ระหว่างการเดินทางหลังออกพรรษาอาตมาเกิดประทับใจสองตายายชาวทิเบต เขามีสวนอยู่นอกเมืองออกไปไม่ไกล เดินออกจากกลางเมืองเล็ก ๆ ไม่กี่นาทีก็ถึงสวนของสองตายายนี้ เขาเปิดสวนของเขาให้เป็นที่สาธารณะ ตั้งโต๊ะ มีม้านั่ง คอยดูแลความสะอาด ให้ชาวบ้านหรือแขกผู้มาเยือนได้ชื่นชมความงามของสวน และทิวทัศน์อันสวยงามของหุบเขาเบื้องล่าง ทั้งสองยังให้ชาวบ้านได้เก็บแอปเปิลและวอลนัทในสวนทานเล่นได้อย่างเอร็ดอร่อย และเบิกบานใจ
อาตมาดูสองตายายนี้มีความสุขมาก ไม่เหงา ทั้งสองได้ทำบุญทุกวัน จึงมีแต่ความยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นตัวอย่างที่ดีว่าอายุมากแล้วก็ยังสามารถให้ความสุขกับผู้อื่นได้ และมีความสุขกับการให้ความสุขนั้น
พระอาจารย์ชยสาโร
ถ้าในขณะใดจิตของเรามันรวมเป็นหนึ่งได้ มันก็วางจากความสุขและความทุกข์ แล้วมาตั้งอยู่เป็นกลางๆ คือ เป็นอุเบกขา เรียกว่าวางเฉยอยู่
ความสงบระงับที่จะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องอาศัยสติ และสัมปชัญญะ คือความลึกได้ และความรู้ตัวอยู่เสมอ ว่าขณะนี้เราทำอะไร
การมาปฏิบัติธรรม คือ ทำจิตใจของเราให้มันสงบระงับ อยู่ในอารมณ์อันเดียว ไม่เกี่ยวข้องด้วยอารมณ์อย่างอื่น
พิจารณาแยกแยะออกไป เมื่อใจเรามั่นคงแล้ว จะต้องเกิดปัญญา คือความรู้แจ้งเห็นจริงว่า สิ่งทั้งหมดในร่างกายของเรานี้ เป็นของตกอยู่ในไตรลักษณ์ คือเป็นของไม่เที่ยง มีสภาพแปรปรวนอยู่ทุกเวลานาที เมื่อเรากำหนดได้ดังนี้ ก็ชื่อว่าจิตของเรานั้นละเอียดลออลงไปอีก
หมั่นภาวนาอบรมบ่มนิสัยใจคอ จิตใจของตน ให้เป็นคนเยือกเย็น ไม่ยึดไม่ถือ ใครจะว่าดีก็ช่าง ใครจะว่าชั่วก็ช่าง อยู่ที่ใจของเราไม่ไปยึดถือนั่นเอง
การปฏิบัตินั้นจะแบ่งให้กันก็ไม่ได้ ใครปฏิบัติก็ได้เฉพาะคนนั้น เหมือนอย่างที่เรารับประทานอาหาร เมื่อใครรับคนนั้นก็อิ่ม ใครไม่รับคนนั้นก็หิว
เมื่อมีสติแล้ว ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรมได้ผลจริง ทำอะไรก็รู้สึกว่ามันไม่ผิดพลาด เป็นไปด้วยความสะอาดและผ่องใส จิตใจนั้นก็เอิบอิ่มมีปีติ คือความยินดีในการปฏิบัติอยู่เสมอ
ผู้ปฏิบัติธรรมนั้น ต้องการจะรู้จิตของตนเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะต้องการลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป
ลูกศิษย์มีครูย่อมดีเสมอ ลูกศิษย์เหยียบย่ำหัวครู นี้จมทั้งนั้น ไม่มีใครดี
ที่ว่าเจริญรุ่งเรืองเพราะการ ดูถูกเหยียดหยามหรือ เหยียบย่ำหัวครูหัวอาจารย์ไปนี้ไม่มีทาง !!
จะเลิศเลอขนาดไหนก็มีแต่ลมปาก ความสำคัญตนในเวลาเป็นบ้านั่นเท่านั้น พอรู้สึกตัวขึ้นมาก็เดือดร้อน “ อย่างพระเทวทัต “
โอวาทธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
ไม่มีอะไรต่างกันระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิต เพราะตามหลักธรรมแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะเหตุทั้งหลาย ล้วนอยู่ในสภาพเดียวกัน คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปและไม่เที่ยง ทนอยู่ไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตนทั้งสิ้น
ใครยึดถือมากก็ยุ่งมาก ใครยึดถือน้อยก็ยุ่งน้อย ใครไม่ยึดถือเลยก็ไม่ยุ่งเลย สำคัญอยู่ที่ตั้งแนวความคิดและการพิจารณาให้เห็น ให้เข้าใจโดยถูกต้อง
ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต
"ธรรมะก่อนนอน" เราจะปฏิบัติจนถึงความสุขเกษมศานต์นฤพาน เราก็ต้องอาศัยการทำบุญทำทานการกุศล รักษาศีลเจริญภาวนา ปฏิบัติไปเรื่อยๆก็จะมีสติปัญญาแก่กล้า ทำไปเรื่อยๆทุกภพทุกชาติ ก็จะสามารถขัดเกลาให้กิเลสหมดได้ จนถึงเมืองสุข คือเมืองนิพพานที่เราปรารถนา ..เกิดชาติใดภพใดถ้ายังเกิดอยู่ก็ขอให้มีความผาสุข ขอให้มีสติปัญญารักษาตนเองตั้งอยู่ในความดีอย่างนั้น ก็เรียกว่าพากันตั้งใจทำคุณงามความดี ชีวิตก็เลยมีประโยชน์ มีกำไรในชีวิตของบางบุคคล ถึงแม้ไม่มาก บางคน 40 ปี 50 ปี60ปี ก็เสียไปก็มีบางคน แต่ถ้าหากทำคุณงามความดีเอาไว้ก็มีกำไร ..ถ้าหากบุคคลพากันมีอายุยืนมากเท่าไหร่ ได้ทำคุณงามความดีไว้มากเท่าไรก็จะยิ่งมีกำไรมากในชีวิต ก็เลยไม่เปล่าประโยชน์ มองดูชีวิตของตนเองก็ชื่นใจว่า เอ..เราได้ทำคุณงามความดีเอาไว้น้อ..เกิดชาติใดภพใดก็ไม่ทุกข์ยากลำบากแน่ จะอยู่ก็มีความสุขความเจริญแน่นอน นี้ก็มั่นใจได้ ใจก็เลยมีความสุข #ใจได้กินอาหารดีคือตั้งอยู่ในคุณงามความดีนั้นเอง..
..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาทีโป..
…การหาความสุขที่แท้จริง ..ก็คือ ต้องหาความสุขภายในใจของเรา หาความสุขที่เกิดจาก “ความสงบของใจ”. …………………………………. ธรรมะบนเขา วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
…เวลาเหลือน้อยแล้ว ต้องรีบเจริญสติ ต้องรีบเจริญสมาธิ ต้องรีบเจริญปัญญา ต้องรีบไปปลีกวิเวก ไปอยู่คนเดียว
.วันหยุดยาวไม่เที่ยว “วันหยุดไปปฏิบัติธรรม” ถึงจะเรียกว่าไปถูกทาง ถ้าวันหยุดเราไปเที่ยวนี้ เรียกว่าหลงทาง. ........................................ คัดลอกการแสดงธรรม ธรรมะบนเขา 13 / 5 / 2561 พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
#จิตส่งออกนอก
จิตเรามันอยู่ภายใน อาการข้างนอกแค่อาการเคลื่อนไหว
แต่บางคน...
มือ..จับก็ต้องรู้ หู..ได้ยินก็ต้องรู้ เท้า..แตะพื้นก็ต้องรู้ รู้หมด
ตรงนี้ อาตมายอมรับว่า รู้ได้หลายเรื่อง เหมือนเราดึง“ผู้รู้สึกของเรา"ออกมาสัมผัสภายนอกหมดเลย
ทั้งๆที่ผู้รู้อยู่ภายในดีแล้ว เราก็ดึงมารับรู้สัมผัสภายนอก ตอนนี้ สัมผัสภายนอกมา... รู้หมด
...จิตก็ออกจากฐาน...
#ธรรมโอวาท: พระเทพวชิรญาณโสภณ วิ.(เยื้อน ขนฺติพโล) วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร จ.สุรินทร์
" คนเราอยู้ได้ไม่นาน วัน เดือน ปี ล่วงไปๆ ความชรา พยาธิ เกิดขึ้น ทุกขณะ ขอให้เธอทั้งหลาย จงอย่าประมาทเลย
ถ้าเราไม่มีโอกาสไปวัด เราก็สร้างวัด สร้างวิหาร ไว้ ในใจเรา เรียกว่าธรรมมาราม
คือ มีวัด มีวิหาร มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ในใจ เรียกว่า สร้างวัด ยกวัด มาไว้ ในใจเรา เราไปไหน อยู่ไหน ก็มีวัดอยู่ในใจ มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ในใจ นี่เรียกว่า คนมีใจใฝ่ธรรม "
โอวาทธรรม หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ
" บุญเป็นอริยทรัพย์ คือทรัพย์ภายใน ตกน้ำบ่ไหล ตกไฟบ่ไหม้
ที่เราทำได้ด้วย กาย วาจา ใจ สามารถนำติดตัวเราไป ข้ามภพข้ามชาติ แม้ชาติปัจจุบัน ทรัพย์นี้ ก็เป็นเหตุให้ถึงพระนิพพานได้
แม้บ่ได้ในชาตินี้ ก็สามารถ เป็นเหตุปัจจัยให้นิพพาน ในชาติต่อ ๆ ไป "
โอวาทธรรม หลวงปู่บุญมา สุชีโว
" คนเรามักทะนุบำรุง แต่ร่างกายตน บุตร ธิดา ภรรยา สามี ที่เป็นสภาพ แก่ เจ็บ ตายนี้
ส่วน "จิตใจ" นี้ มีบุญกุศล บารมีของเก่าอยู่เท่าใด ทำบุญสูญหายไปเท่าใด มิได้คำนึงถึงเอาเสียเลย ห่วงแต่สังขารร่างกายเท่านั้น น่าเสียดายที่ไม่ได้ระลึกถึง ใจของตน
เราได้กระทำความดีอันใด ไว้ให้จิตใจของตน เราได้ ทะนุบำรุงรักษาจิตใจของเรา อย่างไรบ้าง เราได้ปฏิบัติ ให้เกิดบุญกุศล ให้มีศีลธรรม สูงขึ้นไปเพียงใด ไม่ค่อยสนใจกันเลย
ไม่พากันสนใจ มีแต่คอย ทะนุบำรุงขันธ์ ๕ หวังให้อยู่ดี กินดีเท่านั้น "
โอวาทธรรม หลวงปู่คำดี ปภาโส
..โอวาทธรรมหลวงปู่โส..
..คนเราไม่ใช่มันมีเวลามากนะ ๔๐ ปี ๕๐ ปี ๘๐ ปี ๑๐๐ ปีนี่ไม่ใช่มันมากนะ
แต่ว่ามันจะมากจะน้อยมันก็ไม่สำคัญ มันสำคัญอยู่ที่การกระทำ ขวนขวายทำคุณงามความดีมันให้มาก เพื่อความเจริญ เพื่อความสุขของตนเอง
ถ้ามีบุญมากอะไรมันก็ง่าย ก็เหมือนเราเก็บเงินเอาไว้มากหละ จะใช้จะซื้อหาอะไรมันก็ง่าย
ถ้าไม่ทำบุญ ทำแต่บาปแต่กรรม อะไรมันก็ไม่ง่าย มันเกินเอื้อม มันสุดเอื้อม เอื้อมเท่าไหร่ก็ไม่ถึงแหละ..
..ฉะนั้นคุณงามความดีจึงให้เร่งสั่งสมไว้..
..โอวาทธรรมคำสอนหลวงปู่สุวัฒน์ อาจาโร หลวงปู่โส แห่งวัดป่าลัน (วัดป่าลันวัฒนาราม) อ.ฝาง จ.เชียงใหม่..
“วันนี้มีใครนึกถึงความตาย แล้วหรือยัง?”
หลวงปู่ชา สุภัทโท
|