พ้นทุกข์ด้วยความไม่ประมาท

[รสมน]

พ้นทุกข์ได้ด้วยความไม่ประมาท

“พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าไม่ให้พวกเราตั้งอยู่ในความประมาทของชีวิต ถึงเราจะเป็นคนหนุ่มก็ตาม คนแก่ก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างหรือธรรมะทั้งหลายรวบรวมลงไปในความไม่ประมาท ก็คือเมื่อคนไม่ประมาทในชีวิตของตน ไม่ประมาทในวัยของตน บุคคลนั้นย่อมปฏิบัติคุณงามความดีได้อย่างเต็มที่ การตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ก็คือ ตั้งอยู่ในความดีตลอด ไม่คิดทำความชั่ว คนนั้นแหละจะเป็นคนที่เจริญที่สุด แม้แต่จะเป็นพระ องค์ไหนไม่ประมาท องค์นั้นก็จะบรรลุธรรมก่อนเพื่อน คนเราจะพ้นทุกข์ได้ก็เพราะความไม่ประมาท”

หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป




ศรัทธาต้องพอดี

บวชมาแล้วก็ต้องมุ่งมั่นปฏิบัติอย่างจริงจัง สิ่งแรกที่ควรมีคือความศรัทธา เพราะศรัทธาคือหนทางนำไปสู่การปฏิบัติ แต่ศรัทควรอยู่ในความพอดี เพราะถ้ามีมากไป ปัญญามันจะไม่เกิด....

หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป





" สมัยหลวงพ่อฝึกอยู่กับหลวงปู่ฝั้น (หลวงปู่ฝั้น อาจาโร) ไม่ได้นอนนะ ถ้าเป็นวันพระวันเจ้า นั่งสมาธิทั้งคืน แต่ขนาดนั้นก็ยังโง่อยู่ จะว่าอย่างไร ถ้าไม่ได้ฟังเสียเลย ไม่ได้ฝึกเสียเลย หลวงพ่อไม่สงสัยนะ เป็นเปรต เป็นผี เป็นสัตว์เดรัจฉานจริงๆ "

โอวาทธรรมคำสอน
หลวงปู่อุทัย สิริธโร
วัดเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน
อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา





"ธรรมบทเดียวกัน
บางท่านฟังแล้วไม่ได้อะไรเลย
บางท่านฟังแล้วสำเร็จโสดาบัน
บางท่านฟังแล้วสำเร็จสกิทาคามี
บางท่านฟังแล้วสำเร็จอนาคามี
บางท่านฟังแล้วสำเร็จอรหันต์
บางท่านฟังแล้วตกนรก เพราะเพ่งโทษธรรม

สิ่งที่สัตว์โลกเป็นเหมือนกันก็คือ เมื่อฟังธรรมแล้ว
ต่างคนก็ต่างจะน้อมธรรมเข้าสู่กิเลสของตน
กิเลสที่ต่างกัน ทำให้ผลของธรรมบทเดียวกันนั้น
ออกมาต่างกัน"

หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต





"เดี๋ยวนี้คนทั้งหลายว่าแท้วิปัสสนา ๆ ได้
แต่ว่าไม่รู้จักว่า วิปัสสนามันเป็นยังไง นี่

"สมถะเป็นบาทของวิปัสสนา"

คือเมื่อจิตสงบแล้ว
มาเห็นที่เกิดแห่งสังขาร
แล้วก็เห็นที่ดับแห่งสังขารนี่หละ
มันเป็นยังงี้

ให้พากันรู้ เดี๋ยวนี้เราไม่รู้ว่าอะไรมันเกิดจากไหน ไม่รู้จักที่เกิดและไม่รู้จักที่ดับ มันจะเป็นวิปัสสนาได้ยังไงล่ะ

"วิปัสสนา" คือเมื่อจิตเราสงบแล้ว ก็เห็นที่เกิดแห่งสังขาร

โอ "เกิดจากจิตของเรา" เราก็ดับสังขารที่จิตของเรา

ก็ดับได้เพราะเหตุใด เราเห็นโทษแห่งสังขาร เห็นภัยแห่งสังขารทั้งหลาย เห็นทุกข์แห่งสังขารทั้งหลาย นี่มันจะดับได้ก็ตรงนี้

เมื่อเป็นทุกข์เห็นโทษแล้วมันก็ตัด จึงเรียกว่า
"เป็นวิปัสสนา" ความรู้แจ้งเห็นจริง เห็นสัจธรรม "

หลวงปู่ฝั้น อาจาโร





วิธีใช้หนี้พ่อแม่ไม่ยากเลย
ลูกทั้งหลายเอ๋ย
จงสร้างความดีให้กับตัวเอง
และก็เป็นการใช้หนี้ตัวเอง
นี่เป็นเรื่องสำคัญ

ตัวเราพ่อให้หัวใจ
แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลือง
อยู่แล้วในตัว
จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน
จะไปแสวงหาแม่ที่ไหนอีกเล่า
บางคนรังเกียจ" พ่อ แม่ " ว่า
แก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม
พอตัวเองแก่ก็เลยถูก
ลูกหลานรังเกียจ
จึงเป็นกงกรรมกงเกวียน
ยืดเยื้อกันต่อไปอีก

ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้ว
ก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศ
ส่วนกุศลไปให้ท่าน
และถ้าจะทำบุญด้วยการ
มาเจริญกรรมฐาน
แล้วอุทิศส่วนกุศลไป
การทำเช่นนี้ ถือว่า
ได้บุญมากที่สุดทั้งฝ่ายผู้ให้
และฝ่ายผู้รับ

ถ้าไม่มี " พ่อ..แม่ " เราทุกคน
ก็ไม่ได้เกิด
อันนี้เป็นความจริงไม่ต้องพิสูจน์
ผู้ใดก็ตาม
ที่คุณพ่อคุณแม่ยังมีชีวิตก็ให้
กลับไปหาคุณพ่อคุณแม่
ไปกราบเท้าขอศีลขอพรจากท่าน
จะได้มั่งมีศรีสุข

ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน
ก็นำเทียนแพ ไปกราบ
ขออโหสิกรรมล้างเท้า
ให้ท่านด้วย เป็นการ
ขอขมาลาโทษ

พระธรรมสิงหบุราจารย์ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม