"..ถ้าถามธรรมในตัวเอง เราเกิดมานี้เราจะตาย เหมือนโลกทั่วๆไป แล้ว เรามีความดีงามอะไรบ้าง ติดเนื้อติดตัวเรา
พุทโธเคยมีในหัวใจไหม ธัมโมเคยมีในหัวใจไหม สังโฆเคยมีในหัวใจไหม
การให้ทานเราเคย ได้ให้ทานมากน้อยเพียงไร การรักษาศีลรักษาธรรม อย่างน้อยศีล ๕ เราเคย ได้รักษากับโลกแห่ง ชาวพุทธเขาบ้างไหม
ให้พิจารณา การภาวนา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ซึ่งพระพุทธเจ้าเลิศ ด้วยการภาวนา เราเคย ได้ภาวนาบ้างสัก ๑ นาทีไหม
เหล่านี้เปล่าทั้งนั้นพวกเรา เรียกว่าเปล่าหมดไม่มีในตัว แสดงว่าขาดทุนมากมาย ก่ายกอง.."
โอวาทธรรม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
จงดูความเคลื่อนไหวของใจที่แสดงความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา อาการของใจ มันเกิดไปถึงไหน และดับไปถึงไหน มันเกิดที่ไหนมันก็ดับลงที่นั่นเอง
จงพิจารณาให้ชัดต่อความเกิด-ดับของใจ ความเกิดกับความดับที่ปรากฏขึ้นจากใจ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ควรถือเอา จงฆ่าแม่คือใจให้ตาย ลูกคืออาการก็จะหมดปัญหาทันที แม้จะปรากฏเกิด ๆ ดับ ๆ ก็ไม่เป็นปัญหา และไม่มีพิษสงอะไรต่อไปอีก
อาการของใจจึงจะกลายเป็นขันธ์ล้วน ๆ ไม่มีกิเลสเจือปน จะหมดกังวลใด ๆ ลงทันที
#หลวงตามหาบัว #ธรรมะในลิขิต
"คนทั้งหลายพากันเกลียดกลัวทุกข์ อยากหนีทุกข์ ไม่อยากให้มีทุกข์เลย ความจริงทุกข์นี่แหละ จะทำให้เราฉลาดขึ้นล่ะ ทำให้เกิดปัญญา ทำให้เรารู้จักพิจารณาทุกข์"
หลวงปู่ชา สุภทฺโท
"เขาโกรธมา เราไม่โกรธตอบไป อย่างนี้เรียกว่า ชนะสงครามที่ชนะได้ยาก"
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
"การให้ธรรมเป็นทานคือการให้อันยอด เพราะเป็นการช่วย 'หงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่า คนมีจักษุจักเห็นรูปได้' ใครมีส่วนร่วมในการส่งเสริม ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา ในจิตใจของเพื่อนมนุษย์ย่อมได้บุญอย่างยิ่ง"
พระเทพพัชรญาณมุนี (พระอาจารย์ชยสาโร)
"ภาวนา คือ ให้มีสติ สอนตัวเอง รู้ดี รู้ชั่ว ให้มันเกิดปัญญา" . โอวาทตอนหนึ่งของ หลวงพ่อสมบูรณ์ กันตสีโล
“เหตุการณ์ต่างๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาของโลก”
ถาม: เด็กคนที่ผ่าคลอดมาตรงกับวันทอดกฐินวัดป่าบ้านตาดและตรงกับเวลาที่หลวงตาละสังขาร อาจจะเป็นไปได้ไหมครับที่คนที่เคารพหลวงตาจะมาเกิด หรือเป็นเหตุบังเอิญครับ
พระอาจารย์: อ๋อ มีคนเกิดทุกวันแหละ วันนี้ก็มีคนเกิด ไม่ใช่จะเกิดเฉพาะวันนั้นวันเดียว ถ้าเกิดวันนั้นวันเดียวก็ต้องถือว่าเป็นกรณีพิเศษจริงๆ แต่นี่มันมีเกิดทุกวัน วันละไม่รู้กี่แสนกี่ล้านคนนี่ มันมีเกิดทั่วโลกไปหมด งั้นเหตุการณ์ต่างๆ มันมาเจอกันเพราะว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา มันมีวันจำกัด ปีหนึ่งมันก็มี ๓๖๕ วัน แล้วมันมีคนมาแย่งกันเกิดอยู่ มันก็ต้องมาเกิดวันใดวันหนึ่ง งั้นเรื่องเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไร ไม่มีนิมิตหมายอันดีอะไรตรงไหนหรอก เป็นเรื่องของเหตุการณ์ที่มีการมาเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กันเท่านั้นเอง นี่ตอนนี้พูดอยู่อย่างนี้มีทั้งคนเกิดมีทั้งคนตาย ใช่ไหม คนที่มาเกิดอาจจะเป็นมหาเศรษฐีต่อไปก็ได้ คนที่ตายไปวันนี้ก็อาจจะเป็นมหาเศรษฐีที่ตายไปก็มี งั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาปกติของโลก มันมีเหตุการณ์ต่างๆ ปรากฏขึ้นตลอด ๒๔ ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด เหตุการณ์ในโลกนี้มันไม่มีวันหยุดเพราะโลกมันหมุนไง โลกมันหมุนแล้วมันก็มีกลางวันอยู่ทุกแห่งทุกหน ตอนนี้เป็นกลางวันที่นี่ เดี๋ยวพอตอนที่นี่เป็นกลางคืนมันก็เป็นกลางวันที่อื่น พอเป็นกลางวันที่อื่นก็มีคนตื่นขึ้นมามีคนมาทำอะไรต่างๆ เหมือนกับที่เราทำกันอยู่ตอนนี้ งั้นมันเป็นเรื่องปกติเรื่องธรรมชาติของโลกนี้ ไม่ต้องไปสนใจ สนใจอย่างเดียวว่าทำยังไงให้ใจเราไม่ทุกข์ ทำใจให้เราสบาย เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้มันไม่ได้มาทำให้เราทุกข์หรือให้เราไม่สบายใจ เหตุการณ์ที่ทำให้เราไม่สบายใจก็คือการทำบาปของเรา การกินอยู่แบบฟุ่มเฟือยนี่มันจะทำให้เราไม่สบายใจต่อไป พอไม่มีเงินที่จะมาใช้แบบฟุ่มเฟือยมันก็จะทุกข์ การทำบาปก็ทุกข์ การมีความอยากก็ทุกข์ อยากให้คนนั้นเป็นอย่างนี้เป็นอย่างนั้น พอเขาไม่เป็นก็ทุกข์ อยากให้ร่างกายเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ พอมันไม่เป็นมันก็ทุกข์ นี่มาดูเรื่องนี้ดีกว่า เรื่องของความอยากดีกว่า หยุดมันดีกว่า แล้วเราจะได้สบายใจ ไม่ต้องไปเล็งว่าวันนี้เป็นวันตายของหลวงตา เป็นวันทอดกฐิน ต้องบังคับให้ภรรยาคลอดลูกออกมาให้ได้วันนี้จะได้เป็นมงคล มันไม่เป็นหรอก บางคนต้องไปผ่าท้องเห็นไหม สมัยนี้เลือกวันเกิดกัน ไปถามหมอดูก่อน หมอ วันเกิดเดือนไหนดี วันที่เท่าไหร่ดี พอได้วันเกิดแล้วทีนี้ก็ไปปรึกษากับหมอ หมอเป็นไปได้ไหมนี่ ผ่าท้องในวันนั้นเอาลูกออกมา โอ๊ย มันไม่เป็นธรรมชาติหรอก มันเป็นบ้ามากกว่า
สนทนาธรรมบนเขา วันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ #พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ภาวนามีความหมายจริงๆ ว่าอย่างไร?
ภาวนา แปลตามรากศัพท์ว่า ทำให้มีขึ้น หรือว่าแปลอีกแง่หนึ่ง คือ พัฒนา ทำให้ดีขึ้น เพราะฉะนั้น การภาวนาก็คือการพัฒนาทางกาย ทางวาจา ทางใจ ทีนี้ชีวิตประจำวันสิ่งแวดล้อมไม่ค่อยจะเอื้อต่อการภาวนา มีสิ่งกดดัน มีสิ่งยั่วยุสารพัดอย่าง แต่เมื่อเราแบ่งเวลาให้การนั่งขัดสมาธิ หลับตา เจริญสติกับลมหายใจ หรือการเดินจงกรม ก็คือเป็นเวลาที่เราให้กับการภาวนา หรือการพัฒนาชีวิตโดยตรง เราพัก เรางด จากเรื่องอื่นทั้งหลายชั่วคราว เพื่อมุ่งต่อการภาวนา ต่อการพัฒนาชีวิตอย่างเดียว เพราะฉะนั้นเราจึงมักใช้คำว่า นั่งภาวนา เรากำลังภาวนากัน หมายถึงว่าเราจัดสรรสิ่งแวดล้อมทุกอย่าง เพื่อการภาวนาโดยเฉพาะ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เราภาวนาเฉพาะเวลาเรานั่งขัดสมาธิ หรือเราเดินจงกรม แต่ในชีวิตประจำวันเรามีความพยายามที่จะปล่อยวางสิ่งที่ไม่ดีในจิตใจ และพัฒนาสิ่งดีงาม ก็ถือว่าเรากำลังภาวนากันอยู่
พระอาจารย์ชยสาโร
การทำบุญเพื่ออุทิศให้บิดามารดา ตลอดทั้งผู้มีพระคุณหรือทั่วทั้งไตรโลกธาตุ อันนั้นเป็นเจตนาดีแล้ว ถึงแม้ของบริจาคทานเราเล็กน้อยก็ไม่ขัดข้องต่อธรรมะ ยิ่งได้บุญทวีคูณเหมือนเดิมถ้าทำมากก็ยิ่งได้มาก การอุทิศบุญให้แก่ท่านผู้อื่นบุญไม่ได้หมดไป มีแต่ได้ทวีมากแม้ข้าวเมล็ดเดียวจะอุทิศถึงไตรโลกธาตุก็ได้
ไม่ว่าทำบุญประเภทไหนชั่วลัดนิ้วมือเดียวก็ตาม ขณะจิตเดียวก็ตาม อุทิศให้ไตรโลกธาตุได้ทั้งนั้น ท่านเหล่านั้นจะได้รับหรือไม่ได้รับแต่ผู้อุทิศให้ท่วมไม่เสียแล้งไม่เสีย และการทำบุญส่วนตัวก็ดี หรือบุญอุทิศก็ดี ทำเพื่อรู้แจ้งพระนิพพานโดยด่วนนั้น มีอานิสงส์มากหาประมาณไม่ได้ และก็เป็นปัญญาไปทางลัดด้วย แต่ผู้สร้างบารมีแก่กล้ามาแล้ว จึงพอใจต้องการอย่างนั้น...
หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต
ตายแล้วสูญนั้นไม่มี
"เราคนๆ หนึ่งเราอย่าได้คิดว่าเกิดมาในชาตินี้หรือเกิดชาติเดียว ตายแล้วก็สูญหายไปเลยอย่างนี้ เป็นความคิดผิดอย่างร้ายแรงมาก และเป็นภัยแก่ตัวเองอีกด้วย จึงขอให้ระมัดระวัง ให้เชื่อเถิด พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาองค์เอก ท่านทรงแสดงไว้อย่างไรแล้วเป็นไปอย่างนั้น เรื่องตายแล้วเกิดนี้ ๆ มีประจำสัตว์สังขารมาตลอดเวลา ส่วนตายแล้วสูญนั้นไม่มี แต่กิเลสมันไปเหมาเอาว่าตายแล้วสูญ ว่าบาปไม่มี บุญไม่มี นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี นี่เป็นสิ่งที่หลอกลวงของกิเลสโดยตรง ให้พึงทราบว่านี้คือข้าศึกของใจมนุษย์เรา"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
.
#ชีวิตเต็มไปด้วยทุกข์
ชีวิตนี้มันเต็มไปด้วยความทุกข์ ขึ้นชื่อว่าความทุกข์มาจากไหน
มาจากการมีร่างกาย ถ้าเราไม่มีร่างกายอย่างนี้เราก็ไม่มีทุกข์อย่างนี้
เราหิวเพราะร่างกาย เราป่วยไข้ไม่สบายเพราะร่างกาย เราต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจเพราะร่างกาย เราตายเพราะร่างกาย ขึ้นชื่อว่าร่างกายเลวๆ อย่างนี้จะไม่ขอมีอีกต่อไปเมื่อตายจากชาตินี้แล้วขอไปนิพพาน
ถ้าคิดอย่างนี้ทุกวันมันมีการสะสมตัว ถ้าตายวันไหนตายวันนั้นจะเป็นพระอรหันต์และไปนิพพานทันที
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน จากหนังสือธัมมมวิโมกข์" ปีที่ ๓๓ ฉบับที่ ๓๗๔ หน้า ๙๔ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์
"จงเร่งภาวนาแข่งกับความตาย นั่งก็ตาย นอนก็ตาย กินก็ตาย ไม่กินก็ตาย เจ็บป่วยอยู่ก็ตาย ไม่เจ็บป่วยมันก็ตาย ความตายมันมีอยู่ทุกฐานะ ทุกสถานที่ เกิดเพื่อจะตาย และตายเพื่อจะเกิด วิเศษวิโสอะไร"
หลวงพ่อวันชัย วิจิตฺโต
"แก่นแท้ของธรรมอยู่ที่ สติ จงหมั่นทำสติให้แก่กล้า สติทำอะไรไม่ผิดพลาด กุศลธรรมทั้งหลาย คุณงามความดีทั้งหลายเกิดขึ้นได้เพราะบุคคลมีสติอย่างเดียว จะคิด จะพูด จะทำ ให้มีสติระลึกเสียก่อน มันผิดก็ให้รู้ มันถูกจึงค่อยทำ ผู้อื่นไม่ได้ทำให้จิตของเราเศร้าหมองหรือผ่องแผ้ว เราเองเป็นผู้ทำให้จิตของเราเศร้าหมอง ผู้อื่นช่วยไม่ได้ แม่พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้ ท่านทรงเป็นผู้บอกทางให้เท่านั้น ผู้ปรารถนาความเจริญความสุข ต้องหมั่นฝึกอบรมตนเอง 'ทำเอง-รู้เอง-ได้เอง' ใครทำใครได้ ผู้ทำคุณงามความดีมีศีล ศีลที่บริสุทธิ์แล้วย่อมเป็นที่มาแห่งโภคทรัพย์ จิตดี จิตที่ไม่อิจฉาริษยาพยาบาทเบียดเบียน เป็นดวงจิตที่บริสุทธิ์ผุดผ่องทำให้คนบริสุทธิ์ ทำให้คนมีศีล มีโภคทรัพย์"
(หลวงปู่ขาว อนาลโย) วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู ศิษย์รุ่นอาวุโส(องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
|