“ระลึกถึง ความตาย บ่อยๆ ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ก็จะทำให้บุคคลนั้น ได้สร้างคุณงามความดีได้มาก ตามกำลังความสามารถของตน
จึงจะเป็นผล เป็นประโยชน์แก่ชีวิต ของบุคคลนั้น ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์”
-:- หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป -:-
“เจออะไรก็อย่าลืมทำใจ ธรรมดาของชีวิต มีแล้วก็หมด ได้แล้วก็เสีย เจอแล้วก็จาก พบแล้วก็พราก อันนี้ธรรมดา
เพราะฉะนั้น เวลาเสีย เวลาจาก เวลาพราก ก็ไม่ได้ทุกข์อะไร ยอมรับได้ ใจก็สงบ ไม่เอาแต่คร่ำครวญ เศร้าโศกเสียใจ อันนี้คือการทำใจ”
-:- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล -:-
“สงกรานต์ แปลว่า ก้าวหน้า สำหรับคนที่รู้ธรรมะ ใช้ธรรมะในการดับทุกข์ ให้ออกไปเรื่อยๆ ลดความยึดมั่นถือมั่น ทำงานให้ลุล่วงโดยไม่ประมาท ถือว่าก้าวหน้า และมีวันสงกรานต์ที่แท้จริง”
-:- ท่านพุทธทาสภิกขุ -:-
"...เราเหงา เราหวังพึ่งคนอื่น สิ่งอื่น
ถ้าใจมันนึกว่า "อัตตาหิ อัตตโน นาโถ" ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ก็หายเหงา
ทำใจให้มีที่อยู่ ที่อยู่ของใจคือวิหารธรรม
ถ้าใจยึดมั่นใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแน่วแน่ ก็หายเหงา..."
โอวาทธรรมคำสอน.. องค์หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
ตัดภพตัดชาติ
ถาม : กราบเรียนพระอาจารย์ค่ะ คือ อยากทราบว่าในเรื่องการตัดภพตัดชาตินี่ จะกระทำด้วยการนั่งสมาธิ เจริญภาวนา เป็นหนทางอย่างเดียวใช่ไหมคะ.?
พระอาจารย์ : “ใช่ ศีลกับทานไม่พอ ไม่มีกำลังพอ ต้องใช้สมาธิกับปัญญา ๒ อย่างนี่ สมาธิก็เหมือนกับถ้าตัดต้นไม้ก็ตัดต้นมัน แต่มันยังไม่ตาย ยังไม่ได้ถอนราก ถ้าจะให้ต้นไม้ตายนี่ ต้องถอนรากมันขึ้นมา ตัวที่จะถอนรากได้ต้องเป็นปัญญา ส่วนสมาธินี่ตัดต้น
ถ้าทำบุญทำทานรักษาศีลก็ตัดกิ่งตัดใบ มันต้องตัดของง่ายไปก่อน ตัดของง่ายไปก่อนเพื่อไม่ให้มันโตมาก ตัดใบก่อนตัดกิ่งก่อน ทำบุญทำทานก็ตัดใบ รักษาศีลก็ตัดกิ่ง พอนั่งสมาธิได้ก็ตัดต้น พอเจริญปัญญาได้ เห็นอริยสัจ ๔ เห็นไตรลักษณ์ก็ถอนรากถอนโคนของภพชาติได้”
ปุจฉา-วิสัชนาธรรมคำสอน.. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
- สนทนาธรรมบนเขา วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๑
"...คิดดี พูดดี ทำดี เป็นศรี เป็นพรสูงสุด
ไม่มีพรเทพ พรมนุษย์ เปรียบประดุจความดี ที่ทำเอง..."
พระโอวาทธรรมคำสอน.. องค์สมเด็จพระญาณสังวร(เจริญ สุวัฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก พระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
“หมาแทะกระดูก”
บ่อยครั้งเมื่อลูกศิษย์คิดถึงบ้าน องค์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร จะเมตตายกเรื่องของท่านขึ้นเทศน์ให้ฟัง ถึงเมื่อครั้งองค์ท่านเองก็เคยเบื่อหน่ายท้อแท้จนคิดจะกลับบ้านเช่นกัน...
...วันหนึ่งขณะที่องค์หลวงปู่ฝั้นเดินบิณฑบาตอยู่นั้น เห็นหมาตัวหนึ่งเดินตามเจ้าของอยู่ สักพักมันเจอกระดูกเก่าท่อนหนึ่ง มันก็หยุดแทะตามประสาหมา แต่เจ้าของก็เดินต่อไป มันแทะอยู่สักพักก็วิ่งตามเจ้าของไปแต่แล้วก็หันวิ่งกลับมาแทะกระดูกต่ออีก แล้วก็วิ่งกลับไปหาเจ้าของอีก กลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง จนเจ้าของเดินไกลออกไปมากแล้ว มันจึงได้วิ่งตามเจ้าของไปอย่างอาลัย องค์หลวงปู่เห็นอาการมันแล้ว ก็กลับมานึกเป็นธรรมอบรมตัวองค์ท่านเองได้ว่า
“การอาลัยในบ้านขององค์ท่านก็เหมือนหมาตัวนั้นที่อาลัยในกระดูกเก่าอันจืดชืด แต่มันไม่รู้ว่ากระดูกนั้นไม่มีรสอะไรแล้วที่หลงอยู่ ก็หลงในน้ำลายของตัวเองเท่านั้น ชีวิตทางโลกก็เหมือนกระดูกเก่าที่หาค่าอันใดมิได้ ความหลงในสิ่งที่ฉาบทาไว้ก็เหมือนหมาที่หลงอร่อยในน้ำลายตัวเอง”
เมื่อองค์หลวงปู่ท่านพิจารณาได้เช่นนั้น ก็วางความคิดถึงบ้านลงได้ ท่านพระอาจารย์สาคร ธัมมาวุโธ ก็ได้ธรรมข้อนี้ช่วยให้ท่านผ่านพ้นมาได้ ท่านจึงซาบซึ้งถึงพระคุณขององค์หลวงปู่ฝั้นอย่างถึงที่สุด ว่าทางหนึ่ง ท่านก็เข่นเอาเต็มที่ แต่อีกทางหนึ่งก็เมตตาคอยประคับประคองหาอุบายธรรมช่วยเหลือเต็มที่เช่นกัน
ปัจจุบันหากท่านพระอาจารย์สาครเดินทางไปกราบนมัสการ “เจดีย์พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร” ที่วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ท่านจะต้องไปดูภาพแกะสลักเรื่อง “หมาแทะกระดูก” ที่ฐานองค์เจดีย์ด้วยความระลึกซาบซึ้งในพระคุณอยู่ทุกครั้งไป
:: เรื่องเล่าอุบายธรรมจากประวัติและปฏิปทาของ “พระอาจารย์สาคร ธัมมาวุโธ” วัดเวฬุวันวนาราม (วัดเวฬุวัน) ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
คำสั่งสอนของสมเด็จพระพุทธเจ้า เหมือนกันทุกพระองค์ จะแถลงบางประการให้แลเห็นดังนี้ (๑) ปิดประตูบาปทั้งปวงเสีย (๒) เปิดประตูบุญทั้งปวงไว้ (๓) ชำระจิตของตนให้ผ่องใส เป็นจิตเด่นอยู่ดวงเดียว ไม่เกี่ยวเกาะอะไรๆ ในโลก เป็นแก้วอันล้ำค่า ใครอบรมบารมีเต็ม หาได้ในตัวเองแล. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส)
|