Switch to full style
มาร่วมสนทนากันในหมู่สมาชิก แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ท่านประสบมาได้ที่นี่ครับ
ตอบกระทู้

“สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”

จันทร์ 23 มี.ค. 2009 3:18 pm

“สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”…..ผมนั่งนึกถึงเรื่องของหลวงปู่แก่ๆ รูปหนึ่งที่จะอยู่ในใจผมไปตลอดกาล....

เมื่อวานตอนบ่ายมีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น…ตาก็มองชื่อคนโทรเข้าซึ่งผมมักจะทำอย่างนี้เสมอและก็เป็นเพื่อนผมเองที่เป็นผู้ที่โทรเข้ามาแต่เพื่อนคนนี้ก็ไม่ใช่คนที่จะโทรมาหาบ่อยนัก ผมจึงรับสายแล้วเพื่อนก็พูดออกมาทันทีว่า “หลวงปู่เสียแล้ว” .....

ใจผมหายวาบ....เนื่องจากเพื่อนที่โทรมาหานี้บ้านอยู่อยุธยาใกล้วัดพระขาวเพียงลัดนิ้วมือแต่ผมก็ยังทำใจดีสู้เสือถามกลับไปว่า “หลวงปู่ที่ไหน” ....

“ก็หลวงปู่ทิมไง ..... อย่างที่มึงเคยเล่าให้กูฟังไงว่าท่านต้องเสียปีนี้” เพื่อนเริ่มใช้ภาษาไม้เมืองเดิมด้วยความหงุดหงิดจากน้ำเสียงกล่าวถึงเรื่องที่ผมเล่าให้มันฟังเมื่อปลายปีที่แล้ว

ภาพต่างๆของหลวงปู่ทิม วัดพระขาวไหลพลั่งพลูไหลผ่านสมองผมไปเหมือนพลิกหน้าหนังสือ....พลันก็นึกถึงเรื่องที่ท่านพูดกับผมเมื่อ 14 ปีก่อน...

หากผมบอกว่า…

“หลวงปู่ทิมท่านรู้ตัวท่านเองมากกว่าสิบปีแล้วครับว่าท่านต้องมรณภาพเมื่อท่านอายุ 96 ปี”

จะมีใครเชื่อผมไหม.....หลายคนไม่มากก็น้อยคงจะหาว่าผม”บ้า”
แต่โบราณว่าไว้ว่า .... “การจะเกิดผลนั้น มันต้องมีเหตุให้เกิด ”

เข้ามาใกล้ๆซิครับแล้วจะเล่าให้ฟังว่าทำไมผมถึงรู้...

ครั้งหนึ่งนานมาแล้วกว่า14ปี...ในครั้งนั้นหลวงปู่ทิมท่านยังไม่ดังทั่วประเทศเหมือนตอนนี้ คนที่ไปหาท่านส่วนใหญ่จึงเป็นชาวบ้านแถบอยุธยาหรือจังหวัดใกล้เคียงเสียมากกว่า ท่านจึงค่อนข้างว่างและมีเวลาพูดคุยกับญาติโยมแต่ละกลุ่มได้นานๆ ....

บางครั้งท่านก็เดินตรวจวัดซึ่งก็จะมีทั้ง “คนวัด” แล”หมาวัด”เดินตามท่านอยู่ไม่ห่าง....บางครั้งท่านก็เดินไปนั่งที่ริมแม่น้ำหลังวัด....หรือไม่ก็แถวเมรุซึ่งดูเหมือนว่าเป็นอีกที่หนึ่งซึ่งท่านชอบไปนั่งเล่น...

เมื่อก่อนการไปที่วัดพระขาวของผมนั้น...ผมจึงอยู่กับท่านถึงเย็นจนรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่วิ่งผ่านหน้าวัดตอนเย็นหมดหรือไม่ก็นอนค้างที่วัด ด้วยยังเด็กอยู่ไม่มีรถส่วนตัว อย่างที่ผมเคยเล่าไว้ว่าการไปวัดพระขาวนั้นผมต้องนั่งรถเมล์สายนนทบุรี-บ้านแพน ไปต่อรถอยุธยาสายในที่ตลาดบ้านแพนไปที่วัดพระขาวและด้วยเหตุนี้เองทำให้ผมได้รับรู้เรื่องราวที่ผมกำลังจะเล่าให้ทุกๆท่านฟัง....

ครั้งหนึ่งขณะที่ผมนั่งนวดหลวงปู่ทิมอยู่ในยามที่ปราศจากแขกที่มากราบท่าน ด้วยความที่ผมเห็นท่านรักเด็กๆมาก เวลามีเด็กไปที่วัดท่านชอบที่จะหาหยิบโน่นจับนี่ให้เด็กๆ เป็นประจำโดยเฉพาะขนมผมจึงเรียนถามท่านว่า

"หลวงปู่ครับถ้าผมมีลูก ผมจะเอามาให้ปู่ตั้งชื่อให้นะครับ"

ท่านยิ้มด้วยความเมตตาแล้วตอบกลับมาว่า "ได้ซิ รีบๆมีหน่อยนะ เพราะอีกสิบสี่ปีข้างหน้าเราจะต้องมรณภาพ"

ตอนนั้นผมนั่งนับปีดูทันทีจะตรงกับปี พ.ศ.2552 พอดิบพอดี....

ตรงกับปีที่ท่าจะมีอายุครบ 8 รอบพอดิบพอดีอีกเช่นเดียวกัน.......
ผมถามหลวงปู่กลับทันทีว่า “ทำไมหลวงปู่ถึงบอกว่าจะตายตอนนั้นล่ะครับ”

ด้วยความตกใจผมใช้คำว่า “ตาย” แทนคำว่า “มรณภาพ” ซึ่งต้องโดยปกติผมต้องใช้กับพระ

ท่านเฉลยบอกว่า"มีซินแสจีนเคยดูเราไว้น่ะ"....

เดี๋ยวท่านอื่นๆจะไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง...ลองอ่านสิ่งที่ผมเขียน “เตือน” ทุกท่านไว้แล้วใน Blog แห่งนี้แต่ด้วยในเวลานั้นคงใคร่จะมีใครสนใจกันเท่าไหร่...

ลองกลับไปอ่านบทความตาม Link ข้างล่างนี้ดูอีกครั้งซิครับ...
ว่าผมเขียนว่าอย่างไร....

http://www.oknation.net/blog/dhammayos/2009/02/11/entry-1

ผมบอกพระที่วัดแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อผม....พระบางรูปยังบอกว่า

"หลวงปู่ท่านก็ไม่สบายอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว"....

ผมก็ได้แต่นั่งทอดหายใจ ดูศาสนสถานต่างๆที่สร้างขึ้นมาแล้ว
แต่ยังไม่สมบูรณ์....คิดในใจว่า ถ้าหลวงปู่ไม่อยู่แล้วใครจะสร้างต่อ....
ลูกๆ หลานๆศิษย์ของพระครูสังวรสมณกิจ (หลวงปู่ทิม) วัดพระขาว
ถ้ารักเคารพหลวงปู่จริงอย่างทิ้งวัดหลวงปู่นะครับ.....
เพราะท่านอยากเห็นวัดท่านสร้างเสร็จเสียที....

ช่วยกันทำบุญกับวัดท่านเยอะๆ คำสั่งสุดท้ายที่ท่านสั่งไว้ว่าอย่างไรผมไม่รู้
รู้แต่สิ่งที่ท่านเคยพูดเมื่อสิบกว่าปีก่อนว่า "ถ้าท่านมรณภาพก็ให้เก็บศพท่านไว้"


ไม่รู้จะยังมีใครจำได้ไหม.....

แต่สำหรับผมจำได้แม่นมากๆ

ท่านคงไม่อยากให้วัดท่านเงียบเหมือนวัดอื่นๆ
แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทางวัดจะทำอย่างไรกับศพหลวงปู่

แต่ผมเองก็คงไม่ทิ้งวัดพระขาวเหมือนกันเพราะถ้าผมไม่มีโอกาสได้รู้จักท่าน

หลวงปู่ทิม แห่งวัดพระขาว เมื่อกว่าสามสิบปีที่แล้วก็คงไม่มีผมในวันนี้เช่นเดียวกัน....

ผมยังจำได้ดีว่าผมมีงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะหลวงปู่ทิม...ไม่ใช่เพราะหลวงปู่ทิมฝากงานให้หรอกครับ...แต่เป็นเพราะอิทธิคุณชานหมากของท่าน ...ผมเชื่ออย่างนั้น 100% ครับ

เสียงของหลวงปู่ทิมยังดังก้องในหัวผมว่า

“ให้นำชานหมากนี้เลี่ยมติดตัวไปด้วยก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ให้เคาะประตู 3 ครั้งแล้วนึกถึงหลวงปู่แล้วหลวงปู่จะช่วย”

ผมคงทำได้แค่เ้พียงบันทึกไว้ว่า....

“วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคท พ.ศ.2552 เวลา 10.55 น. เป็นวันและเวลาที่ได้สูญเสียพระอันเป็นที่รักและเึคารพยิ่งของผมและเพื่อนใน Blog อีกหลายๆคน เมื่อท่านพระครูสังวรสมณกิจ (หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต) เจ้าอาวาสวัดพระขาว ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ถึงแก่กาลมรณภาพที่ห้อง CCU โรงพยาบาลโรคทรวงอก จ.นนทบุรี ด้วยโรคปอดติดเชื้อ"

สุดท้ายนี้ผมอยากบอกว่า "ผมรักและคิดถึงหลวงปู่มากครับ"....

สิ่งใดก็ตามที่ข้าพเจ้า ได้คิด ได้กระทำ ทั้งที่เจตนาก็ดี หรือไม่ได้เจตนาก็ดีที่เป็นการละเมิดต่อองค์ท่านพระครูสังวรสมณกิจ (หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต) วัดพระขาว ข้าพเจ้ากราบขออโหสิกรรมต่อองค์หลวงปู่ทิม มา ณ. ที่นี้ด้วยเทอญ....
แนบไฟล์
IMG029_1.JPG
IMG029_1.JPG (20.2 KiB) เปิดดู 1366 ครั้ง
IMG046_1.JPG
IMG046_1.JPG (28.2 KiB) เปิดดู 1365 ครั้ง

Re: “สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”

จันทร์ 23 มี.ค. 2009 5:19 pm

ขอบคุณ คุณ pawat มากครับ ตามไปอ่านที่ blog มาแล้ว เขียนได้ดีไม่ธรรมดาเลยครับ :grt:

Re: “สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”

จันทร์ 23 มี.ค. 2009 10:52 pm

อู๊ด อู๊ด เขียน:ขอบคุณ คุณ pawat มากครับ ตามไปอ่านที่ blog มาแล้ว เขียนได้ดีไม่ธรรมดาเลยครับ :grt:


เช่นกันครับ ถึงความเห็นจะเหมือนกันแต่ผมหน้าตาดีกว่าครับ :mrgreen: :mrgreen:

Re: “สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”

จันทร์ 23 มี.ค. 2009 10:54 pm

เข้าข่ายที่ว่า ยิ่งสูงอายุยิ่งหน้าตาดี เหรอขะรับ

Re: “สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”

จันทร์ 23 มี.ค. 2009 10:58 pm

อู๊ด อู๊ด เขียน:เข้าข่ายที่ว่า ยิ่งสูงอายุยิ่งหน้าตาดี เหรอขะรับ


แน่นอนครับ แต่คุณอู๊ด อู๊ด ต้องไม่ลืม เราห่างกันแค่สองเสาไฟฟ้านะครับ
:lol: :lol: :lol:

Re: “สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”

จันทร์ 23 มี.ค. 2009 11:03 pm

สองเสาไฟฟ้าแรงสูงเหรอคับ :lol: :lol:

Re: “สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”

จันทร์ 23 มี.ค. 2009 11:23 pm

ผมอ่านบทความนี้แล้วสัมผัสได้ถึงความผูกพัน,ความอาลัย ของคุณPawat ได้อย่างชัดเจน จนทำให้ผู้ที่ไม่เคยสัมผัสกับหลวงปู่เลยอย่างผมซาบซึ้งและ :cry: ไปด้วย :pry:

Re: “สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”

อังคาร 24 มี.ค. 2009 11:04 pm

ขอบคุณคับ

Re: “สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”

พุธ 25 มี.ค. 2009 3:21 am

ขอบคุณมากครับคุณpawat :P

Re: “สิ้นแล้วแสงเทียนแห่งวัดพระขาว”

พฤหัสฯ. 26 มี.ค. 2009 5:23 pm

กราบแทบเท้าหลวงปู่ :cry: และขอบคุณพี่พวัตมากครับ
ตอบกระทู้