เมื่อครูบาอาจารย์ท่านละธาตุขันธ์ไป พวกเราก็คิดว่าครูบาอาจารย์ท่านได้จากไปแล้ว แต่จริงๆ แล้ว พวกเราได้จากครูบาอาจารย์ไปตะหากล่ะ
เพราะเมื่อครูบาอาจารย์ไม่อยู่ การปฎิบัติ ความตั้งใจในสิ่งต่างๆ ที่ครูบาอาจารย์ท่านเคยสอน พวกเราก็เริ่มย่อหย่อนลงไป จืดจางไป ไม่เข้มข้นเหมือนเก่า
จริงๆ แล้ว ครูบาอาจารย์ท่านก็อยู่กับพวกเราเหมือนเดิมนั่นแหละ...
ธรรมเทศนา... พระอาจารย์ชยสาโร ณ วัดชลประทานรังสฤษดิ์ เมื่อวันที่ ๒๗ ส.ค. ๒๕๖๐
" ระมัดระวังโตจะของเด้อ กฏแห่งกรรมนี่มันแฮงอิหลีเด้ ไผเฮ็ดอิหยังไว้ สิดีฮืชั่ว กะหนีกฏแห่งกรรมบ่ได่เด้อ ย้อนว่ากฏแห่งกรรมนี่มัน เป็นธรรมมันยุติธรรมกับทุกชีวิต บ่มีไผหลีกเว้นได่ดอก มันคอยเวลามันอยู่ อย่าประมาทเนาะลูกหลานเอ้ย "
[พระหลวงปู่จื่อ พนฺธมุตโต]
"จงทำใจให้เหมือนใบบัวนี้เด้อ ใบบัวไม่เคยเปียกน้ำเด้ ใจก็ให้มันเหมือนใบบัว ใครจะว่าดีว่าชั่วก็อย่าไปเก็บเอาถือเอา ปล่อยให้มันไหลผ่านไปโลด...เด้อ"
หลวงปู่ปั่น สมาหิโต วัดป่าศิริดำรงวนาราม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
...ชีวิตของใครนั้นก็เป็นสิ่งที่มีคุณค่า
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเป็น
สัตว์เล็กสัตว์น้อยเช่น มด แมลง
"ชีวิตของเขากับเรานี้มีคุณค่าเท่ากัน"
.
เขาก็มีใจเหมือนกับเรา
ต่างกันตรงที่ร่างกายของเรา
กับของเขานี้..มีขนาดไม่เท่ากัน
เรามีร่างกายใหญ่กว่ามดกว่าแมลง
"แต่ใจของมดและแมลง
กับใจของเรานี้มันเท่ากัน"
.
เพราะใจไม่มีขนาด
ใจนี้เป็นนามธรรม ไม่ใช่เป็นรูปธรรม
ใจของเขากับใจของเรานี้เหมือนกัน
มีความปรารถนาเช่นเดียวกัน
คือ..ปรารถนาความสุข
ไม่ปรารถนาที่จะพบกับความทุกข์
มีความปรารถนาที่อยากจะอยู่ไปนานๆ
ไม่อยากจะตายเช่นเดียวกัน
.
ใจของเขา กับใจของเรานี้
อาจจะเคยสลับหน้าที่กันมาก็ได้
ในชาติก่อนๆ เราอาจจะ
เคยเป็นมดเป็นแมลงมาก็ได้
ส่วนพวกที่เป็นมดแมลงในชาตินี้
อาจจะเป็นมนุษย์มาก่อนก็ได้
แต่เนื่องจากเขาได้ไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
ฆ่ามดแมลงอย่างพวกเรา
เขาจึงต้องกลับไปเกิดเป็นมดแมลง
.
ส่วนพวกเรา เมื่อหมดเวรหมดกรรม
เราก็ได้มาเกิดเป็นมนุษย์
เมื่อเราได้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว
เราควรที่จะ..
"รักษาสถานภาพของมนุษย์ไว้"
อย่ากลับไปเป็นมดเป็นแมลง
เป็นสัตว์เดรัจฉานอีก ด้วยการไป
ฆ่ามดแมลง ไปฆ่าสัตว์เดรัจฉานต่างๆ
.
"เพราะว่า..กรรมนั้นเป็นกฎตายตัว"
ทำอะไรแล้วก็ต้อง ไปใช้กรรมนั้น.
......................................
ธรรมะในศาลา เล่ม2
หน้า169-170
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
" บุคคลผู้มี ความกตัญญูกตเวที ย่อมมีคุณธรรมพื้นฐาน ของความเป็นคนดี
ถ้ามุ่งหมายจะประกอบ คุณงามความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ก็ย่อมจักกระทำ ได้โดยง่าย
สมดังพระพุทธภาษิตที่ว่า " ภูมิ เว สปฺปุริสฺสานํ กตญฺญูกตเวทิตา " ความกตัญญูกตเวที เป็นพื้นภูมิของคนดี
และเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นคนดี มีฉันทะในการบำเพ็ญ คุณงามความดีอยู่เสมอ
ผลดีคือความสุข ความเจริญ ย่อมจักบังเกิด ขึ้นแก่บุคคลผู้สั่งสมเหตุ อันดีงามไว้แล้ว
เสมือนบุคคลผู้หว่านพืช เช่นไร ก็ย่อมได้รับผล เช่นนั้นนั่นเอง "
พระโอวาทธรรม สมเด็จพระอริย วงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาปริณายก
" การให้ธรรมะ ชื่อว่าเป็นการให้แสงสว่าง และความสันติสุขร่มเย็น
และเป็นการเทิดทูน พระศาสนา ให้สถิตย์สถาพร เจริญรุ่งเรืองสืบไป
เป็นอานิสงส์อันมั่นคง และสำเร็จทั้งในโลกนี้ และโลกหน้า
ขอให้เธอทั้งหลาย จงมีความตั้งใจ ประพฤติปฏิบัติธรรม
ทั้งส่วนตน และเผยแพร่ หลักธรรมคำสอน ในพระศาสนา ด้วยความตั้งใจและมั่นคง
เพื่อส่วนรวม ให้เจริญร่มเย็น ในหลักธรรมเทอญ.."
เจริญสุข เจริญพร
โอวาทธรรม หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ
จิตอยู่นอกตัว. เป็นโลก. จิตอยู่ในตัว. เป็นธรรม. ถ้าเป็นโลก. ก็ต้องร้อน. เหมือนไฟ. ถ้าเป็นธรรม. ก็เย็น. เหมือนน้ำ
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
#วันหนึ่งคืนหนึ่ง_ผ่านไป
ผ่านไปอยู่เรื่อยๆ สังขารร่างกายนับเวลาที่จะผ่านไปๆ โดยลำดับ พวกเราอย่าปล่อยให้วันคืนล่วงไปเฉยๆ ต้องให้มันผ่านไปด้วยการปฏิบัติธรรม
#การปฏิบัติธรรม_ก็เพื่อจะกำจัดสิ่งปลอมแปลงนั้นออกให้เหลือแต่ของจริง
คือ แก่นแท้ของธรรม เฉพาะอย่างยิ่งคือการหัดภาวนา ควรจะทำให้เกิดให้มี
ความแท้จริง งานอย่างอื่น เราก็เคยต่อสู้มาแล้ว ตั้งแต่ไหนแต่ไร ก็ต่อสู้กับงานหนักงานเบามาแล้ว จนกระทั่งเวลาผ่านมาจนบัดนี้ เราก็ทำได้มาเรื่อยๆ
#แต่เวลานี้เราจะฝึกหัดภาวนา
คือ การทำจิตใจโดยเฉพาะ และการทำภาวนานี้ ก็เป็นงานที่จำเป็นจะต้องทำ เช่นเดียวกับงานชิ้นอื่นๆ หรือควรที่จะทำให้หนักยิ่งไปกว่างานอื่นๆ เสียอีก เพราะเป็นงานหนัก และละเอียดกว่างานทั้งหลาย
#การทำภาวนาแรกๆ
จิตของเราย่อมกวัดแกว่งดิ้นรน ล้มลุกคลุกคลาน เป็นของธรรมดา เพราะจิตยังไม่เคยกับการภาวนามาก่อน จึงถือได้ว่าการภาวนาเป็นงานใหม่ของจิต
#ถึงจะยากลำบากแค่ไหนเราต้องฝึก
เพื่อที่จะฉุดกระชากลากจิต ที่กำลังถูกกิเลสย่ำยีอยู่นั้น ให้พ้นภัยอันตราย ให้เป็นจิตที่ปราศจากกิเลส เครื่องเศร้าหมอง
#จึงเป็นสิ่งที่พวกเราทั้งหลายควรทำอย่างยิ่ง
หลวงปู่อ่อน #ญาณสิริ
#ลิ่มที่แทงใจเราอยู่
กิเลสตัณหาความอยากของเรา ตลอดถึงคนที่เราหลงรัก อยากเข้าไปคุยด้วยฯลฯ เปรียบได้ประดุจลิ่มที่ทิ่มแทงใจอยู่ …
#เมื่อจิตใจของเราโดนลิ่มทิ่มแทงอยู่ #ย่อมไม่อาจภาวนาให้จิตสงบได้ …
การภาวนาในขั้นเริ่มแรก “สติ” จะคุมจิตได้ดี ก็ต่อเมื่อเราถอดลิ่มเก่าๆ ที่ฝังลึก อยู่ในจิตใจมานานหลายภพหลายชาติออกให้ได้ก่อน เป็นลำดับแรก
…
#ลำดับต่อไป_ก็ให้นำลิ่มใหม่ตอกเข้าไปแทนที่ลิ่มเก่า ..
ลิ่มใหม่คืออะไร ? ลิ่มใหม่ก็คือ คำบริกรรม “พุทโธ” ที่มีสติไม่เผลอ นี่แหละคือลิ่มตัวใหม่ …ที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการภาวนา แบบตอก ๆ ย้ำ ๆ อยู่ที่เดิมทุกวันไม่เลิก
…
#เมื่อภาวนาตอก “#พุทโธ” #เป็นประจำอยู่ทุกอิริยาบถ
ไม่วันใดก็วันหนึ่ง จิตใจของเราจะสงบเย็นเป็นสมาธิ และได้เป็นพระอริยะบุคคลผู้มีตาทิพย์สมปรารถนา.
#โอวาทธรรมคำสอน #หลวงปู่ไม #อินทสิริ…
#บุญคุณหนุนนำ
เกิดมาแล้ว_แม้จะทำมาค้าขาย_หรือทำหน้าที่การงาน_อันใดก็ตาม ถ้าไม่มีบุญคุณหนุนนำ_ย่อมลดส่วน
ถ้ามีบุญมีคุณหนุนจิตดวงนี้ เหมือนเทพบันดาล ทำงาน..ใครจะไม่ทำ..ไม่ลำบาก แม้มีเงินมีทอง..ก็ต้องลำบาก
#แต่ผิดกันตรงกุศล_เป็นพี่เลี้ยงจิต_ไม่จืดจางไม่แห้งแล้ง
ท่านจึงว่า ไม่เสียเงินเสียทองเลย ยิ่งถ้าพยายามรักษาศีลห้าให้สมบูรณ์ นั่นแหละก็สมหวัง
ท่านบอกสีเลนะ สุคติงยันตินั้น หมายถึงสมบูรณ์แล้วนะ อยู่ ๆ จะสมบูรณ์ทีเดียว เราปลูกสวนทุเรียน ไม่ใช่ปลูกวันเดียวได้กินเลย อืมปลูกแล้วรักษาไว้ ให้มันใหญ่มันโต
#ถึงการเวลา_มันก็เป็นของมัน
จิตดวงนี้เหมือนกัน รักษาด้วยกุศลมูล คือสิ่งที่ดี ไม่มีโทษ นี่แหละ.. ความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีโทษ เกิดภพใดชาติใด จิตนี้จะมีแต่ความบริสุทธิ์ผุดผ่องมากขึ้นก็สูงขึ้นไป สูงจริง ๆ ก็พอตัวแล้วนั่น
ว่านั่นแหละ สีเลนะ สุขติง ยันติ เมื่อสมบูรณ์ทุกอย่างแล้ว ก้าวสู่แดนบรมสุข ไม่มีวันแห้งแล้งจืดจาง ไม่มีเฒ่ามีแก่นั่น
#ให้พากันบำเพ็ญเอาทุกวัน ๆ
ท่านบอกก่อนนอน จิตดวงนี้ได้บังคับเอา อย่าลืมพุทโธ อย่างน้อยเท่าอายุก็ยังดีก่อนนอนๆ ใจเราก็จะค่อยขัดเกลาแก้ไขไปทุกวันๆ
#อย่าตั้งความหวังอะไร
ดังที่เทียบให้ฟังแล้ว เหมือนปลูกทุเรียนไปดึงให้มันใหญ่มันโตไม่ได้ มันใหญ่เอง
#ดูแลรักษาจิตดวงนี้เหมือนกัน
อยู่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นคนจริงพวกเราจะเกิดมาภพใดชาติใด ก็จะได้รับความสุขความสมหวัง ดังที่พูดมานี้
#กรุณานำไปเป็นหลักจิตหลักใจ #พวกเราก็จะได้รับความสมหวังโดยทั่วกัน พอ.
#โอวาทธรรมคำสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์ #หลวงปู่ปรีดา #ทุย #ฉันทกโร #วัดป่าดานวิเวก อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
การเพ่งดูผู้อื่น. ทำให้ตนเอง. ไม่เป็นสุข. แต่การเพ่งดูใจตนเอง. ทำให้เป็นสุขได้.
สมเด็จพระญาณสังวรฯ
#จงพยายามทำใจ_ไม่ให้ไปเกาะติดยึดติด
ให้ปล่อยวางไว้ตามธรรมชาติ เราเป็นคนผูกตัวเราเอง ไม่มีใครที่ไหนจะมาผูกเราไว้ได้
#จงทำใจให้ว่างจากอารมณ์_ทั้งภายในและภายนอก
ว่างอยู่ทุกอิริยาบถ ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ แม้จะอยู่ในที่ต้องคลุกคลีกับหมู่คนจำนวนมาก จิตก็ยังว่าง ไม่วุ่นวายขัดข้อง
#นี่คือจิตที่หลุดพ้นจากโลก
ถ้าบุคคลใดทำจิตของตนให้ว่างอยู่ได้เช่นนี้ ก็เชื่อได้ว่าเป็นบุคคลที่หมดแล้วซึ่งความอยาก ชาติ (ความเกิด) ก็ย่อมสิ้นไป ไม่ต้องสงสัยอีกเลย
#หลวงปู่คูณ #สิริจันโท
“ถ้าปฏิบัติธรรมแล้ว ยังไม่มีเมตตา ไม่รู้จักให้อภัย หรือไม่รู้จักมองคนในแง่ดี นั่นแปลว่า คุณยังไม่มีธรรมจริงๆ”
หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล
"ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเอง เห็นสิ่งไม่ดีของใคร จงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ"
หลวงปู่ไม อินทสิริ
|