่วมปีไปโดยเปล่าประโยชน์ แล้วเพิ่งจะมาเห็นคุณค่าของเวลาเหล่านั้น... เมื่อมันได้ผ่านไปแล้ว

ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มคนนั้นจะก้าวพ้นประตูออกไป หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินสวนเข้ามา หล่อนสวมชุดไว้ทุกข์สีดำ ใบหน้ายังเปื้อนคราบน้ำตา ดวงตายังมีรอยบอบช้ำ

'อยากได้เวลาค่ะ สักสองปี ปีเดียวหรือเพียงครึ่งปีก็ได้' หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าโศก

'ผมคิดว่าคุณคงมีปัญหาเกี่ยวกับเวลาในอดีตเหมือนคนอื่น ๆ' ชายขายเวลากล่าวขึ้น

'ค่ะ' หล่อนรับคำเสียงแผ่ว ...

'คุณแม่ของดิฉันเพิ่งเสียเมื่อสองวันก่อน ท่านดีกับฉันมาก เลี้ยงดูอย่างเอาอกเอาใจแต่ดิฉันยังไม่ทันทำอะไรให้แม่ชื่นใจเลย มีแต่ตั้งแง่ตั้งงอน ท่านก็มาด่วนจากไป'

'คุณเลยอยากซื้อเวลาที่ผ่านไปเพื่อทำดีกับคุณแม่ของคุณ'

ฉันนึกเวทนาหล่อน เวทนาที่หล่อนมาคิดอะไรอะไรได้ก็เมื่อสายไป ถ้าหากหล่อนได้ทำอะไรไปตั้งนานแล้ว ก็คงไม่ต้องมานึกเสียดายตอนนี้ วูบหนึ่งจึงนึกย้อนกลับมาที่ตัวเอง

คนต่อมาเป็นเด็กหนุ่ม ใบหน้าของเขายังอ่อนเยาว์ แต่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งความกังวล

'ต้องการเวลาเท่าไหร่ดีครับ' ชายขายเวลาถามขึ้นก่อน

'สองปี' เขายิ้มอย่างอ่อนเพลีย

'ผมอยากกลับไปเลือกแผนการเรียนใหม่ผมพลาดไปในตอนนั้น บางทีผมอาจเริ่มต้นใหม่ด้วยดี จะได้เรียนวิชาที่ชอบแทนวิชาที่น่าเบื่อตอนนี้' แล้วเขาก็จากไป เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว

ฉันเห็นชายขายเวลาหลับตาลงในขณะที่กำลังเว้นว่างจากลูกค้า แต่เมื่อฉันขยับตัว เขาก็ลืมตาขึ้นแล้วหันมายิ้มให้ฉัน ดวงตาเขาอบอุ่น

เป็นเวลานานเท่าไรก็ไม่ทราบที่ฉันนั่งมองผู้คนเดินผ่านไปมาล้วนแล้วแต่มีท่าทีวิตกกังวล ผิดหวัง เสียดาย เสียใจ แล้วก็มาซื้อเวลาไปเพราะว่าพวกเขาได้พลาดสิ่งที่น่าจะทำในอดีต แล้วชายขายเวลาก็ปิดแฟ้มพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาทางฉัน สักครู่จึงเดินมาทรุดตัวนั่งเก้าอี้โซฟาข้าง ๆ

'จะปิดร้านแล้วหรือคะ' ฉันถาม

'ครับ... ได้เวลาแล้ว'

'ขอบคุณมากนะคะสำหรับวันนี้ ฉันเห็นจะต้องกลับเสียที'
ฉันพูดกับเขาทั้ง ๆ ที่ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าฉันจะกลับไปอย่างไร....

'เชิญครับ ขอให้คุณจงใช้เวลาทุกวินาทีให้ผ่านไปอย่างมีคุณค่าและคุ้มค่าที่สุดนะครับ ผมหวังว่า คงจะไม่เห็นคุณมาที่นี่เพื่อซื้อเวลานะครับ' เขากล่าวในที่สุด

'ขอบคุณมากค่ะ ฉันจะไม่ลืมคุณ และที่นี่' ฉันลุกขึ้นยืน ทันใดนั้นไฟก็ดับวูบ

ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่... ฉันเอื้อมมือไปรูดผ้าม่านหน้าต่างสีครีม ผ้าม่านถูกเปิดออก ท้องฟ้ายังไม่สว่างดีและไก่ก็ยังไม่ขัน ฉันรีบเก็บที่นอนและกระโดดเข้าห้องน้ำอย่างสดชื่น

จากนั้นก็กลับมานั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือตัวเดิมซึ่งฉันไม่เคยนั่งมันอย่างจริงจังมานานแล้ว ....ฉันรู้สึกดีใจที่ฉันยังมีเวลาเหลืออยู่ ... ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มลงมือทำในสิ่งที่ดีที่ฉันได้หวัง ได้ตั้งใจไว้ ซึ่งไม่เหมือนกับผู้คนเหล่านั้น...คนที่ฉันพบที่อาคารขายเวลา...

เวลาไม่เคยรอใคร อย่าปล่อยเวลาไปโดยเปล่า ๆ เพราะมันไม่มีวันย้อนกลับมาได้ ฉะนั้นจงใช้เวลาของคุณอย่างระมัดระวัง ใช้อย่างรู้คุณค่า และใช้ให้คุ้มค่าที่สุด ท่านจงเตือนสติกันและกันทุกวัน... ตลอดเวลาที่เรียกว่า...

'วันนี้'





ขอบคุณคุณนคร ศิลปศาสตร์ ด้วยครับ

Re: อาคารขายเวลา

ศุกร์ 30 ต.ค. 2009 9:10 pm

ขอบคุณครับ...

ว่ากันว่า ค่าความสามารถที่เราไม่ค่อยจะมองเห็นกันคือ
การที่เราสามารถลุกขึ้นจากที่นอนได้ด้วยตัวของเราเอง

ดังนั้น......

จะทำอะไรต้องรีบทำครับ ก่อนจะไม่มีแรงทำ :lol: :lol:

Re: อาคารขายเวลา

ศุกร์ 30 ต.ค. 2009 9:57 pm

งั้นผมขอเครื่องรางของขลังจากพี่ศิษย์กวงซักชิ้น ละกันนนนน

เกรงว่าเนิ่นนานไป จะไม่มีแรงขออ่ะคับบบ :mrgreen: :lol: :lol:

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ด้วยครับ ที่สร้างแรง(หน้าด้าน)บันดาลใจให้ขอ :mrgreen:

Re: อาคารขายเวลา

ศุกร์ 30 ต.ค. 2009 10:48 pm

ศิษย์กวง เขียน:ขอบคุณครับ...

ว่ากันว่า ค่าความสามารถที่เราไม่ค่อยจะมองเห็นกันคือ
การที่เราสามารถลุกขึ้นจากที่นอนได้ด้วยตัวของเราเอง

ดังนั้น......

จะทำอะไรต้องรีบทำครับ ก่อนจะไม่มีแรงทำ :lol: :lol:



เห็นด้วยกับพี่ศิษย์กวงอย่างยิ่งครับ

Re: อาคารขายเวลา

ศุกร์ 30 ต.ค. 2009 11:05 pm

สหายพันตา เขียน:งั้นผมขอเครื่องรางของขลังจากพี่ศิษย์กวงซักชิ้น ละกันนนนน

เกรงว่าเนิ่นนานไป จะไม่มีแรงขออ่ะคับบบ :mrgreen: :lol: :lol:

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ด้วยครับ ที่สร้างแรง(หน้าด้าน)บันดาลใจให้ขอ :mrgreen:


เห็นด้วยกับคุณสหายพันตาอย่างแรง :lol: :lol: :lol:

Re: อาคารขายเวลา

เสาร์ 31 ต.ค. 2009 8:40 pm

:lol: โยงกันได้ เนียนๆ ทุกกระทู้สิน่า

Re: อาคารขายเวลา

อาทิตย์ 01 พ.ย. 2009 8:25 pm

ทุกวันนี้ถ้าเป็นไปได้ผมพยายามที่จะให้เวลาทั้งหมดของผมกับลูกของผมให้มากที่สุดเพราะว่า ณ วันนี้ยังเป็นวันที่ลูกผมยังเล็กและต้องพึ่งพาผมอยู่ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงมุมมองความคิดบางอย่างที่เขาถามผม และผมก็ไม่คิดว่า ผมจะได้ยินคำถามต่างๆ เหล่านั้นจากเขา หรือว่า ได้ยินว่า เขาคิดอะไรได้มากขนาดนี้ ผมจึงพยายามใช้เวลากับเขาให้มากที่สุด

หลังจากนี้ไปอีกสัก 3-4 ปี ผมคิดว่า เขาคงเริ่มจะมีสังคมใหม่ๆ ของเขาเป็นแน่และเมื่อวันนั้นมาถึง เขาก็อาจจะไม่ต้องการเวลาที่จะอยู่กับผม แต่ต้องการเวลาไปอยู่กับเพื่อนกับสังคมใหม่ๆ ของเขามากกว่า

ผมเลยไม่อยากไปซื้อเวลาที่จะอยู่กับเขาในตอนนั้น เพราะถึงวันนั้นอาจคุยกันไม่เข้าใจอะไรกันเลยก็เป็นได้

ผมว่า ถึงวันนั้นผมอาจต้องเอาเวลาที่มีอยู่ไปติดตามอาจารย์รณธรรมปฏิบัติธรรม หรือไปทำบุญตามวัดต่างๆ แน่ๆ เลย

อาจารย์รณธรรมเตรียมตัวต้อนรับผมเอาไว้นะ ถ้าถึงเวลานั้น :lol: :lol: :lol:

Re: อาคารขายเวลา

อาทิตย์ 01 พ.ย. 2009 11:39 pm

ลูกช้างขอเผ่นก่อนล่ะ :lol: :lol: :lol:

Re: อาคารขายเวลา

จันทร์ 02 พ.ย. 2009 7:44 am

สหายพันตา เขียน:งั้นผมขอเครื่องรางของขลังจากพี่ศิษย์กวงซักชิ้น ละกันนนนน

เกรงว่าเนิ่นนานไป จะไม่มีแรงขออ่ะคับบบ :mrgreen: :lol: :lol:

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ด้วยครับ ที่สร้างแรง(หน้าด้าน)บันดาลใจให้ขอ :mrgreen:


ช่วงนี้มีแบบชนิดเสกเองครับ สนใจรับไว้สักชิ้นไหมครับ :lol: :lol: :lol:

Re: อาคารขายเวลา

จันทร์ 02 พ.ย. 2009 2:17 pm

นั่นแหละ ให้คุณสหายพันตาเป็นน้องหนู(ทดลองยา)เป็นคนแรกแล้วกันนะกั๊บ

Re: อาคารขายเวลา

จันทร์ 02 พ.ย. 2009 8:03 pm

:ilu: :lol: :lol:

Re: อาคารขายเวลา

อังคาร 03 พ.ย. 2009 12:17 am

ท่าทางจะดีใจแฮะ :lol:

Re: อาคารขายเวลา

อังคาร 03 พ.ย. 2009 4:18 pm

:P :P :P

Re: อาคารขายเวลา

อังคาร 03 พ.ย. 2009 4:33 pm

อยากซื้อเวลาไปให้ คุณอา เสกของให้ครับ
จะเอากี่วินาทีดี :hpy:

Re: อาคารขายเวลา

อังคาร 03 พ.ย. 2009 5:15 pm

กะพริบตา ก็แขวนได้สบายแล้วครับ

Re: อาคารขายเวลา

พุธ 04 พ.ย. 2009 8:52 am

ถ้าคุณอาหลับเลยคงหยิบไปแขวนง่ายหว่าครับ :hpy:

Re: อาคารขายเวลา

พุธ 04 พ.ย. 2009 9:58 pm

.jpg
.jpg (11.16 KiB) เปิดดู 954 ครั้ง
ตอบกระทู้