นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 18 ม.ค. 2025 6:53 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ขันธ์ห้า
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 26 ก.ค. 2021 5:35 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4806
ถ้ามันสงบแล้ว ก็ไม่ต้องนั่ง เรานั่งหาความสงบ ถ้าจิตมันเป็นสมาธิแล้ว เราจะนั่งทำไม

#เรานั่งให้มันเป็นสมาธิ_ไปยังไม่ถึง_มันก็ไม่เจอ_ถ้าไม่เจอ_ต้องพยายามต่อไป

คนทำสมาธิอย่าโง่ มัวแต่หาสงบอย่างเดียว สังเกตปัญญาที่มันเกิดขึ้น ขณะมันยังไม่เป็นสมาธิด้วย

เหมือนคนไปหาเห็ด เดินเข้าป่าไม่ยอมเก็บเห็ด หาว่ามันดอกน้อย ดอกนั้นก็น้อย ดอกนี้ก็น้อย เดินหาดอกใหญ่ รอเจอดอกใหญ่ค่อยเก็บ เดินจนหมดป่าก็ไม่เจอดอกใหญ่ สุดท้ายเลยล้มเลิกเพราะไม่ได้เห็ด

#ทำสมาธิก็เหมือนกัน_มัวแต่หาความสงบ_จนลืมปัญญา_ที่เกิดตามทาง_ที่จะไปสู่ความสงบ

พิจารณาจนเกิดปัญญา มันเกิดความสุขใจสุขกายจนสงบ ดีกว่าไปสงบแบบโง่ สงบเป็นก้อนหิน จะได้ประโยชน์อะไร สงบแบบมีปัญญา ดีกว่าสงบแบบโง่ๆนะ

ไปๆ #ทำต่อให้มันล้มเหลว_มันยังมีค่ากว่าล้มเลิก ถ้าล้มเลิกอย่าไปเที่ยวบอกใครว่าเป็นศิษย์ผมเด้อ

#หลวงปู่หา #สุภโร











"ทำให้มันต่อเนื่อง พวกเรา ปฏิบัติมามันไม่ได้ผล เพราะอะไร เพราะทำไม่ต่อเนื่อง ทำๆหยุดๆ มันไม่เรียกว่าความเพียรหรอกแบบนั้น ถ้าผู้ภาวนาแล้ว เวลาทำ ท่านทำตลอด ไม่ใช่วันหนึ่งคืนหนึ่งมานั่งหลับตาชั่วโมงสองชั่วโมง ที่เหลือกิเลสเอาไปกินหม๊ด

ผู้ที่ท่านภาวนา เวลาท่านจะทำงาน ท่านก็ภาวนา จะทำอะไรก็เป็นภาวนาอยู่นั้นแหละ มันขึ้นมาเอง ไม่ต้องนั่งหลับตาให้ยาก จะหลับตาลืมตา มันก็หมุนของมันอยู่นั้น ไม่ใช่ไปเห็นพระเดินทำงาน ก่อสร้าง โบกปูน ขนเหล็ก ไปหาตำหนิท่าน บางองค์ท่านทำไปท่านภาวนาไป ให้รู้จัก

พวกเราก็พากันตั้งใจ เข้าพรรษา ออกพรรษา ก็ให้ทำให้มันต่อเนื่อง มันถึงจะได้ผล"

คติธรรม คำสอน
หลวงพ่อสมบูรณ์ กนฺตสีโล








...ต่อจากนี้ไป ก็ขอให้นั่งในอิริยาบถที่ตรงแต่ไม่เกร็ง อิริยาบถที่นิ่งเท่าที่จะนิ่งได้ เราอยู่ในบ้านบุญก็เป็นบุญที่สิ่งแวดล้อมเอื้อต่อการภาวนามาก อากาศถ่ายเท อากาศไม่ร้อนไม่หนาว ข้างนอกมีแต่เสียงที่เป็นธรรมชาติ เสียงนก เสียงนกไม่ได้ทำให้ความสงบลดน้อยลงกลายเป็นส่วนหนึ่งของความสงบนอกตัวเรา

เมื่อเราภาวนา ความสงบมันไม่จำเป็นต้องถึงขั้นที่ว่าไม่มีอะไรปรากฏเสียเลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นภายในเหมือนเสียงนกที่เกิดขึ้นภายนอก ไม่ทำให้ฟุ้งซ่านวุ่นวาย ก็เป็นธรรมชาติของจิตที่อาจจะมีความคิดเกิดขึ้นดับไปตามเรื่องของมัน แต่เราไม่ได้ไปยินดีในความคิด ไม่ไปยินร้ายกับความคิด

การภาวนาคือการมองด้านใน เพื่อเราจะได้รู้จักตัวเองมากขึ้นแล้ว เราจะได้ฝึกในการจัดการกับสิ่งเศร้าหมองในจิตใจ ได้ฝึกปลูกฝังและพัฒนาคุณธรรมต่างๆ ดังนั้นการภาวนา การฝึกจิตการอบรมจิตเน้นที่การจัดการกับอกุศลธรรมที่อยู่ในจิตใจและการพัฒนาคุณธรรม คุณธรรมที่เราต้องอาศัยเป็นหลักตั้งแต่ต้น ก็คือสตินั่นเอง...

พระอาจารย์ชยสาโร
นำสมาธิภาวนา ในการปฏิบัติธรรมบ้านบุญวันอาทิตย์
วันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๓ ณ บ้านบุญ ปากช่อง นครราชสีมา








#ยังมีโอกาส #อย่ารอให้แก่ชรา
#รีบทําความดีสร้างความดี

”เรายังมีโอกาส
รีบไปสร้างความดี ทําความดี
อย่าให้มันแก่แล้ว จึงจะทํา
มันยากนะ จะไปไหนมาไหน
ก็ลําบาก ต้องให้ลูกให้หลานจูงไป
ช่วยจับให้ มันจึงจะทําได้
เดินไม่สะดวก เดี๋ยวก็หกล้ม
เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ไปได้"

หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ
วัดใหม่บ้านตาล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร








…เวลามาก็มาตัวเปล่าๆ
เวลาไปก็ต้องไปตัวเปล่าๆ

.แล้วจะไปเสียดาย
ไปเสียใจกับอะไร

.ในเมื่อของต่างๆ ที่เรามีอยู่นี้
“ มันไม่ได้เป็นของเรา “.
…………………………………………….
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๓
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี







วันนี้เป็นวันอธิษฐานพรรษาแล้ว ขอให้ทุกๆ ท่านได้ตั้งสัจจะความจริงไว้บังคับตัวเอง เช่นไหว้พระสวดมนต์ หรือกินเหล้าเมาสุรา เคยกินมาจนหัวราน้ำก็ตาม บังคับเลย ห้ามตั้งแต่บัดนี้ต่อไปอย่างน้อยต้องถึงวันออกพรรษา ไม่กินเหล้า เอา จะตายก็ให้ตาย ดัดกันอย่างนี้หนักๆ แล้วเหล้าก็หายไปๆ เราก็เป็นคนดีตลอดไปเลย ให้จำเอา การให้ทานวันหนึ่งอย่าให้ขาด สวดมนต์ไหว้พระวันหนึ่งๆ อย่าให้ขาด ความประพฤติหน้าที่การงานอะไรที่เป็นมลทิน หรือเป็นความเสียหายแก่ตนและส่วนรวมแล้วให้งดๆ เช่นว่าอย่างน้อยงดในพรรษา นี่อย่างน้อยที่สุดนะ มากกว่านั้นให้งดไปโดยลำดับลำดา จะเป็นความถูกต้องดีงาม

สำหรับชาวพุทธเราให้มีขอบเขต เอาธรรมละมาบังคับไม่เสียหาย ถ้าเอากิเลสมาบังคับจมได้ทั้งนั้น ไม่มีคำว่าสูงว่าต่ำว่าอะไรแหละ จมได้ด้วยกันทั้งนั้น ถ้าเอาธรรมเข้าไปบังคับ เด็กก็เป็นเด็กดีน่ารัก ผู้ใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่ดีน่าเคารพบูชา ให้ถืออย่างนั้นนะ อย่าถืออายุมืดแจ้งเฉยๆ ว่าเป็นผู้ใหญ่ผู้น้อย ให้ถือธรรมเป็นผู้ใหญ่ตลอดเวลา เด็กมีอรรถมีธรรมก็ให้มีความเคารพรักเด็ก ไม่ควรฝ่าฝืนคำพูดของเด็กที่พูดถูกต้องแล้ว ยอมรับกันๆ เรียกว่าคำสัตย์คำจริงคือธรรม จะเป็นคนดีด้วยกัน

เข้าพรรษาอย่างนี้ขอให้มีคำสัตย์คำจริงบังคับตัวเองทุกคนนะ ไม่ได้มากได้น้อยใครจะได้เท่าไรก็เอา เช่นอย่างศีล ๕ ให้ได้ทุกคน ข้อสุรานี่บังคับให้ขาดเลยเทียวไม่ให้มันกิน เอ้า มันจะตายจริงๆ ให้มันเห็นสักที ให้ว่าอย่างนั้นว่าตัวเองแล้วจะเป็นคนดีเรื่อยๆ สุราก็แตกกระจัดกระจายไปเลย เข้ามาใกล้เขตบ้านคนๆ นั้นไม่ได้ นี่คือความดีขับไล่ความชั่วให้ขับไล่แบบนี้ อย่าอยู่เฉยๆ ใช้ไม่ได้นะ

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส
เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐








"นั่งอย่างเดียวก็ไม่ใช่ เรื่องการปฏิบัติ
ถ้าไม่รู้จริงอย่าไปพูด จะขายหน้าเอา"

..วันหนึ่งหลวงปู่ชา สุภทฺโท พาพระเณร
ขนดินขึ้นไปใส่สนามหญ้ารอบโบสถ์

พอดีขณะที่ท่านกำลังยืนสั่งงานอยู่นั้น
มีหนุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งมาเที่ยวชมวัด
เดินมาพบท่านเข้า พวกเขาเข้ามายืน
ใกล้ๆ ท่าน

ทำท่าทางแบบฝรั่งวัยรุ่น
กิริยาไม่สู้จะอ่อนน้อมเท่าไรนัก

หนึ่งในคณะของเขา ถามท่าน
หลายอย่าง และท้ายที่สุดเขาจึง
ถามท่านทำนองรุกไล่ว่า...

"ทำไมท่านไม่พาพระเณรนั่งสมาธิ
ชอบพาทำงานอยู่เรื่อย"

หลวงปู่ชา ตอบออกไปทันควันว่า

"#นั่งมากมันขี้ไม่ออกว่ะ"

พวกนั้นรู้สึกงุงงงต่อคำตอบของท่าน
ทันทีท่านก็ยกไม้เท้าขึ้น ชี้ไปยัง.. คน
ถามปัญหา และสั่งสอนว่า...

"ที่ถูกนั้นนั่งอย่างเดียวก็ไม่ใช่ เดิน
อย่างเดียวก็ไม่ใช่ ต้องนั่งบ้าง ทำ
ประโยชน์บ้าง และทำความรู้ความเห็น
ให้ถูกต้องไปทุกเวลานาที อย่างนี้จึงจะถูก

กลับไปเรียนมาใหม่ นี้ยังอ่อนอยู่มาก เรื่อง
การปฏิบัติถ้าไม่รู้จริง อย่าพูด มันจะขาย
ขี้หน้าตัวเอง"

#หลวงพ่อชา_สุภัทโท_วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี








"คนเถียงพ่อเถียงแม่จะเอาดีไม่ได้ ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก
แค่คิดว่าพ่อแม่ไม่ดี ก็ทำมาหากินไม่ขึ้นแล้ว
ต้องแก้ปัญหาก่อนคือถอนคำพูด ถอนความคิด ไปขอขมาลาโทษ

กรรมใดที่ลูกได้ล่วงเกินคุณพ่อคุณแม่ ด้วยกายก็ดี
ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ขอให้คุณพ่อคุณแม่ อโหสิกรรมให้แก่ลูกด้วย.. แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่"
''คนที่มีบุญวาสนา จะกตัญญูต่อพ่อแม่''

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม






#จิตเกษม

ศีล คือใจปกติ สมาธิ คือใจตั้งมั่น ปัญญา คือใจรอบรู้
ให้รวมเอาธรรมสามประการนี้มาตั้งเป็นกองทัพใหญ่อยู่ที่เมืองใจ ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะไม่ทันกองทัพของกิเลสที่รายล้อมอยู่รอบเมืองใจ ใจที่มีทหารเอกคือสติและกองพลทหารคือศีล สมาธิ ปัญญาแล้ว ย่อมแกล้วกล้าอาจหาญในที่ทั้งปวง ดังนั้น นักปฏิบัติภาวนาอย่าปล่อยให้สติห่างจากใจ อย่าปล่อยใจหนีห่างจากสติ นี้เป็นหลักสำคัญของการภาวนา

ถ้าใจกับสติพลัดพรากห่างจากกันแล้ว ความวุ่นวายก็จะไหลซึมซาบเข้ามาสู่จิตใจแบบไม่ทันตั้งตัว กว่าจะรู้สึกตัวก็ถูกไฟทุกข์เผาไหม้เป็นจุลเป็นซากไปเสียแล้ว สติจึงเป็นธรรมสำคัญที่สุด ถ้าเมื่อใดใจขาดสติแล้ว ก็เท่ากับว่าศีล สมาธิ ปัญญาก็ขาดออกจากใจเช่นกัน แม้จะเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิอยู่ก็ตาม ถ้าไม่มีสติกำกับดูแลรักษาอยู่ ก็เชื่อว่าความเพียรขาด ก็เชื่อว่าไม่ได้ภาวนา…..

พระอาจารย์สุรวุฒิ เขมจิตฺโต
(พระอาจารย์กอล์ฟ)









#ธรรมะลูกนอกวัง

ให้เรานึกว่าถ้าต้องตายในวันนี้
เราจะห่วงอะไรไหม เราจะได้รู้ใจตัวเองว่าห่วงหรือติดอะไร เมื่อรู้แล้วให้ตัดออกเสีย แล้วจิตจะก้าวหน้า

ให้ทำทุกวันนะ อย่ายึดติดกับอะไรเลยท่านทั้งหลาย ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้เลยสักอย่างเดียวนอกจาก #บุญกับบาป มาตั้งใจทำความดีกันนะ เพื่อพระนิพพานเป็นที่สุด

พระอาจารย์เอกลักษณ์ ปญฺญาคโม
วัดพุทธพรหมยาน เกาะลัด จังหวัดฉะเชิงเทรา








…เราอยู่ตรงกลางนี่แหละ
เราอยู่ตรงผู้รู้น้ี อยู่ตรงสักแต่ว่ารู้
ไม่ต้องไปดีใจกับเขา ไม่ต้องไปยินดี

.เวลามันเปลี่ยนไป เราจะได้ไม่เสียใจ
เวลาเจอของที่เราไม่ชอบ
ก็อย่าไปยินร้าย อย่าไปรังเกียจ

.พอรังเกียจก็ทุกข์
ยินดีก็ทุกข์ ถ้าเวลามันหมดไป

.”นี่คือการรักษาใจของเรา ไม่ให้ทุกข์ “
ไม่ให้วุ่นวายไปกับการเกิดการดับ
หรือการขึ้นการลงของส่ิงต่างๆ.

……………………………………………..
หนังสือธรรมะหน้ากุฏิ เล่ม ๘
ธรรมะหน้ากุฏิ
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี







" การที่จะหลุดพ้น
ความทุกข์ในวัฏสงสารนี้ได้
ไม่ใช่มาจากการอ่านตำรา

แต่มาจากการทำ
ความเพียรเจริญจิตภาวนา "

โอวาทธรรม
หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ







" จิตผู้มีสมาธิเต็มที่ ไม่ว่า
จะยืนจะเดินจะนั่งจะนอน
ย่อมเป็นสมาธิอยู่ตลอดเวลา

แล้วจะมองเห็นกิเลสของตน
ซึ่งเกิดจากจิตของตน
ให้ชัดเจนว่า กิเลส คือ
ความโลภ ความโกรธ
ความหลง มันเกิดจากสิ่งนี้
สิ่งนี้และมันตั้งอยู่ได้ด้วย
อาการอย่างนี้อย่างนี้ และ
ก็หาอุบายละด้วย
อาการอย่างนี้อย่างนี้

เหมือนกับน้ำในสระที่ขุ่น
มานับร้อยๆปีเพิ่งมาใส
สะอาดมองเห็นสิ่งสารพัด
ที่มีอยู่ในก้นสระว่า แต่ก่อน
แต่ไรเราไม่นึกไม่คิดเลยว่า
ในก้นสระนี้มันจะมีสิ่งของ
เหล่านี้ นั่นเรียกว่า "วิปัสสนา"

คือ ความรู้ความเห็นตาม
สภาพมันเป็นจริงอย่างไร
ก็เห็นตามความเป็นจริง
อย่างนั้น ไม่วิปริตผิดแปลก
จากความเป็นจริงของมัน "

โอวาทธรรม
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี







เข้าพรรษาสวดมนต์ไหว้พระ
ไม่จำเป็นต้องมาสวดที่วัดก็ได้
เราก็ใช้ห้องพระที่บ้านเราเป็นวัด
ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็นที่ห้องพระ
นั่งภาวนาก็เปิดเทศน์ครูบาอาจารย์
แค่นี้ก็ทำบ้านให้เป็นวัดแล้ว
ที่สำคัญให้ตั้งสัจจะกับตัวเองไว้ด้วย
ว่า..พรรษานี้เราจะทำอะไรให้กับตัวเอง
ถ้ารักษาสัจจะได้มันจะเกิดความศักดิ์สิทธิ์
ทำอะไรก็สำเร็จ คำพูดเราก็จะศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย
-----------------------
หลวงพ่อทองพูน กาญจโน
ให้โอวาทก่อนเข้าพรรษา ปี ๒๕๖๔






#ของที่ดีที่สุดในโลก_ไม่ใช่อื่นไกล_นั่นคือ_ดวงจิตดวงใจ_ที่ได้มาประพฤติปฏิบัติธรรม

สมบัติอื่นล้วนเป็นเพียงแค่สมบัติทางโลก รังแต่จะเป็นเครื่องร้อยรัด ให้มาเกิดแก่เจ็บตาย มาเป็นทุกข์ไม่จบสิ้น ..

#ทุกสิ่งล้วนเป็นสมุทัย

อันมีจุดเริ่มต้นจากการ เ กิ ด ...ช า ติ ปิ ทุ ก ข า การเกิดทุกครา นำมาซึ่งทุกข์ตัวอื่นๆ ทั้งความแก่ ความเจ็บไข้ และความตาย การพลัดพรากจากสิ่งที่ตนรัก ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้ในสิ่งนั้น ก็ล้วนเป็น ทุ ก ข์

#ถ้าเราพิจารณาเห็นทุกข์

เราจะเห็นความจริง ว่ามันไม่มีตัว ไม่มีตน ทุกข์ จึงเป็นธรรมวิเศษ ที่จะนำให้เราย้อนกลับเข้ามาพิจารณาที่ตัวตนของเรา ว่ามีจริงหรือไม่ เมื่อเห็นว่ามันเกิด แล้วมันก็ดับ... แสดงว่า มันไม่มีตัวตนที่เป็นเราอยู่จริง

#พระพุทธองค์_ทรงตรัสว่า_พระนิพพาน_ไม่ได้อยู่ที่ไหน_แต่มันอยู่ที่ดวงจิตดวงใจ_ของเรานั่นเอง

และเมื่อเราเห็นทุกข์มากๆ เข้า มันจะเกิดความเบื่อหน่าย (นิพพิทา) เบื่อหน่ายใน "ร่างกาย" ว่า มันเป็นทุกข์ เบื่อหน่ายใน "จิตใจ" ว่า มันหลงเข้าไปยึด จึงเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เมื่อเกิดความเบื่อหน่าย จิตจะคลายกำหนัด

#เมื่อคลายกำหนัด_จิตจึงหลุดพ้น

"ห ลุ ด พ้ น" ไปจากอะไร ? ท่านว่า ไม่ได้พ้นไปในท้องฟ้าอากาศ แต่เป็นการ "พ้น" ไปจากร่างกายจิตใจ ที่มันเป็นกองทุกข์...จึงจะเรียกได้ว่า ...หลุดพ้น”

#คติธรรม #หลวงปู่บุญมา #คัมภีรธัมโม #วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร







ถาม : กรณีที่ห่างไกลครูบาอาจารย์เราควรมีวิธีสำรวจตัวเองอย่างไร ว่าเรากำลังเข้าใกล้หรือออกห่างจากเป้าหมายการปฏิบัติครับ ?

หลวงพ่อตั๋น : ดูว่าศีลของเรามั่นคงไหม ศีล ๕ นะ ถ้าเรามีศีล ๕ ไม่ค่อยมั่นคง จิตใจเราไม่มีความเข้มแข็ง บางทีเราประพฤติผิดศีล หรือว่าตั้งใจที่จะทำผิดศีลเนี่ย จิตใจเราอ่อนแล้ว แต่ถ้าเรามีความมั่นคงศีล ๕ ให้เป็นปกติ มีความมั่นคงเป็นฐาน ทีนี้ต้องดูสมาธิ เราทำสติสมาธิ จิตใจเราสงบเพียงพอไหม ?

บางทีถ้าอยู่ไกลครูบาอาจารย์เราขี้เกียจทำสมาธิ สติก็ไม่ตั้งมั่นเราก็สังเกตเห็น แล้วใจของเราเนี่ยที่เราอยู่ไกลครูบาอาจารย์เราทำสมาธิภาวนาเนี่ย กิเลสมันบรรเทาเบาบางลงไปไหม? หรือเรามีความโลภความโกรธความพอใจความไม่พอใจความทุกข์นั้นมาก

ถ้ามาก แสดงว่าเราดำเนินปฏิปทาในทางที่ออกนอกทาง ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปในทางดำเนินไปเพื่อละกิเลส เราต้องปรับจิตให้ได้ หาความพอดีให้ได้ว่า ทำอย่างไรทำให้ความทุกข์บรรเทาเบาบางลงจากจิตใจของเรา.

พระราชพัชรมานิต (หลวงพ่อตั๋น ถิรจิตโต)
วัดบุญญาวาส อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี
คัดลอกจาก หนังสือถามตอบปัญหาธรรม เล่ม ๑







#บุญบ่ต้องเสียเงิน

พุทโธๆๆๆ บ่ต้องเสียเงิน หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล ทางไชยวานเฮานี่ ก็สอนไว้ดีแล้ว เราก็เดินตามรอยท่าน และปฏิปทาข้อวัตรปฏิบัติ ตามท่านมาดีแล้ว

หลวงปู่ ก็ไม่เทศน์มากหรอก หลวงปู่เทศน์บ่เก่ง คืออาจารย์สมหมายเด้ ท่านสมหมายเพิ่นเป็นพระนักเทศน์ และพาปฏิบัติมาดีแล้ว เอาล่ะ

องค์หลวงปู่ปรีดา(ทุย) ฉนฺทกโร
เทศน์นาบางช่วงบางตอนขอโอกาสพ่อแม่นำมาลงให้อ่านเป็นเครื่องเตือนสติปรารภในวันที่21กรกฎาคม2563








“ภารา หะเว ปัญจักขันธา”

มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ขันธ์ห้าจะเป็นภาระของเรา ในเมื่อเรามาอาศัยเขาอยู่ เราก็ต้องดูแลรักษา ต้องซ่อมแซมเขา เมื่อมันยังพอซ่อมแซมได้ก็ต้องซ่อมแซมกันไป จนถึงที่สุดเมื่อซ่อมแซมไม่ได้แล้ว เราก็ต้องปล่อยมันไป ปล่อยมันแก่ ปล่อยมันเจ็บ ปล่อยมันตายไป

แต่จิตของเรามันไม่ได้แก่ ไม่ได้เจ็บ ไม่ได้ตายไปกับเขาด้วย เมื่อเห็นแจ่มแจ้งชัดเจนอย่างนี้แล้ว อยู่กับเขา อยู่กับกายนี้ เราจะอยู่ได้อย่างอาจหาญ อยู่ได้อย่างไม่ปีนเกลียวกัน แล้วมันจะมีอะไรมาให้ทุกข์เล่า เพราะว่าการปีนเกลียวกันมันเกิดขึ้นมาจากโมหะความลุ่มหลงความไม่รู้จริง

การประพฤติปฏิบัติภาวนาของเรานี่แหละ ก็เพื่อดึงจิตดวงนี้ให้รู้จริงขึ้นมา ชำระอวิชชาความไม่รู้นี้ให้หลุดออกไป เหลือแต่ความจริงล้วนๆ ความประเสริฐที่สุดมันอยู่ตรงนี้ จึงให้พากันตั้งอกตั้งใจ ประพฤติปฏิบัติอบรมจิตอบรมใจของเราด้วยการภาวนา อยู่ที่ไหน ไปที่ไหน อย่าทิ้งการภาวนา

ถ้าเรามีการภาวนาอยู่เป็นเนืองนิจแล้ว นับวัน จิตดวงนี้ก็จะยิ่งมีความเจริญขึ้นมา เจริญขึ้นบนเส้นทางแห่งธรรมะของพระพุทธเจ้า แล้วเราก็จะพบแต่ความสุข ถ้าเดินอยู่บนเส้นทางแห่งธรรมนี้

พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 47 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO