สิ่งที่ข้าพเจ้าสัมผัสได้ตั้งแต่วันแรกที่พบท่านอาจารย์ หลวงพ่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ จนถึงวันนี้ก็คือ พรหมวิหารธรรม และความเสมอต้นเสมอปลาย.....
ท่านอาจารย์เคยพูดว่า
"คนเราควรจะรีบฉวยโอกาสปรนนิบัติรับใช้ผู้ใหญ่ แต่ก่อนอาตมามีความสุขในการอุปัฏฐากพระผู้ใหญ่มาก ตอนนี้ส่วนมากเจอแต่พระอายุน้อยกว่าพรรษาอ่อนกว่าที่อยากอุปัฏฐากเรา รู้สึกเสียดายว่าอายุเรามากขึ้นทุกวัน โอกาสจะได้รับใช้ผู้ใหญ่กว่าเราคงหาได้ยากต่อไป จึงอยากเตือนสติผู้มีอายุน้อยทั้งหลาย อย่าพลาดโอกาสเข้าใกล้ผู้ใหญ่ ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งที่ให้ความสุขกับท่านเท่าที่จะทำได้บ่อยๆ เพราะอีกไม่นานเราก็จะเป็นคนแก่อีกคนหนึ่งเหมือนกัน นั่งก็โอย ลุกขึ้นก็โอย ทำอะไรให้ใครไม่ค่อยจะได้" ................
วันนี้อาตมาเองก็มีความสุขที่ได้ถวายการอุปัฏฐากแด่ท่านอาจารย์และคณะเท่าที่จะสามารถทำได้เช่นกัน
พระอาจารย์ชยสาโร
...ขอให้คิดว่า ทุกคนเป็นเหมือนกันหมด
.พระพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก ท่านก็เป็นเหมือนเรามาก่อน ท่านก็มีกิเลสตัณหา มีอะไรเหมือนกันทุกอย่าง
.ท่านก็ต้องต่อสู้กับกิเลสตัณหา ต่อสู้กับความทุกข์ยากลำบาก อุปสรรคต่างๆ นานา
.แต่ถ้ามีความตั้งใจที่จะปฏิบัติ ที่จะสู้ ที่จะแก้ปัญหา มันก็แก้ได้ สู้ได้ และก็บรรลุได้ด้วยกันทุกคน
.ให้คิดอย่างนี้ “แล้วใจจะได้ไม่ท้อแท้ ไม่เบื่อหน่าย”. ........................................ ธรรมะบนเขา วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556 พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
“เอาไฟเผาขยะเลยนะ แล้วก็เผากิเลสมันด้วยนะ“
หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต วัดป่าบ้านตาด
อำนาจของกรรมใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก “อำนาจของกรรมใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก ไม่มีอำนาจใดทำลายล้างได้ แม้อำนาจของกรรมดีก็ไม่อาจทำลายอำนาจของกรรมชั่วและอำนาจของกรรมชั่วก็ไม่ อาจทำลายอำนาจของกรรมดี อย่างมากที่สุดที่มีอยู่ คือ อำนาจของกรรมดีแม้ให้มาก ให้สม่ำเสมอในภพภูมินี้ ก็อาจจะทำให้อำนาจของกรรมชั่วที่ได้ทำมาแล้วตามมาถึงได้ยาก ดังมีเครื่องหมายขวางกั้นไว้ หรือไม่เช่นนั้น ก็ดังที่ท่านเปรียบว่าเหมือนวิ่งหนีผู้ร้ายที่วิ่งไล่ตามมา ถ้ามีกำลังแข็งแรง วิ่งเร็วกว่าผู้ร้าย ก็ย่อมยากที่ผู้ร้ายจะไล่ทัน ความแข็งแรงของผู้วิ่งหนีกรรมชั่ว ก็หาใช่อะไรอื่น คือความเข้มแข็งสม่ำเสมอของการทำกรรมดีนั่นเอง”
สมเด็จพระญาณสังวร
ทุกครั้งที่เราทำความชั่ว เรากลายเป็นผู้มีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ชั่ว ทุกครั้งที่เราทำความดี เรากลายเป็นผู้มีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ดี ไม่มีใครสร้างโลกนี้ให้เรามาอยู่อาศัย เราสร้างกันเอง
พระอาจารย์ชยสาโร
ศีลเท่านั้น ทำตัวเรา ให้พ้นภัย
หลวงปู่หา สุภโร
"ถ้าทำใจให้เป็นกลาง ดีมา ชั่วมา สุขมา ทุกข์มา อะไรมันเกิดขึ้นแล้ว อะไรมันตั้งอยู่ ดับไป ก็ให้รู้เท่าทันในจิตใจของตัวเอง
รวมกำลังเข้ามานี้ สิ่งอื่นนอกนั้นไปคอยระวังอย่าให้มันไปลุ่มหลงมัวเมา เมื่อมันหลงไปดิ้นรนไปตามกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหาแล้ว ไม่มีวันจบสิ้น"
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
#อารักขกรรมฐาน
”..ตามธรรมเนียมของหลวงปู่ แต่ละวันละคืน ก็ต้องพลิกแผ่เมตตาอยู่ไม่ให้เว้นแต่ละคืนอยู่แล้ว นี้หมายความว่า.. แบ่งเวลาออกจากกรรมฐานอื่น..
..เมตตาก็ดี พุทธานุสติก็ดี อสุภะกรรมฐาน ซึ่งเป็นของบูดราในสกลกายก็ดี มรณะสติ ระลึกถึงความตายอันจะมาถึงตนและปวงชาวโลกก็ดี กรรมฐาน 4 อย่างนี้ พระองค์เรียกว่า “อารักขกรรมฐาน” และสอนให้ภาวนาเป็นนิจบ่อยๆ..”
คัดลอกบางตอนจาก:- หลวงปู่หล้าตอบปัญหาธรรม
" การพิจารณา "ธรรม" ทุกอย่าง ให้พิจารณามารวม ที่ไตรลักษณ์ คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน
ไตรลักษณ์นี้ จะได้ซักฟอก ความรู้ความเห็น ที่นักค้นคว้า ไปรู้ไปเห็นมาทั้งภายใน และ ภายนอกให้ขาวสะอาด
เป็นเหตุให้มลทินหลุดลอย ออกจากจิต คืออุปาทาน ซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ผูกจิตใจให้หลงอยู่กับ สรรพสิ่งเหล่านี้ ไม่รู้กี่กัปกี่กัลป์ "
โอวาทธรรม หลวงปู่ศรี มหาวีโร
"ถ้าหากว่า เรารู้ธรรม เราทำจิตให้เป็นกลางลงไป แล้วไม่ลำเอียงกับใคร ให้ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมการ ร่วมงานกัน เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกัน ถือว่าเป็นเพื่อนสร้างบุญบารมีร่วมกัน ถ้าต่างคน ต่างระลึกอย่างนี้ รู้อย่างนี้แล้ว เราก็ร่วมงานกันไป จะผิดพลาดไปบ้าง ก็ให้อภัยกันไปอย่างนี้ ไม่ถือสา หาความกันนี่เรียกว่า ความประพฤติเป็นธรรมต่อกัน และกัน"
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
“การทำบุญทีละน้อยๆ ก็สามารถเป็นบุญกองใหญ่ได้ อย่าได้รั้งรอ วันนั้นวันนี้ ให้ค่อยทำไปเรื่อยๆ เพราะความตายมันอยู่ใกล้ชิดเรา เราไม่รู้ว่าจะไปวันไหน ควรรีบสร้างคุณงามความดี เอาไว้เป็นที่พึ่งของตน”
หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
|