นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 18 ม.ค. 2025 12:23 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: อาศัยร่างกาย
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 10 ก.ค. 2021 9:59 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4806
จิตติดที่ไหน ย่อม ไปเกิด ณ ที่นั้น จิตติดเรือนก็อาจจะมาเกิดเป็นจิ้งจกตุ๊กแกได้

แม้แต่พระภิกษุติดจีวรยังไปเกิดเป็นเล็น น่าหวาดกลัวนัก แล้วกิเลสมีร้อยแปดประตู พุทโธมีประตูเดียว

เพราะฉะนั้นให้ฝึกหัดปฏิบัติให้คุ้นเคย วาระที่เราจะเปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติ จะเข้าจิตได้ทันหรือเปล่า

หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร









…ความสำคัญของสติ
มีความสำคัญยิ่งกว่าธรรมทั้งหลาย

.ถึงแม้ว่าสติเองนั้น ..
ไม่สามารถที่จะทำลาย กิเลสตัณหา
ไม่สามารถที่จะทำให้บรรลุ
มรรค ผล นิพพานได้ก็ตาม

.แต่ธรรมอื่นๆ ที่จะทำให้เกิด
มรรค ผล นิพพานขึ้นมาได้
ก็จำเป็นจะต้องมี “ สติ “
เป็นผู้ทำให้เกิดขึ้นมาก่อน.

………………………………………….
ธรรมะบนเขา
วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี







"..ศีล คือ เครื่องรางที่ป้องกัน
อบายภูมิได้อย่างศักดิ์สิทธิ์
คนมีศีล ย่อมมีสุคติเป็นที่ไป
เบื้องหน้า
คนมีศีล จะค้าขายก็จะมีแต่
ความเจริญโดยส่วนเดียว

คนมีศีล เข้าสมาธิก็ง่าย
ไม่สะดุ้งตกใจง่าย
คนมีศีล ย่อมไม่ฝันลามก
ย่อมไม่ฝันร้าย
คนมีศีล บรรลุธรรมก็ง่าย

คนมีศีล ย่อมไม่ก่อกรรม
ทำบาป
คนมีศีล คือ ผู้ที่มีจิตศรัทธา
ในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง
คนมีศีล ย่อมเห็นโทษ
ของบาปแม้เพียงเล็กน้อย

รักษาศีลให้ได้ มีสุคติ
เป็นที่ไปแน่นอน
รักษาศีลให้ได้ มีโภคทรัพย์
แน่นอน
รักษาศีลให้ได้ มีนิพพาน
เป็นที่ไป และเข้าถึงแน่นอน "

โอวาทธรรม
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม








#เราได้อาศัยร่างกาย_ที่มีแต่ของเน่าๆเปื่อยๆ_มาทำประโยชน์ไปวันๆ_เท่านั้นเอง

ยังน่าปลื้มใจ.. ที่อาศัยไหว้พระสวดมนต์ รักษาศีล ทำบุญ ให้ทาน ทำสมาธิ ภาวนา ทำคุณความดี เพื่อประโยชน์ตนบ้าง เพื่อประโยชน์ผู้อื่นบ้าง

ยังน่าปลื้มนะ ให้ทำความดีเยอะๆ ทำบุญให้ทาน นั่งสมาธิ และรักษาศีล ให้บริสุทธิ์ให้มากๆ

#อย่าได้ประมาทเลย

พยายามทำให้ต่อเนื่อง มันจะแก่กล้าขึ้น การทำอย่างที่ว่ามานี้ เขาเรียกว่าอบรม บ่มอินทรีย์ให้แก่กล้า สร้างบุญบารมีให้ใหญ่โต

#หลวงปู่ท่อน #ญาณธโร








"...คนเราความสุขความดับทุกข์
มันอยู่ที่เรามีความเห็นถูกต้อง
เข้าใจถูกต้อง ปฏิบัติให้ถูกต้อง

เราอย่าไปวุ่นวาย
อย่าไปปรุงแต่ง เราอย่าไปแก้ไข
เพราะทุกอย่างมันพอดีอยู่แล้ว
เราอย่าไปแก้ไข เนาะ

ทุกข์เป็นสิ่งที่รู้จัก
แล้วก็อย่าไปปรุงแต่ง
เราอย่าไปว่า คนนั้นดี คนนี้ไม่ดี
เพราะว่าถ้าไปว่าอย่างนั้น
มันคงจะโง่ไม่จบ
เห็นด้วยมั้ย..."

หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม
ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม
วันอาทิตย์ที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔









“การภาวนาต้องอาศัยความสัปปายะ คำว่า “สัปปายะ” คือ มันดีมันเหมาะมันควรต่อการภาวนาของเรา อันได้แก่
๑. บุคคลสัปปายะ การเกี่ยวข้องกับบุคคล บุคคลประเภทไหนที่เราไปเกี่ยวข้องแล้วทำให้เราหงุดหงิดรำคาญใจ พอมานั่งภาวนาแล้วมันทำให้มันไม่สงบ ถือว่าบุคคลไม่เป็นสัปปายะ แต่พอเรามาเกี่ยวข้องกับอีกคนหนึ่งกลับทำให้เรารู้สึกสบายใจ พอมาภาวนาแล้วใจมันสบาย อันนี้ถือว่าเป็นสัปปายะ พวกนี้เราต้องสังเกตในความเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นของเรา
๒. อาหารสัปปายะ อาหารประเภทไหนทานแล้วทำให้ง่วงหงาวหาวนอน อาหารทับร่างกาย ทำให้ธาตุไม่ปกติ ท้องอืดท้องเฟ้อไม่สะดวกต่อการภาวนา อันนี้ต้องสังเกตให้ได้ แต่พอเราไปทานอาหารอีกประเภทหนึ่งแล้วร่างกายรู้สึกเบาสบาย มีความกระฉับกระเฉงในการภาวนาดี มันเป็นสัปปายะต่อร่างกายต่อการภาวนา เพราะฉะนั้นต้องเป็นนักสังเกตมันถึงจะได้แง่มุมในกุศโลบายของใครของมัน กุศโลบายบางอย่างเราจะไปถอดแบบของคนอื่นมาเป็นแบบของเราก็ไม่ได้
๓. อาวาสสัปปายะ ที่พักอาศัย อากาศแบบนั้นเหมาะกับคนนั้นแต่อาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้ ที่อยู่ที่อาศัยที่เราไปภาวนา เหมาะไม่เหมาะอย่างไรเราต้องสังเกต การที่เราจะสังเกตตัวเราเองได้ ก็เพราะเราต้องภาวนาให้มากภาวนาให้บ่อย พอภาวนาดีหรือไม่ดีมันก็มีเหตุมีที่มา
๔. ธัมมสัปปายะ มีหลักปฏิบัติที่ถูกต้องและเหมาะแก่จริตของผู้ปฏิบัติธรรมเอง

เพราะฉะนั้นนักภาวนาที่ดีต้องเป็นนักสังเกตตัวเอง ถ้าเราจะเอาแค่ได้ยินได้ฟังอย่างเดียว แล้วจะถอดแบบคาดหมายออกไป แล้วจะไปทำแบบนั้น มันจะยิ่งทำให้ห่างออกไปเรื่อย ๆ เพราะธรรมของแท้มันไม่ได้เกิดขึ้นมาจากการคาดหมาย แต่มันเกิดขึ้นมาจากการปฏิบัติ ครูบาอาจารย์ที่ท่านพูดออกมามันก็จริงของท่านทุกอย่าง เพราะท่านถอดเอาความจริงมาพูด เราก็ไปคาดหมายตามที่ท่านพูดตามที่เราได้ยินได้ฟัง แต่ความจริงพอจิตของเราได้ไปสัมผัส สิ่งที่เราคาดหมายทั้งหมดหายไปหมดเลย ห่างไกลกันไปเลย

เราอย่าแสวงหาธรรมะด้วยการคาดหมาย ธรรมะต้องแสวงหาด้วยการปฏิบัติด้วยตัวของเราเอง”

พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม
๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 32 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO