พระธรรมคำสอนของ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
การที่เราจะอดทนอดกลั้น ต่อความชั่วร้าย ต่อความทุกข์ ความวุ่นวายต่างๆ ได้ ก็ต่อเมื่อเรามีสติสัมปชัญญะสำรวมจิตใจเข้าไว้ในภายใน คือสำรวมไว้เสมอ ๆ คนไม่ปฏิบัติธรรมนะ มันปล่อยใจของตนให้คิดไปตามอารมณ์ คิดไปตามความอยากความปรารถนาไม่หยุดไม่ยั้ง เพราะฉะนั้นเมื่อเรื่องไม่ดีไม่งามต่างๆ กระทบกระทั่งเข้ามามันจึงเดือดร้อนขึ้น ถ้าเป็นเรื่องที่ให้โลภมันก็โลภไป ถ้าเป็นเรื่องที่ชวนให้โกรธ มันก็โกรธไปทันทีเลย ถ้าเป็นเรื่องที่ชวนให้หลงให้เมา มันก็หลงก็เมาไป โดยที่ระลึกไม่ได้เลยว่า..การทำไปเช่นนั้นพูดไปเช่นนั้นมันมีทุกข์มีโทษ มันไม่รู้ตัวนั่นแหละ เรียกว่าหลงว่าเมา ที่มันเมาไปก็เพราะว่า ไม่ได้สำรวมจิตใจ ใจไม่ได้ตั้งมั่นอยู่ภายใน นั่นแหละมันถึงได้เร่ร่อนไปจิตใจอันนี้นะ แล้วมันจึงเกิดกิเลสอันหยาบช้าลามกต่างๆ ขึ้น...
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
เราจงนึกถึงพระพุทธคุณทั้งหลายทั้งปวง ว่าจะมีอยู่กี่ร้อยบทพันบท แต่พระพุทธคุณเหล่านั้น จะต้องมาสรุปรวมลงไปได้ในบทว่า "พุทโธ" ฉะนั้น เมื่อเราเปล่งเสียงว่า "พุทโธ" ก็คือเราเปล่งเสียงพระพุทธคุณทั้งหมด เมื่อเรานึกถึงความหมายของคำว่า"พุทโธ" ก็คือนึกถึงความหมายของพระพุทธคุณทั้งหมด ฉะนั้น การที่จะบริกรรมว่า พุทโธ พุทโธ พุทโธ ด้วยสติสัมปชัญญะ รู้ในความหมายนี้คำเดียวก็ใช้ได้ คือหมายถึงพระพุทธคุณทั้งหมด
พุทธทาสภิกขุ
บุญ...ไม่ไช่จะมีเงินไปหาซื้อ หาขอเอาที่ไหนก็ได้นะ บุญเกิดจากทาน เสียสละ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความตะหนี่ เป็นทาน นี่แหละ...ยอดบุญ!!!
โอวาทธรรม หลวงปู่อว้าน เขมโก วัดป่านาคนิมิตต์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร
"ความพอใจในสิ่งที่มีอยู่ เป็นทรัพย์อันประเสริฐ"
หลวงปู่ขาว อนาลโย
“คนที่ดูแลพ่อแม่อย่างดี ไม่มีทางตกต่ำ แม้ตัวเองต้องรับกรรมที่ทำมา ก็จะมีบุญ จะมีคนช่วย เพราะความกตัญญูของเราเอง”
หลวงปู่แบน ธนากโร
เมื่อไม่มีภาระ. จิตมันก็จะรวมลงไป. อย่างเด็ดเดี่ยวเลย.
หลวงปู่ไม อินทสิริ
" จงพยายามสร้าง ความว่างของใจ ให้เกิดขึ้น ใช้ปัญญาพิจารณาทุกสิ่ง ทุกอย่าง จนใจเราได้รู้เห็น ตามความเป็นจริงว่า
เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน ไม่มีบุคคลเราเขา เป็นแต่เพียงธรรมชาติของ ธาตุขันธ์เท่านั้นเอง ไม่มีใครเป็นเจ้าของ
เมื่อใจเราเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ที่มีอยู่ในโลกนี้ ล้วนเป็น ตัวทุกข์หรือกองทุกข์ทั้งสิ้น ใจเราก็จะเกิดความเบื่อหน่าย ไม่ต้องการอันใดสักอย่าง
มีแต่ความอิ่มใจพอใจ ไม่ขอมีอะไรๆ อีกต่อไป จะปล่อยวางหมด ไม่มีอันใด เหลือ ใจก็จะว่างเฉยอยู่ตลอดไป
สิ่งใดที่กายทำ ก็ทำเพื่อปล่อยวาง ใจคิด ก็เพื่อละเพื่อทิ้งไป เพราะได้พิจารณาเห็น เป็นทุกข์ จึงทิ้งทุกข์ให้หมดไป "
โอวาทธรรม พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (หลวงปู่จันทร์ สิริจนฺโท)
|