Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

เหตุปัจจัยให้ถึงพุทธ

อาทิตย์ 18 ก.พ. 2018 6:03 am

จิตของเราไม่ได้ตาย จิตของเราไม่ได้ตาย
ไอ้ที่เราระลึกถึงความตายความตาย
ระลึกถึงความตายระลึกถึงความตายนะ
ผมขนเล็บฟันหนังดินน้ำลมไฟเป็นของเกิดมาตาย
จิตของเราไม่ได้ตาย
ถึงว่าอันนี้มันตายจริง ๆ ตายไปไม่หายใจนี่
จิตของเราก็ยังเป็นจิตอยู่อย่างนั้นไม่ได้ตาย
ร่างกายตายก็สักแต่ว่าของตาย เขาเกิดมาตายเท่านั้น
จิตของเราไม่ได้ตาย
แล้วเราจะไปเศร้าโศกทำไม
การระลึกถึงความตายจึงมีประโยชน์อย่างยิ่ง เข้าใจมั้ย (หัวเราะ)
แล้วคนอื่นตายก็ไม่เสียใจ คนอื่นตายก็ไม่เศร้าโศก
จะเศร้าโศกอะไร ก็ของตายเขาตาย
ของตายเขาแสดงความจริงของเขาว่าเขาตาย เขาก็ตายแล้ว
เขาแสดงความจริงของเขา ว่าเขาเกิดมาตายและเขาก็ตายจริง ๆ
แล้วเราจะไปทุกข์มีประโยชน์อะไร
ระลึกถึงความตายให้มาก ๆ จะมีประโยชน์อย่างยิ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่จากคนที่สนิทใกล้ชิดกันตายเราก็ไม่เสียใจ
ถึงเราจะตายไปเราก็ไม่เกิดความเศร้าโศก
การระลึกถึงความตายจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ไม่มีใครสักคนหนึ่งต้องการทุกข์ต้องการเศร้าโศก......
การระลึกถึงความตายเท่านี้แหละ
จะแก้ความเศร้าโศกได้เมื่อมีการพลัดพรากจากกัน
ใครไม่อยากเศร้าโศกเวลามีการพลัดพรากซึ่งกันและกันและไม่มี
เราจะไม่เศร้าโศกเวลาเราพลัดพรากจากเรา รีบระลึกถึงความตายมาก ๆ
ได้ยินไหมล่ะชาวสุพรรณ ไม่ใช่ว่า......
กะมันก็ทั้งสุพรรณบุรีหรือว่าอ่างทองอยุธยา ตายทั้งนั้นหล่ะ
อย่าว่าแต่เมืองมนุษย์เลย เมืองสวรรค์......
ก็...... ยังตาย เมืองสวรรค์ก็ยังตาย
เมืองสวรรค์ก็คือคนเกิดไปสวรรค์ จิตไปเกิดบนสวรรค์ ไปเสวยของทิพย์
อ่ะนี่ ในเมื่อหมดบุญมันก็ตาย
สิ่งที่เกิดขึ้นนั่นแหละ ของตายทั้งนั้น
ลูกหลานเราอุแว๊ ๆ ๆ ดีอกดีใจเป็นผู้ชาย
อุแว๊ ๆๆ เป็นผู้หญิงน่ารักดีอกดีใจ
ไม่คิดว่าของตายมันได้เกิดขึ้นแล้ว
คิดถึงว่าของตายได้เกิดขึ้นแล้วมันถูกไหม
คิดว่าลูกเราหลานเราเกิดขึ้นแล้วมันถูกไหม
ของตายเขาเกิด
ของตายจะเป็นลูกเรายังไงจะเป็นหลานเรายังไง
เอ้า เลี้ยงมันดีขนาดไหนก็ยังเถอะ
บางทีมันยังไม่ทันจะโตมันตายก่อนเราก็มี
ถึงว่าเราจะตายก่อนเขา นั่นแหละ เขาก็ยังจะต้องตายนั่นนะ
เพราะว่าอันนี้คือของตายแล้วเขาได้เกิดขึ้น
สมมุติว่าเป็นคนสมมุติเป็นสัตว์สมมุติเป็นต้นไม้ต้นหญ้าอะไร
ก็คือของเกิดมาแล้วต้องตายทั้งนั้น ของเกิดขึ้นมาต้องตายทั้งนั้น
ในเมื่อความจริงเป็นอย่างนี้
เราจะไปเศร้าโศกรู้สึกว่าเราไม่ยุติธรรมกับเราอีก....
หลวงปู่แบน ธนากโร
วันดอยธรรมเจดีย์ ต.หนองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร





เหตุ-ปัจจัยให้ถึงพุทธ บุพเพกตปุญญตา เป็นผู้มีบุญได้ทำไว้แต่ก่อน
พระพุทธองค์ทรงกล่าว เหตุปัจจัยให้ถึงพุทธประกอบด้วย
ของเก่า หรือเนื่องมาแต่เก่า คือ ราคา โทสะ โมหะ ความกำหนัด หรือโลภ โกรธ หลง มีมากหรือน้อย และ
ของใหม่ หรือ ปัจจุบัน พละห้า(Five Powers or Energy) ศรัทธา วิริย สติ สมาธิ ปัญญา มีแค่ไหน ถ้าของเก่ามันมากของใหม่ก็มีมาก ย่อมสำเร็จการศึกษาสิกขา (Learning) ยากลำบากแต่รวดเร็ว เรียกว่าเดินจงกรม จิตใจเด็ดเดี่ยวตลอดคืน จนเท้าแตก ตาบอด สำเร็จพร้อมกัน
ถ้าของเก่ามีน้อย ของใหม่ก็มีน้อย สำเร็จง่ายมาก แต่ใช้เวลานาน เรียกว่าภาวนากันทุกวัน หลายสิบปี จนกว่าจะสำเร็จ
ถ้ากรรมหนักของเก่ามีน้อย และของใหม่มีมาก (Present decision effort very strong) ก็สำเร็จฉับพลัน ไม่ทันจะรู้ตัวด้วยซ้ำ คือฟังพระพุทธพจน์ เพียงไม่กี่คำ อริยมรรคโลกุตตรธรรม...
หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต




ปุ๊ป ไปๆ จะไปยึดไปจับอะไรได้เล่า ได้ยิน นึกคิด รู้สึกหนาว ร้อนสุข ทุกข์ คิดโน่น คิดนี่แป๊บเดียว ไปแล้ว คิดดีก็ตาม คิดไม่ดีก็ตาม
พระเวลาสวดงานศพ กุสลาธรรมดา อกุสลาธรรมดา ดีก็ธรรมดา ไม่ดีก็ธรรมดา กลางๆ ก็ธรรมดา ก็เหมือนฝ่ายวัตถุ มีไฟฟ้าบวก ไฟฟ้าลบ ไฟฟ้ากลางๆ ทั่วจักรวาล ก็เท่านั้นเอง ร่างกาย วัตถุ คิด นึก รู้มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เปลี่ยนไปทุกศูนย์วินาที
พระพุทธเจ้าทั้งหลายเรียกว่า ขันธ์ ๕ คือ กายใจทั้งหมด กายเรียกว่ารูป หนาว ร้อน ทุกข์ สุข เรียกว่าเวทนา นึกนั่น นึกนี่ รู้นี่ หลงภพเรียกว่าสัญญา ที่คนเราเวียนว่ายตายเกิดก็เพราะตัวนี้
หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต
ตอบกระทู้