อาทิตย์ 27 ธ.ค. 2009 10:27 pm
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการยืนยันจากอดีตนักเรียนก่อสร้างอุเทนถวาย และ ช่างกลนนทบุรี ได้บอกเล่ามาครับ
ในสมัยที่ประเทศถูกปกครองด้วยรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารนั้น
น.ศ.ช่างกลและน.ศ.ก่อสร้างยังไม่ได้มีเรื่อง มีราวที่กลายเป็นปัญหาระดับชาติแบบทุกวันนี้
ในยุคหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากรัฐบาลรัฐประหารและจะมีการสืบทอดทายาท
ทางการเมือง เหล่าน.ศ.ทั่วทั้งประเทศ ต่างลุกขึ้นมาต่อต้านการปกครองและการสืบทอดทายาท
อสูรของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารชุดนั้น ซึ่งในขณะนั้นไม่มีใครที่สามารถที่จะต่อกรกับรถถังได้
นอกจาก น.ศ.ช่างกลและน.ศ.ก่อสร้างที่สามารถทำได้ หรือแม้แต่ จะต่อกรกับโรงเรียนนายร้อย
ก็ไม่มีใครที่สามารถที่จะทำได้ นอกจาก น.ศ.ช่างกลและน.ศ.ก่อสร้าง ที่รวมกันและสามัคคีกัน
ร่วมกันต่อกร ต่อยตีกับนักเรียนนายร้อย จนเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาไปทุกแว่นแคว้นในเวลานั้น
จึงเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นผู้มีอำนาจในการปกครองประเทศในเวลานั้นรู้สึกหนักใจ
จึงคิดที่จะทำให้น.ศ.ช่างกลและน.ศ.ก่อสร้างแตกแยกและแตกความสามัคคีกัน เพื่อจะให้เกิดการคัดคานอำนาจ
และการป้อมปราบโดยง่าย จึงมีอยู่1เหตุการณ์ ในยุคที่ยังมีการแข่งขันกีฬาของนักศึกษาอาชีวะ
ซึ่งจะมีน.ศ.จากต่างจังหวัดเข้ามาร่วมแข่งขันกันที่สนามกีฬาแห่งชาติในสมัยนั้นซึ่งอยู่ตรงข้ามกับช่างกล
ในวันแข่งกีฬา ได้มีกลุ่มน.ศ.เกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น โดยมีน.ศ.จากต่างจังหวัดเป็นคู่กรณีกับน.ศ.ก่อสร้าง
และได้ใช้ยอดธงซึ่งมีปลายแหลมแทงน.ศ.ก่อสร้างจนเสียชีวิต แล้ววิ่งกลับเข้ามาในรั้วช่างกล
ซึ่งเป็นที่พักของน.ศ.จากต่างจังหวัดที่เข้ามาแข่งกีฬา จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้น.ศ.ก่อสร้างเกิดความเข้าใจผิดว่า
เป็นฝีมือของน.ศ.ช่างกล ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น ทางคณะครูอาจารย์ ท่านได้ทำการสืบและสอบสวนน.ศ.ทั้งหมด
ทั้งในส่วนของน.ศ.ช่างกล และน.ศ.จากต่างจังหวัดที่เข้ามาพักภายในช่างกล แต่แล้วก็ไม่พบตัวของผู้ก่อเหตุ
จึงเป็นเหตุให้ทางฝ่ายน.ศ.ก่อสร้างไม่พอใจ และเข้าใจว่ามีการปกป้องตัวผู้กระทำผิด และนี่จึงเป็นอีก1สาเหตุ
ที่ทำให้เกิดความบาดหมางกันมาเรื่อยของน.ศ.ของทั้ง2สถาบัน
นี่คือจุดเริ่มต้นวิกฤติของการตีกันของนักเรียนสองค่ายใหญ่
ปล.เรื่องนี้ใครไม่เชื่อต้องลองไปหาข้อมูลจากนักเรียนช่วงยุค 2500 - 2507 โดยประมาณ หรือสมบัติ เมทะนี ก็ได้ ปู่สมบัติสามารถยืนยันได้