นวรัตน์ดอทคอม

"เราสร้างความดีกับใคร
เราก็ดีใจ ถึงเขาไม่รู้ เราก็รู้

ในทำนองเดียวกัน การทำความชั่ว
ถึงเขาไม่รู้ เราก็รู้"

-:-หลวงปู่จรัญ ฐิตธัมโม-:-






"การทำงานเพื่อเงินนั้น
ต้องรอจนกว่าจะได้เงิน
ถึงจะรู้สึกพอใจ

ถ้าทำงานเพื่องาน
พอลงมือทำก็พอใจ
และเป็นสุขทันที
แล้วเงิน ก็ไม่ไปไหนเสีย"

-:-ท่านพุทธทาสภิกขุ-:-







"ถ้าโยมให้ความสำคัญ
กับการแต่งใจให้งาม
เท่ากับการแต่งกายให้สวย
สังคมเราคงจะน่าอยู่กว่านี้มาก"

-:-พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ-:-








"...ธรรมะ ท่านสอนให้ดูตัวเอง
ระวังตัวเอง จะได้เห็น
ความบกพร่องของตัวเอง

แล้วแก้ไขตัวเองไปเรื่อยๆ
จนสมบูรณ์ได้..."

โอวาทธรรมคำสอน..
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน








"...คนจะพ้นทุกข์ได้ด้วยปัญญา
ในการละกิเลสของตัวให้หมดไป

ไม่ใช่ด้วยการพอกพูนบุญไปสู่สวรรค์..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพุทธทาสภิกขุ







"...พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า ให้เห็นสักแต่ว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน ได้กลิ่นสักแต่ว่าได้กลิ่น สัมผัสสักแต่ว่าสัมผัส นี้เป็นการสอนเรื่อง "กระทบล่อน" คือ ไม่ติดใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสที่มากระทบเรา

เป็นการสอนให้คลุมความนึกคิดจิตใจของเรา มิให้อารมณ์ดีอารมณ์ร้าย ลอยเข้ามาเกาะจิตได้ แต่ถ้าเราเผลอตัวไป จนมันเกาะเข้าแล้ว ก็ต้องรีบทำตนเป็นไม้กวาดทันที..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพุทธทาสภิกขุ








"...ให้เห็นความคิด อย่าไปห้ามความคิด และอย่าไปยึดถือ ให้ปล่อยมันไป นี่คือการเห็นความคิด คิดแล้วให้ตัดปุ๊บเลย

เหมือนการวิดน้ำออกไปจากก้นบ่อ ทำอย่างนี้นาน ๆ เข้า สติจะเต็มและสมบูรณ์ คิดปุ๊บเห็นปั๊บ อันนี้แหละคือระดับความคิด ที่เรียกว่า ปัญญา ซึ่งเป็นเครื่องกำจัดกิเลสอย่างละเอียด..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ







"...ให้ภาวนา อย่ามัวแต่ง่วงนอน
นอนกันมา ไม่รู้กี่ชาติแล้ว
ไม่รู้จักอิ่มสักที

มัวแต่เป็นผู้ประมาท
ไม่รู้จักรักษามนุษย์สมบัติเอาไว้
ระวังจะเหลือไม่เท่าเก่า..."
....................................

"...สักวันหนึ่งความตายจะมาถึงเรา
มาบีบบังคับให้เราปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง

ฉะนั้น เราต้องหัดปล่อยวางล่วงหน้า ให้มันเคย
ไม่อย่างนั้น พอถึงเวลาไปจะลำบาก..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก






พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า
เหตุที่จะไปอบายของสัตว์ที่โง่ ไม่รู้จักคนชั่วคนดี
พวก ๑ คนชั่วไม่ดี ควรติเตียน
กลับไปสรรเสริญเขา.
สมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทฺธสิริ)