"ตายแล้วไปไหน ไม่ต้องไปสนใจ แต่ให้สนใจปัจจุบันว่า ทำตัวดีแค่ไหน ทำความดีเสียขณะนี้ ตายแล้วก็จะไปดีเอง" -:- หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ -:-
"...เป็นนักปฏิบัติธรรม ต้องพิจารณาให้เห็นทุกอย่างว่าไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ควรรู้เท่าทันและอาศัยของไม่เที่ยงนี้ ของไม่เที่ยงกับของไม่เที่ยงมาบำรุงกัน ถ้าเที่ยงแล้วก็ไม่ต้องบำรุงกัน เป็นอยู่อย่างไรก็เป็นอย่างนั้น แต่ในโลกนี้ไม่มีอะไรเที่ยง มีแต่พระนิพพานที่เที่ยง ไม่วิบัติ ไม่ผันแปร เราก็ต้องทำใจให้ยินดีในพระนิพพาน ด้วยการไม่ยึดถือในตัวตนขันธ์ ๕ อันไม่เที่ยง
ตัณหาเป็นปัจจัยให้เกิดอุปาทาน เมื่ออยากก็ยึดไม่ได้ คราวนี้ต่อไปก็จะต้องเอาให้ได้ ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ขอให้เข้าใจ อย่าคิดว่าเป็นผู้ครองเรือนปฏิบัติธรรมอันลึกซึ้งไม่ได้ พระโสดาบันมีสามี-ภรรยา-ลูก ทำไร่นา ทำงาน ค้าขาย ตามความสามารถอยู่ แต่ท่านไม่ทำบาป ขอทานก็เป็นพระโสดาบันได้
เคยมีคนโรคเรื้อน ฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้า ก็บรรลุโสดาบันแล้วกราบปฏิญาณตนถึงพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ พระอินทร์ ได้ยินข่าวเรื่องนี้เข้า ก็ลงมาทดสอบ ให้ปฏิเสธคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ แล้วจะหายาแก้โรคเรื้อนมาให้หายจากโรค ชายโรคเรื้อนนั้นก็ตอบพระอินทร์ว่า ท่านเป็นใคร จึงมาแนะให้ข้าพเจ้าถอนตัวจากที่พึ่งอันประเสริฐคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าถอนไม่ได้ หาได้หวั่นไหวกับโรคภัยไข้เจ็บเหล่านี้ไม่ พระอินทร์ฟังดังนี้ จึงไปกราบต่อพระพุทธเจ้าว่า ผู้นี้บรรลุโสดาบันแล้วจริงๆ ด้วยได้ไปสัมภาษณ์มาแล้ว
ขอให้เข้าใจ มรรคผล ธรรมวิเศษ ไม่ได้อยู่ที่ร่างกาย แต่จิตเอาร่างกายเป็นอารมณ์ เห็นว่ากายนี้ไม่เที่ยงหนอ เมื่อโรคภัยมากระทบร่างกาย ก็จึงมากระทบจิต จิตก็เดือดร้อน
พระโสดาบันอาจจนกาย แต่ทรัพย์ภายในไม่จนเลย ความเห็นของพระโสดาบันก็คือ สิ่งใดมีความเกิดขึ้นแล้ว สิ่งทั้งปวงย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา ด้วยอำนาจแห่งปัญญา ใครได้บรรลุความเห็นเช่นนี้ ด้วยปัญญาอันบริสุทธิ์แล้ว ท่านผู้นั้นก็จะบรรลุพระโสดาบัน..."
โอวาทธรรมคำสอน.. องค์หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
"...นักปฏิบัติ ถ้ามัวแต่เมาในลาภในยศแล้ว การปฎิบัติก็ค่อยๆจางลงๆ ทุกที ในที่สุดก็เกิดการฆาตกรรมตัวเอง เอาแต่สบายไม่มีการบำเพ็ญกรรมฐานให้ดียิ่งขึ้น มีแต่จะหาชื่อเสียงอยากให้คนนับถือมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการต่างๆ นี้คือการฆาตกรรมตัวเอง นักปฏิบัติต้องฝึกตนเองเสมอ..." โอวาทธรรมคำสอน.. องค์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
|