“สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”…..ผมนั่งนึกถึงเรื่องของหลวงปู่แก่ๆ รูปหนึ่งที่จะอยู่ในใจผมไปตลอดกาล....
เมื่อวานตอนบ่ายมีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น…ตาก็มองชื่อคนโทรเข้าซึ่งผมมักจะทำอย่างนี้เสมอและก็เป็นเพื่อนผมเองที่เป็นผู้ที่โทรเข้ามาแต่เพื่อนคนนี้ก็ไม่ใช่คนที่จะโทรมาหาบ่อยนัก ผมจึงรับสายแล้วเพื่อนก็พูดออกมาทันทีว่า
“หลวงปู่เสียแล้ว” .....ใจผมหายวาบ....เนื่องจากเพื่อนที่โทรมาหานี้บ้านอยู่อยุธยาใกล้วัดพระขาวเพียงลัดนิ้วมือแต่ผมก็ยังทำใจดีสู้เสือถามกลับไปว่า
“หลวงปู่ที่ไหน” ....“ก็หลวงปู่ทิมไง ..... อย่างที่มึงเคยเล่าให้กูฟังไงว่าท่านต้องเสียปีนี้” เพื่อนเริ่มใช้ภาษาไม้เมืองเดิมด้วยความหงุดหงิดจากน้ำเสียงกล่าวถึงเรื่องที่ผมเล่าให้มันฟังเมื่อปลายปีที่แล้ว
ภาพต่างๆของหลวงปู่ทิม วัดพระขาวไหลพลั่งพลูไหลผ่านสมองผมไปเหมือนพลิกหน้าหนังสือ....พลันก็นึกถึงเรื่องที่ท่านพูดกับผมเมื่อ 14 ปีก่อน...
หากผมบอกว่า…
“หลวงปู่ทิมท่านรู้ตัวท่านเองมากกว่าสิบปีแล้วครับว่าท่านต้องมรณภาพเมื่อท่านอายุ 96 ปี”จะมีใครเชื่อผมไหม.....หลายคนไม่มากก็น้อยคงจะหาว่าผม
”บ้า”แต่โบราณว่าไว้ว่า ....
“การจะเกิดผลนั้น มันต้องมีเหตุให้เกิด ”เข้ามาใกล้ๆซิครับแล้วจะเล่าให้ฟังว่าทำไมผมถึงรู้...
ครั้งหนึ่งนานมาแล้วกว่า14ปี...ในครั้งนั้นหลวงปู่ทิมท่านยังไม่ดังทั่วประเทศเหมือนตอนนี้ คนที่ไปหาท่านส่วนใหญ่จึงเป็นชาวบ้านแถบอยุธยาหรือจังหวัดใกล้เคียงเสียมากกว่า ท่านจึงค่อนข้างว่างและมีเวลาพูดคุยกับญาติโยมแต่ละกลุ่มได้นานๆ ....
บางครั้งท่านก็เดินตรวจวัดซึ่งก็จะมีทั้ง
“คนวัด” แล
”หมาวัด”เดินตามท่านอยู่ไม่ห่าง....บางครั้งท่านก็เดินไปนั่งที่ริมแม่น้ำหลังวัด....หรือไม่ก็แถวเมรุซึ่งดูเหมือนว่าเป็นอีกที่หนึ่งซึ่งท่านชอบไปนั่งเล่น...
เมื่อก่อนการไปที่วัดพระขาวของผมนั้น...ผมจึงอยู่กับท่านถึงเย็นจนรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่วิ่งผ่านหน้าวัดตอนเย็นหมดหรือไม่ก็นอนค้างที่วัด ด้วยยังเด็กอยู่ไม่มีรถส่วนตัว อย่างที่ผมเคยเล่าไว้ว่าการไปวัดพระขาวนั้นผมต้องนั่งรถเมล์สายนนทบุรี-บ้านแพน ไปต่อรถอยุธยาสายในที่ตลาดบ้านแพนไปที่วัดพระขาวและด้วยเหตุนี้เองทำให้ผมได้รับรู้เรื่องราวที่ผมกำลังจะเล่าให้ทุกๆท่านฟัง....
ครั้งหนึ่งขณะที่ผมนั่งนวดหลวงปู่ทิมอยู่ในยามที่ปราศจากแขกที่มากราบท่าน ด้วยความที่ผมเห็นท่านรักเด็กๆมาก เวลามีเด็กไปที่วัดท่านชอบที่จะหาหยิบโน่นจับนี่ให้เด็กๆ เป็นประจำโดยเฉพาะขนมผมจึงเรียนถามท่านว่า
"หลวงปู่ครับถ้าผมมีลูก ผมจะเอามาให้ปู่ตั้งชื่อให้นะครับ" ท่านยิ้มด้วยความเมตตาแล้วตอบกลับมาว่า
"ได้ซิ รีบๆมีหน่อยนะ เพราะอีกสิบสี่ปีข้างหน้าเราจะต้องมรณภาพ" ตอนนั้นผมนั่งนับปีดูทันทีจะตรงกับปี พ.ศ.2552 พอดิบพอดี....
ตรงกับปีที่ท่าจะมีอายุครบ 8 รอบพอดิบพอดีอีกเช่นเดียวกัน.......
ผมถามหลวงปู่กลับทันทีว่า
“ทำไมหลวงปู่ถึงบอกว่าจะตายตอนนั้นล่ะครับ”ด้วยความตกใจผมใช้คำว่า
“ตาย” แทนคำว่า
“มรณภาพ” ซึ่งต้องโดยปกติผมต้องใช้กับพระ
ท่านเฉลยบอกว่า"
มีซินแสจีนเคยดูเราไว้น่ะ"....
เดี๋ยวท่านอื่นๆจะไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง...ลองอ่านสิ่งที่ผมเขียน
“เตือน” ทุกท่านไว้แล้วใน Blog แห่งนี้แต่ด้วยในเวลานั้นคงใคร่จะมีใครสนใจกันเท่าไหร่...
ลองกลับไปอ่านบทความตาม Link ข้างล่างนี้ดูอีกครั้งซิครับ...
ว่าผมเขียนว่าอย่างไร....
http://www.oknation.net/blog/dhammayos/2009/02/11/entry-1ผมบอกพระที่วัดแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อผม....พระบางรูปยังบอกว่า
"หลวงปู่ท่านก็ไม่สบายอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว"....ผมก็ได้แต่นั่งทอดหายใจ ดูศาสนสถานต่างๆที่สร้างขึ้นมาแล้ว
แต่ยังไม่สมบูรณ์....คิดในใจว่า ถ้าหลวงปู่ไม่อยู่แล้วใครจะสร้างต่อ....
ลูกๆ หลานๆศิษย์ของพระครูสังวรสมณกิจ (หลวงปู่ทิม) วัดพระขาว
ถ้ารักเคารพหลวงปู่จริงอย่างทิ้งวัดหลวงปู่นะครับ.....
เพราะท่านอยากเห็นวัดท่านสร้างเสร็จเสียที....
ช่วยกันทำบุญกับวัดท่านเยอะๆ คำสั่งสุดท้ายที่ท่านสั่งไว้ว่าอย่างไรผมไม่รู้
รู้แต่สิ่งที่ท่านเคยพูดเมื่อสิบกว่าปีก่อนว่า "ถ้าท่านมรณภาพก็ให้เก็บศพท่านไว้"
ไม่รู้จะยังมีใครจำได้ไหม.....
แต่สำหรับผมจำได้แม่นมากๆ
ท่านคงไม่อยากให้วัดท่านเงียบเหมือนวัดอื่นๆ
แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทางวัดจะทำอย่างไรกับศพหลวงปู่
แต่ผมเองก็คงไม่ทิ้งวัดพระขาวเหมือนกันเพราะถ้าผมไม่มีโอกาสได้รู้จักท่าน
หลวงปู่ทิม แห่งวัดพระขาว เมื่อกว่าสามสิบปีที่แล้วก็คงไม่มีผมในวันนี้เช่นเดียวกัน....
ผมยังจำได้ดีว่าผมมีงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะหลวงปู่ทิม...ไม่ใช่เพราะหลวงปู่ทิมฝากงานให้หรอกครับ...แต่เป็นเพราะอิทธิคุณชานหมากของท่าน ...ผมเชื่ออย่างนั้น 100% ครับ
เสียงของหลวงปู่ทิมยังดังก้องในหัวผมว่า
“ให้นำชานหมากนี้เลี่ยมติดตัวไปด้วยก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ให้เคาะประตู 3 ครั้งแล้วนึกถึงหลวงปู่แล้วหลวงปู่จะช่วย”ผมคงทำได้แค่เ้พียงบันทึกไว้ว่า....
“วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคท พ.ศ.2552 เวลา 10.55 น. เป็นวันและเวลาที่ได้สูญเสียพระอันเป็นที่รักและเึคารพยิ่งของผมและเพื่อนใน Blog อีกหลายๆคน เมื่อท่านพระครูสังวรสมณกิจ (หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต) เจ้าอาวาสวัดพระขาว ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ถึงแก่กาลมรณภาพที่ห้อง CCU โรงพยาบาลโรคทรวงอก จ.นนทบุรี ด้วยโรคปอดติดเชื้อ"สุดท้ายนี้ผมอยากบอกว่า "ผมรักและคิดถึงหลวงปู่มากครับ"....
สิ่งใดก็ตามที่ข้าพเจ้า ได้คิด ได้กระทำ ทั้งที่เจตนาก็ดี หรือไม่ได้เจตนาก็ดีที่เป็นการละเมิดต่อองค์ท่านพระครูสังวรสมณกิจ (หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต) วัดพระขาว ข้าพเจ้ากราบขออโหสิกรรมต่อองค์หลวงปู่ทิม มา ณ. ที่นี้ด้วยเทอญ....