จิตมั่น เขียน:
ครับผม. . . ผมได้รับฟังมาคร่าวๆเมื่อช่วงที่ออกให้บูชาใหม่ๆว่า อาจารย์ไปคุมการเทเองที่โรงหล่อ นำแผ่นยันต์และชนวนไปผสมหลอมหล่อด้วย โดยที่ไม่ได้บอกใครให้รู้เพียงแต่ไปกับลูกศิษย์อีกคนเท่านั้น อาจารย์บอกให้เทเป็นเนื้อสัตตโลหะรุ่นแรก ชุดแรก (เพราะสำนักไม่เคยทำเนื้อสัตตโลหะมาก่อน) เท่าที่รู้มาเทได้ประมาณ 100 กว่าองค์ (ไม่ถึง 120 องค์ เพราะเทเสียมากอยู่) และมีเนื้อเงินอยู่ 9 องค์ครับ
ชุดนี้อาจารย์ตั้งใจทำมากเพราะเป็นกริ่งชุดแรก รุ่นแรก เนื้อสัตตะรุ่นแรก และอาจารย์เคยพูดให้ฟังว่า ได้ใส่แผ่นยันต์คาถาอุณหิสะวิชะยะ ซึ่งเป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่อาจารย์เขียนยันต์นี้ผสมลงไปในพระกริ่ง ไม่เคยเขียนแผ่นยันต์คาถานี้ในวัตถุมงคลชุดอื่นที่ผ่านมา เป็นพระยันต์ที่อาจารย์บอกว่าวิเศษยิ่ง สำคัญ (แต่ผมไม่ได้ถามว่า วิเศษอย่างไร) คาถาอุณหิสะนี้ต้องรบกวนคุณรณธรรมขยายความแทนดีกว่าครับว่าดีและสำคัญอย่างไร
เนื้อสัตตะนี้ก็แปลกดีครับ ผมดูจากพี่ๆที่เขาใส่คล้องมาตอนงานไหว้ครูปีก่อนโน้น บางองค์ก็สีเขียวเหมือนเมฆสิทธิ์ (ถ้าไม่บอกว่าเป็นเนื้อสัตตะ จะคิดว่าเป็นเนื้อเมฆสิทธิ์ไปเลยครับ) บางองค์ก็เป็นสีเหลืองทอง แต่รุ่นแรกนี้ ถ้าผู้ที่มีอยู่ให้บูชาติดตัวและคอยสังเกตุดูจะเห็นว่า เนื้อหรือกระแสของผิวพระกริ่งจะเปลี่ยนสีได้ บางช่วงเวลาถ้าดวงไม่ค่อยดี สีจะหม่นๆ ไม่เงาวาว ให้ทำบุญบ่อยๆจะดีครับ ถ้าบางช่วงเวลาสีสุกใส เขียวสว่าง ก็ดีมากๆครับ ผมเองบูชาดู สังเกตุดูเหมือนกัน ช่วงไหนดี พระกริ่งจะเขียวใสสว่าง เงาวาว (ประสบการณ์ส่วนตัวครับ) และจะมียอดขายเพิ่มขึ้นแบบไม่น่าเชื่อ อย่างใกล้สิ้นเดือนจะปิดยอดยังได้ยอดขายเพิ่มอีก เป็นต้น (อันนี้ยกตัวอย่างให้ฟังครับ โปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับ)
ก็ขอออกตัวก่อนว่า ผมเขียนเล่ามานี้ ไม่ได้มีเจตนาเป็นอื่น นอกจากต้องการพูดคุยเท่าที่รู้เห็นมาให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆฟังกันเท่านั้นเองครับ เรื่องที่พูดคุยมาส่วนใหญ่ก็ได้ข้อมูลมาจากศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักนะครับ เผอิญยังไม่มีใครเขียนถึงผมก็เลยขอพี่เขาเขียนให้ทุกๆท่านอ่านกันครับ
ถ้าผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้ครับ
เพิ่มเติมสักนิด จากที่ได้ค้นคว้าหารายละเอียดเพราะอยากรู้ว่าคาถาอุณหิสสะวิชะยะดีและวิเศษอย่างไร จึงได้ความกระจ่างตามนี้ครับ
พระคาถาบทนี้ อยู่ในสมัยพุทธกาล ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงเมตตาให้เทวดาองค์หนึ่งที่กำลังหมดอายุขัยจะต้องลงไปเสวยกรรมในนรก แต่เทวดาองค์นี้มีความกลัวมากที่จะต้องลงไปเกิดในเมืองนรกจึงดิ้นรนทุกวิถีทางที่จะไม่ไป แต่ก็ไม่มีใครจะช่วยเหลือได้ แม้แต่องค์ พระอินทร์ แต่ยังโชคดีที่ได้พบพระพุทธเจ้าและทรงแนะให้ภาวนาคาถาบทนี้จะได้มีอายุยืนยาวนานต่อไป เพื่อที่จะได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้บำเพ็ญภาวนาใช้หนี้กรรมที่มีอยู่ให้หมดไป
พระคาถาบทนี้จึงมีพุทธานุภาพมากในเรื่องของการมีอายุยืนยาวและยังทำให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอย่างง่ายๆอีกด้วย ผู้ที่มีสุขภาพไม่ดี หรือขี้โรค หรือป่วยเป็นโรคที่รักษายากแล้ว ควรหมั่นท่องภาวนาเป็นประจำจะหายได้โดยเร็ววันสำหรับบทพระคาถาผมไม่ได้ขอเรียนกับอาจารย์มาจึงไม่สามารถเขียนให้เพื่อนๆได้ทราบกันได้เพราะเดี๋ยวผิดพลาดไปจะเป็นการสวดไม่ตรงกับที่ครูบาอาจารย์ท่านให้
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รู้ถึงคุณวิเศษของคาถานี้ที่อาจารย์เพียรพยายามเขียนและท่องเสกในองค์พระกริ่งทั้งก่อนเทหลังเท จึงรู้ว่า ทำไมอาจารย์ให้ความสำคัญกับกระกริ่งรุ่นแรกนี้มากคิดว่า (ในควมเห็นส่วนตัว น่าจะอาราธนาทำน้ำมนต์ดื่มกินหรืออาบทุกวันยิ่งวิเศษเหมือนมีเราได้ใช้คาถานี้ครอบตัวเราตลอดเวลา ...อันนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวครับ)
ผมจึงหวังว่าผู้ที่ได้รับพระกริ่งชุดนี้ไปคงจะยิ่งรู้คุณค่ามากขึ้น จะได้ไม่วางไว้เฉยๆ นำมาบูชาติดตัวบ้างก็ดี
ขอบคุณที่เพื่อนๆอุตส่าห์อ่านจนจบครับ ถ้ามีสิ่งดีดีอีกจะนำมาเล่าให้ฟังเพื่อเป็นความรู้และวิทยาทานแก่ผู้ที่ยังสงสัยหรือใฝ่หาความรู้ครับ
สวัสดี