อ้างคำพูด:
หลายท่านที่เป็นชาวพุทธชนิดอยู่กึ่งกลาง นับถือพุทธแต่การภาวนายังอ่อนอาจมองเรื่องราวของเทวดาอย่างตั้งแง่เชิงลบ ได้ยินบ่อย ๆ ว่าไม่ใช่พุทธแท้บ้างล่ะ ไม่ใช่สรณะที่พึ่งอันเกษมบ้างล่ะ ไม่มีในศาสนาของเรา ฯลฯ
ผมฟังแล้ว คันฟัน แต่ขี้คร้านจะโต้กลับ ด้วยเขาไม่ได้พูดกับเราเป็นเพียงเปรยกับคนอื่นแต่ลอยมาเข้าหู ปากห้ามได้แต่ใจน่ะหมดสิทธิ์ มันเลยสวนเขาตูมตามอยู่ในใจว่า
งั้นตอนรับพรพระพอถึง ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา ก็อย่าพนมมือรับเลย เพราะนั่นแปลว่า ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาท่าน
แล้วทำไมพระท่านจึงต้องให้พรอย่างอ้างเทวดา ทำไมไม่เอาอำนาจพระรัตนตรัยโดยส่วนเดียวเล่า
ที่มาน่ะมี
พระคาถาบทหนึ่งชื่อว่า เทวะตาทิสสะทักขิณานุโมทนาคาถา มีความตอนหนึ่งว่า
ยา ตัตถะ เทวะตา อาสุง.....เทพเหล่าใดมีในที่นั้น
ตาสัง ทักขิณะมาทิเส.....ควรอุทิศทักษิณาทานเพื่อเทพดาเหล่านั้นด้วย
ตา ปูชิตา ปูชะยันติ.....เทพดาที่ได้บูชาแล้ว (เทพดานั้น)ท่านย่อมบูชาบ้าง
มานิตา มานะยันติ นัง.....ที่ได้นับถือแล้ว ย่อมนับถือบ้าง
ตะโต นัง อะนุกัมปันติ.....แต่นั้นท่านย่อมอนุเคราะห์เขา
มาตา ปุตตังวะ โอระสัง.....ประหนึ่งมารดาอนุเคราะห์บุตรผู้เป็นโอรส
เทวะตานุกัมปิโต โปโส.....บุรุษได้อาศัยเทพดาอนุเคราะห์แล้ว
สะทาภัทรานิ ปัสสะติ.....ย่อมเห็นกิจการอันเจริญทุกเมื่อ
ยังสงสัยอีกหรือ ?
พระคาถาอีกบทหนึ่งชื่อ เทวะตาภิสัมมันตะนะคาถา มีความตอนหนึ่งว่า
ตัสมา หิ ภูตานิ สะเมนตุ สัพเพ.....เหตุนั้นหมู่ภูตทั้งปวงจงฟังเถิด
เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ.....ท่านทั้งหลายจงกระทำไมตรีจิตในหมู่สัตว์มนุษยชาติ
ภูเตสุ พาฬหัง กะตะภัตติกายะ.....ผู้มีภักดีอันทำแล้วมั่นในหมู่ภูต
ทิวา จะรัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง.....มนุษย์ทั้งหลายเหล่าใด ย่อมกระทำพลีกรรม ในกลางวันหรือกลางคืน
ปัจโจปะการัง อะภิกังขะมานา.....มุ่งหวังอยู่ซึ่งความอุดหนุนตอบแทน
เต โข มนุสสา ตุนะกานุภาวา.....มนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้นแลเป็นผู้มีอานุภาพน้อย
ภูตา วิเสเสนะ มะหิทธิกา จะ.....ส่วนภูตทั้งหลายเป็นผู้มีฤทธิ์มากโดยแปลกกัน
อทิสสะมานา มะนุเชหิ ญาตา.....เป็นพวกอทิสสมานกายที่มนุษย์ทั้งหลายรู้จัก
ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา.....เหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่ประมาทในการรักษามนุษย์เหล่านั้นเถิด ฯลฯ
และในพระสูตรที่สำคัญยิ่งซึ่งพระพุทธเจ้าทรงตรัสจากพระโอษฐ์สอนพระอานนท์ให้ท่องจำทำน้ำพระพุทธมนต์ไปประพรมเมืองไพศาลีครั้งเกิดโรคระบาดหนักผู้คนล้มตายเป็นเบือ ภูตผีปีศาจรังควานชาวเมืองเป็นอันมาก พระสูตรนี้ชื่อ รัตนสูตร มีความตอนหนึ่งว่า
ยานีธะ ภูตานิ สมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.....เหล่าภูตทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี
สัพเพวะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ.....ขอหมู่ภูตทั้งปวงนั้น จงเป็นผู้มีใจดีเถิด
อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง.....และเชิญฟังคำสดุดีพระรัตนตรัยอันข้าพเจ้ากล่าวโดยเคารพเถิด
ตัสมา หิ ภูตา สิสาเมถะ สัพเพ.....ดูก่อนภูตทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายจงฟังข้าพเจ้า
เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ.....ขอท่านทั้งหลาย จงกระทำเมตตาจิต ในประชาชาวมนุษย์เถิด
ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง.....ซึ่งเขาทั้งหลายทำเทวตาพลีอยู่ทั้งกลางวันกลางคืน
ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา.....เพราะเหตุนั้นแลท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่ประมาท ช่วยคุ้มครองรักษาเขาเหล่านั้นด้วยเถิด ฯลฯ
พอจะเป็นหลักฐานได้ไหมว่าเทวดาใกล้ชิดมนุษย์เพียงใด ขนาดพระพุทธเจ้าฝากฝังพวกเรากับท่านเหล่านั้นก็แล้วกัน ในพระสูตรต่าง ๆ พระปริตรต่าง ๆ นอกจากกล่าวถึงอานุภาพของพระรัตนตรัยแล้ว ยังกล่าวถึงอำนาจแห่งเทพดาไว้ด้วย มิได้ทรงห้ามชาวพุทธนับถือ ซ้ำยังตรัสว่าถ้ามนุษย์คนใดเคารพ ทำบุญกุศลแล้วอุทิศแก่เทวดาด้วย หรือทำพลีกรรมต่าง ๆ มีการเซ่นสรวงบูชาเทวดาด้วย
เทวดาก็จงคุ้มครองรักษามนุษย์ผู้นั้น
แม้การสวดมนต์ทำวัตรหรือสวดมนต์ในวาระสำคัญต่าง ๆ พระภิกษุทุกอาวาสทุกนิกายย่อมต้องสวด ชุมนุมเทวดา ก่อนทุกครั้งไป ชุมนุมทำไม ? สมัยพุทธกาลเมื่อพระพุทธเจ้าก็ดีพระอรหันต์ก็ดีเสด็จไปประทับยังสถานที่ใด ย่อมมีเทพยดาที่ทรงอานุภาพทั้งมากและน้อย ยศใหญ่และเล็ก แห่แหนมาเข้าเฝ้าฟังธรรม รับบุญกุศล
ทีนี้เทวดาเป็นผู้ดีรักสะอาด เมื่อมาแล้วถ้ามีอะไรสกปรก เช่น ภูตผีชั้นต่ำที่ให้โทษ ไสยศาสตร์มนต์ดำที่ไร้คุณธรรม ยักษ์ อสูร เปรต ฯลฯ พวกนี้ เทวดาจะขับไล่หนีหมด เพราะท่านไม่ชอบ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ถึงสอนให้เราสวดมนต์มาก ๆ เทวดาจะลงมาฟัง เมื่อเทวดามาสิ่งสกปรกที่ไม่ดีก็ออกไป รับแต่ความสุขความเจริญ โชคลาภเงินทอง
ทีนี้จะรังเกียจอะไร คนรังเกียจเทวดาที่บอกว่าตนเป็นคนพุทธนี่แหละ อยู่บ้านก็ขี้เกียจสวดมนต์-นั่งสมาธิ ยุงก็ตบ มดก็บี้ โกหกก็เก่ง เงินทองก็โลภเอาเยอะ ๆ แถมไม่ค่อยใส่บาตรทำบุญ
แต่รังเกียจเทวดาแน่ะ !
นี่เข้าลักษณะเหยียบหัวก้าวขึ้นข้างบน ใครจะว่าผมอย่างไรก็เอาเถิด แต่บอกเลยว่าผมนับถือของผม พระพุทธองค์เคยตรัสบอกถึงอนุสติ 10 อย่างที่ชาวพุทธควรนึกถึงอยู่เสมอ 1 ใน 10 นั่นก็คือ เทวตานุสติ ระลึกถึงคุณของเทวดา ก็ถ้าไม่ทำความดีจะขึ้นสวรรค์ได้เหรอ
นับถือไปเถิดไม่เสียหลาย หากพระรัตนตรัยต้องสูงสุดเพราะหมดกิเลสสิ้นเชิงจึงควรแก่การเคารพ แต่จะยกพระไตรรัตน์แล้วปฏิเสธทุกสิ่งสิ้นไม่เหลือหลอว่ากราบไหว้ไม่ได้ นับถือบูชาไม่ได้เพราะไม่ใช่ พุทธ ธัม สงฆ์
แล้วจะเอาพ่อ แม่ ครู อาจารย์ไปไว้ไหน ?
จาก หัวข้อ
โบสถ์พราหมณ์ เทวสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ฮะ
ส่วนเรื่องว่าทำไมไม่มีพระศิวะหรือฮะ อาจจะเป็นเพราะว่า พระศิวะท่านเป็นเทพผู้ทำลายล้าง หากพระเนตรที่สามเปิดขึ้นมาเมื่อใด ก็จะเกิดไฟบรรลัยกัลย์ขึ้นมาล้างโลก
ท่านอาจจะดูทรงฤทธานุภาพมาก สำหรับคนทั่วไปที่ถือความเชื่อนี้ เพราะขึ้นชื่อว่า
"ทำลาย" ถ้าเทียบกับ
"สร้าง" ของพระพรหม
"รักษา" ของพระนารายณ์แล้ว
องค์พระศิวะท่าน น่ากลัวที่สุดฮะ