นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 18 ม.ค. 2025 12:43 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: รับผล 2 อย่าง
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 05 ส.ค. 2021 7:23 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4806
#อาตมาเคยเห็นชาวบ้านที่เข้าป่า_แล้วถูกเสือถูกช้างฆ่าเอาตาย

นั่นเป็นเพราะอะไรกัน ก่อนออกป่า เขาก็ได้บวงสรวงเทวดา ทำการไล่สิ่งที่เป็นเสนียดจัญไรออกจากตัว แถมยังขอน้ำมนต์ ลงยันต์ สะเดาะเคราะห์ ไหว้ผีไหว้สางก่อนเข้าไป

#เมื่อเข้าไปแล้ว_อยู่ในป่าก็เที่ยวหาสัตว์_ฆ่าสัตว์_เอามาหุงหากิน

นั่นแทนที่จะเอาเสนียดจัญไรออกจากตัว กลับนำเสนียดจัญไรใส่ตัวเสียอีก ในที่สุดก็ต้องตาย เพราะ เข้าไปเบียดเบียนเขา แล้วอะไรจะช่วยเราได้

#อาตมาเข้าป่าเดินธุดงค์_เพื่อขัดเกลากิเลสตัณหาออกจากใจ_ไม่ได้ไปเบียดเบียนเขา

สัตว์ร้ายจำพวกเสือ ช้าง งูพิษ ก็ไม่เห็นจะทำอะไร อยู่อย่างสงบ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างเดิน ต่างคนต่างไป อยู่ด้วยกัน นอนด้วยกันในป่าเขา เอาธรรมชาติเป็นที่อยู่ เอาธรรมเป็นที่พึ่ง เอาบารมีเป็นที่นำทาง

นอนโคนไม้ ไม่มีหน้าต่าง ประตู ถ้าเขาจะมาทำร้าย อาตมาก็ไม่ว่า ไม่พยาบาท ไม่จองเวร ทำจิตใจสบาย ไม่มีความโลภ ไม่มีความโกรธ ไม่มีความหลง ไม่มีความรัก แม้แต่ตัวเอง นอกจากความดีมีไว้ประจำตน

#พระพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย_สอนว่า_ให้ระงับเวรด้วยการไม่จองเวร

ฉันใด ความดีของเราที่ได้กระทำขึ้นไว้ในจิตใจ ก็ย่อมมีบารมีเกื้อกูลรักษา ไม่นำเราไปตกในที่ชั่วหรอก

พระพุทธเจ้าของเราพูดไว้ไม่ผิดหรอก คำสั่งสอนของพระทุกองค์เป็นหนึ่งไม่มีสอง
__
#หลวงปู่เพ็ง #พุทธธัมโม







ขับของไม่ดีคนไม่ดี ใครจะขับหรือไม่ขับขับไปเถอะ เราจะขับของไม่ดีอยู่ในหัวใจของเรา อะไรไม่ดีในหัวใจของเราเราจะขับออกหมด ให้ยังเหลือแต่จ้าอยู่อย่างนั้นพอ

#หลวงตามหาบัว #ญาณสัมปันโน








#เวลาตาย

"เวทนาดับ สัญญาดับ สังขารดับ วิญญาณ
ก็ดับ แต่ธรรมชาติที่เป็นจิตไม่ได้ดับ
เวทนาเกิดจากจิต สัญญา สังขาร วิญญาณเกิดจากจิต จิตอันนั้นเป็นสถานที่เกิด
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเป็นขันธ์
แต่เวลาตายขันธ์ทั้งหลายดับ แต่ธรรมชาติ
จิตยังมีอยู่...
พระพุทธเจ้าทรงเข้าถึงธรรมที่ไม่ตาย
พระสาวกของพระพุทธเจ้าเข้าถึงธรรม
อันไม่ตาย...
ขันธ์ทั้งหลายดับไปหมด แต่ธรรมชาติจิตที่พ้นจากขันธ์นั้นปล่อยวางขันธ์​ หลุดจากขันธ์ด้วยประการทั้งปวง​ จิตนั้นยังอยู่.. "

#พระภาวนาวิสุทธิญาณเถร
#หลวงปู่แบน_ธนากโร
วัดดอยธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร






ถ้ายังปรารภคนอื่นว่าดีหรือชั่ว แสดงว่าเรายังเลวมาก
ถ้าเราไม่เลว เราก็ไม่เห็นความเลวของบุคคลอื่นหรอก
ถ้าเราเห็นความเลวของบุคคลอื่นมากเพียงไร แสดงว่าเราเลวมากเพียงนั้น

ต้องไปดูพระพุทธเจ้า ท่านตำหนิใครบ้าง มีไหม เจอไหม ไม่มี เพราะคนทุกคนที่เกิดมาต้องการดีหมด ไม่มีใครต้องการความชั่ว แล้วทำไมถึงได้ทำความชั่ว เพราะไอ้กรรมที่ติดตามเรามา เราไม่สามารถจะต้านทานมันได้

เราเกิดมาเราต้องรับผล ๒ อย่าง คือกรรมที่เป็นกุศลอย่างหนึ่ง กรรมที่เป็นอกุศลอย่างหนึ่ง ขณะใดกรรมที่เป็นอกุศลครอบงำ จิตไม่มีทางจะทำความดีได้เลย ความเลวมันจะครอบงำจิต เห็นผิดเป็นชอบ ถ้าอกุศลมันถอยไป กุศลกรรมเดิมมันเข้ามาสนอง จะรู้เลยว่าที่ทำครั้งเก่ามาเลวมาก มันก็ไม่ทำ

โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
(จากหนังสือ คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๖)








ตาดี คือ สามารถเห็นความดีในคนรอบข้างทุกคน
หูดี คือ รู้จักฟังหูไว้หู ไม่ตื่นข่าวไม่หูเบา
จมูกดี คือ สามารถดมกลิ่นความดีของผู้ทรงศีลได้
ลิ้นดี คือ สามารถรับรสอาหารโอชะโดยไม่หลงใหล
กายดี คือ แข็งแรงพอเป็นพาหนะในการทำความดี
ใจดี คือ รักและตั้งมั่นในความดีงาม

พระอาจารย์ชยสาโร







".. ผู้ที่ไม่มีสติ จึงมัก
มองออกนอกตัว เมื่อ
เกิดเรื่องอะไรขึ้น จะ
โยน ไปให้คนอื่นตลอด
โดยไม่ได้สนใจเลยว่า
ตัวเอง ทำผิดหรือไม่
สุดท้ายแล้ว ความชั่ว
ที่โยนออกไป ก็ไม่ได้
ไปที่ไหน ก็อยู่ที่ใจคนโยน นั่นเอง.."

#องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนว่า..
"#เมื่อให้สิ่งใดกับใคร_สิ่งนั้นก็จะอยู่กับเรา"

#พ่อท่านคล้าย_จันทสุวัณโณ









ความดีอยู่กับตัวเราเอง ถ้าเราดีอยู่ที่ไหนก็ดี
ถ้าเราไม่ดีอยู่ที่ไหนก็ไม่ดี
ต้องถามตัวเราว่าดีพร้อมแล้วหรือยัง?
ถ้าตัวเองไม่ดี จะหาคนอื่นดีคงไม่เจอ
ให้กำหนดพิจารณาจิตก็จะมีความสงบขึ้นมา
ถ้าตัวเราดีจะไปที่ไหนก็พบแต่คนดี
ก็จะพบธรรมะของพระพุทธเจ้าของเราเท่านั้น
ถ้าคนไม่รู้จักตัวเองอยู่ที่ไหนก็ว่าโอ้ยเพื่อนกวน
พระองค์นั้นไม่ดี โยมผู้ชาย โยมผู้หญิงไม่ดี
ส่วนตัวเองนั้นดีขนาดไหน ไปเที่ยวว่าแต่คนอื่น
ถ้าเราดีแล้วคนอื่นไม่ดีก็ตาม มันก็เป็นคนละเรื่องกัน
ถ้าเราคิดได้อย่างนี้มันก็สบาย และมีความสงบเท่านั้น

หลวงปู่ชา สุภัทโท









ละความเห็นแก่ตัว ละการมุ่งร้าย
กอบโกยผลประโยชน์ของผู้อื่นมาเป็นของตัว
อย่างนี้แหละเรียกว่า “บริจาค” อย่างแท้จริง

ท่านพุทธทาสภิกขุ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 148 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO