...คนส่วนใหญ่มักจะชอบให้หลวงตารัก ให้หลวงตาเมตตา พอท่านด่าเข้า..ก็ว่าท่านไม่เมตตาแล้ว แต่ความจริง “ท่านเมตตา ท่านถึงได้ว่าเรา”
. ถ้าไม่ว่า แสดงว่าไม่เมตตา เห็นเราทำผิดแล้ว..ไม่ช่วยแก้ไข ไม่ช่วยตักเตือน ถ้าอยากจะปฏิบัติธรรม อยากจะมีครูบาอาจารย์ “ก็ต้องกล้าหาญอดทน มีสติ มีปัญญา”
. ครูบาอาจารย์จะดุด่าว่ากล่าวอย่างไร “เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปมีปฏิกิริยาอะไรทั้งสิ้น”
. ให้นิ่งเหมือนหินเลย “ฟังอย่างเดียว แล้วก็เอาไปพิจารณา” ถ้าสิ่งที่ท่านพูดเป็นความจริงก็ต้องรีบแก้ไข
. “อย่าให้ท่านว่า ท่านสอนซ้ำได้เป็นดี” เพราะถ้าว่าซ้ำสองซ้ำสามแล้ว แสดงว่า..เราไม่ได้เรื่อง สั่งสอนยาก โอกาสที่จะเจริญจะพัฒนาก็จะยาก เพราะยังมีทิฐิ. .......................................... คัดลอกจากหนังสือ มหาเศรษฐีที่แท้จริง(หน้า118) พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
" อานิสงส์ของ ผู้บริจาคทาน มี ๕ อย่าง อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ตลอดกาลนาน เพราะฉนั้น ไม่ควรตระหนี่หวงบริโภค
บัณฑิตผู้หวังผลวิเศษ ควรยินดีในการให้อาหาร แก่ สมณะ ชี พราหมณ์ เป็นต้น
ไม่ควรว่า ให้เหลือเฟือก่อนจึงค่อยให้ มีเวลาใดควรให้เวลานั้น
อย่าเลือกว่า เป็นวันพระ วันโกน เพราะให้ในวันไหน ย่อมได้ผลเท่ากัน ไม่น้อยมากกว่ากัน
ที่จะให้มากน้อยมากกว่ากัน นั้น คือผู้รับของเท่านั้น คือเจตนาของผู้ให้ และ คุณธรรมของผู้รับเท่านั้น "
โอวาทธรรม หลวงปู่หลุย จันทสาโร
"..เราทุกคนมีวาสนาด้วยกัน พระพุทธเจ้าท่านจึงสอน ไม่ให้ประมาทอำนาจวาสนา ของกันและกัน เพราะมีอยู่ ภายในจิตใจโดยเฉพาะ
ไม่เป็นสิ่งที่จะมาออกร้านค้า ขายเหมือนสิ่งของต่าง ๆ แต่ เป็นสิ่งที่มีอยู่ภายในจิต ฝังอยู่ อย่างลึก ไม่มีใครทราบ แม้ตัวเองก็ยังไม่อาจทราบได้ เพราะมีสิ่งหนึ่งปิดบัง อยู่ภายในตัวของตัวเราเอง
แต่พอที่จะทราบได้ว่าเรามี ความเชื่อ ความเลื่อมใส ในศาสนธรรม พอใจในการ ทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล ภาวนา นี่เป็นเชื้อเดิมแห่ง นิสัยของผู้ที่เคยสร้าง คุณงามความดี เคยถือศาสนา เคยสร้างบุญญาภิสมภาร มาแล้ว จึงยึดหลักนิสัยเดิมนี้ไว้
พอใจกับการบำเพ็ญของตน ที่เคยเป็นมา แม้เราจะจำ ไม่ได้ว่าเราเกิดภพใดชาติใด ได้เคยสร้างคุณงามความดี อย่างนี้หรือไม่ประการใดก็ตาม
เราก็ถือเอาความเป็นของใจ เราซึ่งแสดงอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็นสักขีพยานได้เลย จิตเคยอย่างไรก็ต้องเป็น อย่างนั้น นี่เป็นหลักใหญ่.."
โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
"..ธรรม 'ครูบาอาจารย์' ก็สอนอันๆเดียวกัน ลงที่ใจเหมือนกัน พระพุทธเจ้าก็มาสั่งมาสอน ธรรมอันเดียวกัน
สรุปแล้วของดีที่สุดก็คือ ดวงจิตดวงใจของเรา ไปหาครูบาอาจารย์ องค์นั้น ก็สอนลงที่จิตใจ ไปหาองค์นี้ ก็สอนลงที่จิตใจ เราต้องสอนจิตสอนใจ ตนของตน เพื่อให้มันรู้มันเห็น
ทุกข์นี้ ก็เกิดที่ใจ เหตุให้เกิดทุกข์ ก็รู้ที่ใจ ความดับทุกข์ ก็รู้ที่ใจ ความสงบ ก็เกิดขึ้นที่ใจ รู้ที่ใจ ลงที่ใจ.."
โอวาทธรรม หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
|