คิดด้วยเหตุผล

[รสมน]

"ปากโกหก เป็นปากที่ขาดบาทสลึง
คนโกหก เป็นคนขาดบาทขาดเต็ง
มนุษย์เต็มบาทเต็มเต็ง ไม่ควรพูดโกหกมุสา
จงพูดแต่ความสัตย์ความจริง
เพื่อประโยชน์อันสมบูรณ์ต่อกัน"

-:-หลวงปู่ขาว อนาลโย-:-




"การระลึกถึงความตาย เท่านี้แหละ
จะแก้ความเศร้าโศกได้
เมื่อมีการพลัดพรากจากกัน"
-:-ท่านหลวงปู่แบน ธนากโร-:-





"ตัดอยากเสียได้อย่างเดียว ก็สิ้นทุกข์
เมื่อหมดอยาก ทุกข์ก็พลอยหมดไปด้วย"
-:-หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม-:-






...ถ้าคิดด้วยเหตุผลมันก็จะเป็น ปัญญา
ปัญญาก็เป็นหลักเหตุหลักผลนี้เอง
.
เช่นไปทำบาปแล้วจะได้อะไร
นี่ก็เป็นปัญญา..ไปฆ่าสัตว์ ไปฆ่าคนนี้
แล้วได้อะไร.."ได้แต่ความทุกข์"
.
ติดคุกติดตะรางก็เพราะไปฆ่าคน
ตายไปก็ไปเกิดเป็น เดรัจฉาน ไปตกนรก
อันนี้ก็เป็นเหตุเป็นผล
.
ทำบุญแล้วได้อะไร ทำบุญแล้วก็
ได้ความสบายใจ ได้ความสุขใจ
ตายไปก็ได้ไปเป็นเทวดา ไปเที่ยวในสวรรค์
.
นี่คือเรื่องของธรรมะ เรื่องของปัญญา
"เป็นเรื่องของเหตุผลทั้งนั้น..
ไม่ได้เป็นเรื่องของความเชื่อ"
.
คือพูดแล้วต้องเชื่อไหม
พระพุทธเจ้าไม่บังคับให้เชื่อ
พระพุทธเจ้าให้เอาไปพิสูจน์
ให้เอาไปปฏิบัติ..
"ให้เชื่อ เพื่อเอาไปพิสูจน์เท่านั้นเอง".
.............................................
.
คัดลอกการสนทนาธรรม
ธรรมะบนเขา 4/9/2560
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี








...ชีวิตของมนุษย์
เป็นเหมือน "ปั๊มน้ำมัน"
เป็นที่เติมน้ำมันเติมพลัง
จิตใจของเราเป็นเหมือน "รถยนต์"
ที่ท่องเที่ยวอยู่ในภพน้อยภพใหญ่
.
...ถ้าได้เติมน้ำมันก็จะท่องเที่ยว
ไปได้อย่างสะดวกสบาย "มีเสบียง"
ถ้าไม่เติมน้ำมัน..
มัวแต่ไปเที่ยวไปเล่นกัน
พอขับรถไปกลางทาง "น้ำมันหมด"
ก็ต้องเดินไป ก็จะลำบาก
ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง
.
...ส่วนใหญ่จะวนอยู่กับ
เรื่องของ "กิเลสตัณหา"
ไม่ได้ไปสู่การหลุดพ้นจาก
อำนาจของกิเลสตัณหาเลย
.
...แต่ถ้า ดำเนินตาม
ที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน
บำเพ็ญบารมีต่างๆ ทานบารมี
ศีลบารมี เนกขัมมะบารมี
ปัญญาบารมี
ที่เรากำลังบำเพ็ญกันอยู่นี้
ก็จะทำให้หลุดพ้นจาก
อำนาจของกิเลสตัณหา ไปตามลำดับ.
........................................

คัดลอกจากหนังสือ (จุลธรรมนำใจ ๗)
ธรรมะบนเขา 24/12/2549
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี








...ไม่ใช่ทาง...

..เรื่องใจเดือดร้อนนี้ ก็แสดงว่าศีลธรรม หรืออริยะทรัพย์ภายในเราน้อย เราแก้ไขไม่ได้ เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วก็ไม่เย็นสักครั้ง จึงเดือดร้อนวุ่นวาย บางคนก็ผูกโกรธไว้ ถ้าหากมีใครมาว่า สูง ๆ ต่ำ ๆ บ้าง หลายวัน หลายเดือน หลายปี ก็ยังไม่ลืม พยายามจะแก้แค้นอยู่อย่างนั้นก็มีบางคน เรื่องเหล่านี้ เป็นการสร้างกรรม สร้างเวรต่อเนื่องกันไปหลายภพหลายชาติ พระพุทธองค์ท่านตรัสว่า ไม่ใช่ทาง..

..หลวงปู่ศรี มหาวีโร..






"อนาคตที่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน"

ถาม : จะทำอย่างไรให้ไม่พะวงถึงอนาคตอยู่กับปัจจุบันคะ

พระอาจารย์ : ก็ถ้าคิดถึงอนาคตก็ให้คิดถึงความตาย เพราะนั่นคืออนาคตที่แท้จริง อนาคตที่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน ส่วนเรื่องอื่นนี้มันไม่มีอะไรแน่นอน อาจจะเกิดก็ได้ไม่เกิดก็ได้ แต่ที่จะเกิดแน่นอนก็คือความแก่ ความเจ็บ ความตาย ถ้ามันจะคิดถึงอนาคตก็มาบอกว่าเดี๋ยวก็แก่ มันก็ต้องเจ็บต้องตาย นั่นคืออนาคตของเรา เรื่องอื่นไม่ต้องไปกังวล ใครจะอยู่กับเราไม่อยู่กับเรานี่มันไม่แน่นอน เราจะรวยเราจะจนนี้ไม่แน่นอน ไม่ต้องไปกังวลกับมัน ให้เราคิดถึงอนาคตว่าต้องแก่เจ็บตาย มันก็จะหยุดกังวลกับอนาคตได้ แล้วมันก็จะกลับมาอยู่ที่ปัจจุบัน ถ้าคิดไม่ได้ก็ใช้ปัญญาใช้สติดึงกลับมาก่อนก็ได้ ใช้พุทโธ อย่าปล่อยให้ใจคิด พอจะคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้กังวลกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ก็พุทโธพุทโธไป ถ้าเราสามารถอยู่กับพุทโธได้ ความกังวลต่างๆ ก็จะหายไป เพราะเราจะหยุดคิดถึงเรื่องต่างๆ.

ธรรมะบนเขา

วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๐

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต