หลังจากเรื่องบรรพบุรุษเขมร (
forum40/topic2838.html) ที่ผมได้โพสต์ลงไปก็ทำให้ผมไปคิดถึงเรื่องสมองของตะกวดต่อว่า พวกสืบชาติมาจากตะกวดเป็นอย่างไร และมีสมองส่วนที่เหมือนตะกวดมากขนาดไหน หรือว่า มีสมองส่วนที่เหมือนตะกวดมากกว่าสมองส่วนที่เป็นแบบมนุษย์ และบังเอิญก็ไปได้บทความมาจากที่นี่ครับ
http://www.doctor.or.th/node/4242 ลองไปอ่านกันครับ
------------------------------------------------------
คนวิวัฒนาการมาจากสัตว์ สมองมี 3 ชั้นด้วยกัน 2 ชั้นในเป็นสมองที่เหมือนสมองสัตว์ ส่วนชั้นนอกเป็นสมองคน
ชั้นในสุด เป็นสมองสัตว์เลื้อยคลาน (Reptilian brain)
ชั้นที่สอง เป็นสมองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เรียก (Limbic brain)
ชั้นนอกสุด เป็นสมองของความเป็นมนุษย์ เรียก (Neo-cortex)
สมองชั้นในเกี่ยวกับความอยู่รอด เช่น การกิน การถ่าย การเคลื่อนไหว ไม่เกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึก หรือความดีความชั่วอะไรเหมือนตะกวด หรือเหี้ย หรือจระเข้ มันอาจตะปบลูกของมันกินก็ได้เพื่อความอยู่รอด มันไม่รู้สึกอะไร
สมองชั้นกลางเกี่ยวกับอารมณ์ คือเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม เช่น ความผูกพัน ชอบ ไม่ชอบ
สมองชั้นนอก เป็นส่วนที่พอกหนาขึ้นมามากเรียก นีโอ-คอร์เตกซ์
นีโอ แปลว่า ใหม่ คอร์เตกซ์ แปลว่า ส่วนนอก หมายถึงส่วนนอกของสมองที่งอกมาใหม่ และเป็นสมองแห่งความเป็นมนุษย์ สมองส่วนนี้จะทำให้ทำหน้าที่ที่ละเอียดอ่อน เช่น คิดเรื่องที่เป็นนามธรรม ความงาม ความดี ความชั่ว บาปบุญ มิติทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณอยู่ในสมองส่วนนอก
สมองส่วนนอกนี้ทำให้มนุษย์มีศักยภาพในการพัฒนาสูงสุด เมื่อธรรมชาติให้เครื่องมือของความเป็นมนุษย์อย่างนี้แล้ว มนุษย์ทุกคนควรพัฒนาให้เต็มตามศักยภาพของความเป็นมนุษย์ นั่นคือ ไปให้ถึงการพัฒนาจิตวิญญาณจนมีความรักเพื่อนมนุษย์และสรรพสิ่ง มีอิสรภาพหลุดพ้นจากความบีบคั้นทางจิตใจและทางปัญญา และมีความสุขอันประณีตเพราะอิสรภาพนั้น
มนุษย์ทุกวันนี้ยังมิได้พัฒนาสมองส่วนที่เป็นสมองมนุษย์มากนัก อันนับว่าน่าเสียดาย จึงควรให้ความสนใจว่าจะพัฒนาสมองแห่งความเป็นมนุษย์ได้อย่างไร มิฉะนั้นแม้ตัวจะเป็นคน อาจมีสมองเป็นตะกวดกันเป็นแถวๆ สังคมที่มีมนุษย์สมองตะกวดมากๆ จักวุ่นวาย ไม่อยู่เย็นเป็นสุข ยุทธศาสตร์ของการสร้างสังคมที่อยู่เย็นเป็นสุขที่สำคัญคือ การพัฒนาสมองให้พ้นความเป็นสมองตะกวดไปสู่สมองคน