จันทร์ 17 ก.พ. 2014 10:34 am
คนจีนที่ไปด้วยเช่ากันเป็นจำนวนมาก ราคาค่าเช่าบูชาก็ราคาสูง แต่คุณพิทักษ์เองมิได้เช่าเพราะเห็นว่ามีอยู่มากแล้ว แต่ท่านอาจารย์องค์นั้นได้ถามคุณพิทักษ์ว่าทำไมไม่เอาไว้บ้าง ซึ่งคุณพิทักษ์ก็ตอบว่ามีอยู่แล้วทำให้พระอาจารย์องค์นั้นขอดู คุณพิทักษ์ก็จำเป็นต้องถอดสร้อยคอซึ่งมีลูกอมดำของหลวงพ่อรวมอยู่ด้วยออกมาให้ดู
ทันทีที่ท่านอาจารย์องค์นั้นเห็นลูกอมดำ ก็ยกสร้อยพระขึ้นพนมมือเหนือศีรษะ และกราบลงบนอาสนะเบื้องหน้าท่าน พร้อมกับพูดว่า โยมไม่ต้องเอาของอาตมาแล้วเพราะมีของดีอยู่แล้วนี่ไง พร้อมกับชี้ที่ลูกอมดำ
คุณพิทักษ์ก็เลยเรียนถามว่าท่านทราบหรือว่าเป็นของพระอาจารย์องค์ใด ท่านอาจารย์องค์นั้นตอบว่า
นี่คือลูกอมดำของหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ธนบุรีและเป็นอาจารย์ของอาตมาด้วย พร้อมกับบอกว่าได้ของดีของอาจารย์ของอาตมามาแล้ว ไม่ต้องเอาของอาตมาหรอก
คุณพิทักษ์กล่าวว่าจำชื่ออาจารย์องค์นั้นไม่ได้เพราะเป็นเวลา ๒-๓ ปีแล้วแต่รู้สึกว่าดังมากจากคำบอกเล่าของพรรคพวกที่ไปด้วย
พระอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่เคยมาศึกษากับหลวงพ่ออีกก็คือ "หลวงพ่อปาน ผู้มีชื่อเสียงแห่งวัดบางนมโค จังหวัดอยุธยา"
พระภิกษุเชื้อ วิสุทธสีโล วัดบางปะกอก ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่าเมื่อตอนเป็นเด็กอายุ ๑๒-๑๓ ปี ได้ติดตามพระจำรัส ประสารเกตุ พี่ชายของนายแจ่ม ประสารเกตุ (คนเก่าแก่ตำบลบางปะกอก) ไปหาหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคเพื่อขอของดีของท่านซึ่งกำลังเริ่มจะมีชื่อเสียง เมื่อเข้าไปถึงวัดก็เข้าไปกราบมนัสการท่าน
หลวงพ่อปาน จึงได้ถามว่ามาทำไม พระจำรัส ฯ จึงตอบว่ามาขอของดีจากหลวงพ่อท่านจึงได้ถามว่าอยู่กันที่ไหนล่ะ
พระจำรัสฯ จึงตอบว่าอยู่วัดบางปะกอก ธนบุรี หลวงพ่อปาน จึงบอกว่าไม่มีหรอกของดีที่นี่น่ะ พระภิกษุเชื้อฯ ตอนนั้นยังเป็นเด็กอยู่และยังไม่ได้บวชเรียน จึงพูดว่าที่หน้าหลวงพ่อมีตั้ง ๕ บาตรแน่ะ
ท่านจึงหัวเราะและกล่าวว่าอยู่วัดบางปะกอกก็มีของอาจารย์ฉันอยู่แล้วนี่นา จะมาเอาของฉันทำไมอีก "หลวงพ่อพริ้งไงล่ะ" และท่านก็ได้มอบให้มาคนละ ๕ องค์ พร้อมกับฝากมาให้หลวงพ่อพริ้งอีกจำนวนหนึ่ง
เมื่อกลับมาถึงวัดก็มีมีความสงสัย เพราะหลวงพ่อปานท่านบอกว่าเคยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อพริ้ง แต่ทำไมเราไม่เคยเห็นหน้าสักที เราก็อยู่เป็นเด็กวัดมานาน จึงได้ถามหลวงพ่อพริ้งว่า "หลวงลุง หลวงพ่อปานเขาบอกว่าเคยเป็นลูกศิษย์ของหลวงลุง ผมไม่เคยเห็นหน้าสักที"
หลวงพ่อจึงกล่าวว่า เขาไม่ได้เป็นลูกศิษย์แบบเองนี่ เขามาเรียนกับข้าเพียงคืนเดียว เท่านั้น สอบถามต่อจึงได้ความว่าหลวงพ่อปานขณะนั้นมีอายุมากกว่า หลวงพ่อ ได้มาขอเรียนวิปัสสนาธุระ โดยบอกว่าทราบว่าอาจารย์สำเร็จวิปัสสนา ผมขอสมัครตัวเป็นศิษย์เพื่อเรียนด้วย เพราะเรียนมาหมดธูปเป็นกระบุงๆ แล้วไม่สำเร็จสักที
หลวงพ่อจึงดำเนินการสอนให้ ซึ่งหลวงพ่อปานศึกษาเพียงคืนเดียวเท่านั้นก็สำเร็จ โดยบอกกับหลวงพ่อปานว่า "เอาละท่านเรียนสำเร็จแล้ว"
เรื่องนี้ผู้เขียนขอยืนยันอีกคนหนึ่งว่าในสมัยที่ผู้เขียนอายุ ๑๗-๑๘ ปี คุณลุงแจ่ม ประสารเกตุ ขณะนั้นยังมีชีวิตอยู่ได้เคยเล่าให้ฟังเหมือนกัน แต่ขณะที่เขียนเรื่องนี้คุณลุงแจ่ม ได้ถึงแก่กรรมเสียแล้ว เลยหมดโอกาสที่จะสอบถามให้ได้เรื่องราวมากกว่านี้
ปัจจุบันนี้ ท่านผู้มีความต้องการที่จะได้เครื่องรางของขลังที่ท่านสร้างขึ้นยังพอมีให้เช่าไปบูชาอยู่บ้างเพียงเล็กน้อย เช่นลูกอมสีเทาและพระสมเด็จผงใบลานอันขึ้นชื่อของหลวงพ่อ
อนึ่ง เมื่อวันที ๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ทางวัดได้ร่วมกับคณะศิษยานุศิษย์ สมาคมผู้ปกครองและครูวัดบางปะกอกสมาคมนักเรียนเก่าบางปะกอก และสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนประชาบาล จัดพิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ ปลุกเสกเครื่องรางของขลังหลายชนิด อาทิเช่นรูปหล่อเหมือน เหรียญทองนาคเงิน เหรียญทองแดงรมดำ พระพิมพ์ผงชนิดต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาได้มีไว้ติดตัวสักการะบูชา โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาน สมเด็จพระสังฆราชเป็นองค์ประทานเททอง สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพน เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย ร่วมด้วยพระอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงหลายองค์นั่งปรกปลุกเสกตลอดราตรี
อาทิเช่น หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี หลวงพ่อมุ่ยวัดดอนไร่ สุพรรณบุรี หลวงพ่อเย่อ วัดอาสาสงคราม พระประแดง หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี พระครูอนุรักษ์วรคุณ วัดหนองม่วง ราชบุรี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อมิ่ง วัดกก หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร นครหลวงกรุงเทพธนบุรี ฯลฯ เป็นต้น ณ พระอุโบสถวัดบางปะกอก
ของบางชนิดที่จัดสร้างหมดไปในเพียงวันเดียวที่เปิดให้เช่าบูชา ของที่จัดสร้างได้ผสมผงเดิมของท่านไปด้วย พร้อมทั้งผงจากพระอาจารย์ต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากหลายจังหวัด เช่นจังหวัด สุพรรณบุรี สิงห์บุรี เพชรบุรี ราชบุรี สระบุรี นนทบุรี ธนบุรี พร้อมด้วยดินและอิฐ จากสถูปอนุสาวรีย์อนุสรณ์ดอนเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีผงสุพรรณของแท้อันขึ้นชื่อผสมอีกส่วนหนึ่ง จึงกล่าวได้ว่าถึงแม้หลวงพ่อจะมิได้สร้างด้วยตนเอง แต่ก็จะไม่ทำให้ผู้ที่มีติดตัวไว้ผิดหวังในคุณวิเศษในของที่จัดสร้างขึ้นใหม่เลย นอกจากนั้นคณะกรรมการยังได้ทำพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณของหลวงพ่ออัญเชิญเป็นประทานนั่งปรกปลุกเสกของในพิธีดังกล่าวด้วย
สำหรับรายได้จะจัดตั้งเป็นมูลนิธิ "หลวงปู่พริ้ง" นำดอกผลช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ของโรงเรียนวัดบางปะกอก (ประถม) และโรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม (มัธยม) อีกส่วนหนึ่งจะนำไปขยายบริเวณที่ประดิษฐานพระรูปหล่อจำลองของหลวงพ่อให้กว้างขวางสวยงามเหมาะสมต่อไป
- แนบไฟล์
-
- image.jpg (31.64 KiB) เปิดดู 1762 ครั้ง