#ทำอย่างไรจึงจะได้พบกับท่าน #ที่เป็นเนื้อนาบุญที่ประเสริฐ
ข้อนี้ก็ย่อมขึ้นอยู่กับวาสนาของเรา ผู้ทำทานเป็นสำคัญ
หากเราได้เคยสร้างสม อบรมสร้างบารมีมาด้วยดีในอดีตชาติ เป็นอันมากแล้ว บารมีนั้น ก็จะเป็นพลังวาสนาน้อมนำให้ได้พบกับ ท่านที่เป็นเนื้อนาบุญที่ประเสริฐ
ทำทานครั้งใดก็มักโชคดีได้พบ กับท่านที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไปเสียทุกครั้ง
หากบุญวาสนาของเราน้อยและไม่มั่นคง ก็จะได้พบกับท่านที่เป็นเนื้อนาบุญบ้าง ได้พบกับอลัชชีบ้าง คือดีและชั่วคละกันไป
เช่นเดียวกับการซื้อสลากกินแบ่งสลากกินรวบ หากมีวาสนาบารมีเพราะได้เคยทำบุญให้ทานฝากกับสวรรค์ไว้ในชาติก่อน ๆ ก็ย่อมมีวาสนาให้ถูกรางวัลได้
หากไม่มีวาสนา เพราะไม่เคยทำบุญทำทานฝากสวรรค์เอาไว้เลย ก็ไม่มีสมบัติสวรรค์อะไรที่จะให้เบิกได้ อยู่ ๆ ก็จะมาขอเบิก เช่นนี้ก็ยากที่จะถูกรางวัลได้
#สมเด็จพระญาณสังวร #สมเด็จพระสังฆราช #สกลมหาสังฆปริณายก
…คิดแต่ ”พุทโธ“ นี้แหละ ครูบาอาจารย์ท่านก็สอน "พุทโธ”..คำเดียว
.ไม่ต้องไปคิดหรอก คิดมาตั้งแต่เกิดแล้ว มันได้อะไรบ้าง ..ได้นิพพานหรือยัง
..หยุดมันซิ เอาพุทโธซิ.. ครูบาอาจารย์ท่านได้เพราะ “พุทโธ” ทั้งนั้น
.ถ้า..พุทโธ..ไม่สั้นที่สุด ก็ไม่รู้ว่าอะไรจะสั้นกว่า พุทโธแล้ว มีอะไรจะสั้นกว่า..พุทโธไหมโยม
.นั่นแหละทางสั้นที่สุดไม่เอา ชอบไปเอาทางยาว แล้วก็มาขอทางสั้นกัน
.ทางสั้นก็บอกแล้ว "พุทโธ..ไปทั้งวัน" ลองทำดูซิ ....................................... .คัดลอกการสนทนาธรรม ธรรมะบนเขา 29/9/2558 พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวราราม ชลบุรี
พึงเตือนตนเองให้จริงใจว่า เมตตาของตนยังไม่พอ ต้องอบรมเมตตาให้มากยิ่งขึ้น หยุดโกรธแค้นขุ่นเคือง น้อยใจเสียใจร้อนใจ เพราะเสียงเพราะเรื่องที่กระทบได้เมื่อใด เมื่อนั้นจึงแสดงว่ามีเมตตาพอสมควร พอจะช่วยตนเองและช่วยผู้อื่นให้ร่มเย็นเป็นสุขได้ เมื่อนั้นทุกคนจะรู้สึกด้วยตนเองว่า เมตตาค้ำจุนโลกจริง เมตตาช่วยตนก่อนจริง เมตตาใหญ่ยิ่งจริง ช้างนาฬาคิรีที่กำลังบ้าคลั่งเมามัน ยังพ่ายแพ้แก่พระเมตตา ของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีอำนาจร้ายแรงใดจะทานอำนาจแห่งเมตตาได้ นี้เป็นสัจจะคือ ความจริงที่จะเป็นจริงเสมอไป ไม่มีเปลี่ยนแปลง พลังร้ายภายนอกยิ่งแรง ยิ่งต้องใช้พลังเมตตาที่แรง เมื่อใด พลังเมตตาแรงพอก็จะสยบพลังร้ายได้สิ้น
สมเด็จพระญาณสังวร
#ผู้มีบุญวาสนา ผู้ทำสมาธิภาวนามิใช่ผู้มีบุญวาสนาน้อย คนมีบุญวาสนามากต่างหากต่างหาก จึงรักบุญกุศลส่วนละเอียดที่เกิดจากสมาธิภาวนา
ความน้อยเนื้อต่ำใจในเวลาจะทำสมาธิภาวนา เป็นกลมายาของกิเลส หลอกคนให้หลงไปตามมัน แล้วหยุดภาวนาเสียต่างหาก กรุณาทราบกลของกิเลสไว้ จะได้ทำภาวนาสะดวกใจ ไม่มีอะไรทำให้ทุกข์ร้อนยิ่งกว่าความชั่ว และไม่มีอะไรทำให้สุขใจยิ่งกว่าความดี
ฉะนั้นปราชญ์ ท่านจึงเกลียดชั่ว และรักประกอบความดีเรื่อยมา
เดินไปไหนก็ดี อยู่สถานที่ใดก็ดี อย่างน้อยให้มีสติอยู่กับตัว หรือผู้บริกรรม ก็ให้สติอยู่กับคำบริกรรมของตัว
เวลาบริกรรมไปนานๆ จิตมีความละเอียดแล้ว คำบริกรรมแทบจะไม่ปรากฏ ไม่ปรากฏก็ให้ระลึกรู้อยู่เป็นคำบริกรรม จนจิตกับคำบริกรรมกลมกลืน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็ปล่อยคำบริกรรมนั้นๆได้ ในขณะนั้นเหลือแต่ความรู้เด่นดวง โดยลำพัง เท่านั้น...
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
“โลกนี้เป็นของสมมุติ สมมุตินั้น สมมุตินี่ ถ้าเราตัดความสมมุตินี้ได้ เราก็จะถึงวิมุติความหลุดพ้น ในโลกนี้ไม่มีอะไรติดตัวไปได้เลย นอกจากความดีและความชั่วเท่านั้น ละชั่ว – ดี กรรมดี – ให้ผลสุข กรรมชั่ว – ให้ผลทุกข์ คิดดี – เป็นบุญ คิดชั่ว – เป็นบาป...”
โอวาทธรรม พระครูภาวนากิจโกศล (หลวงปู่สอ พันธุโล) วัดป่าบ้านหนองแสง ต.สิงห์ อ.เมือง จ.ยโสธร (พ.ศ. ๒๔๖๔ – ๒๕๕๒)
“สิ่งที่สำคัญที่สุดของพวกเราก็คือใจดวงนี้ ถ้าใจหาอรรถหาธรรมไม่ได้แล้วชีวิตของเราก็จะจมอยู่ในกองทุกข์อยู่ตลอดเวลา เพราะจิตที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมแล้วมันมักจะไปคว้าเอาแต่กองทุกข์ เพราะความทุกข์ทั้งหลายเหล่านั้นมันเป็นอาหารชั้นดีของกิเลส ถ้าเราปล่อยจิตปล่อยใจของเรามันก็เป็นโอกาสของกิเลสที่จะมาครอบงำจิตใจ กิเลสมันก็คิดปรุงแต่งแส่ส่ายเพื่อไปเอาอาหารมาหล่อเลี้ยงมัน นับวันก็เกิดเป็นความเคยชินดื้อด้านขึ้นมา พอสัมผัสอะไรหน่อยก็คิดไม่สบายใจเสียใจกลุ้มอกกลุ้มใจฟุ้งซ่านหงุดหงิดรำคาญใจ นับวันก็หนักขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่ว่าพอเราแก่ตัวลงอายุมากขึ้น แล้วกิเลสทั้งหลายเหล่านั้นมันจะน้อยลงหรือจืดจางลงตามไป มันมีแต่จะหนาเพิ่มพูนมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะมันมีความเคยชิน มันจะหนักขึ้นไปเหมือนดินพอกหางหมู นับวันก็เพิ่มมากขึ้น พอสัมผัสอะไรนิดหน่อยก็ไม่สบายใจกลุ้มอกกลุ้มใจ มันก็เลยง่ายไปในทางที่ไม่ดี เพราะฉะนั้นการง่ายไปในทางที่ไม่ดี มันจะทำให้ชีวิตของเรามีคุณค่าหรือไม่ก็ลองพิจารณากันดู
ถ้าเราลองพิจารณาดูเราจะเห็นโทษเห็นภัยที่พวกเราปล่อยปละละเลยใจของเรา ถ้าเราปล่อยปละละเลยใจของเราแล้ว เราจะไม่มีโอกาสไปเจอความสว่างไสว เราจะไม่สามารถหลุดพ้นจากสิ่งที่มันหมักหมมอยู่ภายในจิตในใจของเราได้เลยชั่วชีวิต สิ่งเหล่านี้ก็จะสะสมลงไปในกมลสันดานฝังรากลึกอยู่ภายในจิตในใจ นับวันก็จะจมลงไปตามภพชาติของพวกเรานั่นแหละ ภพชาติก็จะต่ำทรามลงไปเพราะจิตมันเศร้าหมองขุ่นมัว มันก็ไปสู่สุคติไม่ได้ ไปสู่สถานที่ดีภพที่ดีคติที่งามไม่ได้ มันก็พาเราไปเกิดในภพชาติที่ต่ำทรามลงไปเรื่อย ๆ ตามความเศร้าหมองขุ่นมัวของจิต เพราะฉะนั้น เมื่อเราเห็นแล้วว่าการปล่อยปละละเลยจิตใจจะไม่ทำให้จิตใจของเรามันสูงขึ้นหรือเบิกบานผ่องใสขึ้นมาได้ มีแต่การอบรมจิตอบรมใจของเราโดยอาศัยธรรมะของพระพุทธเจ้าเท่านั้น อาศัยวิธีการของพระพุทธเจ้ามาอบรม มันถึงจะยกจิตใจของเราให้สูงขึ้นมาได้
เพราะฉะนั้นชีวิตของพวกเราให้เตือนตัวเราอยู่เสมอว่าการเกิดขึ้นมาของพวกเรานั้น เรามีทั้งร่างกายแล้วก็มีใจด้วย ไม่ใช่มีแต่ร่างกายอย่างเดียว ถ้าเราระลึกอยู่อย่างนี้เสมอแล้ว การแสวงหาของพวกเราเนื่องจากพวกเราก็มีปากมีท้อง การแสวงหาเพื่อร่างกายของเราตามภาระหน้าที่การงาน แสวงหาเพื่อปากเพื่อท้องเพื่อที่อยู่อาศัย พวกเราก็ต้องแสวงหามาด้วยความขยันหมั่นเพียรในทุกวัน แต่อย่าลืมเตือนตัวเองด้วยว่าเราก็มีใจด้วย เพราะสิ่งภายนอกเหล่านั้นมันมาเลี้ยงจิตใจด้วยไม่ได้ สิ่งเหล่านั้นมันให้ใจมาอาศัยอยู่ไม่ได้ ใจนั้นจะต้องมีเรือนเป็นที่อยู่ที่อาศัย ความสงบนี่แหละเป็นเรือนที่แท้จริงของใจ
เมื่อเราพากันขวนขวายแสวงหาภายนอกแล้ว แสวงหาสมณะภายนอก หาครูบาอาจารย์ เจอครูบาอาจารย์องค์นั้นองค์นี้เป็นผู้ทรงศีลทรงธรรมเราก็วิ่งไปแสวงหา เมื่อเราเจอแล้วเราก็ต้องเอาท่านมาเป็นแบบอย่างในการสร้างภายใน มาอบรมภายในให้ภายในของเราเป็นเหมือนสมณะภายนอก เพื่อให้ภายในของเราเป็นสมณะขึ้นมาเสียเอง สมดังสุภาษิตว่า “สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง” คือการได้พบสมณะเป็นมงคลอันสูงสุด ตั้งแต่ภายนอกคือการได้พบสมณะพบครูบาอาจารย์ก็เป็นมงคลส่วนหนึ่ง หลังจากนั้นเราก็เอาแบบฉบับนั้นแหละมาสร้างใจอบรมจิตอบรมใจดวงนี้ ให้จิตดวงนี้เป็นผู้สงบเสียเอง ให้จิตดวงนี้เป็นผู้ระงับจากกองทุกข์ทั้งหลายเสียเอง จนกระทั่งจิตดวงนี้เป็นสมณะภายใน เป็นสมณะอย่างแท้จริง นั่นแหละจะเป็นมงคลสูงสุด เมื่อท่านทั้งหลายนำไปประพฤติปฏิบัติอบรมจิตอบรมใจของตนเองให้มีความสงบให้เป็นสมณะแล้ว เราเองก็จะมีความเป็นมงคลที่สุดในชีวิตเสียเอง มงคลใดก็ไม่เป็นมงคลสูงสุดเท่ากับมงคลส่วนนี้แล้ว”
พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
#ทำอย่างไรจึงจะได้พบกับท่าน #ที่เป็นเนื้อนาบุญที่ประเสริฐ
ข้อนี้ก็ย่อมขึ้นอยู่กับวาสนาของเรา ผู้ทำทานเป็นสำคัญ
หากเราได้เคยสร้างสม อบรมสร้างบารมีมาด้วยดีในอดีตชาติ เป็นอันมากแล้ว บารมีนั้น ก็จะเป็นพลังวาสนาน้อมนำให้ได้พบกับ ท่านที่เป็นเนื้อนาบุญที่ประเสริฐ
ทำทานครั้งใดก็มักโชคดีได้พบ กับท่านที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไปเสียทุกครั้ง
หากบุญวาสนาของเราน้อยและไม่มั่นคง ก็จะได้พบกับท่านที่เป็นเนื้อนาบุญบ้าง ได้พบกับอลัชชีบ้าง คือดีและชั่วคละกันไป
เช่นเดียวกับการซื้อสลากกินแบ่งสลากกินรวบ หากมีวาสนาบารมีเพราะได้เคยทำบุญให้ทานฝากกับสวรรค์ไว้ในชาติก่อน ๆ ก็ย่อมมีวาสนาให้ถูกรางวัลได้
หากไม่มีวาสนา เพราะไม่เคยทำบุญทำทานฝากสวรรค์เอาไว้เลย ก็ไม่มีสมบัติสวรรค์อะไรที่จะให้เบิกได้ อยู่ ๆ ก็จะมาขอเบิก เช่นนี้ก็ยากที่จะถูกรางวัลได้
#สมเด็จพระญาณสังวร #สมเด็จพระสังฆราช #สกลมหาสังฆปริณายก
"การทำผิดเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ถ้าค้นพบความผิด แล้วแก้ไข และตั้งใจไม่ทำอีก เป็นซ้ำสอง น่ายกย่องนับถือยิ่งนัก"
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
|