"คนเราเกิดมามีบุพกรรมเนื่องกัน อยู่ไกลแสนไกลก็ต้องได้มาเจอกัน แต่ที่จะสอนกันได้ ทรมานกันได้ ลากกันไปสวรรค์ พรหม นิพพานได้ ต้องเคยเป็นหมู่คณะบำเพ็ญร่วมกันมาเป็นอสงไขยกัป ไม่อย่างนั้นกระทบอะไรหน่อยเดี่ยวก็สะดุด หลุดวงโคจรไป
เคยเห็นไหม มาวัดแต่ไปไม่รอด ไปไม่รอดเพราะอะไร จิตใจมันไม่อยู่กับวัด มันวิ่งไปอยู่กับคนรัก เงินทอง ลูกหลาน วุ่นกับอดีต กับอนาคต รุงรังอย่างนี้แล้ว จะไปนิพพานได้อย่างไร แต่ก็เอาเถอะ ค่อยๆ สั่งสมบุญบารมีไป สะสมนิสัยวาสนาไป บุญบารมีพร้อมเมื่อไหร่จะดำริออกจากกาม มุ่งไปพระนิพพานสถานเดียวเอง..."
บางช่วงบางตอนของธรรมเทศนา เรื่อง ความเกี่ยวข้อง
#พระวชิรญาณโกศล (พระอาจารย์คม อภิวโร) วัดป่าธรรมคีรี (จันดีอนุสรณ์) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในหนังสือสวดมนต์ฉบับพิเศษ ฯ วัดป่าธรรมคีรี (จันดีอนุสรณ์) ๙๙๙ หมู่ ๑๔ บ้านซับน้ำเย็น ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
การเจริญพระกรรมฐาน เป็นการต่อชะตากรรม
บางคนจะต้องตาย หัวไม่มีแล้ว
บอกให้มาเจริญกรรมฐานก็ไม่มา เลยถูกรถชนตายไปแล้ว
ส่วนแม่พิมพ์ใจมาทอดผ้าป่า กลับไปรถคว่ำหลายตลบ รถพังหมดทั้งคัน แต่ไม่ตายนี้บุญกุศลช่วยได้
เหมือนดูลิเกสมัยเก่า มีโม่งมาช่วยพระเอกนางเอก โม่ง มี ๓ ตัว โม่งขาว โม่งแดง โม่งดำ
อาตมาเคยถามตั้วโผลิเก ว่าเรื่องนี้ทำไมมีโม่งขาว
มาช่วยอีกเรื่องทำไม มีโม่งแดงมาช่วย เขาตอบว่าไม่รู้ ครูเขาฝึกมาอย่างนี้
ก็เล่นไปอย่างนี้ โม่งมันไม่มีตัวตน มองไม่เห็น
ถ้าใครมีโม่ง ๓ ตัวนี้ สร้างความดีได้ มาอย่างไรก็ไม่ตาย
อาตมารถคว่ำลงเหว ไปยังเกี่ยวเถาวัลย์ขึ้นมาได้ คงจะมีโม่งช่วยเหมือนกัน แต่มองไม่เห็นว่าใครช่วยเรา
รถพังหมดทั้งคัน โซเฟอร์คลานออกมา อาตมาก็ไปชวนชาวบ้านมาช่วย นี่สมัยเมื่อ ๔๐ ปีที่ผ่านมาแล้ว นี้แหละบุญกุศล
หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงหบุรี
ถ้ายิ้มไม่ได้เลยตลอดวัน ก่อนนอนต้องหาทางยิ้มให้ได้ สักครั้งหนึ่ง วันหนึ่งๆ เพียงทำใจให้เบิกบานผ่องใสได้
ก็เป็น “การปฏิบัติธรรม” แล้ว . ในวันหนึ่งๆ นี้มีบ้างไหม ที่จิตใจของเรามีความชุ่มชื่นฉ่ำเย็น เป็นใจที่สบาย ร่าเริง ผ่องใส ปลอดโปร่ง หรือมีแต่ความเร่าร้อน กลุ้มกังวลใจ
ถ้าหากว่าเวลาแต่ละวันผ่านไป มีแต่ความกลัดกลุ้ม เดือดร้อน กังวลใจ ก็แสดงว่าเราเสียแล้ว ไม่ใช่ได้
เพราะใจเราเสื่อม
เราจะต้องแก้ไขปรับปรุงจิตใจเสียใหม่
ที่ว่า.. “แต่ละวันต้องให้ได้อะไรบ้างไม่มากก็น้อย” นั้น
จะต้องได้ความสุขใจ ความร่าเริง เบิกบาน ผ่องใส ให้แก่ชีวิตนี้บ้าง . ทางพระพุทธศาสนาถือว่า ความร่าเริง เบิกบาน ผ่องใส เป็นลักษณะของจิตใจที่เจริญงอกงาม
การทำจิตใจได้อย่างนี้ ก็เรียกว่าเป็น “การปฏิบัติธรรม” แล้ว
ไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงทำใจให้เบิกบานผ่องใสได้ ก็เป็น"การปฏิบัติธรรม"
ทางพระท่านใช้คำว่า... . ๑. มีปราโมทย์ ร่าเริงเบิกบานใจ . ๒. มีปีติ อิ่มใจปลื้มใจ . ๓. มีปัสสัทธิ ผ่อนคลายกายใจ . บางคนมีแต่ความเครียดทั้งวัน ความเครียดเป็นความเสียสุขภาพจิต เป็นทางเสื่อมของจิตใจ
สิ่งที่ตรงกันข้ามคือ ปัสสัทธิ ความผ่อนคลายกายใจ . ๔. มีความสุข สะดวกใจ คล่องใจ ไม่มีอะไรมาบีบคั้นจิตใจ
แล้วก็ . ๕. มีสมาธิ มีใจตั้งมั่น สงบ แน่วแน่ อยู่กับสิ่งที่ดีงามเป็นประโยชน์ ใจอยู่กับกิจ จิตอยู่กับงาน ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เดือดร้อนวุ่นวาย…. .
…...เรามาสำรวจดูว่า ใจของเรานี้มีคุณภาพดีขึ้นไหม
สมรรถภาพจิตใจของเราดี ขึ้นไหม และสุขภาพจิตเช่นความสุขเบิกบานผ่องใสอย่างที่ว่ามาแล้วเรามีบ้างหรือเปล่า
อย่างน้อยให้ได้ยิ้มบ้าง .
ถ้ายิ้มไม่ได้เลยตลอดวัน
ก่อนนอนต้องหาทางยิ้มให้ได้สักครั้งหนึ่ง
ออกไปยิ้มกับแม่บ้าน หรือออกไปยิ้มกับพ่อบ้าน
ออกไปยิ้มกับลูกหรือกับใครสักคนหนึ่ง
คิดว่าวันนี้ก่อนวันจะหมดไป เราจะนอนหลับแล้ว ขอให้เราได้ทางใจบ้าง
ให้ยิ้มออกสักครั้งก็ยังดี
ถ้าทำได้อย่างนี้ แม้ไม่ได้อะไรอื่น
ท่านก็ถึอว่าได้แล้ว
นี่แหละเป็นความหมายของคำสอนที่ว่า ไม่มากก็น้อย ต้องให้ได้อะไรบ้าง” . สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)
ที่มา : ธรรมนิพนธ์ “สุขนี้มิไกล: ใครปัญญาไวหาได้ทุกสถาน”
จงรีบเร่งขวนขวาย สร้างกุศล สวดมนต์ไหว้พระ บำเพ็ญ ทานศีล ภาวนา ในเมื่อยังมีชีวิตอยู่นี้เถิด เมื่อความตายยังมาไม่ถึง
ถ้าความตายมาถึงเข้าแล้ว จะเสียที ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนา นี้ทีเดียว
หลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญฺโญ พระราชพัชรญาณมุนี วัดประชารมวนาราม(ป่ากุง) ศรีสมเด็จ ร้อยเอ็ด
…ไม่เชื่อลองทำดูซิ ของที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนี่ “พิสูจน์ได้ ไม่ใช่เป็นของโกหก “
. ไม่ใช่เป็นของที่มีแต่พูดมีแต่บอก แต่พิสูจน์ไม่ได้ คำสอนของพระพุทธเจ้านี่พิสูจน์ได้
.ความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ พวกเราพิสูจน์ได้ สร้างกันขึ้นมาได้ ไม่ยากเย็นเลย “ นั่งเฉยๆไม่ให้ไปคิดอะไร เท่านั้นเอง “
.นั่งหลับตาดูลมเข้าออกไปก็ได้ บริกรรม “พุทโธ พุทโธ พุทโธ” ไปก็ได้ อย่าไปคิดถึงลาภยศสรรเสริญ อย่าไปคิดถึงรูปเสียงกลิ่นรสต่างๆ เท่านั้นเอง
.พอความคิดหยุด ความอยากหยุดปั๊บ ความสุขก็โผล่ขึ้นมาทันที ใครลองได้พบกับความสุขแบบนี้แล้วจะติดใจ เป็นความสุขที่มหัศจรรย์ใจ. ………………………………………. สนทนาธรรมบนเขา วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๑ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
" "ทำบุญ" ให้ตั้งใจทำกันนะ เรียกว่าทำให้ร้อนถึงเทวดา ต้องลำเลียงทรัพย์มาให้ เลยทีเดียว แต่การทำต้อง ประกอบไปด้วย "สติปัญญา"
ชาตินี้ทำกันซะให้พอ ให้มี อริยทรัพย์ติดตัวกันระหว่าง ยังท่องอยู่ในสังสารวัฏ
ทำดีอย่าพึ่งเบื่อกันเสียก่อน เกิดมาทั้งที ไม่ทำดีแล้ว จะทำอะไร ชีวิตจะได้ ขับเคลื่อนไปสู่ปลายทาง แห่งความสำเร็จกันทุกคนนะ "
โอวาทธรรม หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
" ขอให้ลูกหลานทุกท่าน ได้ตั้งใจปฏิบัติจิตใจ ของตนให้สะอาด ปราศจากความโลภ ความโกรธ ความหลง ซึ่งฝังอยู่ในดวงใจของเรา มาตั้งหลายภพ หลายชาติ
มาชาตินี้ เราได้เกิดเป็นมนุษย์ ดังนั้น จงรีบไปทำบุญ ทำกุศลสืบต่อไป เพื่อเป็นทางหากำไรของชีวิต เพราะ ชีวิตคนเรามันน้อยนัก ที่อยู่ถึงร้อยปีมันยาก "
หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป
|