Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ที่พักใจ

ศุกร์ 30 ก.ค. 2021 7:03 am

"..บาปเล็กๆน้อยๆ กะอย่าไปทำ
ให้รู้จักหลีกออกเว้นออก
ฝุ่นเข้าตามันกะอันน้อยๆ นั่นล่ะ
มันกะทำให้ขัดเคืองตา
เป็นอันตรายต่อตาได้
บาปกะคือกันนั่นล่ะ
เล็กๆน้อยๆ กะเป็นโทษเป็นภัย
กับจิตกับใจคือกันนั่นล่ะ
ให้มีความละอายต่อบาป
เกรงกลัวต่อบาป มันค่อยดี.."

โอวาทธรรมหลวงปู่บุญมา สุชีโว
วัดป่าสุขเกษม อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู






…อย่าไปหวังเรื่อง ทำบุญอุทิศมาก
เราควรที่จะรีบ
“ สร้างบุญไว้ตั้งแต่บัดนี้ดีกว่า “

.ถ้าเราทำตอนนี้เราได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เลย
แต่ถ้าเราไปรอให้ญาติพี่น้อง
ส่งบุญไปให้เรานี้
“ เราได้แค่เปอร์เซ็นต์เดียว “

.แล้วก็จะต้องคอยมารอรับอยู่เรื่อยๆ
เขาก็ไม่มาส่งบุญให้เราอยู่เรื่อยๆ หรอก
บางทีเขาก็มีธุระปะปังไปทำอะไรอย่างอื่น

.หลวงตาท่านบอก
“ให้ทำบุญตั้งแต่ก่อนตาย
อย่ามาให้พระสวดทำบุญให้กับเรา”.
……………………………………………
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
ธรรมะหน้ากุฏิ
วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔







"...#กิเลสคือภัยพิบัติต่อโลก
ความโลภ ก็คือกิเลส ความโกรธ ก็คือกิเลส ความหลง ก็คือกิเลส ขี้คร้านนี้ก็อีก ขี้คร้านไปไหนก็ไม่เจริญพังพินาศไปทั้งหมดทั้งสิ้น ศีลเท่านั้นที่จะทำให้เจริญก้าวหน้า ขัดจิตใจด้วยศีลให้บริสุทธิ์อยู่เสมอเด้อ.."

โอวาทธรรม
หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร







“เราทำดีก็ได้ดีนั่นหละ ถึงใครเขาไม่เห็น มันก็ปรากฏชัดอยู่ในใจเราอยู่ตลอด ทำไปโลด ทำดี ไม่มีคำว่าขาดทุน”

โอวาทธรรม หลวงปู่ปั่น สมาหิโต










#ที่พักใจ

ถ้าใจของเรามันพักอยู่ในสมาธิเป็นเรือนพักของใจบ้าง หลวงพ่อชาจึงถามว่า ‘รู้จักที่พักของใจบ้างหรือยัง ?’ ที่พักภายนอกก็ตึกรามบ้านช่องเป็นที่พักภายนอก ที่พักใจ ก็คือ ความสงบเย็นเกิดจากสมาธินี้ เป็นที่พักที่อยู่ของใจ เราต้องขวนขวาย ต้องขวนขวย ต้องพยายามควบคุมใจของเรา ให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน รู้ลมหายใจเข้าออกพร้อมทั้งคำบริกรรมหายใจเข้า ‘พุท’ หายใจออก ‘โธ’ เดินก็เท้าขวา ‘พุท’ เท้าซ้าย ‘โธ’ อย่างนี้เป็นต้น

#สิ่งอันเปิดเผยอยู่

เมื่อพวกเรายืน เดิน นั่ง นอน ฝึกฝนอบรมดูจิตดูใจของเราอย่างนี้ เราก็ใกล้จะได้เห็นธรรมะ เพราะธรรมะนี้ไม่ได้อยู่ไกล ธรรมะนี้เปิดเผยอยู่แล้ว รูปนี้ก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าถ้าใจของเรานี้มีปัญญาเมื่อไร ก็จะเห็นเมื่อนั้น ไม่ใช่เราจะเห็นธรรมะที่ไหน เห็นที่ใจนี่เอง

#ทวนกระแสโลก

ถ้าตราบใดมี อวิชชา ตัณหา อุปาทาน ซึ่งเป็นกระแสโลกแล้ว จะพัดพาจิตใจของเรา ไม่รู้ว่าจะพ้นทุกข์เมื่อไหร่ ไม่มีวันพ้นทุกข์ได้เลย เพราะมันเป็นเหตุเป็นปัจจัย หมุนเวียนกันอยู่อย่างนี้ เรียกว่า วัฏฏะ หรือสังสารวัฏฏ์ แต่ถ้าเรามาเดินมรรค เรียกว่า ทวนกระแสโลก ทวนกระแสของอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ก็คือการที่เรามาให้ทาน มีศีล มาภาวนานี้แหละ เรากำลังทวนกระแสโลก เพื่อให้ถึงกระแสธรรม

พระราชวชิรญาณ วิ.(หลวงพ่ออนันต์ อกิญจโน)
วัดมาบจันทร์ อ.เมือง จ.ระยอง
ศิษย์หลวงพ่อชา สุภัทโท








บุคคลใดให้ความสุขแก่บุคคลอื่น
ความสุขนั้นจะกลับคืนมาเป็นของตน

เพราะให้สิ่งที่พอใจ ก็ย่อมได้สิ่งที่พอใจ
ให้ของดี ก็ย่อมได้ของดี
ให้ของเลิศ ก็ย่อมได้ของเลิศ
ให้ของประเสริฐ ก็ย่อมได้ของประเสริฐ

หลวงพ่อเปลี่ยน ปญญาปทีโป







สิ่งที่พระพุทธเจ้าให้ไว้ แล้วท่านนับถือด้วยความจริงใจ สิ่งนั้นจะป้องกันอันตรายให้ท่านได้แน่นอน

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง







องค์หลวงปู่สิมท่านเล่าประสบการณ์ที่ท่านได้อสุภกรรมฐานตอนหนึ่งว่า..

“ศพที่เก็บไว้ ๔-๕ วันก่อนจะเผานั้น ถ้าสมณะนักบวชเรายังไม่เคยเห็นก็อาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่ผู้ที่เคยดูศพอย่างนั้นมาแล้ว จะนึกได้ว่าพอเปิดฝาโลงเท่านั้นแหละ จะเป็นน้ำมันท่วมขึ้นมาตั้งครึ่งโลง(สมัยก่อนยังไม่มีฟอร์มาลีนฉีด ศพก็จะเน่าไปตามกาลเวลา) แมลงวันไม่รู้มาจากไหน ไม่ต้องมีใครไปเชื้อเชิญละ มาจับสบงจีวรเต็มไปหมด เวลาไปชักบังสุกุลเสร็จ ดมซากศพเสียไม่รู้ว่ากี่ลมหายใจ”

“นี่แหละร่างกายนั้น พระพุทธองค์ท่านจึงทรงสอนให้กำหนดเป็นอสุภกรรมฐาน อย่าไปเห็นเป็นรูป ไม่ว่ารูปหญิงรูปชาย ให้เข้าใจว่าเป็นอันเดียวกัน ไม่มีใครสวยใครงามกว่ากัน”

“สมมติโลกว่าสวยงาม สมมติธรรมมันไม่มีสวยงาม อสุภัง มรณัง ทั้งนั้น ถึงมันจะยังไม่ตายตอนเด็กตอนหนุ่มก็เถอะ ไม่นานละ มันก็ทยอยตายไปทีละคนสองคน หมดไป สิ้นไป ไม่เหลือ …”

เกร็ดประวัติหลวงปู่สิม พุทธาจาโร









#ความฟุ้งซ่านเกิดขึ้น_เอาความฟุ้งซ่านนั่นแหละ_เป็นอารมณ์

อารมณ์ทั้งหลาย เกิดจากการขาดสติ

มันเศร้าหมอง มันมืด เพ่งดูมันมืด เพ่งดูมันเศร้าหมอง มันวุ่นวายมันฟุ้งซ่าน เพ่งดูมันวุ่นวาย เพ่งดูมันฟุ้งซ่านนั้น

#อะไรเกิดขึ้น_เอาอันนั้นล่ะ_เป็นอารมณ์ของการภาวนา

ความฟุ้งซ่านเกิดขึ้น เอาความฟุ้งซ่านนั้นล่ะเป็นอารมณ์ เป็นเป้าหมาย เอา 'สติสัมปชัญญะ' ตั้งอยู่ ที่มันฟุ้งซ่านนั้น..อารมณ์อะไรก็ช่าง อารมณ์ที่รัก อารมณ์ที่ชังเกิดขึ้น ตั้ง 'สติสัมปชัญญะ '

#จิตไปตั้งอยู่ที่มันเกิดขึ้นนั้น

อารมณ์ทั้งหลาย เกิดจากการขาดสติ เมื่อมีสติเพ่งอยู่ ถึงจะเพ่งอยู่ที่อารมณ์ฟุ้งซ่าน จะสมมุติว่าเป็น 'อิฏฐารมณ์' , 'อนิฏฐารมณ์' เอาจิตเข้าไปเพ่ง อารมณ์อันนั้นจะดับไป

#เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น_มันเป็นของที่ดับเป็นทั้งนั้น

สิ่งที่เกิดขึ้น เขาเกิดมาแล้ว เขาจะดับไปทั้งนั้น

#ที่มันเผาจิตเผาใจ_ก็เพราะใจของเราไปรับไปยึดเอาไว้_ไม่ยอมปล่อย

สัญญามันไปรับเอาไว้ น่าชังอย่างนั้น น่ารักอย่างนั้น น่าปรารถนาอย่างนั้น น่ารักน่าใคร่อย่างนั้น นี่ไปรับเอาไว้ แต่สิ่งที่เกิดน่ะ เขาดับไปแล้ว

หลายอย่าง หลายแง่ หลายมุม เป็นหลักการที่จะทำ ให้พากันตื่นตัว ไม่ลุ่มหลงมัวเมาในเรื่องสังขารของเจ้าของได้ ให้พากันตั้งใจ

#หลวงปู่แบน #ธนากโร
#วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร
ตอบกระทู้