นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 18 ม.ค. 2025 5:27 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: โรคของใจ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 25 พ.ค. 2021 5:42 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4805
เราอยู่ในโลกมันทุกข์มาก ... โยม

เพียงแค่เกิดก็ทุกข์ เพียงเกิดมาก็ทุกข์
วันนี้เราก็ทุกข์ พรุ่งนี้เราก็ทุกข์
เราหาความสุขในความทุกข์
เรามีทุกข์ ... แต่หาความสุขในความทุกข์ได้
คือ กำหนดลมนี้เอง
ขอให้ตั้งจิตตั้งใจทำ

โอวาทธรรม
หลวงปู่เจริญ ราหุโล
วัดป่าพระธาตุเขาน้อย อ.บ้านคา จ.ราชบุรี








“คนเราอย่าไปท้อ ต้วท้อจะทำลายกำลังใจเราที่สุด คนเราถ้าไม่มีกำลังใจจะหาความสำเร็จได้ยาก ถ้ามีกำลังใจเสียอย่างความสำเร็จก็คอยเราอยู่ข้างหน้า

อย่าไปให้ความสำเร็จมาหาเรา ให้จำไว้ ความสำเร็จในชีวิตอย่าคอยให้มันมาหาเรา ให้เราเดินไปหามัน บางคนชอบคอยให้ความสำเร็จมาหาตัวเอง นอนคอยว่าเมื่อไหร่รางวัลที่หนึ่งจะตกมาหาเรา เมื่อไหร่เขาจะมายกให้เรา เมื่อไหร่จะมาดลบันดาลให้เรา คนพวกนี้มันนอนคอยความสำเร็จให้ความสำเร็จเดินมาหาตัว ผลที่สุด ชีวิตก็มีแต่การรอคอย

เราต้องเดินไปหามันสิ เดินไปหาความสำเร็จ เส้นทางจะเต็มไปด้วยขวากหนาม จะเหน็ดเหนื่อย จะยากลำบากขนาดไหนก็เดินไปเถอะ ความยากลำบากนี้เป็นเส้นทางของความสำเร็จทั้งนั้น

พวกเราอยู่ในวัยที่เดินได้ ก็ให้เดิน พอถึงวัยที่ควรพักผ่อนแล้ว เราก็จะพักผ่อนได้อย่างสบายใจ อย่างไม่มีความกังวลในความเป็นอยู่ของเรา แต่ถ้าเราไม่ยอมเดินบนเส้นทางของความยากลำบาก เอาแต่สนุกสนาน เอาแต่เพลิดเพลิน เอาแต่ขี้เกียจขี้คร้าน ผลที่สุดพอถึงวัยที่ควรแก่การพักผ่อนแล้วจะพักไม่ได้ เพราะไม่มีสิ่งที่ให้เราอยู่อาศัย เราก็ต้องดิ้นรนอีก ดิ้นรนทั้ง ๆ ที่อยู่ในวัยควรพักผ่อน

จำไว้นะ ถ้าไม่อยากทุกข์ ก็ให้ทุกข์เสียแต่ยังหนุ่มยังสาว อย่าไปทุกข์ยามเฒ่าแก่ ทุกข์ยามเฒ่าแก่มันเอาตัวไม่รอด ทุกข์ยามหนุ่มยังสาวนี่ ทุกข์เท่าไรก็ทุกข์ไปเถอะ เหนื่อยก็กินข้าวอิ่ม นอนตื่นก็หายแล้ว ทุกข์ยามเฒ่าแก่นี่ กินข้าวก็กินไม่ลง นอนก็นอนไม่หลับ

ให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นหน้าที่ของเรา การทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ นั่นล่ะคือธรรมะ ธรรมะอยู่ตรงนั้น”

โอวาทธรรมคำสอนพ่อแม่ครูอาจารย์
พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี








จะประพฤติปฏิบัติดีวิเศษขนาดไหน คนที่ไม่ชอบใจเขาก็ตำหนิ จะชั่วเสียขนาดไหน คนที่ชอบใจเขาก็สรรเสริญ

เรื่องของโลก เอาแน่นอนจริงจังไม่ได้ มันเป็นอย่างนั้นแต่ไหนแต่ไรมา แต่จิตของเรามันหวั่นไหวหรือไม่ ถูกเขาสรรเสริญเยินยอ เราลุ่มหลง เพลิดเพลินไปตามลมปากของเขาไหม ถูกเขาตำหนินินทา เราเสียใจเหี่ยวแห้งเศร้าหมองไหม

เราตรวจตราพิจารณาภายในเรื่องของเรา ถ้ารู้เท่า เรื่องสรรเสริญและเรื่องนินทามันมีมาแต่ไหนแต่ไร จิตของเราไม่ลุ่มหลงเสียอย่างมันก็สุขสบาย

หลวงปู่สิงห์ทอง ธมฺมวโร









#อยู่กับคนใจร้อนควรทำอย่างไร
"ให้ทำตัวให้เหมือนก้อนหินอยู่ในนำ้ ต่อให้นำ้ไหลมากระทบเเรงสักเท่าไรก็ตามก้อนหินก็จะไม่รู้สึกอะไร ได้เเต่เพียงนิ่งเท่านั้น เหมือนเราอยู่กับคนอารมณ์ร้อน ก็เหมือนเขาจุดไฟไว้ในใจเขาพอมันร้อนมากๆ เขาก็จะหาโยนใส่คนอื่น ตัวเราเองต้องทำตัวเองให้เหมือนนำ้ เเม้เขาจะโยนไฟมาใส่เราขนาดไหนมันก็ดับ"

หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตโต







"ความอิจฉาคนอื่นนั่นละทุกข์ใหญ่ มันคอยระแวงริษยาอาฆาตความดีผู้อื่น เขาจะเฮ็ดดีก็ติ เขาจะสร้างบุญก็นินทา พอเขาพลาดมา ตัวอิจฉามันก็เหยียบเขา นี่ละคนเนาะคน ถ้าบ่พยามขัดถูตัวอิจฉาออกจากจิตจากใจมันทุกข์ถึงวันตายเนาะ"

โอวาทธรรม
หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต วัดเขาตาเงาะอุดมพร อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ







…สิ่งที่จะติดตัวเราไป
ก็มี..” บุญและบาปเท่านั้นเอง “

.บุญกรรมนี้เป็นสิ่งที่ติดอยู่กับจิตใจ
เมื่อจิตใจออกจากร่างกาย
ก็เรียกว่า “ดวงวิญญาณ”
เวลาไปเกิดก็เรียกว่า “ปฏิสนธิวิญญาณ”

.ทีนี้จะไปเกิดในท้องมนุษย์ หรือท้องสุนัข
“ก็ขึ้นอยู่กับบุญกับกรรมที่ทำมา “

.ถ้าทำบุญ
ก็มีโอกาสที่จะไปเกิดในท้องมนุษย์
ถ้าทำแต่กรรม
ก็มีโอกาสที่จะไปเกิดในท้องสุนัข
หรือ ไปเกิดเป็นเปรต
อสุรกาย สัตว์นรก ก็เป็นได้.
………………………………………….
กำลังใจ 4 กัณฑ์ที่ 58
วันที่ 15 เมษายน 2544
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี








ถ้าหากว่ากำจัดกิเลสอย่างหยาบ ก็ต้องใช้โอสถคือ...ศีล

กำจัดกิเลสอย่างกลางคือนิวรณ์ ต้องใช้โอสถคือ...สมาธิ

ถ้ากำจัดกิเลสอย่างละเอียด ก็ต้องโอสถคือ...ปัญญา

ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

โอวาทธรรมคำสอน

หลวงปู่บัวเกตุ ปทุมสิโร
วัดป่าปางกึ้ด อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่











" ความเป็นจริง จิตนี้...
ไม่มีอะไร มันเป็นประภัสสรของมัน อยู่...อย่างนี้
ตัวจิตแท้...ไม่มีอะไร
เป็นธรรมชาติ อยู่...เฉยๆ เท่านั้น

ที่สงบ...
ไม่สงบ...
ก็เพราะอารมณ์ มาหลอกลวง
ความดีใจ เสียใจนั้น...เป็น อารมณ์
ไม่ใช่...จิต
จิต หลงอารมณ์ โดย ไม่รู้ตัว
แล้วก็เป็นสุข เป็นทุกข์ ไปตามอารมณ์

เพราะยังไม่ได้ฝึก ยังไม่ฉลาด
เราก็นึกว่า...
จิต เป็นทุกข์ นึกว่า จิต เราสบาย
ความเป็นจริง...มัน หลงอารมณ์

จิต...ของเรา
มันมีความสงบ อยู่...เฉยๆ มีความสงบ นิ่ง...
เหมือนกับใบไม้ ที่ไม่มีลมมาพัด ก็อยู่...เฉยๆ
ถ้ามีลมมาพัด ก็กวัดแกว่ง เป็นเพราะลมมาพัด
และก็เป็นเพราะ...
อารมณ์ มัน หลงอารมณ์

ถ้าจิตไม่หลงแล้ว...
จิต...ไม่กวัดแกว่ง
ถ้ารู้เท่า...อารมณ์แล้ว มันก็เฉย
เรียกว่า...ปกติ ของ...จิต."

หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง











" อะไรก็ไม่ใช่
เป็นของของตนทั้งนั้น

แต่ว่ากรรมที่กระทำไว้
เป็นของของตน.."

พระโอวาทธรรม
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก







"เอาเหรียญ เอาพระไป
ไม่ใช่ว่าจะไปอวดดี อวดเก่งอะไร
เอาห้อยคอไป เพื่อกระตุ้นเตือนใจ
จะไปทำชั่ว ให้อายพระบนคอ"

หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ







"การปฏิบัติธรรม
ก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้

ศีล คือดิน
สมาธิ คือลำต้น
ปัญญา คือดอกผล

เราต้องการให้ต้นไม้เจริญงอกงาม
ก็ต้องหมั่น รดน้ำพรวนดิน
และต้องคอยระมัดระวัง มิให้ตัวหนอน
คือ โลภ โกรธ หลง มากัดกิน"

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ








"เราก็เกิดในโลกนี้ เพื่อมาสร้างบารมี
ไม่ใช่ว่ามาเกิดเล่น เกิดมาแสวงหาความสุข
สนุกชั่วคราว ไม่มีประโยชน์อะไร
ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ความตายเป็นของแน่นอน
โลกนี้เป็นแต่ทางผ่าน เท่านั้นเองแหละ
เกิดมา เพื่อมาสร้างบารมี อาศัยบุญบารมี
นำดวงจิตนี้ให้พ้นจากทุกข์ ไปตามลำดับนะ"

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ








“อย่าเอาโรคของกาย มาเป็นโรคของใจ
ให้กายเป็นโรคจนตายโหงตายห่า
ก็อย่าเอามาเป็นโรคของใจ ให้ใจนั่งหัวร่อ
โรคของกายให้แนบเนียนที่สุด แม้มันจะดับ
ไปด้วยกัน

กายมันเป็นรังแห่งโรค จะไม่ให้มันเป็นโรค
ตามเรื่องราวของมันนั้นไม่มีทาง เพราะมัน
เป็นธรรมดา เช่นนั้นเอง

ส่วนใจนั้น ต้องแก้ไข ปรับปรุง อบรม
จนไม่มีโรคโดยประการทั้งปวงได้ ในข้อนี้
ต้องแยกออกจากกัน ให้จงได้”

ท่านพุทธทาสภิกขุ








" ขอให้ลูกหลานทุกท่าน ได้ตั้งใจปฏิบัติจิตใจ
ของตนให้สะอาด ปราศจากความโลภ ความโกรธ
ความหลง ซึ่งฝังอยู่ในดวงใจของเรา มาตั้งหลายภพ
หลายชาติ

มาชาตินี้ เราได้เกิดเป็นมนุษย์ ดังนั้น จงรีบไปทำบุญ
ทำกุศลสืบต่อไป เพื่อเป็นทางหากำไรของชีวิต เพราะ
ชีวิตคนเรามันน้อยนัก ที่อยู่ถึงร้อยปีมันยาก "

หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป








"คนเราเกิดมามีบุพกรรมเนื่องกัน อยู่ไกลแสนไกลก็ต้องได้มาเจอกัน แต่ที่จะสอนกันได้ ทรมานกันได้ ลากกันไปสวรรค์ พรหม นิพพานได้ ต้องเคยเป็นหมู่คณะบำเพ็ญร่วมกันมาเป็นอสงไขยกัป ไม่อย่างนั้นกระทบอะไรหน่อยเดี่ยวก็สะดุด หลุดวงโคจรไป

เคยเห็นไหม มาวัดแต่ไปไม่รอด ไปไม่รอดเพราะอะไร จิตใจมันไม่อยู่กับวัด มันวิ่งไปอยู่กับคนรัก เงินทอง ลูกหลาน วุ่นกับอดีต กับอนาคต รุงรังอย่างนี้แล้ว จะไปนิพพานได้อย่างไร แต่ก็เอาเถอะ ค่อยๆ สั่งสมบุญบารมีไป สะสมนิสัยวาสนาไป บุญบารมีพร้อมเมื่อไหร่จะดำริออกจากกาม มุ่งไปพระนิพพานสถานเดียวเอง..."

บางช่วงบางตอนของธรรมเทศนา เรื่อง ความเกี่ยวข้อง

#พระวชิรญาณโกศล
(พระอาจารย์คม อภิวโร)
วัดป่าธรรมคีรี (จันดีอนุสรณ์) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา










#เป็นกับตายมันอันเดียวกัน

ธาตุขันธ์เท่านั้นสลายลงไป ผสมกันเข้ามาก็เป็นสัตว์เป็นบุคคลก็มีจิตเข้าไปครองอยู่ในนั้น เห็นมันชัด ๆ อย่างนี้จะว่าไง ตัวจิตตัวการที่เข้าไปครอง แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็มีจิตอยู่ในนั้น มีอยู่ในนั้นทั้งนั้น ๆ

เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าท่านถึงห้ามไม่ให้ทำลายสัตว์ ฆ่าสัตว์ เพราะมีจิตอยู่ในนั้น จิตดวงนี้ละมันครองอยู่ข้างใน มันต่างกันกับต้นไม้ภูเขาที่ไม่มีจิต มันแตกไปก็แตกไปซิอันนี้น่ะ

บแตกลงไปก็ออกจากส่วนผสม ดินเป็นดิน น้ำเป็นน้ำ ลมเป็นลม ไฟเป็นไฟ ใจที่บริสุทธิ์แล้ว อยู่ก็บริสุทธิ์ ตายก็บริสุทธิ์หวั่นหาอะไร นั่น

ถ้ามันไม่บริสุทธิ์นี้หวั่นตลอดนะ พอระลึกถึงความเป็นความตายเดือดร้อนวุ่นวายทีเดียว เอ้า สร้างความดีเข้าไป ความดีนี้จะเป็นกำลังวังชาหนาแน่นขึ้นโดยลำดับ ปราบความตายให้เป็นความปลื้มปีติขึ้นมาเลย

เราระลึกถึงความตาย ระลึกถึงความดีของเราแน่นหนามั่นคง อิ่ม นั่นเห็นไหม จนกระทั่งได้ที่พึ่งเป็นที่พอใจ ความเป็นกับความตายไม่มี ไม่มีเป็นอารมณ์กับใจของท่าน

จึงเรียกว่า อดีต อนาคตไม่มี ปัจจุบันก็ไม่มี เป็นสมมุติทั้งหมด ธรรมชาตินั้นเต็มตัวตลอดเวลาอนันตกาล

นิพพานเที่ยงตรงไหน ดูหัวใจผู้ปฏิบัติ ถึงขั้นบริสุทธิ์พุทโธเต็มดวงแล้ว ไม่ต้องไปดูใคร ดูคนเดียวก็พอ ใครเชื่อไม่เชื่อก็ตาม ขอให้เราดูคนเดียว พอในหัวใจของเราเท่านั้นละ

นี่ละธรรมของศาสดามาสอนโลก ท่านสอนหลอกๆ เล่นๆ เหรอ พอที่จะมาทำอะไรเหยาะๆ แหยะๆ อย่างนี้นะ บทกิเลสขยำหัวมันลงนรกหลุมไหนใครช่วยได้เมื่อไร แม้แต่พระพุทธเจ้ายังช่วยไม่ได้ จึงต้องสอน ถอนออกมาอย่าเข้าไป ความชั่วช้าลามกไม่มีศาสดาองค์ใดจะลวงโลก

อย่าฝืนศาสดานะ ท่านสอนว่าผิดให้รีบแยกตัวออก ถ้าสอนว่าถูกให้บำเพ็ญ นี่ศาสดาทุกพระองค์สอนแบบเดียวกันหมด ไม่มีศาสดาองค์ใดหลอกลวงโลกนะ

เราอย่าให้กิเลสมาหลอกลวงตัวเอง แล้วเหยียบย่ำทำลายพระพุทธเจ้าว่าเทศน์ไม่จริงสอนไม่จริง เราจะจมนะ พากันจำเอานะ

หลวงปู่ใหญ่พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
๑๖ พฤษภาคม ๒๕๔๖


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO