นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 18 ม.ค. 2025 12:42 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 01 ส.ค. 2021 8:39 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4806
"อย่าไปกังวลกับเรื่องอะไรทั้งหมด
โลกเราไม่มีอะไรหรอก มีแต่ใจเราไปกังวลกับเขาอย่างเดียว หาเรื่องหาราวให้มันยุ่งไปเอง ตัดออกด้วยสติ ด้วยปัญญาของเรา อยู่ที่ไหนก็เราคนเดียว คนเดียวเท่านั้นแหละ เกิดก็เกิดคนเดียว ญาติที่มุงล้อมอยู่นั้น ไม่ใช่ผู้เจ็บในขณะนั้น เราเท่านั้นเป็นผู้เจ็บ ตายก็เราเท่านั้นเป็นผู้ตาย คนอื่นตายแทนไม่ได้ เจ็บแทนไม่ได้ เราต้องเป็นคนเจ็บ คนตายเท่านั้น แล้วต้องเป็นผู้ช่วยตัวเอง “อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ” ด้วยสติปัญญาของเราเองนั่นแหละ เป็นความถูกต้องเหมาะสมอย่างยิ่ง
พระพุทธเจ้าท่านทรงปลงชนมายุสังขารในวันนี้ เราก็ปลงกิเลส ตัณหา อาสวะ ให้มันตกเสียในวันนี้ เพราะตัวนี้เป็นตัวสำคัญ ปลงให้ตกเสีย การตายเมื่อไรก็ตาม จะไปตายวันนั้นวันนี้ ดังพระพุทธเจ้าท่านว่าก็ไม่สำคัญ
สำหรับเราน่ะ มันหมดลมหายใจเมื่อไร วันนั้นเป็นวันตายของเรา เราเอาแต่ลมหายใจหมดนี้เท่านั้น ลมหายใจยังมีอยู่ มันก็ยังไม่ตาย เอ้า หายใจไปเรื่อยๆ มันไม่เป็นปัญหาอะไร เรื่องเหล่านี้ เรื่องลม ๆ แล้ง ๆ ที่สำคัญก็คือสร้างหลักฐาน เตรียมพร้อม เพื่อจิตใจของตนเป็น “อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ” อย่างเต็มภูมิ นั่นเป็นที่พอใจ
การเป็นการตาย ตายที่นั่น ตายที่นี่ กาลนั้นสมัยนี้ ไม่มีอะไรเป็นปัญหาทั้งหมด เพราะมันเป็นเรื่องสมมุตินี่
เอาละการแสดงธรรม ก็เห็นว่าสมควร ขอยุติฯ"

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๑๙
มาฆบูชา






#ท่านสอนไม่ให้ใครเอาอย่างท่าน

หลวงพ่อเปลี่ยนได้เล่าถึงปฏิปทาของหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ต่อไป ดังนี้..

การที่ท่านเป็นพระที่พูดจาโผงผางไม่อ้อมค้อมนี้ อจลธมฺโมภิกขุ จึงเป็นที่รู้จักในหมู่พระสายกรรมฐาน และในบรรดาประชาชนทั่วไปว่า..

“ใครหน้าบาง ก็อย่าไปนิมนต์พระอาจารย์ตื้อ เพราะนอกจากท่านจะเทศน์ตรงแล้ว ยังพูดตรงอีกด้วย ถ้าใครหน้าบางเป็นนางอายละก็ ฟังไม่ได้”

#หลวงพ่อเปลี่ยนได้เล่าต่อไปว่า..

หลวงปู่ตื้อ ท่านมีปฏิปทาที่ไม่เหมือนใคร และใครก็เอาอย่างท่านไม่ได้ เป็นลักษณะนิสัยเฉพาะองค์ท่าน หลวงปู่ไม่เคยสอนใครให้เอาอย่างท่าน แต่ท่านสอน ให้ศิษย์ทุกรูปปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สอนให้ทุกคนมีความกล้าหาญ เพราะความกล้าหาญ เป็นมรดกในทางธรรมของพระพุทธเจ้า อันหมายถึงว่า ถ้าเราดีจริงๆ แล้วไม่ต้องหวั่นเกรงอันตราย ไม่มีใครจะมาทำร้ายเรา ขอให้ดีจริงๆ ก็แล้ว กัน

ความดีมีศีลธรรม มีคำสัตย์ มีคำจริง ไม่มีนิสัยหลอกลวงโลก ชี้ทางพระนิพพานได้จริง นี่เป็นสมบัติของพระพุทธเจ้าที่ควรจะดำเนินจิตใจของเรา

หลวงพ่อเปลี่ยน ได้ยกตัวอย่างเรื่องความกล้า และพูดตรง ของหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ขึ้นมาตอนหนึ่งว่า..

..ความกล้าตอนหนึ่งที่อาตมาจำได้ดี วันนั้นจะมีญาติโยมมาหาท่าน ท่านพูดว่า..

“#เดี๋ยวจะมีผีมานั่งตรงนี้...” ..ท่านชี้ไปตรง
ที่ว่างๆ

“#ดูจะมีคนมานั่ง_ที่นี่” ..ท่านชี้ไปอีกด้านหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กัน

นั่งอยู่พักใหญ่ๆ ก็มีโยมเดินทางมาหาท่านจริงๆ มีผู้ชายมานั่งตรงที่ท่านบอกว่าผีจะมานั่ง พอนั่งแล้วก็ไม่กราบพระสงฆ์องค์เจ้า นั่งเฉยอยู่อย่างนั้น

ส่วนตรงที่ท่านบอกว่าจะมีคนมานั่ง ก็มีผู้ชายกับผู้หญิงมานั่ง ทั้งหมดมาด้วยกันมา รถคันเดียวกัน แต่แยกลงนั่งที่ต่างๆ กัน สองคนหลังกราบหลวงปู่อย่างนอบน้อม พร้อมกับพูดคุยด้วยจิตใจ ศรัทธาและเบิกบาน

ครั้นคนกลุ่มนั้นขอให้ท่านแสดงธรรมะ คือเทศน์ให้ฟัง ซึ่งหลวงปู่ท่านพร้อมเสมออยู่แล้วก็พูดขึ้นว่า..

เอ้า...ฟังเทศน์นะ คนนี้เขาไม่เอาพุทโธ มาถึงพระพุทธรูปก็ไม่กล้า จะกราบ มาถึงก็นั่งยังกับว่าไม่มีสัมมาคารวะ นี่เป็นผีไม่ใช่คน...”

นี่แสดงถึงความกล้าของท่าน ตาในเห็นอย่างไร ท่านก็พูดอย่างนั้น ไม่เกรงว่าใครจะโกรธ ใครจะฟังหรือไม่ ชอบหรือไม่ชอบ ท่านไม่ใส่ใจ

#หลวงปู่ตื้อมักจะพูดว่า..

“เราเทศน์เรื่องจริง เราไม่ได้เทศน์เพื่อเอาใจใคร เอาใจผู้อื่นก็เท่ากับเลี้ยงกิเลสให้อ้วนพี เรามีความจริงใจ เราไม่ได้เทศน์เอาบุหรี่เกล็ดทองของใคร”

หลวงปู่ตื้อท่านมีจิตใจหนักแน่นและเปิดเผย ท่านพูดตรง จนพระเถระผู้ใหญ่บางท่านได้ห้ามปราม แต่ท่านก็ยังคงยืนหยัดเชื่อมั่นในองค์ท่าน และเหตุผลของท่านก็เป็นจริงเช่นนั้นด้วย

#หลวงปู่ตื้อ_อจลธมฺโม
#พระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์ในยุคปัจจุปัน
#โครงการหนังสือบูรพาจารย์_เล่ม๒







แสวงหาเพื่อพลัดพราก
สมบัติภายนอกที่เราได้ ที่เราว่าเราได้
เราต่างแสวงหากันมาแทบล้มแทบตาย
ถึงกับเสียสละชีวิตชีวาก็พากันแสวงหา
สิ่งที่เราแสวงหาด้วยการเสียสละชีวิตชีวา
ด้วยความเหน็ดเหนื่อยทุกข์ยากนั้น
ล้วนแต่เป็นของที่เราจะต้องพลัดพรากทั้งนั้น
สิ่งเหล่านั้นจะต้องเสียหายไปจากเราทั้งนั้น
เพราะอันนั้นเขาเกิดมาเพื่อพลัดพราก
เราจะสมมุติเขาว่า เป็นเงินเป็นทอง
เป็นข้าวของวัตถุอะไรก็ช่าง
อันนั้นก็เกิดมาเพื่อที่จะแตกจะสลาย
เราก็เหมือนกัน เกิดมาก็เพื่อเพื่อแตกเพื่อสลาย
เกิดมาก็เพื่อแตกเพื่อตาย
จึงว่าไม่มีอะไรที่จะเป็นสมบัติของใครได้หรอก….

หลวงปู่แบน ธนากโร








***อาจาริยวาท ***
วันศุกร์ที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔

“ การที่เราบริกรรมพุทโธ นั้นน่ะ ประโยชน์เกิดขึ้น มากมายจริง ๆ

เกิดขึ้นจาก การทำให้จิตเป็นหนึ่ง เกิดขึ้นจาก การทำจิตให้มีสติ เกิดขึ้นจาก การทำจิต ให้เกิดเป็นสมาธิ อย่างนี้เรียกว่าเป็นประโยชน์มหาศาล

ในการที่เรา บริกรรมพุทโธ ไปแต่ละครั้งนั้น นึกว่าเราทำไปอย่างงั้น ๆ แหละ หลวงพ่อบอกว่า หรือว่าอาจารย์บอกว่า ให้นึกบริกรรม พุทโธ ก็พุทโธ ไปตาม ก็อย่างงั้นแหละ

ถ้าคิดว่า อย่างงั้นแหละ มันก็ไม่ใช่ เพราะมันไม่ใช่อย่างอื่น ไม่ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ธรรมดา

การที่เราดึงจิต ของเรามาที่ พุทโธ ได้นั้น ถือว่าเป็นการดึงจิต ที่เข้ามาหาขั้นพื้นฐาน ที่เราจะได้ปิดอบายภูมิได้ ”

เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณวชิโรดม
(หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

องค์ประธานผู้ก่อตั้งสถาบันพลังจิตตานุภาพ










#ให้รีบปฎิบัติ_บอกแค่นี้ทุกวันนี้_ญาติโยมก็สามารถบรรลุธรรมได้

มีชายคนหนึ่ง เป็นป่าไม้จังหวัดมาถือศีลที่วัด แต่เป็นคนดุ คนตัดไม้สักนี่ เขาเอาปืนยิงขาทะลุเลย..ดุมาก อาตมาส่องดู เขาเคยเกิดเป็นเสือโคร่งมาก่อนที่จะมาเกิดเป็นมนุษย์ เขาเป็นเสือมาเฝ้าดูอาตมาเดินจงกรม อยู่ในสวนกล้วยเมื่อชาติก่อน มีจิตยินดีในการเดินจงกรมเลยได้มาเกิดเป็นคน มาเป็นลูกศิษย์อาตมาแต่ยังติดนิสัยดุอยู่

#เห็นภายใน

ญาติโยมนี่..เป็นแม่ชีก็ดี พราหมณี พราหมโณก็ดี นุ่งขาวห่มขาวไปจำศีลกัน จิตใจมันตกต่ำ อ้าว..ใส่ชุดลายมาแล้วบัดนี้ มาถึงแล้วก็เป็นชุดขาว ถ้าแม่ชีจิตใจดำอำมหิต ศีลมันไม่ดี ใส่ชุดดำมาเลย ถ้ามันต่ำลงไปกว่านั้น_เอาแหละมันจะตกต่ำลงไปแล้วบัดนี้ เครื่องนุ่งเครื่องห่มขาดกะรุ่งกะริ่ง มันจะต่ำลงไปอย่างนี้

#จิตใจของคนตกต่ำลงไปจริงๆ

มันเป็นสัตว์เดรัจฉานมาเลย ตรงนี้แหละเห็นไหม เวลาโกรธเกลียดเคียดแค้นไม่เป็นมนุษย์เสียแล้ว เป็นยักษ์เป็นมารแล้ว มันจะเป็นสัตว์ จิตตกต่ำ จิตของคนจะตกไปอย่างนี้ ตกลงเป็นสุนัข เป็นโค เป็นกระบือ ตกลงไปจริงๆ ลงไปเป็นงู ต่ำลงไปจริงๆ ..ไม่มีขาเลย

#คนเราทุกคน_ระวังให้ดี_ตรงนี้แหละ_ระบบจิตมันตกเป็นอย่างนี้

แม้เป็นพระก็ดี บางองค์นั่นน่ะ บวชได้ชะนาน ๓๐ กว่า ๔๐ กว่าพรรษานั่นล่ะ ก็ยังเป็นกระบืออยู่นั่น ไม่ได้เป็นพระเลย ..ดูนะ จิตของพระฝึกมามันตกขนาดนั้น ระดับจิตของพระบางท่าน พอเห็นท่านนอนอยู่ก็ดูว่าเป็นโยมอยู่ ตอนเช้าอาตมาก็ไปเคาะ ท่านว่า จิตตกมากเหลือเกินไปบำเพ็ญมา ท่านยอมเลยทันที ทำไมทำให้จิตตกมาก " ผมยอมตายแล้วแหล่ะ ไปไม่ไหวแล้ว " ท่านบอกอย่างนี้ จิตตกต่ำเป็นสัตว์เดรัจฉาน

#ฉะนั้น_จิตดวงเดียวนี้เปลี่ยนแปลงได้มากที่สุดเลยทีเดียว

ยกให้ดีที่สุดก็ได้ ทำความสะอาดมันมีหลายระดับถึงขนาดนี้ ฉะนั้นเราจะดูตรงนี้ได้เลยว่า ว่าใครเป็นอะไร แต่ไม่อยากให้คนหลง เหมือนหลงบางวัดใช่ไหม ไปเปิดกรรมเปิดอะไร หลงว่าชาตินั้นชาตินี้ ใครเกิดที่นู่นที่นี่

#เราอย่าพึ่งไปหลงงมงายเสียดีกว่า

แต่มันมีจริงนะ ว่าคนนี้มันเกิดเป็นอะไรมา เดี๋ยวนี้มันอยู่ชั้นไหน มันก็ดูได้ ทุกวันนี้อาตมาปิดรายการแล้ว หลวงปู่แหวนท่านห้าม หลวงปู่เทสก์ห้าม หลวงปู่ขาวห้าม เรื่องนี้ไม่เปิด ถ้าเปิดแล้ววัดไม่มีที่นั่งที่อยู่

#ไม่เปิดเรื่องอย่างนี้เพราะโลกมันหลง

หลงเรื่องอย่างนี้ เหตุฉะนั้นอาตมาก็เลยเฉยๆ ทุกวันนี้ เห็นอยู่แต่เฉย ๆ ไม่บอก บางคนชอบถาม ท่านอาจารย์ผมเป็นอะไรมา ไปถึงวัด บอกด้วยสิ.." ไม่บอก " ให้รีบปฎิบัติ บอกแค่นี้ทุกวันนี้ ญาติโยมก็สามารถบรรลุธรรมได้ ให้ปฎิบัติ

พิพิธภัณฑ์ธรรมเปลี่ยนโลก
ภาควิวัฒนาการ หน้า ๖๙
#พระอาจารย์เปลี่ยน #ปัญญาปทีโป


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 145 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO