ระลึกถึงหลวงพ่อ
อังคาร 25 พ.ค. 2010 8:49 am
หลังจากที่ผมพาน้องที่เคารพนับถือกันไปดูดวงชะตา กับร่างทรงแถวราชบุรี มีผู้คนไปดูกันมาก การดูดวงของน้องเค้าวันนั้น น้องเค้าถูกทักในเรื่องส่วนตัวที่เจ้าตัวไม่ต้องการเปิดเผย แต่เธอก็ไม่ได้ยอมรับว่าจริงหรือไม่ ประเด็นนี้ขอให้ท่านผู้อ่านเก็บความไว้ในใจก่อน ประเด็นนี้จะกลายเป็นประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ในตอนต่อไป
เมื่อน้องเค้าเสร็จธุระจากการดูดวง ก็เริ่มเดินทางกลับกรุงเทพ ผมจึงขอไปกราบหลวงพ่อซักองค์ก่อนกลับ ผมตัดสินใจไปวัดบางแคกลาง ที่อัมพวา พอไปถึงก็ขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นกุฎิหลวงพ่อประยงค์ ผมก้มตัวลงกราบ ช่วงนั้นเป็นเวลาเย็น หลวงพ่อนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาไม้ด้านข้างของห้อง มีคุณน้าผู้ชายชาวจีนและลูกสาวนั่งที่พื้นคุยกับท่านอยู่ ท่าทางท่านเหนื่อย เมื่อผมกราบท่าน ท่านก็หันมามอง แล้วก็ถามว่ามาทำไม ก็ตอบไปว่ามากราบนมัสการ ท่านก็พูดว่า วันนี้คนมาหาเยอะเหนื่อย แล้วก็หันหน้ามองไปทางอื่น อีกอึดใจนึงน้องผู้หญิงที่มากับผมก็ตามขึ้นมาแล้วก้มลงกราบ ท่านก็หันมามอง แล้วก็หันหน้ากลับทางเดิม....ชั่วฉับพลันนั้น ท่านก็หันหน้ากลับมามองไปที่น้องผู้หญิง แล้วพูดขึ้นว่า “อีหนูมีเด็กตามมึงมา”ผมหันหลังกลับไปมอง ก็มองไม่เห็นเด็กที่ว่าเลย นั่งงงอยู่ครู่หนึ่ง ท่านก็พูดขึ้นว่า “อีหนูมึงเคยทำแท้งมากูรู้ อย่ามาปิดคนอย่างกู กูรู้ได้ทั้งนั้น” น้องเค้าก็ไม่ตอบ ท่านก็ย้ำไปอีกว่า “มึงยอมรับซะเถิด ปิดใครก็ปิดได้แต่ปิดกูไม่ได้”ท่านก็พูดประโยคเดิมๆอีกหลายหน น้องเค้าก็เงียบไม่ตอบ ท่านจึงพูดขึ้นมาว่า “ลูกมึงเป็นผู้ชาย อายุได้ประมาณ 16,17 ได้” น้องเค้านิ่งไปสักครู่ก็ยอมรับว่าเคยทำแท้งจริง และเวลาผ่านมาประมาณ 16/17 ปีแล้ว หลวงพ่อยังพูดเสริมอีกว่า “หลังๆมานี่ มึงชอบมองเด็กสาวๆวัยรุ่นที่สวยๆใช่ไหม” น้องเค้าก็รับว่าจริง หลวงพ่อบอกว่า “ก็เพราะว่าลูกมึงมันเริ่มเป็นหนุ่ม มันเลยชอบมองผู้หญิงไง” [ท่านผู้อ่านคงจำประเด็นที่น้องเค้าถูกทักจากร่างทรงในตอนต้นที่ผมกล่าวไว้ ร่างทรงทักว่า เคยทำแท้งมา ลูกเป็นผู้ชาย แต่ไม่ได้บอกอายุ] น้องเค้าก็บอกหลวงพ่อไปว่า เคยมีคนทักว่า เคยทำแท้ง ลูกเป็นผู้ชาย ท่านก็พูดขึ้นว่า “แล้วเค้าพิสูจน์ให้มึงดูได้มั้ยว่า ลูกมึงเป็นผู้ชาย” “แต่กูพิสูจน์ให้มึงดูได้”
ว่าแล้วหลวงพ่อลุกจากโซฟาลงมานั่งกับพื้นใกล้พวกเรา แล้วสั่งให้น้องเค้านั่งเหยียดขาออกไปทางประตู แล้วพูดว่า “ไอ้หนู กูจะพิสูจน์ให้แม่มึงเห็นว่า มึงเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย กูสั่งอะไรมึงทำตามกูนะ กูจะช่วยให้มึงได้ไปเกิดด้วย” จากนั้นท่านก็พูดว่า อีหนูมึงลองยกขาขวาให้สูงจากพื้นซิ ทำได้ไหม น้องเค้าก็ยกได้ จากนั้นให้ลองยกขาซ้าย ก็ทำได้ จากนั้น ท่านก็พูดขึ้นว่า “ไอ้หนู ถ้ามึงเป็นผู้ชาย ให้มึงไปนั่งทับขาขวาแม่มึงไว้ เวลากูสั่งให้แม่มึงยกขาขวามึงทับเอาไว้ อย่าให้มันยกได้” จากนั้นท่านสั่งให้น้องยกขาขวา แต่ไม่ว่าจะออกแรงมากเท่าใด ก็ไม่สามารถยกขาขึ้นมาได้เลย ท่านจึงพูดว่า “ไอ้หนู ถ้ามึงเป็นผู้ชาย ให้มึงไปนั่งทับขาซ้ายแม่มึงไว้ เวลากูสั่งให้แม่มึงยกขาซ้ายมึงทับเอาไว้ อย่าให้มันยกได้” จากนั้นท่านก็สั่งให้ยกขาซ้าย ผลคือไม่สามารถยกขาซ้ายได้ ต่อมาท่านสั่งใว่า “ไอ้หนูทับขาทั้งสองขาเลย” แล้วสั่งให้น้องเค้ายกขาทั้งสองพร้อมกัน ผลก็คือไม่สามารถยกได้เช่นกัน เท่านั้น ยังไม่พอ ท่านสั่งให้น้องลุกขึ้นยืน เอามือจับรวบเสื้อที่ใส่อยู่ทางด้านหลังดึงให้เสื้อด้านหน้าตรงบริเวณท้องแนบติดกับลำตัว แล้วพูดสั่งว่า “ไอ้หนู มึงเข้าไปอยู่ในท้องแม่มึงนะ แล้วมึงดันท้องแม่ให้โป่งออกมา ให้แม่เค้าเห็น” ผมจ้องไปบริเวณท้องสักครู่ก็เห็นท้องพองๆอยู่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่า เดิมพองอยู่แล้วหรือไม่ เหมือนหลวงพ่อจะรู้ใจผม ท่านจึงสั่งอีกว่า ไอ้หนูมึงดันออกมาอีก คราวนี้ผมเห็นเลยว่า ท้องพองออกมาทันทีเลยครับ ดูราวกับคนท้อง 4 เดือน พอน้องเค้าเห็นกับตา เค้าร้องไห้ออกมาทันทีเลย ผมเข้าใจว่า เค้าสงสารลูกและเชื่อว่า ลูกเป็นผู้ชายจริง ตามที่หลวงพ่อบอก จากนั้น หลวงพ่อจึงตั้งชื่อลูกให้ และบอกน้องเค้าให้ไปทำบุญตามที่หลวงพ่อสั่ง และอุทิศบุญให้ลูก เค้าจะได้ไปเกิด
บทความนี้ ผมตั้งใจจะเขียนหลายครั้งแล้ว แต่ก็ระงับไว้ เนื่องด้วย มีผู้คนมาหาหลวงพ่อ ขอความช่วยเหลือด้านต่างๆ เป็นจำนวนมากมายในแต่ละวัน ทำให้ท่านตรากตรำอย่างมาก ในที่สุดท่านก็ต้องจากไปตามกฎพระไตรลักษณ์ เมื่อไม่นานนี่เอง ผมเคยถามท่านว่า ท่านมองเห็นเด็ก หรือวิญญาณเด็กหรือ ท่านว่า "กูไม่เห็น แต่กูรู้ "
บทความนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ท่าน จะมีการฌาปนกิจในวันที่ 30 พ.ค นี้ เวลา 16.00 น. ณ วัดบางแคกลาง อัมพวา สมุทรสงคราม ถ้าอยากได้เบี้ยแก้ ทำบุญได้ที่ศาลาในงานศพ ราคา 1000 บาท เป็นเบี้ยแก้ตำรับหลวงพ่อไพล เกจิเข้มขลัง วัดบางแคกลาง ในอดีต ซึ่งท่านได้รับถ่ายทอดวิชามาครับ
เมื่อน้องเค้าเสร็จธุระจากการดูดวง ก็เริ่มเดินทางกลับกรุงเทพ ผมจึงขอไปกราบหลวงพ่อซักองค์ก่อนกลับ ผมตัดสินใจไปวัดบางแคกลาง ที่อัมพวา พอไปถึงก็ขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นกุฎิหลวงพ่อประยงค์ ผมก้มตัวลงกราบ ช่วงนั้นเป็นเวลาเย็น หลวงพ่อนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาไม้ด้านข้างของห้อง มีคุณน้าผู้ชายชาวจีนและลูกสาวนั่งที่พื้นคุยกับท่านอยู่ ท่าทางท่านเหนื่อย เมื่อผมกราบท่าน ท่านก็หันมามอง แล้วก็ถามว่ามาทำไม ก็ตอบไปว่ามากราบนมัสการ ท่านก็พูดว่า วันนี้คนมาหาเยอะเหนื่อย แล้วก็หันหน้ามองไปทางอื่น อีกอึดใจนึงน้องผู้หญิงที่มากับผมก็ตามขึ้นมาแล้วก้มลงกราบ ท่านก็หันมามอง แล้วก็หันหน้ากลับทางเดิม....ชั่วฉับพลันนั้น ท่านก็หันหน้ากลับมามองไปที่น้องผู้หญิง แล้วพูดขึ้นว่า “อีหนูมีเด็กตามมึงมา”ผมหันหลังกลับไปมอง ก็มองไม่เห็นเด็กที่ว่าเลย นั่งงงอยู่ครู่หนึ่ง ท่านก็พูดขึ้นว่า “อีหนูมึงเคยทำแท้งมากูรู้ อย่ามาปิดคนอย่างกู กูรู้ได้ทั้งนั้น” น้องเค้าก็ไม่ตอบ ท่านก็ย้ำไปอีกว่า “มึงยอมรับซะเถิด ปิดใครก็ปิดได้แต่ปิดกูไม่ได้”ท่านก็พูดประโยคเดิมๆอีกหลายหน น้องเค้าก็เงียบไม่ตอบ ท่านจึงพูดขึ้นมาว่า “ลูกมึงเป็นผู้ชาย อายุได้ประมาณ 16,17 ได้” น้องเค้านิ่งไปสักครู่ก็ยอมรับว่าเคยทำแท้งจริง และเวลาผ่านมาประมาณ 16/17 ปีแล้ว หลวงพ่อยังพูดเสริมอีกว่า “หลังๆมานี่ มึงชอบมองเด็กสาวๆวัยรุ่นที่สวยๆใช่ไหม” น้องเค้าก็รับว่าจริง หลวงพ่อบอกว่า “ก็เพราะว่าลูกมึงมันเริ่มเป็นหนุ่ม มันเลยชอบมองผู้หญิงไง” [ท่านผู้อ่านคงจำประเด็นที่น้องเค้าถูกทักจากร่างทรงในตอนต้นที่ผมกล่าวไว้ ร่างทรงทักว่า เคยทำแท้งมา ลูกเป็นผู้ชาย แต่ไม่ได้บอกอายุ] น้องเค้าก็บอกหลวงพ่อไปว่า เคยมีคนทักว่า เคยทำแท้ง ลูกเป็นผู้ชาย ท่านก็พูดขึ้นว่า “แล้วเค้าพิสูจน์ให้มึงดูได้มั้ยว่า ลูกมึงเป็นผู้ชาย” “แต่กูพิสูจน์ให้มึงดูได้”
ว่าแล้วหลวงพ่อลุกจากโซฟาลงมานั่งกับพื้นใกล้พวกเรา แล้วสั่งให้น้องเค้านั่งเหยียดขาออกไปทางประตู แล้วพูดว่า “ไอ้หนู กูจะพิสูจน์ให้แม่มึงเห็นว่า มึงเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย กูสั่งอะไรมึงทำตามกูนะ กูจะช่วยให้มึงได้ไปเกิดด้วย” จากนั้นท่านก็พูดว่า อีหนูมึงลองยกขาขวาให้สูงจากพื้นซิ ทำได้ไหม น้องเค้าก็ยกได้ จากนั้นให้ลองยกขาซ้าย ก็ทำได้ จากนั้น ท่านก็พูดขึ้นว่า “ไอ้หนู ถ้ามึงเป็นผู้ชาย ให้มึงไปนั่งทับขาขวาแม่มึงไว้ เวลากูสั่งให้แม่มึงยกขาขวามึงทับเอาไว้ อย่าให้มันยกได้” จากนั้นท่านสั่งให้น้องยกขาขวา แต่ไม่ว่าจะออกแรงมากเท่าใด ก็ไม่สามารถยกขาขึ้นมาได้เลย ท่านจึงพูดว่า “ไอ้หนู ถ้ามึงเป็นผู้ชาย ให้มึงไปนั่งทับขาซ้ายแม่มึงไว้ เวลากูสั่งให้แม่มึงยกขาซ้ายมึงทับเอาไว้ อย่าให้มันยกได้” จากนั้นท่านก็สั่งให้ยกขาซ้าย ผลคือไม่สามารถยกขาซ้ายได้ ต่อมาท่านสั่งใว่า “ไอ้หนูทับขาทั้งสองขาเลย” แล้วสั่งให้น้องเค้ายกขาทั้งสองพร้อมกัน ผลก็คือไม่สามารถยกได้เช่นกัน เท่านั้น ยังไม่พอ ท่านสั่งให้น้องลุกขึ้นยืน เอามือจับรวบเสื้อที่ใส่อยู่ทางด้านหลังดึงให้เสื้อด้านหน้าตรงบริเวณท้องแนบติดกับลำตัว แล้วพูดสั่งว่า “ไอ้หนู มึงเข้าไปอยู่ในท้องแม่มึงนะ แล้วมึงดันท้องแม่ให้โป่งออกมา ให้แม่เค้าเห็น” ผมจ้องไปบริเวณท้องสักครู่ก็เห็นท้องพองๆอยู่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่า เดิมพองอยู่แล้วหรือไม่ เหมือนหลวงพ่อจะรู้ใจผม ท่านจึงสั่งอีกว่า ไอ้หนูมึงดันออกมาอีก คราวนี้ผมเห็นเลยว่า ท้องพองออกมาทันทีเลยครับ ดูราวกับคนท้อง 4 เดือน พอน้องเค้าเห็นกับตา เค้าร้องไห้ออกมาทันทีเลย ผมเข้าใจว่า เค้าสงสารลูกและเชื่อว่า ลูกเป็นผู้ชายจริง ตามที่หลวงพ่อบอก จากนั้น หลวงพ่อจึงตั้งชื่อลูกให้ และบอกน้องเค้าให้ไปทำบุญตามที่หลวงพ่อสั่ง และอุทิศบุญให้ลูก เค้าจะได้ไปเกิด
บทความนี้ ผมตั้งใจจะเขียนหลายครั้งแล้ว แต่ก็ระงับไว้ เนื่องด้วย มีผู้คนมาหาหลวงพ่อ ขอความช่วยเหลือด้านต่างๆ เป็นจำนวนมากมายในแต่ละวัน ทำให้ท่านตรากตรำอย่างมาก ในที่สุดท่านก็ต้องจากไปตามกฎพระไตรลักษณ์ เมื่อไม่นานนี่เอง ผมเคยถามท่านว่า ท่านมองเห็นเด็ก หรือวิญญาณเด็กหรือ ท่านว่า "กูไม่เห็น แต่กูรู้ "
บทความนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ท่าน จะมีการฌาปนกิจในวันที่ 30 พ.ค นี้ เวลา 16.00 น. ณ วัดบางแคกลาง อัมพวา สมุทรสงคราม ถ้าอยากได้เบี้ยแก้ ทำบุญได้ที่ศาลาในงานศพ ราคา 1000 บาท เป็นเบี้ยแก้ตำรับหลวงพ่อไพล เกจิเข้มขลัง วัดบางแคกลาง ในอดีต ซึ่งท่านได้รับถ่ายทอดวิชามาครับ
Re: ระลึกถึงหลวงพ่อ
อังคาร 25 พ.ค. 2010 10:39 am
ขอบคุณครับ สำหรับเรื่องราว และ ข่าวสาร 
Re: ระลึกถึงหลวงพ่อ
อังคาร 25 พ.ค. 2010 3:22 pm
ขอบคุณมากครับ เรื่องนี้ดีมาก ๆ 
Re: ระลึกถึงหลวงพ่อ
อังคาร 25 พ.ค. 2010 4:54 pm
ขอบพระคุณครับ 
Re: ระลึกถึงหลวงพ่อ
พุธ 26 พ.ค. 2010 2:01 pm
เบี้ยแก้หลวงพ่อไพล หาใน กทม.ยาก 
เคยเห็นตัวเดียวเอง
เคยเห็นตัวเดียวเอง
Re: ระลึกถึงหลวงพ่อ
พฤหัสฯ. 27 พ.ค. 2010 8:56 am
เบี้ยแก้ที่ว่านี้ ใส่ผงที่หลวงพ่อไพลท่านทำเอาไว้เองสมัยเมื่อยังมีชีวิต ผงนี้ตกทอดมาหลวงพ่อประยงค์มากทีเดียว ผมเคยเห็นเพราะหลวงพ่อหยิบขวดโหลมาให้ดู
สมัยหลวงพ่อประยงค์ยังอยู่ ท่านพูดว่า "ใช่ว่ามีเงิน แล้วจะมาเอาเบี้ยข้าได้" หากท่านคุยแล้วท่านไม่พอใจ เป็นอันว่า อด ครับ
ท่านเคยรักษาคนที่จะโดนหมอศิริราช ตัดขา เพราะขาบวมโตมาก หมอหาสาเหตุไม่เจอ คนไข้หนีมาหาท่าน ท่านรักษาจนหาย ไม่คิดเงินอีกต่างหาก
ท่านเคยทักคนที่มาหา ซึ่งเค้าขึ้นมายังไม่ทันลงนั่งเลยว่า มึงมาจากญี่ปุ่นเหรอ เค้าบอกว่า มาได้ 2 วันแล้วค่ะ ผมเคยถามกรณีนี้ท่านรู้ได้อย่างไร ท่านตอบว่า กูรู้ แต่กูไม่บอกมึง
สมัยหลวงพ่อประยงค์ยังอยู่ ท่านพูดว่า "ใช่ว่ามีเงิน แล้วจะมาเอาเบี้ยข้าได้" หากท่านคุยแล้วท่านไม่พอใจ เป็นอันว่า อด ครับ
ท่านเคยรักษาคนที่จะโดนหมอศิริราช ตัดขา เพราะขาบวมโตมาก หมอหาสาเหตุไม่เจอ คนไข้หนีมาหาท่าน ท่านรักษาจนหาย ไม่คิดเงินอีกต่างหาก
ท่านเคยทักคนที่มาหา ซึ่งเค้าขึ้นมายังไม่ทันลงนั่งเลยว่า มึงมาจากญี่ปุ่นเหรอ เค้าบอกว่า มาได้ 2 วันแล้วค่ะ ผมเคยถามกรณีนี้ท่านรู้ได้อย่างไร ท่านตอบว่า กูรู้ แต่กูไม่บอกมึง
Re: ระลึกถึงหลวงพ่อ
เสาร์ 05 มิ.ย. 2010 4:06 pm
ชอบจริง ๆ ทั้งเรื่องของท่านและสำนวนของคุณนภ 070 ขอบคุณอีกครั้งครับ