พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ศุกร์ 18 มิ.ย. 2021 8:14 am
โยม ; หลวงปู่เจ้าขา ทำไมศาสนาพุทธถึงมีแต่ให้ทาน เดี๋ยวก็ถวาย เดี๋ยวก็ถวาย นี่อย่างวันนี้ก็ถวายเทียน ถวายผ้าอาบน้ำ ถวายผ้าป่า กฐิน มีแต่ถวายเต็มไปหมดแสดงว่าจะได้บุญมาต้องเสียเงินเสียทองสิเจ้าค่ะ
หลวงปู่ ; อือ บุญเป็นชื่อของความสุข ทำแล้วทุกข์อย่าทำ
โยม ; โยมก็ไม่ได้ทุกข์ แค่สงสัยว่าทำไม ศาสนามีแต่การให้ทาน
หลวงปู่ ; การทำบุญในพระศาสนาหน่ะมีหลายแบบ มีหลายระดับ ระดับทาน ระดับศีล ระดับภาวนา คนใจยังไม่สูงก็มัววุ่นอยู่กับทานอย่างเดียว คนใจสูงมาอีกหน่อยก็ทำบุญเรื่องศีล เมื่อใจถึงระดับแล้วเขาจะทำบุญด้วยการภาวนา เพราะ
ทานกำจัดกิเลสอย่างหยาบ
ศีลกำจัดกิเลสอย่างกลาง
ภาวนากำจัดกิเลสอย่างละเอียด
บางคนทำบุญแล้วไม่รู้เรื่องบุญก็มัวแต่หาว่ามีแต่ทานแต่ทาน คนบ้าทานก็ทำทานเอาหน้า ทำทานเอาตรา ทำทานเพื่อโฆษณา แท้จริงแล้วจุดประสงค์เพื่อละตัวเรา เพื่อละของเรา อาศัยสิ่งของเพื่อละความเห็นแก่ตัว ละความถือตัวถือตน
บางคนทำบุญทำทานไม่เป็นให้แล้วยังถือว่าเป็นเราเป็นของเรา บางคนทานแล้วประสงค์นั่น อธิษฐานนี่ วุ่นวายไปหมด อันนี้ให้ทานเอาตัณหา ให้ทานเอาโลก ให้ทานเอากิเลส ทานที่แท้จริงต้องทานเพื่อละเพื่อทิ้ง เอาของมาทานให้หลวงปู่แล้วมาให้หลวงปู่เสกนั้นเป่านี่ อธิษฐานเอานั้นเอานี่ เหมือนหลวงปู่จะบันดาลให้ได้
คนที่เอาเอาข้าวให้หมากินเขายังได้อานิสงส์มากกว่าคนพวกนี้ เพราะเขาให้ทานเพื่อละ ให้ทานเพื่ออนุเคราะห์สัตว์ตกยาก เขาให้ทานโดยไม่ความเป็นตัวเป็นตน ไม่อธิฐานเอานั้นเอานี่จากหมา ไม่ต้องบอกหมาว่า ต้องฉันของโยม ของหนู ของฉัน นั้นคนพวกนั้นเขาทานเพื่อละเพื่อวาง
คนที่วางตัววางตน ก็ไม่มีตัวไม่มีตน คนไม่มีตัวไม่มีตนมันจะทุกข์มาจากไหน เพราะมีตัว อะไรก็ของตัว ได้ตัวก็ได้ เสียตัวก็เสีย กระทบอะไรตัวก็กระทบ มันจึงทุกข์จึงยาก แต่ละตัวละตนเสียแล้วจะทุกข์กับอะไร ถ้าคุณเข้าใจอย่างนี้หลวงปู่เรียกคนเหล่านั้นว่าเขาทำทานเพื่อพึ่งพา
ให้ทานเพื่อละ เพื่อวาง เขาจะไม่ทุกข์กับการให้ทาน เขาเป็นนักทานที่แท้จริง เข้าใจนะ.
หลวงปู่หา สุภโร
#บ่อบุญแท้
ถ้าเราเน้นแต่วัตถุสิ่งของนอกกาย มันก็จะเหมือนทองห่อผ้าขี้ริ้ว กฐินผ้าป่ากี่สิบกี่ร้อยกอง มันก็ไม่ได้บุญเท่าจิตเราสงบรวมเป็นสมาธิ
ทำบุญให้ทานไม่รู้กี่ครั้ง กฐินผ้าป่ากี่สิบกี่ร้อยกอง มันก็ไม่ได้บุญเท่าจิตเราสงบรวมเป็นสมาธิ
#เพราะว่าอันนั้นมันไปถึงบ่อบุญแท้
เราถึงอาศัยวัตถุทาน อาศัยข้าวอาหารปัจจัย แต่มันก็เป็นวัตถุที่มีอายุสั้น ถ้าเราทำจิตของเราให้สงบได้
#ท่านบอก "#ปฎิบัติบูชามีค่ากว่าวัตถุ #เทียบกันไม่ได้"
เราต้องเข้าใจของเราอย่างนี้
#หลวงปู่ประสิทธิ์ #ปุญญมากโร
#วัดป่าหมู่ใหม่ จังหวังเชียงใหม่
คติธรรม
พระเนกขัมมมุนี (หลวงปู่ก้าน ฐิตธมฺมมหาเถร)
วัดราชายตนบรรพต (วัดเขาต้นเกด)
อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์...
"การที่เราไปหาหลวงปู่หลวงพ่อรูปนั้นรูปนี้ ขอวัตถุมงคลของท่านมาติดตัวไว้ ก็เพราะว่าเรามั่นใจในศีลของท่านนั่นเอง ศรัทธาว่าท่านมีศีลบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ไม่ด่างพร้อย เมื่อได้ติดตัวไว้ย่อมจะแคล้วคลาด ปราศจากภยันตรายทั้งปวง ทั้งนี้ ย่อมเป็นไปด้วยอานุภาพของศีล ถ้าเรารักษาศีลให้มั่นคง หมดจด ไม่หมองมัว นี่แหละเป็นพระในตัวเรา ไม่ต้องไปหาที่ไหนหรอก แต่ทุกวันนี้เวลามีงาน ก็มีการสมาทานศีล พระให้ศีล รับศีลแล้ว เมื่อเสร็จงาน ลุกไป ก็ไม่เอาไปด้วย กองไว้ตรงนั้น ไม่รักษาให้ดี จึงไม่แคล้วคลาดจากภยันตราย ไม่เกิดมงคลแก่ชีวิต"
การไปหาพระเครื่องที่เลื่องลือ
เพราะนับถือว่าศีลท่านนั้นผ่องใส
ความด่างพร้อยไม่มีดีแน่ใจ
พกติดไว้อันตรายหายลบเลือน
ศีลของเรารักษาไว้ไม่บกพร่อง
นั้นถูกต้องเป็นของดีไร้ที่เหมือน
ย่อมแคล้วคลาดปลอดภัยไม่สะเทือน
ศีลเป็นเขื่อนคุ้มกันตนพ้นอบาย ฯ
โอวาทธรรม หลวงปู่ก้าน
"..ผู้ไม่มีแผลในฝ่ามือ ถึงจะถือยาพิษ
จับยาพิษ..
แต่ยาพิษก็ไม่อาจซึมซาบไปให้โทษ
แก่ฝ่ามือที่ไม่มีแผลได้เลยฉันใด
บาปหรือตำหนิ ย่อมไม่ตกแก่ผู้พ้น
จากบาปแล้วฉันนั้น.."
#หลวงปู่มั่น_ภูริทตฺโต
อยากได้มรรคผลนิพพานก็ต้องทำให้มากๆ อดทนให้มากๆ หลวงปู่ผางท่านว่า...
"เดินทั้งวัน นั่งทั้งคืน พุทโธคำเดียว
ทำไม่หยุดจะเห็นนิพพาน"
หลวงปู่ก็เลยทำ ทำจนเขาว่าเป็นบ้า
แต่บ้าภาวนามันก็ดีกว่า คนมาว่าบ้าแล้วไม่ภาวนาเลย..
หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตโต
ศิษย์ในองค์ท่านหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต
#พระอุโบสถวัดเขาตาเงาะ
งานครบรอบอายุวัฒนมงคล ๗๘ ปี
หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต
๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๔
เวลาเราทำบุญ ควรเลือกพระที่ดีเพราะเราจะได้เรียนรู้สิ่งที่ดีจากท่าน แต่ถ้าจะทำบุญให้ใจสบายทำบุญกับพระที่ไหนก็ได้ ทำกับคน ทำกับสัตว์ ปล่อยนก ปล่อยปลา ให้อาหารสุนัข ให้อาหารแมวก็ได้เพราะทำแล้วทำให้เราสบายใจ
หลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร จ.ชลบุรี
ธรรมะบนเขา ๓ มกราคม ๒๕๖๑
#ไม่ต้องไปรอเกิดอีก
ครั้งหนึ่ง..มีคนมากราบเรียนถามหลวงปู่ไม ว่าตนปรารถนาอยากเกิดในยุคพระศรีอาริยเมตไตรย คือพระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 ในกัปนี้ ซึ่งจะมาเผยแพร่พระพุทธศาสนาต่อจากยุคของพระสมณโคดม จะทำอย่างไร
ด้วยเหตุนี้ หลวงปู่จึงให้โอวาทธรรมพอเป็นคติว่า
"...พวกเราเป็นผู้ฉลาด ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ได้เกิดมาพบครูบาอาจารย์ผู้เป็นเนื้อนาบุญ
การทำบุญก็ควรทำ การทำบาปก็ควรละเว้นด้วย มิใช่บุญเจือด้วยบาปตลอดเวลา ปะปนกันไป มันใช้ไม่ได้ โดยหลักแล้วคือให้งดการทำบาป นั้นแหล่ะ
#หากตายไปแล้ว #เกิดบาปให้ผลมาก #ต้องตกนรกนานหลายกัปหลายกัลป์ #กว่าจะได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง
#บางทีอาจจะมาไม่ทันยุคพระศรีอาริย์ก็ได้
หากมาไม่ทัน มันจะเกิดไม่ได้นะ มันจะไม่มีคนในโลก เพราะคนไปนิพพานกันหมด โลกอันนี้มันจะว่างเว้นจากการมีมนุษย์ จะว่างเว้นจากพระพุทธศาสนาไปอีกนานมาก กว่าจะมีมนุษย์เกิดขึ้น กว่าจะมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มามาอุบัติขึ้นในโลกอีกพุทธันดรต่อไป
หรือแม้แต่ในยุคพระศรีอาริย์เอง หากช่วงศาสนารุ่งเรืองสูงสุด มนุษย์ทุกคนจะพึงรักษาเพศพรหมจรรย์ทุกคนถ้วนหน้า ก็ไปเกิดไม่ได้อีก เพราะทุกคนถือพรหมจรรย์กันหมด หรือหากจะเหลือแต่เพียงพวกคนบาปที่ไม่เอาพุทธศาสนา ยังอยากจะไปเกิดกับเขาอยู่บ่
#หากมาเกิดในยุคพระศรีอาริย์ไม่ทัน
อาจจจะต้องเป็นวิญญาณเร่ร่อนรอไปไม่รู้นานเท่าไหร่ ไปเกิดเป็นเทวดารอ ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานรอ หรืออาจจะตกนรกรอก็ได้ ที่รอนี่คือ รอมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง มันเป็นเรื่องลำบากมาก
#หลวงปู่จึงขอเตือนว่า #หากอยากไปเกิดในยุคพระศรีอาริย์นั้น #ชาตินี้ต้องบำเพ็ญความดีให้มาก
ทาน ศีล ภาวนา แต่ต้องละบาปทั้งปวงให้เด็ดขาดด้วย ไม่อย่างนั้นไปยุคพระศรีอาริย์ไม่ทันแน่..
#ถ้าจะให้ดีเอาให้มันได้มรรคผลชาตินี้ล่ะ #ไม่ต้องไปรอเกิดอีก...ฯลฯ."
#หลวงปู่ไม #อินฺทสิริ
#เทศนา ณ #บ้านอารีย์ (๒๕๕๙)
"ทุกคนจะต้องเข้ามหายุทธสงครามสักวันหนึ่ง
คือ การต่อสู้กับมัจจุราช เมื่อถึงเวลานั้น
แต่ละคนจะต้องสู้เพื่อตนเอง และต้องสู้โดยลำพัง
ผู้ที่สู้ได้ดี ก็จะไปดี คือ ไปสู่สุคติ
ผู้ที่เพลี่ยงพล้ำ ก็จะไปร้าย คือ ไปสู่ทุคติ
อาวุธที่ใช้ต่อสู้ มีเพียงสิ่งเดียว คือ สติ
ซึ่งจะสร้างสมได้ด้วยการเจริญภาวนาเท่านั้น"
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
"วันเวลาที่หมดสิ้นไป โดยไม่ได้ทำอะไรที่เป็นคุณค่า
เป็นประโยชน์แก่ตนเองบ้าง ในชีวิตที่เกิดมาในโลก
และได้พบพุทธศาสนานี้ ช่างเป็นชีวิต ที่น่าเสียดายยิ่งนัก
เวลาแม้นเพียงหนึ่งนาที ที่ผ่านเลยไปนั้น
แม้ว่าจะทุ่มเงินจำนวนมหาศาล สักสิบล้าน ร้อยล้าน
ก็ไม่สามารถซื้อคืนกลับมาได้ ฉะนั้น
สิ่งที่น่าเสียดายในโลกนี้ จะมีอะไรน่าเสียดายเท่ากับ
การปล่อยให้วันเวลาผ่านเลยไป โดยเปล่าประโยชน์
แม้นว่าจะเพียงแค่นาทีเดียว"
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.