"เรามีบุญเก่าสร้างมา เปรียบเหมือนผึ้งกับแมลงวัน ถ้าเป็นผึ้งจะเลือกตอมแต่ของหอมเหมือนกับการรักษาศีลของเรา เพราะกลิ่นของศีลหอมยิ่งกว่ากลิ่นดอกไม้ทั้งปวง
แต่ถ้าเป็นแมลงวันจะเลือกตอมแต่สิ่งที่เป็นปฏิกูล ให้ดูว่าบุญเก่าเราทำให้เป็นนิสัยเหมือนผึ้งหรือแมลงวัน!..."
หลวงปู่อว้าน เขมโก วัดป่านาคนิมิตต์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร
การมีสติ เห็นความจริงสม่ำเสมอ จะทำให้เราเห็นความไม่เที่ยง เห็นความทุกข์ที่แฝงอยู่ในสิ่งต่างๆ และเห็นความไม่ใช่ตัวตน ที่มันซ้อนลึกไปอีกขั้นหนึ่ง ถ้าเรามองไม่เห็นตรงนี้ เราก็ยังหลงวนอยู่กับกามคุณ ๕ หลงวนอยู่กับอดีตหรืออนาคต ทำให้เราวนอยู่กับความเศร้าใจ ความดีใจ ความฟู ความแฟบ ความทุกข์ เรียกว่า..."ติดอยู่ในวัฏสงสารอันไม่จบไม่สิ้น"
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
..."ความสุข" อยู่ที่ความว่างของใจ ความเป็นกลาง ความเป็นอุเบกขา .............................. คัดลอกการสนทนาธรรม ธรรมะบนเขา 24/3/2560 พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
“จงรักตัวเองให้มาก และใส่ใจในการทำความดีอย่างเต็มที่ เพราะการเกิดเป็นมนุษย์อีกที ไม่ใช่ของง่าย”
หลวงปู่อว้าน เขมโก
"แทนที่จะไปเสียเวลา เสียกำลังความคิด ไปตั้งหน้าจัดการกับกิเลสผู้อื่นก็ให้ตั้งหน้าจัดการ กับใจของตนเอง ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องใกล้ชิด กับกิเลส ทำได้เพียงไรก็จะเหมือนสามารถแก้ไข คนอื่นทั้งหลาย ให้กลายเป็นคนดีได้ทั้งโลก เพราะ ใจเราจะไม่เร่าร้อนเพราะผู้ใดเลย จะเหมือนคนทั้งโลก ไม่ได้ก่อกรรมทำร้ายให้เราต้องกระเทือนใจเลย"
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ
"ก่อนจะใช้วาจาทิ่มแทงใคร พึงตระหนักว่า คำต่อว่าด่าทอนั้น มักประจานตัวตนของผู้ด่าทอ มากกว่าผู้ถูกด่า"
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
"ร่างกาย เป็นรังของโรค ต้องเจ็บป่วยอยู่เสมอ เป็นธรรมดา อย่าเศร้าหมอง ตามการเจ็บป่วยนั้น ทำใจให้ปลอดโปร่ง และให้นึกเสมอว่า การเจ็บตาย จะมาถึงเมื่อไรก็ได้ อย่าประมาท อย่ารั้งรอ ต่อการทำความดี ในขณะที่ยังมีโอกาสทำความดี จะได้ไม่ต้องเสียใจ แม้ความตายจะมาถึง ในวินาทีใดก็ตาม"
ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต
" ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น แหละ กรรมของใครของมัน วิ่งมาให้ผลของมันเอง ไม่ต้องไปผูกเวรผูกภัย กับใครหรอก ให้เขาเป็นสุข มีความเจริญซะ
ให้ปรับตัวใหม่ อย่าไปผูกเวร ผูกภัยกับเขา ถ้าไปผูกเวร ผูกภัยแล้วเราจะขาดทุน ถ้าไม่ผูกเวรผูกภัยแล้ว เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอก "
โอวาทธรรม หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต
"..ดังนั้น ควรหมั่นฝึกจิต ให้ติดเป็นนิสัยให้ว่างเปล่า ปล่อยวาง อุเบกขารมณ์ มีศีล สมาธิ และปัญญา เป็นประจำสม่ำเสมอ
จะได้นำมาใช้เพื่อต้อนรับ ความตาย จะได้ไม่ทุกข์ ไปเกิดที่สุคติ เพราะเวลา จะเข้าภวังค์จุติ (ตาย) ปฏิสนธิเข้าภพ (เกืด) นั้น จิตจะสับสนวกวน ทบทวน ในผลกรรมต่าง ๆ
จิตไปจมอยู่กับอะไร ก็จะเข้าภพในสิ่งที่จมอยู่นั้นๆ "
โอวาทธรรม ท่านพ่อลี ธัมมธโร
#ทำจิตใจให้มั่น ว่างจากอารมณ์ ทำจิตใจให้ไม่ตึงเครียด
ศีล ข้อห้าม ป้องกันบาปกรรม ที่เกิดทาง กาย วาจา และใจ ให้พวกเราพากันรักษา
#ของดีที่สุด ก็คือ "ศีล" รักษาศีล จิตใจของเราก็เป็นธรรม เกิดเมตตา สงสาร บุคคลอื่น สัตว์อื่น #อยากให้เขามีความสุขกายสบายใจ คิดช่วยผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก จิตใจเป็นศีลเป็นธรรม อยู่ด้วยกัน มีมาก มีน้อย ก็เย็นทั้งนั้น
ขาดศีล ขาดธรรม ขาดเมตตา ก็ขาดความสุข
เมตตา สงสารตนเองให้มากๆ #ตามหาตนของตนให้มันเห็น ธรรมะ คือดวงจิตดวงใจของเรา ปฏิบัติตามมรรค คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
#แก้ทุกข์_ให้ถูกทาง ถ้าผิดหนทางแล้วไปกันใหญ่
#วาสนา คือ การกระทำ #บารมี คือ กำลังของบุญกุศล มันไม่มี ทำให้มีได้ #มันมีน้อย_ก็ทำให้มีมากได้ เมื่อทำไป ทำไป เมื่อมันเต็ม รู้เองเห็นเอง
#พากันตั้งใจประพฤติปฏิบัติ ตนนั่นแลเป็นที่พึ่งของตน ใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้ ... หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม แสดงธรรมในงานถวายเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่เผย วิริโย 18 มีค 61
|